Digitimes รายงานว่าแอปเปิลอาจเปิดตัว MacBook Air และ MacBook Pro รุ่นใหม่ในเดือนมิถุนายนปี 2556 ที่จะอัพเกรดเฉพาะระบบภายในเครื่อง แต่ยังคงมีหน้าตาเหมือนเดิม

MacBook Air จะใช้หน่วยประมวลผลตัวใหม่ การออกแบบภายนอกจะยังคงแบบเดิมไว้ สำหรับรุ่นล่าสุดนั้นได้เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีการเพิ่มแรมและความจุเพิ่มเติม, ใช้ช่อง USB 3.0 และกล้อง FaceTime HD

ส่วน MacBook Pro นั้นยังไม่ได้มีรายงานสเป็ค แต่คาดว่าจะได้รับการอัพเกรดสเป็คภายในอย่างเดียวโดยที่รูปลักษณ์ภายนอกยังคงเดิม เพราะแอปเปิลได้ออกแบบ MacBook Pro ที่บางลงเมื่อเดือนมิถุนายนไปแล้ว

Gizmodo ได้ออกมารายงานว่าแล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวของแอปเปิลหลังจากงาน WWDC ทุกตัวของแอปเปิลจะพบกับอาการเครื่องค้าง เมื่อใช้ Google Chrome โดยการเปลี่ยนมาใช้เว็บเบราว์เซอร์ยี่ห้ออื่นสามารถกำจัดปัญหาดังกล่าวได้

ทางกูเกิลเองก็ได้ออกมาบอกว่าพวกเขารับทราบถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว และได้ทำการปิด GPU acceleration ของ Chrome เพื่อเป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวไปก่อน และทางกูเกิลเองก็ได้ส่ง bug report ไปหาแอปเปิล เนื่องจากปัญหาดังกล่าวของ Chrome ก็ไม่น่าจะสามารถทำให้ระบบทั้งระบบแครชได้

กูเกิลยังบอกอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะกับเครื่องแมคที่ใช้ชิปกราฟฟิค Intel HD 4000 เท่านั้น

งาน WWDC ปีนี้ถือว่าเป็นไปตามความคาดหมายสำหรับการเปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับจอความละเอียดสูง Retina Display ตัวแรกของซีรีส์ MacBook ที่เพิ่มพิกเซลเข้าไปอีกสี่เท่าตัวเป็น 2880x1800 พิกเซล บนหน้าจอขนาด 15.4" ได้ความหนาแน่นพิกเซลที่ 220 PPI และยังทำให้ตัวเครื่องบางลง เบาลงจากรุ่นก่อนหน้าอีกด้วย

ก่อนเข้ารายละเอียดอื่นๆ จะพูดถึงสเปคของเจ้า MacBook Pro รุ่นใหม่นี้กันก่อนครับ สเปคพื้นฐานมีดังนี้

9to5Mac รายงานว่าแม้ว่าแอปเปิลมีแผนที่จะเปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ อย่าง iOS 6 และ OS X Mountain Lion ที่งาน WWDC สัปดาห์นี้แล้ว ล่าสุดแหล่งข่าวของพวกเขาบอกว่าแอปเปิลยังจะอัพเดตไลน์สินค้าแมคของตัวเองอย่างน้อย 4 ไลน์ด้วยกัน จากทั้งหมด 5 ไลน์ได้แก่ Mac Pro, MacBook Pro, MacBook Air, iMac และ Mac mini

โดยในรายงานฉบับนี้เชื่อว่านอกจาก MacBook Pro ขนาด 15 นิ้วที่จะเปลี่ยนมาใช้หน้าจอ Retina Display แล้ว แอปเปิลน่าจะเปิดตัว MacBook Air ขนาด 11 และ 13 นิ้วที่มาพร้อม ๆ กับหน้าจอ Retina Display เช่นกัน รวมไปถึง iMac ใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงครั้งใหญ่ ส่วนการเปลี่ยนแปลงอีกอย่าง พวกเขาไม่แน่ใจว่าจะเป็น Mac Pro หรือ Mac mini

หลาย ๆ คนออกมาบ่นว่า HP Envy Spectre XT Ultrabook ที่เพิ่งเปิดตัวไปหน้าตาแทบจะเหมือน MacBook Air ทุกอย่าง ล่าสุด Stacy Wolff หัวหน้าฝ่ายดีไซน์ของ HP ได้ออกมาตอบคำถามกับ Engadget แล้ว โดยเขาบอกว่าปล่อยให้แอปเปิลคิดว่าพวกเขาเป็นเจ้าของสินค้าสีเงินไปเถอะ

Wolff กล่าวว่า เวลาจะออกแบบอะไร พวกเขาต้องออกแบบตามสิ่งที่พวกเขาคิดว่าถูกต้อง โดยในครั้งนี้การออกแบบแล็ปท็อปที่มีรูปร่าง wedge หรือ "บางด้านหนึ่ง หนากว่าอีกด้านหนึ่ง" เป็นคำตอบที่เหมาะสม นอกจากนี้ Envy ใหม่ยังมีวัสดุยางด้านใต้ของตัวเครื่อง แถม HP ได้เลือกใช้แมกนีเซียมแทนอลูมิเนียม HP เลือกที่จะใช้ลาย brushed pattern บนตัวเครื่อง แต่แอปเปิลไม่ได้เลือกใช้สิ่งเหล่านี้แต่อย่างใด

Digitimes รายงานว่าแอปเปิลเตรียมเปิดตัว MacBook Air ที่มีราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 799 ดอลลาร์ในไตรมาสที่สามของปีนี้เพื่อสู้กับ ultrabook ที่ต้องการชูราคาเป็นจุดขายหลัก โดยจากในรายงานได้พูดถึงต้นทุนของ ultrabook ที่อยู่สูงเกินไปซึ่งทำให้ ultrabook กินส่วนแบ่งตลาดได้ล่าช้ากว่าที่คาดไว้ในตอนแรก

ทุกวันนี้ผู้ผลิต ultrabook หลายรายมีปัญหาเรื่องต้นทุนอย่างมาก ทำให้ราคาขาย ultrabook ในตลาดไม่ห่างไกลจาก MacBook Air ของแอปเปิลมากนัก และส่งผลให้ยอดขายจริงไม่มากอย่างที่คาดไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามอินเทลกำลังพยายามอย่างมากที่จะลดตุ้นทุนชิ้นส่วนของ ultrabook ลง

Linus Torvalds ได้ให้สัมภาษณ์ Scott Merrill แห่ง TechCrunch ผ่านทางอีเมล ซึ่ง Linus เปิดเผยสาเหตุที่เขาเลือกใช้ MacBook Air เป็นโน้ตบุ๊กเครื่องหลัก (แต่ลง Linux) ซึ่งมีใจความสำคัญดังนี้ครับ

Linus บอกว่าเห็นได้ชัดว่า MacBook Air ออกมาแล้วหลายปีแต่บรรดาผู้ผลิตรายอื่นก็ไม่พยายามทำตามแอปเปิลกัน แถมยังพยายามนำเสนอโน้ตบุ๊กที่หน้าตาน่าเกลียดออกมาแข่งขันกันอีก ซึ่งสำหรับเขาแล้วโน้ตบุ๊กที่ดีต้องบางและเบา ไม่หนักเกิน 1 กิโลกรัม ซึ่ง MacBook Air ตอบโจทย์มากที่สุดตอนนี้

นักวิจัยตลาด Ming-Chi Kuo ผู้ที่เคยให้ข้อมูล roadmap สินค้าในอนาคตของแอปเปิลได้ถูกต้อง ได้ออกมาเปิดเผยผ่านบริษัทใหม่ที่เขาทำงานด้วย KGI Securities ว่าแอปเปิลอาจจะเลิกผลิต MacBook Pro ขนาด 17 นิ้วแล้ว เนื่องจากยอดขายที่ไม่สูงพอ

นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าแล็ปท็อปชุดใหม่ที่แอปเปิลเตรียมจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ จะเหมือนกับเป็นลูกครึ่งระหว่าง MacBook Air และ MacBook Pro ที่วางขายอยู่ปัจจุบัน ซึ่งนั่นหมายความว่าแล็ปท็อปใหม่นี้จะพกพาได้สะดวกมากกว่า MacBook Pro แต่มีสเปคที่สูงกว่า MacBook Air

Digitimes ออกมารายงานว่าแอปเปิลเริ่มเดินสายการผลิต MacBook Pro ขนาด 13 และ 15 นิ้วรุ่นที่บางกว่าเดิมแล้ว โดยที่ MacBook Pro ใหม่นี้ยังจะเป็นสินค้าคนละตระกูลกับ MacBook Air เพราะว่ายังมีสเปคที่สูงกว่า แม้ว่าจะไม่มีช่องใส่ optical drive แล้วก็ตาม

ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวลือว่าแอปเปิลกำลังพยายามหาทางผลิต MacBook Pro ที่บางกว่าเดิม โดยบางข่าวอ้างว่าแอปเปิลพร้อมที่จะยกเลิกตระกูล MacBook Pro ทิ้งโดยสิ้นเชิง แต่ในข่าวนี้กลับอ้างว่าแอปเปิลเลือกที่จะผลิต MacBook Pro ที่มีรูปร่างใกล้เคียงกับ MacBook Air มากขึ้นเท่านั้น

มีรายงานจากผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมรายหนึ่งว่าแอปเปิลเตรียมจะที่จะเปิดตัว MacBook Air ขนาด 15 นิ้วในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ โดย MacBook Air ตัวนี้จะไม่ต่างจาก MacBook Air ที่วางขายปัจจุบัน คือไม่มีเครื่องอ่านแผ่นดีวีดีและช่องเสียบสาย Ethernet ให้อีกแล้ว

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในแหล่งข่าวไม่ได้ระบุว่าแอปเปิลจะยุบสินค้าตระกูล Pro ทิ้งหรือไม่ โดยแหล่งข่าวได้ระบุความเป็นไปได้ว่าแอปเปิลอาจจะเลือกเก็บเฉพาะ MacBook Pro รุ่น 17 นิ้วไว้สำหรับกลุ่มลูกค้าโปรจริง ๆ

DigiTimes รายงานว่าแอปเปิลกำลังพิจารณาผลิต MacBook Air ขนาด 14 นิ้วออกมาเพื่อรองรับตลาดแถบเอเชีย เนื่องจากแล็ปท็อปขนาด 14 นิ้วเป็นที่นิยมมากในตลาดนี้ หากเปรียบเทียบกับตลาดกลุ่มประเทศตะวันตก ที่จะนิยมแล็ปท็อปขนาด 15 นิ้วมากกว่า โดยในแถบเอเชียแล็ปท็อปกว่า 40% ที่ขายได้เป็นแล็ปท็อปขนาด 14 นิ้วทั้งสิ้น

จากกระแสข่าวลือก่อนหน้านี้ แอปเปิลมีแผนที่จะรวมสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์พกพาของตัวเองทั้งหมดมาเป็นสินค้าตระกูลเดียวกัน

ที่มา - MacRumors

มีรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์จีน Commerical Times ว่าแอปเปิลได้ยื่นคำขาดกับบริษัท Pegatron ซึ่งเป็นโรงงานผลิตสินค้าให้แอปเปิลอย่าง MacBook Air และ iPad ว่าถ้ายังต้องการได้สัญญาการผลิต MacBook Air กับแอปเปิลต่อไปแล้ว โรงงานจะต้องหยุดการผลิต ultrabook ตระกูล Zenbook ให้กับ ASUS ที่ปัจจุบัน Pegatron รับผลิตให้อยู่ ซึ่งค่อนข้างแน่ชัดว่า Pegatron จะตัดสินใจหยุดผลิต Zenbook ภายในเดือนหน้า เพราะเป็นความเสี่ยงเกินไปหากบริษัทไม่ได้สัญญาการผลิต MacBook Air และ iPad จากแอปเปิล

มีข่าวลือมาซักระยะหนึ่งแล้วว่าดีไซน์ใหม่สำหรับ MacBook Pro ในปีนี้ออกมาในลักษณะที่ใกล้เคียงกับ MacBook Air มากขึ้น ล่าสุด AppleInsider รายงานว่าเราอาจจะได้เห็นสินค้าทั้งสองตระกูลนี้รวมกันเป็นตระกูลเดียวกันในอนาคตอันใกล้นี้

โดยจากในรายงาน มีการพูดถึงการนำ optical drive ออกไปอย่างสิ้นเชิง และเลิกใช้ฮาร์ดดิสก์แต่เปลี่ยนมาใช้ SSD อย่างเต็มรูปแบบแทน โดยข้อจำกัดเรื่องการเก็บข้อมูลต่าง ๆ หมดไปเพราะมีเทคโนโลยี cloud มาช่วย และคาดว่าคอมพิวเตอร์พกพาทั้งหมดจากแอปเปิลจะมีรูปแบบเดียวกับ MacBook Air ทั้งหมดในที่สุด

CNet รายงานถึงเนื้อหาการค้นคว้าจาก Citigroup ที่หลังจากได้รับข้อมูลจากทิม คุกและซีเอฟโอของแอปเปิล Peter Oppenhimer พบว่า MacBook Air ไม่น่าจะเปลี่ยนมาใช้ชิปประมวลผล ARM แม้ว่าแพลตฟอร์ม iOS จะโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดยจากการพูดคุยกับพนักงานระดับสูงของแอปเปิลทั้งสอง เชื่อว่าแทนที่ MacBook Air จะมีการเปลี่ยนมาใช้ ARM แพลตฟอร์มไอแพ็ดต่างหากที่โตขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มกินตลาดของ MacBook Air แทน และสิ่งที่คนอื่นคาดว่า MacBook Air ที่ใช้ชิป ARM ทำได้ก็น่าจะสามารถทำได้ด้วยไอแพ็ดในอนาคตอยู่แล้ว

มีข่าวลือมาเป็นระยะ ๆ สำหรับโน้ตบุ๊กสุดบางขนาด 15 นิ้วจาก Apple แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีแหล่งข่าวใดยืนยันว่ามันเป็น MacBook Air ขนาดใหญ่หรือ MacBook Pro แบบบางกันแน่ (ข่าวเก่า 1, 2) ล่าสุดข่าวจากซัพพลายเออร์กล่าวว่าโน้ตบุ๊ก 15 นิ้วตัวนี้จะเป็น MacBook Air และอาจเปิดตัวเร็วถึงไตรมาส 1 ปี 2012 (จากเดิมที่ Digitimes รายงานว่าเป็นไตรมาส 2) พร้อม ๆ กับอัพเดตรุ่น 11.6 นิ้วและ 13.3 นิ้วที่มีอยู่เดิมเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของ Apple ในตลาด ultrabook ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

บางทีเราอาจจะพบสาเหตุที่ทำให้เอชพีอยากขายธุรกิจพีซีออกไปได้โดยบังเอิญ

ผู้ผลิต Ultrabook หลายรายที่พยายามผลิตแล็ปท็อปขนาดเล็กตามสเปคที่อินเทลต้องการกำลังพบกับปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลียนแบบการผลิตวัสดุแบบ unibody เช่นเดียวกับที่แอปเปิลทำกับแล็ปท็อปของตัวเอง เนื่องจากผู้ผลิตเหล่านี้เมื่อถึงจุดหนึ่งพบว่าการสร้างวัสดุ unibody ต้องใช้เครื่อง CNC ที่ใช้ในการตัดบล็อคอลูมิเนียมออกมาเป็นชิ้นส่วนซึ่งมีราคาที่สูงมาก และผู้ผลิตที่มีเครื่อง CNC เป็นพัน ๆ เครื่องอย่าง Foxconn และ Catcher ต่างก็จะให้ความสำคัญกับการผลิตให้แอปเปิลมากกว่า

แหล่งข่าวของ 9to5Mac เองอ้างว่าเมื่อปลายปี 2010 แอปเปิลเคยได้วางแผนที่จะเปิดตัว MacBook Air ขนาด 15 นิ้วไปพร้อม ๆ กับ MacBook Air ดีไซน์ที่วางขายอยู่ปัจจุบันนี้ แต่แอปเปิลกลับพบปัญหาทางด้านการออกแบบ ทำให้ต้องเลี่อนการเปิดตัวรุ่น 15 นิ้วมาเป็นต้นปีหน้า

ปัญหาที่ว่านี้เกิดจากน้ำหนักของหน้าจอและขอบจอของรุ่น 15 นิ้ว ที่หนักเกินไปกว่าที่ส่วนบานพับระหว่างจอภาพกับตัวเครื่องสามารถจะรองรับได้ ทำให้แอปเปิลตัดสินใจยกเลิกการเปิดตัว MacBook Air รุ่นดังกล่าวเพื่อที่จะดีไซน์ส่วนบานพับใหม่ทั้งหมด

เว็บ SemiAccurate อ้างว่าแอปเปิลอยู่ในขั้นสุดท้ายของการทดสอบ MacBook Air ที่ใช้ชิป AMD Llano และก็เกือบจะผลิต MacBook Air รุ่นดังกล่าวออกมาแล้วด้วย แต่สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนมาใช้แผนสำรอง คือการใช้ชิปของอินเทลเช่นเดิม เนื่องจาก AMD ไม่สามารถที่จะผลิตชิปได้เพียงพอต่อความต้องการของแอปเปิลเพื่อไปใช้ในการผลิตต่อ

AMD Llano เป็นชิปแพลทฟอร์ม AMD Fusion ซึ่งเป็นชิปที่รวมซีพียูกับหน่วยประมวลผลกราฟฟิครวมกันไว้ โดย AMD ได้เรียกชื่อแพลทฟอร์มลักษณะนี้ว่า APU หรือ Accelerated Processing Unit และสาเหตุที่แอปเปิลต้องการที่จะเปลี่ยนมาใช้ Llano เนื่องจากการใช้พลังงานที่ต่ำเมื่อเทียบกับตัวเลือกจากอินเทล และพลังในการประมวลผลกราฟฟิค

บริษัทวิเคราะห์การเงิน Morgan Stanley ร่วมกับบริษัทวิเคราะห์อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ NPD ประเมินว่าตอนนี้ยอดขาย MacBook Air มีสัดส่วนมากกว่า 1/4 ของโน้ตบุ๊กของแอปเปิลทั้งหมดแล้ว (ตัวเลขเฉพาะยอดขายในสหรัฐนะครับ)

Digitimes รายงานว่าชิ้นส่วนแล็ปท็อปขนาด 15 นิ้วที่มีขนาดบางกว่า MacBook Pro ปกติแต่ไม่แน่ใจว่าเป็น MacBook Air หรือไม่ ได้ถูกส่งออกมาจากสายการผลิตของแอปเปิลแล้ว โดยคาดว่าแล็ปท็อปตัวใหม่นี้จะเริ่มทำตลาดจริงในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2012

เมื่อกลางปีที่ผ่านมา MacRumors เองก็เคยรายงานว่าแอปเปิลกำลังปิดงานดีไซน์แล็ปท็อปรุ่นบางเฉียบขนาด 15 นิ้ว โดยมีความเป็นไปได้ว่าแล็ปท็อปรุ่นดังกล่าวจะเปลี่ยนมาใช้หน่วยบันทึกข้อมูลแบบ SSD แทนฮาร์ดดิสก์ปกติ และจะมีการตัดไดรว์ดีวีดีออกจากเครื่องไปโดยปริยาย เช่นเดียวกับ MacBook Air

ในตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าแล็ปท็อปดังกล่าว จะเป็นดีไซน์ใหม่ของแล็ปท็อปตระกูล MacBook Pro ที่บางลงกว่าเดิม หรือจะเป็น MacBook Air

MacBook Air รุ่นกลางปี 2011 ที่ได้เปิดตัวไปได้ไม่นานนี้ได้ใช้ชิป Thunderbolt I/O ที่มีขนาดเล็กกว่าเนื่องจากข้อจำกัดทางด้านขนาด โดยชิป Thunderbolt ตัวนี้มีชื่อเรียกภายในว่า Eagle Ridge ที่รองรับจำนวนการเชื่อมต่อเพียงสองแชแนลในพอร์ทเดียว และสนับสนุนการต่อจอภายนอกได้เพียงจอเดียวเท่านั้น

ในขณะที่ชิป Thunderbolt ขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Light Ridge ซึ่งได้ถูกนำมาใช้ใน iMac, MacBook Pro และ Mac mini นั้นรองรับการเชื่อมต่อมากถึง 4 แชแนลในพอร์ทเดียว โดยแต่ละแชแนลสามารถรับส่งข้อมูลในลักษณะ bidirectional ได้ที่ความเร็ว 10Gbps ทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดโดยรวมอยู่ที่ 80Gbps พร้อมกันนี้ยังรองรับการใช้งานจอภาพ Thunderbolt ต่อภายนอกได้อีกสองจอ

เว็บไซต์ MacRumors รายงานข่าวลือว่า แอปเปิลกำลังซุ่มพัฒนาโน้ตบุ๊กขนาดหน้าจอ 15" แบบบางเบาตัวใหม่ ซึ่งน่าจะเปิดตัวปลายปีนี้

ตามข่าวยังไม่ยืนยันว่ามันจะเป็น MacBook Air 15" หรือ MacBook Pro 15" แบบใหม่กันแน่

เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจเท่าไร เพราะหลายคนก็คาดเดากันได้อยู่แล้วว่า เทคโนโลยีหรือแนวทางการออกแบบบางอย่างใน MacBook Air เช่น SSD หรือการตัด optical drive ออก น่าจะเดินทางไปถึง MacBook Pro ในไม่ช้า

เว็บไซต์ TUAW "เชื่อว่า" มันน่าจะเป็น MacBook Pro มากกว่า และน่าจะมีรุ่น 17" ด้วย

ที่มา - MacRumors

มีคนค้นพบว่า SSD ของ Macbook Air รุ่นใหม่บางเครื่องมีความเร็วช้ากว่าบางเครื่อง เนื่องจากมีการไช้ SSD จากทั้ง Samsung และ Toshiba

โดยทาง Engadget ทดสอบดูพบว่าเครื่องรุ่นเก่าที่ใช้ Samsung SSD ขนาด 256GB สามารถเขียนได้ที่ความเร็ว 214 MB/s และอ่านได้ที่ความเร็ว 251 MB/s

ส่วนเครื่องรุ่นใหม่ที่ใช้ Toshiba SSD ขนาด 128 GB สามารถเขียนได้ที่ความเร็ว 184 MB/s และอ่านได้ที่ความเร็ว 203 MB/s

ที่มา Engadget

เว็บ iFixit ได้ทำการแกะดูภายในของ MacBook Air รุ่นใหม่เรียบร้อยแล้วพบว่า MacBook Air รุ่นนี้ยังคงเลือกใช้ SSD Card เหมือนเดิม และผู้ใช้สามารถที่จะเลือกเปลี่ยน SSD Card ไปใช้ของยี่ห้ออื่นได้หากไม่กลัวจะเสียประกันจากการแกะเครื่อง

ส่วน RAM ก็ยังคงเป็น on-board เหมือนเดิม นั่นหมายความว่าผู้ใช้ไม่สามารถเพ่ิม RAM เองได้ตลอดไป เพราะฉะนั้นแล้วก่อนซื้อควรคิดให้ดีว่าพอใจกับจำนวน RAM แล้วหรือไม่

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือแอปเปิลไม่แถม Recovery USB Thumb Drive เหมือนเดิมอีกแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่า MacBook Air รุ่นนี้มาพร้อมกับ Lion ที่มีความสามารถในการ restore เครื่องใหม่ได้โดยต้องการแค่การเชื่อมต่อถึงอินเทอร์เน็ตเท่านั้น