Gautam Gupta ซีเอฟโอของ Uber ออกมาเผยข้อมูลสภาพการณ์ธุรกิจในไตรมาสที่สองของปี (Uber ยังไม่เข้าตลาดหุ้น ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ แต่บริษัทเลือกจะให้ข้อมูลกับนักลงทุน)

HP รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม 2016 มีรายได้ 11,892 ล้านดอลลาร์ ลดลง 4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรอยู่ที่ 783 ล้านดอลลาร์ ลดลง 8% แต่หากดูเฉพาะกำไรจากการดำเนินงาน (รายได้ลบต้นทุน ไม่รวมดอกเบี้ย-ภาษี) ก็จะเพิ่มขึ้นถึง 18%

ซีอีโอ Dion Weisler กล่าวว่าแม้ว่าภาพรวมอุตสาหกรรมยังคงมีความท้าทาย แต่ HP ก็ยังคงมีผลดำเนินงานที่ดี มีกำไรเพิ่มขึ้น และเลือกลงทุนอย่างเหมาะสมเพื่ออนาคตในระยะยาว

ผลการดำเนินงานแยกตามส่วนธุรกิจ พีซีมีรายได้คงที่ โดยจำนวนโน้ตบุ๊คขายได้มากขึ้น 4% และเดสก์ท็อป ลดลง 6% ส่วนเครื่องพิมพ์รายได้ลดลง 14% โดยจำนวนเครื่องที่ขายได้ลดลง 10%

ที่มา: HP

Cisco รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2016 (พฤษภาคม-กรกฎาคม) รายได้ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน อยู่ที่ 12,638 ล้านดอลลาร์ แต่หากตัดรายการขาย CPE ออกไปเมื่อปีที่แล้วก็เติบโต 2% และมีกำไรสุทธิ 2,813 ล้านดอลลาร์

Chuck Robbins ซีอีโอ Cisco กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมาเป็นอีกไตรมาสที่แข็งแกร่งของ Cisco โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่เติบโตถึง 33%

นอกจากนี้ Cisco ยังประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กร โดยจะลดพนักงานลง 5,500 ตำแหน่ง หรือราว 7% (น้อยกว่าข่าวลือ) ซึ่ง Cisco บอกว่าเป็นการลดพนักงานในส่วนธุรกิจที่มีการเติบโตน้อยลง และเพิ่มการลงทุนในส่วนที่มีการเติบโตสูง อาทิ IoT, collaboration ตลอดจนศูนย์ข้อมูลและคลาวด์ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน

ที่มา: Cisco

Alibaba รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุด สิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2016 มีรายได้รวม 4,838 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยเป็นยอดขายสุทธิ (GMV) 126,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% โดยยอดขาย 75% มาจากบนมือถือ กำไรสุทธิ 1,834 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33%

ซีเอฟโอ Maggie Wu กล่าวว่า อัตราการเติบโตที่ระดับ 59% นี้เป็นการเติบโตที่สูงที่สุด นับตั้งแต่ Alibaba ไอพีโอเข้าตลาดหุ้น นอกจากนี้ยอดขายผ่านมือถือ ยังสูงกว่าช่องทางเดิมเป็นครั้งแรก สะท้อนว่า Alibaba สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่แพลตฟอร์มมือถือได้เช่นกัน

ธุรกิจคลาวด์ Aliyun เติบโตถึง 156% แต่ยังขาดทุนอยู่

ที่มา: Alibaba

NVIDIA เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่สองของปี 2016 (นับเป็นปีงบประมาณ 2017) ซึ่งออกมาดีมาก รายได้ 1.43 พันล้านดอลลาร์ โต 24%, กำไรสุทธิ 253 ล้านดอลลาร์ โตขึ้น 873%

เหตุผลที่ NVIDIA รายได้เติบโตก็ชัดเจนว่าเป็นผลมาจากจีพียูรหัส Pascal หรือ GeForce GTX ซีรีส์ 10xx ที่เพิ่งเริ่มวางขายในไตรมาสที่ผ่านมา (1080/1070/1060/Titan X) นอกจากนี้ รายได้จากหน่วยประมวลผลฝั่งเซิร์ฟเวอร์ที่ทำเรื่อง deep learning (Tesla P100) ก็เติบโตเช่นกัน

ที่มา - NVIDIA

ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2559 รายได้รวม 30,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ถ้าพิจารณาเฉพาะรายได้จากการขายจะเติบโต 20.1% สุทธิแล้วขาดทุนอยู่ 367 ล้านบาท แต่หากพิจารณา EBITDA หรือกำไรจากการดำเนินงานที่เป็นเงินสด ตัวเลขอยู่ที่ 6,371 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักของการขาดทุนมาจากค่าเสื่อมราคา และดอกเบี้ยเงินกู้ยืม

HTC เผยผลประกอบการเบื้องต้น (unaudited results) ประจำไตรมาสที่สองของปี 2016

• รายได้ 18.9 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ลดลง 44% จากปีที่แล้ว
• ขาดทุนจากการดำเนินงาน 4.2 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน (อัตราขาดทุนติดลบ 22.5% จากรายได้)
• ขายที่ดินในเมือง Taoyuan ได้ 1 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน หักแล้ว ขาดทุนสุทธิ 3.1 พันล้านดอลลาร์

ตัวเลขอาจดูว่ารายได้ลดลงจากปีก่อน แต่เทียบกับไตรมาสแรกของปี 2016 ที่ออกมาแย่สุดๆ ก็ถือว่ารายได้เพิ่มขึ้นมา 27% ซึ่งเป็นผลจากการขายมือถือเรือธง HTC 10 และแว่น HTC Vive มาช่วยกอบกู้สถานการณ์ไว้ได้บางส่วน

เอไอเอสรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2559 มีรายได้รวม 30,169 ล้านบาท ลดลง 1.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 9,596 ล้านบาท ลดลง 2.6% มีสาเหตุหลักจากแคมเปญแจกมือถือ อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ลดลงไปมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2559 เพราะมีการชะลอการแจกเนื่องจากสามารถให้บริการคลื่น 2G บน 900 MHz ต่อไปได้

LG ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2016 มีรายได้ 14 ล้านล้านวอน โตขึ้น 4.8% และกำไร 584.6 พันล้านลอน เติบโตขึ้น 140% จากปีก่อนหน้า โดยเป็นผลมาจากธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (Home Appliance & Air Condition) และธุรกิจทีวี-เครื่องเสียง (Home Entertainment) ทำกำไรได้มากเป็นประวัติการณ์

อย่างไรก็ตาม ตัวปัญหากลับกลายเป็นธุรกิจมือถือ LG Mobile Communications ที่รายได้ 3.3 ล้านล้านวอน (โต 12%) แต่กลับขาดทุน 153.5 พันล้านวอน อันเป็นผลจากยอดขาย LG G5 ที่ไม่เป็นไปตามเป้า ยอดขายสมาร์ทโฟนของไตรมาสนี้ 13.9 ล้านเครื่อง โตขึ้น 3%

LG Mobile ประเมินว่าในไตรมาสที่ 3 สถานการณ์จะกลับมาดีขึ้น อันเป็นผลจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับกลางซีรีส์ K และ X รวมถึงสมาร์ทโฟนซีรีส์ V ตัวใหม่ด้วย

เป็นรายงานประจำปี 2016 ไตรมาสที่ 1 ของทาง Sony ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน ซึ่งผลที่ออกมาปรากฏว่าแผนกที่สามารถทำกำไรได้มากที่สุดคือ แผนก Game & Network Services นอกจากนี้แผนกดังกล่าวยังมีอัตรากำไรและยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอีกด้วย

Amazon รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2/2016 กำไรสุทธิ 857 ล้านดอลลาร์ เป็นสถิติใหม่สูงสุดต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 30,404 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 31%

AWS ยังคงเป็นแหล่งรายได้ที่สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้ Amazon โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 57% ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 137% เป็น 718 ล้านดอลลาร์ ซึ่งด้วยอัตราการเติบโตระดับนี้ AWS น่าจะทำเงินตลอดทั้งปีได้ทะลุ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามเป้าหมายที่ซีอีโอ Jeff Bezos คาดไว้

ในช่วงแถลงผลประกอบการ ซีเอฟโอ Brian Olsavsky ได้ตอบประเด็นเรื่องการลงทุนต่อเนื่องของ Amazon ที่ดูเหมือนชะลอลง (เพราะว่ามีกำไรเพิ่มขึ้นตลอด) ว่าที่กำไรเพิ่มนั้นมาจากประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ แต่ในแง่การลงทุน Amazon ยังคงลงทุนอย่างหนักต่อเนื่อง เช่น เนื้อหาวิดีโอออนไลน์ ก็เพิ่มถึง 1 เท่าตัวจากปีก่อน, ศูนย์กระจายสินค้าเปิดเพิ่ม 18 แห่งในไตรมาสที่ผ่านมา และเพิ่มเงินลงทุนในอินเดียอีกด้วย

ที่มา: Amazon และ Business Insider

Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของปี 2016 รายได้รวม 21,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 5,864 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21%

รายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากธุรกิจหลักคือกูเกิล ขณะที่ธุรกิจอื่น หรือ Other Bets มีรายได้ 185 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 0.8% ของรายได้รวม และขาดทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 859 ล้านดอลลาร์

ในส่วนของกูเกิลนั้น รายได้หลักอย่างโฆษณายังคงเติบโต 19% ขณะที่ส่วนรายได้อื่น (ลูกค้าองค์กร, Google Play, ฮาร์ดแวร์) เติบโตถึง 33%

ที่มา: Alphabet

นินเทนโดรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีการเงินบริษัท 2017 (เมษายน-มิถุนายน 2016) มีรายได้ 61,969 ล้านเยน ลดลงถึง 31.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 38,674 ล้านเยน ขณะที่ปีก่อนมีกำไร

ตัวเลขที่ออกมาแย่ มีสาเหตุหลักสองอย่าง หนึ่งคือ Wii U ที่ขายได้ 220,000 เครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งลดลงถึง 53% และสองคือเงินเยนที่แข็งค่ามาก และนินเทนโดเองมียอดขาย 72.3% จากนอกญี่ปุ่น เฉพาะไตรมาสนี้ก็ขาดทุนจากค่าเงินถึง 35,003 ล้านเยน

ไม่กี่วันก่อนรายงานผลประกอบการ นินเทนโดยังสร้างคำถามต่อนักลงทุนเมื่อบริษัทบอกว่า Pokemon Go อาจไม่ส่งผลต่อรายได้กับบริษัทมากนัก อย่างไรก็ตามอุปกรณ์เสริม Pokemon Go Plus จะเป็นสินค้าของนินเทนโดโดยตรง แต่จะเริ่มวางขายได้หลังเดือนกันยายน

ที่มา: นินเทนโด และ The Verge

ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2/2016 ตัวเลขออกมาดีกว่าที่บริษัทให้มาเบื้องต้น มีรายได้รวม 50.94 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 5.85 ล้านล้านวอน

โทรศัพท์มือถือเป็นธุรกิจหลักที่ทำรายได้มากกว่าครึ่งให้กับซัมซุง เช่นเดียวกับกำไร โดยซัมซุงระบุว่าการเติบโตนี้มาจาก Galaxy S7 ที่ทำยอดขายได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้ว ที่น่าสนใจซัมซุงระบุว่ายอดขาย Galaxy S7 edge สูงกว่า Galaxy S7 เสียอีก ส่วนในไตรมาสปัจจุบันคาดว่ายอดขายจากสมาร์ทโฟนตัวใหม่ รุ่นหน้าจอใหญ่จะช่วยเสริมให้ตัวเลขออกมาดีต่อเนื่อง

ที่มา: ซัมซุง

Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2016 รายได้รวม 6,239 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,055 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 186% โดยรายได้จากการโฆษณาผ่านมือถือนั้นคิดเป็น 84% ของรายได้รวม

จำนวนผู้ใช้งาน Facebook ยังคงรักษาอัตราการเติบโตได้คงที่ มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (Monthly active users - MAUs) 1,712 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15% เป็นผู้ใช้งานผ่านมือถือ 1,574 ล้านคน และมีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs – Daily active users) 1,128 ล้านคน เพิ่มขึ้น 17% (ตกลงว่า Facebook ใกล้หมดลมหายใจ?)

ซีอีโอ Mark Zuckerberg กล่าวว่าถือเป็นอีกไตรมาสที่ดีของ Facebook และช่วงที่ผ่านมาการผลักดันเนื้อหาแบบวิดีโอก็เริ่มส่งผลที่มากขึ้น และเขายังเน้นถึงเรื่องนี้ในช่วงชี้แจงกับนักวิเคราะห์ว่าวิดีโอเป็นหัวใจของ Facebook และเขาเห็นว่าจะต้อง "Video First"

ยังมีประเด็นน่าสนใจเพิ่มเติมดังนี้

Twitter รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2016 รายได้รวม 602 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 92.9 ล้านดอลลาร์

ตัวเลขผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) อยู่ที่ 313 ล้านคน เพิ่มขึ้นมา 3 ล้านคนจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นผู้ใช้งานผ่านมือถือ 82%

ซีอีโอ Jack Dorsey กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่าน Twitter ยังคงโฟกัสพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้รวดเร็ว ใช้งานง่าย รวมทั้งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่นวิดีโอถ่ายทอดสดด้วย

ที่มา: Twitter

แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2016 (เมษายน-มิถุนายน 2016) มีรายได้รวม 42,358 ล้านดอลลาร์ ลดลง 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 7,796 ล้านดอลลาร์ ลดลง 27% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 38% ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 39.7%

แนวโน้มรายได้และกำไรที่ลดลงนี้ยังคงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ซีอีโอ ทิม คุก กล่าวว่าตัวเลขที่ออกมาถือว่าดีกว่าที่แอปเปิลประเมินไว้ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะจากความสำเร็จของการเปิดตัว iPhone SE ช่วงที่ผ่านมา

ถึงแม้ภาพรวมรายได้จะลดลง แต่ธุรกิจบริการ (อินเทอร์เน็ต, Apple Care, Apple Pay) กลับมีรายได้เพิ่มขึ้นสวนทางถึง 19% โดยรายได้เฉพาะส่วน App Store ก็สูงสุดทำสถิติใหม่อีกด้วย

สำหรับยอดขายแยกเป็นรายผลิตภัณฑ์ iPhone ขายได้ 40.4 ล้านเครื่อง ลดลง 14.9% จากปีก่อน ขณะที่ iPad ขายได้ 9.95 ล้านเครื่อง ลดลง 8.7% และ Mac ขายได้ 4.25 ล้านเครื่อง ลดลง 11.5%

ในช่วงแถลงผลประกอบการกับนักวิเคราะห์นำโดย ทิม คุก และซีเอฟโอ Luca Maestri มีข้อมูลและมุมมองที่น่าสนใจหลายอย่างดังนี้ครับ

อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2016 มีรายได้รวม 13,533 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว กำไรสุทธิ 1,330 ล้านดอลลาร์ ลดลงถึง 51% จากสาเหตุหลักคือค่าใช้จ่ายในการปลดพนักงานตามที่แจ้งไว้ก่อนหน้านี้

ซีอีโอ Brian Krzanich กล่าวว่าภาพรวมรายได้และความสามารถในการทำกำไรของอินเทลยังเป็นไปตามคาด โดยยังมองตลาดพีซีอย่างระมัดระวังต่อไป และหาโอกาสใหม่ในกลุ่มธุรกิจ Data Center และ Internet of Things

รายได้ของอินเทลแยกตามหมวดธุรกิจ Client Computing ลดลง 3%, Data Center เพิ่มขึ้น 5% และ Internet of Things เพิ่มขึ้น 2%

ที่มา: Intel

ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปีการเงิน 2016 (เมษายน-มิถุนายน 2016) รายได้รวม 22,642 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 5,484 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8%

กลุ่มธุรกิจ Intelligent Cloud ที่ถือว่ามีอนาคตดีมากของไมโครซอฟท์เติบโต 7% (หากตัดปัจจัยค่าเงินจะโต 10%) ขณะที่กลุ่ม Personal Computing รายได้ลดลง 4% ส่วนกลุ่ม Productivity and Business Processes เติบโต 5%

ซีอีโอ Satya Nadella กล่าวว่ากลุ่มธุรกิจ Microsoft Cloud ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า และสร้างโอกาสใหม่ให้ไมโครซอฟท์ต่อไปด้วย

ตัวเลขน่าสนใจรายผลิตภัณฑ์เป็นดังนี้

ยาฮูรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2/2016 มีรายได้ 1,307 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.1% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่ขาดทุนสุทธิถึง 438.4 ล้านดอลลาร์ มีสาเหตุหลักจากการปรับด้อยค่าทางบัญชี Tumblr 482 ล้านดอลลาร์

กลุ่มธุรกิจ MAVEN (Mobile, Video, Native, Social) ที่เป็นกลยุทธ์เติบโตของยาฮู มีรายได้เพิ่มขึ้น 25%

ในแถลงผลประกอบการนี้ ยาฮูไม่มีการรายงานความคืบหน้าเรื่องแผนการขายกิจการแต่อย่างใด

ที่มา: ยาฮู และ Business Insider

Netflix รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่สอง ปี 2016 มีรายได้รวม 2,105.2 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 40.8 ล้านดอลลาร์ จำนวนสมาชิกทั่วโลก 83.18 ล้านราย เพิ่มขึ้น 1.68 ล้านราย ซึ่งที่เพิ่มขึ้นมาส่วนใหญ่เป็นสมาชิกจากนอกอเมริกา

Netflix ระบุว่าตัวเลขนี้ยังสะท้อนการเติบโต แต่ยังไม่รวดเร็วอย่างที่ต้องการ เพราะการออกสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น แม้เป็นโอกาสแต่ก็มีอุปสรรคหลายอย่างที่ต้องแก้ไข

สำหรับข้อมูลที่น่าสนใจอื่นๆ Netflix บอกว่า จำนวนสมาชิกสมัครใหม่ที่เข้ามานั้นเป็นไปตามเป้าหมาย แต่กลับมีจำนวนสมาชิกที่ยกเลิกใช้บริการสูงเกินกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้ตัวเลขสมาชิกเพิ่มขึ้นในอเมริกามีเพียง 1.6 แสนรายเท่านั้น

ในส่วนของการบุกตลาดจีน Netflix ให้ความเห็นว่าโชคไม่ดีนักเพราะทางการจีนมีความเข้มงวดกับบริการสตรีมมิ่งมากขึ้น เห็นได้จากการปิดบริการ DisneyLife ที่ดิสนีย์ร่วมทุนกับ Alibaba หรือแม้แต่แอปเปิลก็ยังเข้าไปให้บริการไม่ได้ ซึ่ง Netflix ยังคงหาโอกาสที่จะเข้าไปเปิดตลาดนี้ให้ได้

ที่มา: Netflix และ Business Insider

ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2016 มีรายได้รวม 20,238 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,504 ล้านดอลลาร์ ลดลง 27.4%

Ginni Rometty ซีอีโอไอบีเอ็มกล่าวว่า ที่ผ่านมาไอบีเอ็มยังดำเนินแผนงานต่อเนื่องเพื่อเป็นผู้นำในการส่งมอบสิ่งใหม่ๆ กับธุรกิจที่เหนือกว่าบริษัทอื่นในตลาด ซึ่งจะเห็นได้จากธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ยังคงเติบโตที่ระดับตัวเลขสองหลัก อาทิ Analytics, คลาวด์, ความปลอดภัย หรือ Watson Health ซึ่งล้วนมี IBM Cloud อยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้ไอบีเอ็มยังลงทุนเพื่อการเติบโต ในโอกาสใหม่อย่างเช่น คอมพิวเตอร์ควอนตัม, IoT หรือ Blockchain

ที่มา: ไอบีเอ็ม

ดีแทค ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2/2559 มีรายได้รวม 19,799 ล้านบาท ลดลง 9.7% จากปีก่อน และลดลง 8.7% จากไตรมาสก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของรายได้จากบริการเสียงและรายได้จากการจำหน่ายโทรศัพท์ โดยบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 141 ล้านบาท ลดลง 90% จากปีก่อน และลดลง 89% จากไตรมาสก่อน โดยส่วนใหญ่เกิดจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่สูงขึ้นจากการขยายโครงข่าย รวมทั้งมี EBITDA ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายพิเศษในการปรับโครงสร้างต่างๆจำนวน 394 ล้านบาท

Seagate ประกาศปลดพนักงานรอบใหม่ 6,500 คนทั่วโลก หรือคิดเป็น 14% ของพนักงานทั้งหมดประมาณ 45,000 คน

เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน Seagate เพิ่งปลดพนักงานไปแล้ว 1,600 คน (ราว 3% ของพนักงานทั้งหมด) และต้องมาปลดเพิ่มอีกครั้งด้วยระยะห่างเพียง 2 สัปดาห์ พนักงานที่โดนปลดส่วนใหญ่จะอยู่ในฝ่ายการผลิต ซึ่ง Seagate มีโรงงานอยู่หลายแห่งทั่วโลก (รวมถึงที่เมืองไทย)

Seagate ยังประกาศผลประกอบการเบื้องต้นประจำไตรมาสที่สองของปีนี้ รายได้ประมาณ 2.65 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งดีกว่าที่บริษัทเคยคาดไว้เดิมที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์

ซัมซุงรายงานผลประกอบการเบื้องต้นของไตรมาสที่ 2 ปี 2016 โดยคาดมีรายได้ราว 50 ล้านล้านวอน และกำไรจากการดำเนินงาน 8.1 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มียอดขาย 48.54 ล้านล้านวอน และกำไรจากการดำเนินงาน 6.9 ล้านล้านวอน

ตัวเลขนี้ถือว่าดีที่สุดในรอบ 2 ปีของซัมซุง ซึ่งปัจจัยหลักก็น่าจะมาจาก Galaxy S7 และ S7 edge ที่มีการขายแบบเต็มไตรมาสที่ผ่านมา (เริ่มขายมีนาคม) โดยซัมซุงจะรายงานตัวเลขแบบละเอียดอีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้

ที่มา: ซัมซุง และ Phone Arena