Facebook รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3/2016 รายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน 56% เป็น 7,011 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 2,379 เพิ่มขึ้นถึง 166% โดยรายได้จากโฆษณาบนมือถือคิดเป็น 84% ของรายได้รวม

ซีอีโอ Mark Zuckerberg กล่าวในแถลงผลประกอบการว่า Facebook ยังคงเดินหน้าเน้น Video First ต่อไป รวมทั้งดำเนินงานตามแผนเทคโนโลยีใน 10 ปีข้างหน้า

จำนวนผู้ใช้งาน Facebook เป็นประจำทุกเดือน (Monthly active users - MAUs) ล่าสุดอยู่ที่ 1,788 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16% โดยเป็นผู้ใช้งานผ่านมือถือ 1,091 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20%

ยังมีประเด็นน่าสนใจอีกหลายอย่างในช่วงแถลงผลประกอบการกับนักวิเคราะห์ดังนี้

โซนี่ รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปีการเงินบริษัท 2016 สิ้นสุดเดือนกันยายน รายได้รวมลดลง 10.8% จากปีก่อน อยู่ที่ 1.69 ล้านล้านเยน ซึ่งโซนี่ระบุว่าเป็นผลกระทบจากเงินเยนที่แข็งค่า หากตัดปัจจัยดังกล่าวรายได้จะคงที่จากปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.8 พันล้านเยน ลดลงถึง 86%

ไตรมาสที่ผ่านมาโซนี่ตัดสินใจขายธุรกิจแบตเตอรี่ให้ Murata Manufacturing ซึ่งโซนี่ต้องลงบันทึกขาดทุนส่วนนี้ราว 37,000 ล้านเยน และผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่คุมาโมโต้ก็ส่งผลกระทบอีก 13,700 ล้านเยน

สำหรับรายได้ตามส่วนธุรกิจ โทรศัพท์มือถือ ขายได้ 3.5 ล้านเครื่อง รายได้ลดลง 40%, เกม รายได้ลดลง 11.3% จากการลดราคา PS4 ส่วนธุรกิจอุปกรณ์ถ่ายภาพและเซนเซอร์ รายได้ลดลงถึง 25% ขณะที่ธุรกิจการเงินยังคงทำกำไรให้โซนี่เป็นอัตราส่วนสูงที่สุด

ที่มา: โซนี่

LG รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2016 รายได้รวม 13.22 ล้านล้านวอน ลดลง 5.7% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 8.15 หมื่นล้านวอน ซึ่งมีปัจจัยหลักจากธุรกิจโทรศัพท์ที่รายได้ลดลงถึง 23% และขาดทุนเฉพาะส่วนนี้ถึง 4.4 แสนล้านวอน

LG ส่งมอบโทรศัพท์มือถือในไตรมาสที่ผ่านมา 13.5 ล้านเครื่อง ลดลง 9% และระบุว่ายอดขาย G5 นั้นไม่ดีจึงส่งผลกระทบ (ไตรมาสที่แล้วก็บอกแบบนี้) แต่ในไตรมาสที่ 4 LG จะเร่งทำยอดขาย V20 ที่กระแสตอบรับออกมาดีให้มากขึ้น

ถึงแม้โทรศัพท์มือถือจะขาดทุนเยอะ แต่ LG ยังได้ธุรกิจอีกสองส่วนคือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (Home appliances) และอุปกรณ์ให้ความบันเทิง (Home Entertainment) ที่มียอดขายและกำไรดีมาทำให้ภาพรวมออกมาขาดทุนน้อยลง

ที่มา: LG

LINE รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3/2016 มีรายได้ 3.59 หมื่นล้านเยน เพิ่มขึ้น 12.6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2.4 พันล้านเยน

จำนวนผู้ใช้งานล่าสุดอยู่ที่ 220 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.5% ถ้าเทียบกับปีก่อน แต่ถือว่านิ่งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ หากพิจารณาเฉพาะตลาดหลักของ LINE ใน 4 ประเทศ (ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ไทย และอินโดนีเซีย) จำนวนผู้ใช้งานก็ยังเพิ่มขึ้น 17.6% เป็น 162 ล้านคน

ในภาพรวม 9 เดือนของปี 2016 รายได้ของ LINE แบบแยกส่วนธุรกิจยังเติบโต ทั้งรายได้จากโฆษณาและสติกเกอร์ แต่รายได้จากเกมนั้นลดลง

ที่มา: Reuters และ The Japan Times

Alphabet รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2016 มีรายได้รวม 22,451 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 6,326 ล้านดอลลาร์

กูเกิลคือรายได้หลักของ Alphabet ขณะที่ธุรกิจใหม่อื่นๆ หรือ Other Bets ไตรมาสที่ผ่านมามีรายได้ 197 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 40% แต่ก็ยังขาดทุน 865 ล้านดอลลาร์

ส่วนธุรกิจ Other Bets นั้นรวมถึงโครงการ Google Fiber ที่เพิ่งมีการปลดพนักงาน และซีอีโอส่วนนี้ลาออกจากตำแหน่งไป ซึ่งซีเอฟโอ Ruth Porat ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่ายังไม่มีการล้มเลิกโครงการนี้ไป แต่จะปรับมาเน้นอินเทอร์เน็ตไร้สายแทนตามข่าวลือก่อนหน้านี้

ที่มา: Alphabet และ Business Insider

Amazon รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2016 มีรายได้รวม 32,714 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 252 ล้านดอลลาร์

AWS ยังคงเป็นธุรกิจหลักในการสร้างกำไรของ Amazon มีรายได้ส่วนนี้เพิ่ม 55% เป็น 3,231 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรถึง 861 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีกำไรในส่วนอเมริกาเหนือ แต่ต่างประเทศยังขาดทุน ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่าการเติบโตของ AWS เองก็ชะลอลง โดยปีก่อนเติบโต 78% ไตรมาสก่อนหน้านี้ก็เติบโต 57%

ซีอีโอ Jeff Bezos ยังกล่าวถึง Alexa ว่า Alexa น่าจะเป็นนวัตกรรมจาก Amazon ที่คนรักมากที่สุดตอนนี้ เพราะมีการส่งคำขอแต่งงานกับเธอแล้วมากกว่า 250,000 ครั้ง และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ที่มา: Amazon และ Tech Trader Daily

Twitter รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2016 มีรายได้ 616 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 91.7 ล้านดอลลาร์

สถานการณ์เรื่องการถูกซื้อกิจการของ Twitter นั้นไม่มีการรายงานในผลประกอบการนี้ (เพราะดู ไม่มี ใคร สนใจซื้อแล้ว) ขณะเดียวกัน Twitter ยังยืนยันข่าวลือเมื่อวันก่อน โดยประกาศปลดพนักงาน 9% เน้นที่ฝ่ายขายและการตลาด

จำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) อยู่ที่ 317 ล้านคน เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยจากไตรมาสที่แล้วที่ 313 ล้านคน

Groupon รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3/2016ิ มีรายได้เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อนเป็น 720.5 ล้านดอลลาร์ สุทธิแล้วขาดทุน 35.8 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Groupon ระบุว่าในตลาดอเมริกาเหนือ ยอดการซื้อนั้นเพิ่มขึ้นถึง 10% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตดีที่สุดในรอบ 3 ปี

ในรายงานผลประกอบการนี้ Groupon ยังเปิดเผยว่าบริษัทจะเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ LivingSocial เว็บดีลที่ถือเป็นคู่แข่งกันมาตั้งแต่ธุรกิจเว็บขายดีลเริ่มต้น โดยคาดว่าดีลจะสิ้นสุดภายในเดือนพฤศจิกายน ปี 2016 ด้วยมูลค่าที่ไม่เปิดเผยเพราะไม่ได้สูงจนต้องรายงาน

LivingSocial มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ Amazon และช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาทางธุรกิจจนลดโฟกัสเหลือแค่อเมริกาเหนือ

ที่มา: TechCrunch

ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3/2016 แบบละเอียด โดยตัวเลขมีการปรับไปจากที่ให้เบื้องต้นเมื่อต้นเดือนพอสมควร มีรายได้ 47.82 ล้านล้านวอน ลดลง 7.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน กำไรจากการดำเนินงาน 5.20 ล้านล้านวอน ลดลง 29.6% กำไรสุทธิ 4.54 ล้านล้านวอน ลดลง 16.8%

รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์มือถือลดลงถึง 15% ส่วนกำไรจากการดำเนินงานลดลง 96% โดยมาจากปัญหา Note 7 เป็นหลัก อย่างไรก็ตามซัมซุงระบุว่ายอดขายรุ่นอื่นยังเป็นปกติ ขณะที่โมเดล A และ J ที่เน้นตลาดกลางถึงล่างยังเติบโต ซัมซุงบอกว่าในไตรมาส 4 จะพยายามทำยอดขาย S7 และ S7 edge ให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อชดเชยยอดขายที่เสียไปจาก Note 7

ถึงแม้กำไรจากธุรกิจมือถือจะลดลงไปมาก แต่ซัมซุงก็ได้กำไรชดเชยจากธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ที่มา: ซัมซุง และ The Verge

แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2016 (กรกฎาคม-กันยายน 2016) มีรายได้รวม 46,852 ล้านดอลลาร์ ลดลง 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวในปีก่อน กำไรสุทธิ 9,014 ล้านดอลลาร์ ลดลง 19% มีอัตรากำไรขั้นต้น 38% และยอดขายในต่างประเทศคิดเป็น 62%

รายได้แยกเป็นหมวดผลิตภัณฑ์นั้นลดลงทุกตัว ทั้ง iPhone ที่ขายได้ 45.5 ล้านเครื่อง (ลดลง 5%), iPad 9.3 ล้านเครื่อง (ลดลง 6%) และ Mac 4.9 ล้านเครื่อง (ลดลง 14%) แต่รายได้จากหมวดบริการอินเทอร์เน็ต ยังคงเป็นไปในทิศทางเพิ่มขึ้น โดยรายได้ส่วนนี้เติบโต 24% เป็นสถิติใหม่ 6,325 ล้านดอลลาร์ ทำให้ธุรกิจนี้กลายเป็นรายได้หลักลำดับที่สองของแอปเปิลแทนที่ Mac

ในช่วงแถลงผลประกอบการกับนักวิเคราะห์ โดยซีอีโอ ทิม คุก และซีเอฟโอ Luca Maestri ยังมีประเด็นน่าสนใจดังนี้

ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีการเงินบริษัท 2017 (กรกฎาคม-กันยายน 2016) มีรายได้รวม 22,334 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว กำไรสุทธิ 5,989 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6%

ซีเอฟโอ Amy Hood กล่าวว่าบริการคลาวด์ของไมโครซอฟท์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกับไมโครซอฟท์ก็ยังลงทุนในทุกส่วนธุรกิจเพื่อการเติบโตในระยะยาว

ภาพรวมของธุรกิจคลาวด์ (Intelligent Cloud) นั้นเติบโตมีรายได้เพิ่มขึ้น 8% โดยเฉพาะของ Azure เติบโตถึง 116% สอดคล้องตามอัตราการใช้งานที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว ตัวเลขอื่นที่น่าสนใจมีดังนี้

ยาฮูรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2016 มีรายได้รวม 1,305 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 163 ล้านดอลลาร์ แต่ประเด็นนี้คงไม่สำคัญมากนัก เนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วงขายธุรกิจหลักให้กับ Verizon

ซีอีโอ Marissa Mayer ระบุในแถลงผลประกอบการว่าตอนนี้ยาฮูอยู่ในขั้นตอนการเจรจาควบรวมกิจการกับ Verizon อยู่ และเป็นสาเหตุให้การประชุมกับนักวิเคราะห์ในไตรมาสนี้ถูกยกเลิกไป

สำหรับประเด็นถูกแฮ็กบัญชี 500 ล้านบัญชี ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อดีล Verizon นั้น ยาฮูได้ชี้แจงในเอกสารประกอบรายงานผลประกอบการ ว่าทราฟฟิกของยาฮูไม่ได้รับผลกระทบหลังมีรายงานการแฮ็กออกมา

ที่มา: The Washington Post

อินเทลรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปี 2016 มีรายได้รวม 15,778 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 3,378 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Brian Krzanich ระบุว่าไตรมาสนี้อินเทลมีผลงานที่โดดเด่น รายได้ในทุกส่วนธุรกิจเพิ่มขึ้นสูงทำสถิติใหม่ โดยรายได้ในกลุ่มธุรกิจพีซีและมือถือ เติบโต 5%, กลุ่ม Data Center เพิ่มขึ้น 10% และ Internet of Things เพิ่มขึ้นถึง 19%

ที่มา: อินเทล

Netflix รายงานผลการดำเนินของไตรมาสที่ 3 ปี 2016 รายได้รวม 2,290 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 51.5 ล้านดอลลาร์ มีสมาชิกทั่วโลก 86.74 ล้านราย เพิ่มขึ้น 3.57 ล้านราย การเติบโตของสมาชิกยังคงมาจากนอกอเมริกาเป็นหลัก

Netflix ระบุว่ารายการที่ Netflix ผลิตเองยังคงมีกระแสตอบรับที่ดี โดยไตรมาสที่ผ่านมามีทั้ง Stranger Things และ Narcos ฤดูกาลที่สองที่ได้รับความนิยม

ในส่วนของการบุกตลาดต่างประเทศนั้น Netflix ให้ข้อมูลน่าสนใจ อาทิ ในโปแลนด์กับตุรกี มีการปรับส่วนติดต่อผู้ใช้งานให้เป็นภาษาท้องถิ่น, เพิ่มรายการท้องถิ่น และรับค่าสมาชิกเป็นเงินท้องถิ่น ทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นและอัตรายกเลิกต่ำ ส่วนตลาดจีนที่ยังไม่สามารถเข้าไปให้บริการได้นั้น Netflix ระบุว่าในช่วงนี้จะขายสิทธิเนื้อหากับผู้ให้บริการรายที่มีอยู่ในจีนไปก่อน แทนที่จะเข้าไปเป็นผู้ให้บริการเองโดยตรง

ที่มา: Netflix และ Business Insider

ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2016 มีรายได้รวม 19,226 ล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,853 ล้านดอลลาร์ โดยเมื่อพิจารณารายได้ตามส่วนธุรกิจนั้น กลุ่มธุรกิจตามกลยุทธ์ใหม่ (คลาวด์, Analytics, อุปกรณ์พกพา และความปลอดภัย) ยังคงเติบโตเป็นระดับตัวเลขสองหลัก และคิดเป็นรายได้ 40% ของรายได้รวม

ซีอีโอ Ginni Rometty กล่าวว่าการเติบโตนี้สะท้อนความเป็นผู้นำของไอบีเอ็มในการส่งมอบโซลูชั่นด้านคลาวด์ให้กับลูกค้า โดยมี Watson และ IBM Cloud เป็นแพลตฟอร์มหลักที่เข้าไปช่วยสร้างตลาดใหม่ และเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม

ที่มา: IBM

ซัมซุงออกมาปรับลดยอดผลคาดการณ์ประกอบการประจำไตรมาสสามปีนี้ โดยคาดว่ากำไรจะลดลงจากเป้าเดิม 1/3 หรือประมาณ 2.3 พันล้านดอลลาร์ จากกรณีปัญหา Galaxy Note 7

ซัมซุงเพิ่งประกาศผลประกอบการแบบคาดการณ์ (estimated earning) ประจำไตรมาสสามไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุดบริษัทออกมาปรับลดตัวเลขลง หลังประกาศหยุดขาย Galaxy Note 7 อย่างถาวร คาดว่ากำไรของไตรมาสนี้จะลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 2015 ประมาณ 30%

Fortune อ้างมุมมองของนักวิเคราะห์การเงินหลายคนว่า ซัมซุงน่าจะรีบดัน Galaxy S8 ให้ออกเร็วกว่าปกติ จากรอบการเปิดตัวเดือนกุมภาพันธ์ที่งาน MWC เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ระดับเรือธงออกสู่ตลาดเร็วขึ้น ปิดช่องว่างที่ขาด Note 7 ไป

ซัมซุงรายงานผลประกอบการเบื้องต้นของไตรมาสที่ 3 ปี 2016 คาดว่ามีรายได้ราว 49 ล้านล้านวอน ลดลง 5.2% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรจากการดำเนินงานคาดว่าจะอยู่ที่ 7.8 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 5.4%

เนื่องจากเป็นตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นจึงยังไม่มีการลงรายละเอียดใดๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายพิเศษจากการเรียกคืน Galaxy Note 7 โดยนักวิเคราะห์มองว่าซัมซุงได้ประโยชน์จากธุรกิจชิปและชิ้นส่วนหน้าจอที่เติบโต ซึ่งมากพอที่จะหักล้างกับธุรกิจโทรศัพท์มือถือได้

ซัมซุงจะรายงานผลประกอบการฉบับเต็มในปลายเดือนนี้

ที่มา: ซัมซุง และ Reuters

ข่าว BlackBerry ออกมาประกาศว่าเลิกพัฒนาฮาร์ดแวร์เอง แล้วเปลี่ยนไปเอาท์ซอร์สให้บริษัทอื่นกลายเป็นเรื่องที่สร้างความสับสนว่าตกลง BlackBerry วางตัวอย่างไรในตลาดสมาร์ทโฟน วันนี้ John Chen ซีอีโอของบริษัท ออกมาให้สัมภาษณ์ชี้แจงเพิ่มเติมกับ BNN สถานีข่าวท้องถิ่นของแคนาดาแล้ว

BlackBerry ประกาศหยุดทำฮาร์ดแวร์เองทั้งหมด 100% หันมาทำแต่ซอฟต์แวร์อย่างเดียว ส่วนงานด้านฮาร์ดแวร์จะใช้วิธีเอาซอร์สให้พาร์ทเนอร์รายอื่นแทน

ยุทธศาสตร์นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะฮาร์ดแวร์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ BlackBerry DTEK50 ก็ใช้วิธีเอาท์ซอร์สให้ TCL (ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของแบรนด์ Alcatel) ผลิตให้อยู่แล้ว ทิศทางของบริษัทจึงชัดเจนมากขึ้นว่าจะเดินหน้าต่อไปแบบไม่ทำฮาร์ดแวร์เอง เพื่อลดภาระการลงทุนของบริษัทลง

Adobe รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2016 (มิถุนายน-สิงหาคม) มีรายได้รวมทำสถิติใหม่อีกครั้งที่ 1,464 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 270.8 ล้านดอลลาร์

Creative Cloud ยังเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นรายได้หลักของ Adobe ไตรมาสที่ผ่านมามียอดขายส่วนนี้ถึง 803 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39%

Shantanu Narayan ซีอีโอ Adobe กล่าวว่าผลการดำเนินงานที่ออกมานั้น แสดงความแข็งแกร่งทั้งรายได้และกำไรของ Adobe ซึ่งช่วยให้บริษัทไปได้ไกลมากกว่าคู่แข่งขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งคาดว่าไตรมาสถัดไปผลการดำเนินงานก็จะยอดเยี่ยมกว่านี้อีก

ที่มา: Adobe และ Tech Trader Daily

Hewlett Packard Enterprise (HPE) ประกาศแผนขายและควบรวมธุรกิจซอฟต์แวร์ ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักออกไปตรงตามข่าวลือ ให้กับ Micro Focus โดยรายละเอียดของดีลนี้ HPE จะได้เงินสด 2.5 พันล้านดอลลาร์ และหุ้นของ Micro Focus 50.1% คิดเป็นมูลค่า 6.3 พันล้านดอลลาร์ รวมแล้วราว 8.8 พันล้านดอลลาร์

Meg Whitman ซีอีโอ HPE ระบุว่าดีลนี้จะทำให้บริษัทสามารถโฟกัสกับธุรกิจที่เติบโตได้ดีมากขึ้น ขณะที่ซอฟต์แวร์ตัวสำคัญก็ไม่ได้ขายออกไป อาทิ OneView หรือ Synergy นอกจากนี้ HPE ยังเพิ่มความร่วมมือโดยประกาศให้ SUSE เป็น Linux ที่ HPE แนะนำ (Micro Focus เป็นเจ้าของ SUSE ปัจจุบัน)

นอกจากนี้ HPE ยังประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ผ่านมา (พฤษภาคม-กรกฎาคม) มีรายได้ลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน % อยู่ที่ 12,210 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 2,272 ล้านดอลลาร์

ที่มา: HPE 1, 2 และ Business Insider

Gautam Gupta ซีเอฟโอของ Uber ออกมาเผยข้อมูลสภาพการณ์ธุรกิจในไตรมาสที่สองของปี (Uber ยังไม่เข้าตลาดหุ้น ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ แต่บริษัทเลือกจะให้ข้อมูลกับนักลงทุน)

HP รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม 2016 มีรายได้ 11,892 ล้านดอลลาร์ ลดลง 4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรอยู่ที่ 783 ล้านดอลลาร์ ลดลง 8% แต่หากดูเฉพาะกำไรจากการดำเนินงาน (รายได้ลบต้นทุน ไม่รวมดอกเบี้ย-ภาษี) ก็จะเพิ่มขึ้นถึง 18%

ซีอีโอ Dion Weisler กล่าวว่าแม้ว่าภาพรวมอุตสาหกรรมยังคงมีความท้าทาย แต่ HP ก็ยังคงมีผลดำเนินงานที่ดี มีกำไรเพิ่มขึ้น และเลือกลงทุนอย่างเหมาะสมเพื่ออนาคตในระยะยาว

ผลการดำเนินงานแยกตามส่วนธุรกิจ พีซีมีรายได้คงที่ โดยจำนวนโน้ตบุ๊คขายได้มากขึ้น 4% และเดสก์ท็อป ลดลง 6% ส่วนเครื่องพิมพ์รายได้ลดลง 14% โดยจำนวนเครื่องที่ขายได้ลดลง 10%

ที่มา: HP

Cisco รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2016 (พฤษภาคม-กรกฎาคม) รายได้ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน อยู่ที่ 12,638 ล้านดอลลาร์ แต่หากตัดรายการขาย CPE ออกไปเมื่อปีที่แล้วก็เติบโต 2% และมีกำไรสุทธิ 2,813 ล้านดอลลาร์

Chuck Robbins ซีอีโอ Cisco กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมาเป็นอีกไตรมาสที่แข็งแกร่งของ Cisco โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่เติบโตถึง 33%

นอกจากนี้ Cisco ยังประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กร โดยจะลดพนักงานลง 5,500 ตำแหน่ง หรือราว 7% (น้อยกว่าข่าวลือ) ซึ่ง Cisco บอกว่าเป็นการลดพนักงานในส่วนธุรกิจที่มีการเติบโตน้อยลง และเพิ่มการลงทุนในส่วนที่มีการเติบโตสูง อาทิ IoT, collaboration ตลอดจนศูนย์ข้อมูลและคลาวด์ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน

ที่มา: Cisco

Alibaba รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุด สิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2016 มีรายได้รวม 4,838 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยเป็นยอดขายสุทธิ (GMV) 126,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% โดยยอดขาย 75% มาจากบนมือถือ กำไรสุทธิ 1,834 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33%

ซีเอฟโอ Maggie Wu กล่าวว่า อัตราการเติบโตที่ระดับ 59% นี้เป็นการเติบโตที่สูงที่สุด นับตั้งแต่ Alibaba ไอพีโอเข้าตลาดหุ้น นอกจากนี้ยอดขายผ่านมือถือ ยังสูงกว่าช่องทางเดิมเป็นครั้งแรก สะท้อนว่า Alibaba สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่แพลตฟอร์มมือถือได้เช่นกัน

ธุรกิจคลาวด์ Aliyun เติบโตถึง 156% แต่ยังขาดทุนอยู่

ที่มา: Alibaba