กูเกิลออกอัพเดตแอพโทรศัพท์เวอร์ชัน 17 มีฟีเจอร์ใหม่คล้าย chat head ใน Facebook Messenger ที่มีลูกกลมๆ ลอยอยู่บนหน้าจอ โดยมันจะแสดงขึ้นมาเวลาเราคุยโทรศัพท์อยู่แต่ใช้งานแอพอื่นไปด้วย หากแตะบน chat head จะมีเมนูเล็กๆ ขึ้นมา เพื่อกลับสู่แอพโทรศัพท์, ปิดไมโครโฟน, เปิดลำโพง และวางสาย รวมถึงสามารถลากลงไปขอบล่างของจอเพื่อซ่อนหรือวางสายได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีของใหม่อื่น เช่นการรองรับ Real-Time Text (RTT) ด้วย ซึ่งเป็นการส่งตัวอักษรแบบเรียลไทม์ เมื่อพิมพ์แล้วผู้รับจะเห็นทันที ไม่ต้องกดส่ง

ที่มา - Android Authority

Blognone เคยรายงานข่าวว่า Dyson ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมียมจากอังกฤษกำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ล่าสุดมีอัพเดตออกมาบ้างแล้ว

รายงานระบุว่า Dyson กำลังตัดสินใจใช้แบตเตอรี่แบบ lithium ion เหมือนรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปในรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชันแรกของบริษัท แทนแบตเตอรี่แบบ solid-state ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากต้องการลดความซับซ้อนทางเทคนิคลงในรถยนต์รุ่นแรก

ยังคงมีการถกเถียงกันว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นสะอาดกว่ารถยนต์สันดาปภายในจริงหรือไม่ เพราะไฟฟ้าที่นำมาชาร์จก็อาจมาจากแหล่งที่ไม่เป็นมิตร เช่นถ่านหิน

ล่าสุดสมาคมรถยนต์ไฟฟ้าออสเตรเลีย ร่วมกับคลับคนใช้ Tesla ออสเตรเลียตะวันตกได้ทดลองชาร์จรถยนต์ Tesla Model S P85D ด้วยเครื่องปั่นไฟพลังดีเซล เทียบกับรถ Volvo V40 เครื่องยนต์ดีเซล 2 ลิตรที่เติมน้ำมันชนิดเดียวกัน แล้ววิ่งเป็นระยะทาง 104.6 กิโลเมตรไปพร้อมกัน สภาพอากาศมีแดดออก และการจราจรวิ่งได้ดี

บริษัทเอกชนที่รับงานเกี่ยวกับอวกาศ รวมถึงยิงจรวดให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา นอกจาก SpaceX แล้วก็มี ULA หรือ United Launch Alliance ที่เป็นการร่วมทุนระหว่าง Lockheed Martin Space Systems กับ Boeing Defense, Space & Security โดยมีจรวดหลักอยู่ 3 รุ่นคือ Delta II, Delta IV และ Atlas V นอกจากนี้ยังมีจรวดอีกรุ่นที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ชื่อ Vulcan ซึ่ง ULA ผูกขาดการยิงจรวดให้รัฐบาลสหรัฐฯ มากว่าสิบปี ก่อน SpaceX จะฟ้อง และได้รับภารกิจปล่อยดาวเทียม GPS ให้กองทัพอากาศสหรัฐฯ ในปี 2016

เมื่อสัปดาห์ก่อน Doug Ellison ทำงานเป็น visualization producer ด้านอวกาศทวีตว่าจรวด Delta IV Heavy ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหญ่สุดของ Delta IV มีจรวด 3 ลำมัดติดกันแบบเดียวกับ Falcon Heavy นั้นอาจมีประสิทธิภาพเทียบเท่า Falcon Heavy ได้ในบางกรณี

เรารู้กันว่าเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ชั้นดี แบรนด์อย่าง BMW, Mercedes-Benz, Audi ฯลฯ ต่างก็ได้รับการยอมรับในระดับโลกมาอย่างยาวนานทั้งสิ้น ซึ่งรถยนต์เหล่านี้ก็เป็นความภูมิใจของชาวเยอรมันเองด้วย แต่เทรนด์ของโลกที่กำลังมุ่งหน้าไปหารถยนต์ไฟฟ้า ทำให้น่าสนใจว่าตลาดเยอรมนีมีการตอบรับมากแค่ไหน

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนีเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และจะแซงหน้านอร์เวย์ที่เป็นผู้นำของยุโรปมานานขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลกภายในปีนี้ ตามหลังจีนและสหรัฐอเมริกาที่รั้งอันดับ 1 และ 2 โดยเหตุผลหนึ่งที่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้นคือเหตุฉาวของ Volkswagen ที่เคยโดนจับได้ว่าโกงผลทดสอบมลพิษในปี 2015

หัวใจหลักของรถยนต์ไฟฟ้ามีสองอย่างคือมอเตอร์และแบตเตอรี่ โดยมอเตอร์นั้นไม่ได้มีส่วนประกอบอะไรซับซ้อนมาก แต่กลับกันในการผลิตแบตเตอรี่ที่ต้องใช้แร่สำคัญอย่างโคบอลต์และลิเทียม ซึ่งโลหะเหล่านี้ล้วนมาจากการทำเหมือง เป็นการใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติ และเมื่อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอนาคต ผู้ผลิตรถยนต์ต่างก็พยายามหาแร่ที่จำเป็นดังกล่าวมาเป็นของตัวเองให้มากที่สุด

Tesla เป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เมื่อเดือนธันวาคม 2017 มีรายงานว่า Elon Musk ซีอีโอของบริษัทเดินทางไปยังประเทศชิลี แต่ไม่ได้บอกวัตถุประสงค์ อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันว่าชิลีมีการทำธุรกิจเหมืองลิเทียมใหญ่มาก (เชื่อกันว่าชิลีมีแร่ลิเทียมมากที่สุดในโลก) เหตุผลที่ Elon เดินทางไปก็คงหนีไม่พ้นการเจรจาซื้อแร่ลิเทียมมาเป็นของตนเพื่อผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

เมื่อวาน SpaceX เพิ่งปล่อยจรวด Falcon Heavy ออกสู่อวกาศ สร้างความฮือฮาได้มาก ข้ามมาดูฝั่ง Tesla ที่มี Elon Musk เป็นซีอีโอเช่นกันเพิ่งรายงานผลขาดทุนประจำไตรมาส 4/2017

Tesla ระบุว่าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 บริษัทขาดทุนถึง 675.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท โดยในไตรมาสเดียวกันของปี 2016 ขาดทุนอยู่ที่ 121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เช้ามืดวันนี้ SpaceX ได้ทำภารกิจยิงจรวดรุ่นใหม่ Falcon Heavy ออกสู่อวกาศ โดยบูสเตอร์ 2 ตัวกลับมาลงจอดบนพื้นโลกสำเร็จ แต่บูสเตอร์ตัวกลางเชื้อเพลิงหมด ทำให้การลงจอดบนโดรนลอยน้ำล้มเหลว ทิ้งดิ่งลงทะเลไปอย่างน่าเสียดาย

ภารกิจครั้งนี้คือการปล่อยรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Roadster สีแดงของ Elon Musk ไปยังดาวอังคาร โดยหลังแยกออกจากบูสเตอร์ รถยนต์ได้ลอยผ่าน Van Allen Radiation Belt หรือแถบรังสีแวนอัลเลนเป็นเวลาราว 6 ชั่วโมงเพื่อโชว์การเคลื่อนที่ให้กองทัพสหรัฐฯ เห็น จากนั้นเครื่องยนต์ถูกติดขึ้นอีกครั้งพร้อมส่งรถมุ่งไปยังดาวอังคาร

เช้าวันนี้เวลาเกือบตีสี่ตามเวลาประเทศไทย SpaceX ได้ยิงจรวด Falcon Heavy ออกจากฐานปล่อย 39A ที่แหลมคานาเวอรัลได้ตามที่วางแผนไว้ เครื่องยนต์ทั้ง 27 เครื่องทำงานพร้อมกันและพาจรวดออกสู่ห้วงอวกาศด้วยแรงขับสูงถึง 22,819 กิโลนิวตัน

หลังจรวด Falcon Heavy บินขึ้นไปราว 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ด้านซ้ายและขวาก็แยกตัวออกจากบูสเตอร์หลัก หมุนตัว 1 ทีและบินกลับมายังโลก พร้อมลงจอดที่ฐานจอด LZ-1 และ LZ-2 พร้อมกันได้สำเร็จ โดยบูสเตอร์ทั้งสองตัวนี้เคยถูกใช้งานมาก่อน หนึ่งในนั้นได้ทำภารกิจปล่อยดาวเทียมไทยคม 8 ให้ประเทศไทย เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2016

ขณะนี้ SpaceX มีภารกิจที่สำคัญมากรออยู่ คือการยิงจรวด Falcon Heavy จรวดรุ่นใหม่ของบริษัทที่ทรงพลังมากที่สุด โดยก่อนหน้านี้ Elon Musk ซีอีโอ ได้ระบุว่าจะยิงจรวดดังกล่าวในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ล่าสุดเขาได้ทวีตยืนยันเวลายิงจรวดดังกล่าวแล้ว

Elon ระบุว่าภารกิจจะเริ่มขึ้นตอนบ่ายโมงครึ่งวันอังคารตามเวลารัฐฟลอริดา ซึ่งตรงกับตีหนึ่งครึ่งของวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย (เช้าวันพุธ) ใครสนใจก็รอดูกันได้ครับ

เพิ่งวางขายมาได้เพียง 5 วัน กับปืนยิงไฟหรือ Flamethrower ของบริษัทขุดอุโมงค์ใต้ถนน The Boring Company ที่ Elon Musk เป็นเจ้าของ ล่าสุดเขาทวีตว่าสินค้าขายหมดแล้ว โดยมีจำนวนจำกัดเพียง 20,000 กระบอกเท่านั้น

นอกจากนี้เขายังระบุว่าจะแถมถังดับเพลิงให้ทุกออเดอร์ โดยก่อนหน้านี้ขายอยู่ที่ถังละ 30 ดอลลาร์สหรัฐ

ปืนยิงไฟดังกล่าวเป็นการขายของเพื่อระดมทุนเข้าบริษัท The Boring Company ตั้งราคาขายกระบอกละ 500 ดอลลาร์สหรัฐ ขายได้ 20,000 กระบอก จึงได้เงินไปทั้งหมด 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 313 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ก็ได้เปิดขายหมวกแก๊ปสีดำ เป็นจำนวน 50,000 ใบ ซึ่งก็ขายหมดเช่นกัน

เช้าวันนี้ราวตีสี่ตามเวลาประเทศไทย SpaceX ทำภารกิจยิงจรวด Falcon 9 อีกครั้ง โดยภารกิจคราวนี้คือการปล่อยดาวเทียมขนาดใหญ่ GovSat-1 ให้รัฐบาลประเทศลักเซมเบิร์ก ซึ่งก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเพราะ SpaceX ยิงจรวดบ่อยมาก (เฉพาะปี 2017 ยิงไป 17 ครั้ง และปีนี้ยิงไปแล้ว 2 ครั้ง) แต่ความพิเศษของภารกิจนี้คือพวกเขาตั้งใจปล่อยให้ตัวบูสเตอร์ลงน้ำ แทนที่จะกลับมาลงจอดเหมือนทุกครั้ง

ก่อนเริ่มภารกิจ SpaceX ได้ประกาศก่อนแล้วว่าจะบังคับตัวบูสเตอร์ลงน้ำ แต่ไม่ได้ให้เหตุผลที่แน่ชัด แต่ก็มีการคาดเดากันว่าเพราะบูสเตอร์ตัวนี้ถูกใช้งานมาแล้วหลายครั้ง รวมถึง SpaceX ต้องการเก็บ drone ship ไว้ใช้กับภารกิจยิง Falcon Heavy สัปดาห์หน้า

อีกหนึ่งธุรกิจที่ Elon Musk ทำคือบริษัทขุดอุโมงค์ใต้ดิน ในชื่อ The Boring Company ที่หวังจะแก้ปัญหารถติดด้วยการสร้างเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินและให้รถยนต์ลงไปจอดบนแพลตฟอร์มที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วถึง 200 กม./ชม.

หลายเดือนที่ผ่านมา Elon พยายามหาเงินทุนเข้าบริษัทด้วยการขาย “หมวกแก๊ป” ในราคาใบละ 20 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 600 บาท) เป็นจำนวน 50,000 ใบ และช่วงที่ใกล้ขายหมดเขาเคยทวีตไว้ว่าจะขายปืนยิงไฟ หรือ flamethrower ต่อ ทีแรกคนก็นึกว่าพูดเล่นแต่ขณะนี้หมวกขายหมดแล้ว และ Elon ก็ประกาศเริ่มขายปืนยิงไฟจริงๆ

หลัง SpaceX ทดสอบติดเครื่องยนต์ทั้ง 27 เครื่องของจรวด Falcon Heavy สำเร็จด้วยดีเมื่อสัปดาห์ก่อน Elon Musk ซีอีโอของบริษัทก็ได้ทวีตไว้ว่าจะยิงจริงภายใน 1 สัปดาห์

ล่าสุด Elon ได้ทวีตยืนยันแล้วว่า SpaceX จะยิงจรวดดังกล่าวในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ จากฐานปล่อย 39A Kennedy Space Center ที่แหลมคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา โดยสัมภาระ (payload) ของภารกิจนี้คือรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Roadster สีแดงเชอร์รี่ ของ Elon เอง

สองวันก่อนซัมซุงเพิ่งจะส่งบัตรเชิญสื่อเข้าร่วมงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงของปีนี้ Galaxy S9 และ S9+ ล่าสุดเจ้าพ่อข่าวลือชื่อดัง @evleaks ได้ปล่อยภาพมือถือทั้งสองรุ่นออกมาแล้ว

รูปที่ปล่อยออกมาเป็นรูปด้านหน้าของ Galaxy S9 และ S9+ สีดำ ดีไซน์โดยรวมยังคล้าย S8 แต่สังเกตว่าขอบจอด้านข้างของทั้งสองรุ่นกลับหนาขึ้นจากเดิม และดูเหมือนจอจะไม่โค้งไปถึงด้านข้างแล้ว ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าภาพเรนเดอร์ที่ปล่อยมานี้ยังไม่ได้สัดส่วน หรือซัมซุงตั้งใจปรับดีไซน์จริงๆ อีกทั้ง @evleaks ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรด้วย คงต้องรอดูกันต่อว่าระหว่างนี้จะมีภาพใหม่ๆ ออกมาก่อนถึงวันเปิดตัวในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้อีกหรือไม่

หลังจาก SpaceX ได้นำจรวดรุ่นใหม่ Falcon Heavy ขึ้นตั้งบนฐานยิงที่ Kennedy Space Center แหลมคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา ล่าสุดเมื่อคืน SpaceX ได้ทดสอบติดเครื่อง (static fire test) จรวด Falcon Heavy ทั้ง 27 เครื่องแล้ว

ด้าน SpaceX ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไร เพียงแต่บอกทางทวิตเตอร์ว่าการทดสอบสำเร็จ ส่วน Elon Musk ซีอีโอของบริษัทก็ทวีตว่าการทดสอบผ่านไปด้วยดีและตั้งเป้าว่าจะยิงจริงภายในสัปดาห์หน้า

Falcon Heavy เป็นจรวดรุ่นใหม่ของ SpaceX ทรงพลังมากที่สุดนับตั้งแต่ยุค Saturn V ประกอบไปด้วยจรวด Falcon 9 สามลำติดกัน ลำละ 9 เครื่องยนต์ รวมเป็น 27 เครื่อง

ที่มา - Ars Technica

คล้อยหลังเพียง 2 เดือนจากวันที่ Tesla เปิดตัว Tesla Semi รถบรรทุกพลังไฟฟ้า ก็ถึงเวลาที่พี่ใหญ่ในวงการอย่าง Volvo ต้องปรับตัวบ้าง โดย Volvo ประกาศทำรถบรรทุกไฟฟ้าแล้ว เริ่มที่รถบรรทุกขนาดกลางก่อน (medium-duty truck)

Jonas Odermalm หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์รถบรรทุกขนาดกลางของ Volvo กล่าวว่าเทคโนโลยีและ know-how เรื่องรถยนต์ไฟฟ้าของ Volvo มีใช้อยู่ในรถบัสไฟฟ้าแล้ว รวมถึงโซลูชันต่างๆ ก็ใช้ในรถบรรทุกไฮบริดมาตั้งแต่ปี 2010

Volvo ระบุว่าลูกค้าไม่กี่รายจะได้รับรถบรรทุกดังกล่าวไปใช้ก่อนภายในปีนี้ และจะเริ่มจำหน่ายปกติภายในปีหน้า

ที่มา - Electrek

ระยะหลังเราคงได้ยินข่าวของ SpaceX ที่รับจ้างยิงจรวดเป็นว่าเล่น ขณะนี้มีสตาร์ตอัพหน้าใหม่จากสหรัฐอเมริกาชื่อ Rocket Lab เข้าร่วมธุรกิจนี้ด้วย โดยเมื่อวานได้ยิงจรวดออกไปสู่วงโคจร Low Earth orbit ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก

ภารกิจนี้ใช้ชื่อว่า Still Testing เป็นการปล่อยดาวเทียมขนาดเล็กจำนวน 3 ดวงให้ลูกค้า 2 ราย ยิงจากฐานปล่อยที่คาบสมุทร Mahia ประเทศนิวซีแลนด์ โดยใช้จรวดที่พัฒนาขึ้นเองในชื่อ Electron ซึ่งเป็นจรวดขนาดเล็ก สูงเพียง 16.7 เมตร (Falcon 9 สูง 55 เมตร) สอดคล้องกับแนวทางของบริษัทที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในการทำภารกิจด้วยการใช้จรวดขนาดเล็ก มีต้นทุนการผลิตต่ำเพราะใช้การพิมพ์สามมิติเข้ามาผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ กล่าวคือต้องการลดค่าใช้จ่ายเหมือน SpaceX แต่ใช้วิธีผลิตจรวดลำเล็ก ราคาถูก ในขณะที่ SpaceX นำจรวดมาใช้ซ้ำ

การผลิตไฟใช้เองในบ้านเริ่มฮิตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยกระแสน่าจะเริ่มจาก Tesla Energy ที่ผลิตแบตเตอรี่สำหรับบ้านเรือนในชื่อ Tesla Powerpack รวมถึง Solar Roof ทำให้มีผู้ผลิตจำนวนมากออกผลิตภัณฑ์แนวนี้ ล่าสุดก็เป็น Audi ผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีที่เข้าร่วมธุรกิจนี้ด้วย

Audi กำลังทดสอบระบบ Smart Energy Network กับบ้านเรือนในเมือง Ingolstadt ที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Audi และบ้านในเมือง Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยระบบทั้งหมดนี้ประกอบด้วยโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่สำหรับเก็บไฟ ส่วนซอฟต์แวร์พัฒนาโดยสตาร์ทอัพจาก Zurich ชื่อ Ampard

เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว James Damore ที่ขณะนั้นเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ของกูเกิลได้ส่งจดหมายเวียนเรื่องความหลากหลายทางเพศจนเกิดกระแสขึ้นมา ส่งผลให้เขาถูกไล่ออกจากบริษัทกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เมื่อสัปดาห์ก่อนเขาและวิศวกรชายอื่นๆ ก็ได้ฟ้องกูเกิลที่เขาโดนไล่ออก โดยให้เหตุผลว่าละเมิดสิทธิตามกฎหมาย

ล่าสุด Sundar Pichai ซีอีโอกูเกิลและ Susan Wojcicki (อ่านว่า โว-ชิส-กี้) ซีอีโอยูทูบได้ให้สัมภาษณ์กับ Recode และ MSNBC ว่าเหตุผลที่ไล่ Damore ออกเป็นเพราะต้องการทำให้ผู้หญิงในองค์กรมั่นใจว่าการทำงานที่กูเกิลนั้นให้ความรู้สึกอบอุ่น

เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วมีกระแสพูดกันว่าวงการเครื่องเกมคอนโซลจะตายลงแน่ ในปี 2012 เว็บไซต์ Wired ระบุว่าวงการเกมคอนโซลได้ตายลงแล้วเพราะถูกสมาร์ทโฟนตีตลาด รวมถึง CNN ก็เคยบอกว่ายอดขายเครื่องเกมคอนโซลดิ่งลงเหวติดกัน 4 ปี และน่าจะตายลง

แม้กระทั่ง IGN ที่เป็นเว็บไซต์ด้านเกมโดยเฉพาะก็เคยออกตัวแรงไว้ตั้งแต่ก่อน PS4 จะเปิดตัวว่า "เครื่องเกมที่ให้กราฟิกสวย แต่ขายที่ราคา 400 ดอลลาร์น่ะเหรอ? ไม่เวิร์คหรอก"

กลับมาดูปัจจุบัน นักวิเคราะห์ของ NPD ประกาศว่าตลาดวงการเกมทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาเติบโตขึ้น 11% ในปี 2017 ไปอยู่ที่ 3.3 พันล้านดอลลาร์ โดยเครื่องเกมคอนโซลเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก มียอดขายสูงขึ้นถึง 27%

เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว Tesla ได้จัดงานเปิดตัวรถบรรทุก Tesla Semi และในช่วงท้ายของงานก็มีเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัว Tesla Roadster รุ่นที่สอง เคลมว่าเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (96.5 กม./ชม.) ได้ภายใน 1.9 วินาที จึงชนะซูเปอร์คาร์ทั้งหลายได้สบาย และเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่สำหรับวงการนี้ด้วย

ล่าสุด Sergio Marchionne ซีอีโอของ Ferrari ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg ที่งาน Detroit Auto Show ว่า Ferrari กำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอยู่ พร้อมเสริมว่า "ถ้ามันจะมีซูเปอร์คาร์พลังไฟฟ้า ก็ต้อง Ferrari นี่แหละที่จะเป็นคนแรกที่ทำ ผู้คนต่างทึ่งกับสิ่งที่ Tesla ทำกับวงการซูเปอร์คาร์ ผมจะไม่พยายามกลบเกลื่อนสิ่งที่ Elon Musk ทำหรอก แต่ผมคิดว่ามันก็เป็นสิ่งที่พวกเราทำได้เช่นกัน"

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Xiaomi ได้ประกาศหยุดปล่อยอัพเดต Android 8.0 Oreo ให้ Mi A1 เนื่องจากผู้ใช้หลายรายแจ้งว่าพบปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพ โดย Xiaomi แจ้งว่าจะกลับมาให้อัพเดตอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม การหยุดอัพเดตชั่วคราวนี้กินเวลาน้อยกว่าที่ประกาศไว้ เพราะวันนี้ Xiaomi ได้กลับมาปล่อยอัพเดตดังกล่าวอีกครั้งแล้ว พร้อมระบุว่าแก้ปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็ว, เครื่องรีบูตแบบสุ่ม และปัญหาอื่นๆ แล้ว รวมถึงการรูดนิ้วลงผ่านเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ใช้ได้แล้วเช่นกัน อีกทั้งยังรวมแพตช์ความปลอดภัยของเดือนมกราคมเข้ามาด้วยเลย

หลังปล่อยอัพเดต Android 8.0 Oreo ให้ Xiaomi Mi A1 มาเกือบครึ่งเดือน มีผู้ใช้หลายรายระบุว่าพบปัญหาด้านประสิทธิภาพเช่นแอพกล้อง, แอพโทรศัพท์ และหน้า Recent Apps ไม่ตอบสนอง รวมถึงมีปัญหาเกี่ยวกับเซ็นเซอร์วัดแสงสำหรับปรับแสงหน้าจออีกด้วย

ในขณะที่ผู้ใช้อีกส่วนหนึ่งก็รายงานว่าใช้นิ้วรูดบริเวณเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อดึงการแจ้งเตือนลงมาไม่ได้ และแบตเตอรี่หมดเร็วมากเมื่อเปิดบลูทูธค้างไว้

จากปัญหาดังกล่าว ทำให้ Xiaomi ตัดสินใจหยุดการปล่อยอัพเดต Oreo นี้ชั่วคราว และจะกลับมาให้อัพเดตกันอีกครั้งภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงไม่พบปัญหาข้างต้นระหว่างการทดสอบเวอร์ชันเบต้าในวงจำกัด

ที่มา - GSMArena

หลังติดปัญหาคอขวดในสายการผลิตมานาน ขณะนี้ Tesla เริ่มผลิต Tesla Model 3 ได้มากขึ้นเรื่อยๆ และลูกค้าที่สั่งจองไว้ตั้งแต่เปิดตัวก็เริ่มได้รับรถกันแล้ว แต่เหตุการณ์แย่ๆ ก็ยังไม่จบ เนื่องจากลูกค้าจำนวนหนึ่งพบว่าพวกเขาได้วัสดุตกแต่งภายในเป็นผ้าธรรมดา แทนที่จะเป็น Alcantara ตามที่เข้าใจ

ลูกค้ากลุ่มที่มีปัญหาดังกล่าวจ่ายเงิน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อเพิ่มออปชัน Premium Upgrades เช่นเบาะนั่งปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง, เครื่องเสียงรอบทิศทาง, หลังคากระจก และวัสดุตกแต่งภายในแบบ "พรีเมียม" ซึ่ง Tesla ไม่ได้ระบุชัดบนเว็บไซต์ว่าเป็น Alcantara แต่รูปที่ใช้โฆษณากลับเห็นชัดเจนว่าเป็น Alcantara รวมถึงรีวิวที่ออกมาบนอินเทอร์เน็ตและรายงานจากผู้ที่ได้รับรถล็อตแรกๆ ก็ระบุว่าเป็น Alcantara