รายงานส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนประจำไตรมาส 1/2017 จากสองสำนักใหญ่คือทั้ง Gartner และ IDC ระบุตรงกันว่า ตอนนี้ส่วนแบ่งตลาดของ Windows Phone ลดลงเหลือเพียง 0.1% แล้ว

ข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องเกินคาดหนัก เพราะ Windows Phone 8.1 เพิ่งหมดระยะซัพพอร์ต และไมโครซอฟท์ก็ไม่ได้วางขายสมาร์ทโฟนฟาก Windows มานานพอสมควรแล้ว

สำหรับส่วนแบ่งตลาดของระบบปฏิบัติการอื่นๆ Android อยู่ที่ 86% และ iOS ประมาณ 14%

RED ผู้ผลิตกล้องดิจิทัลสำหรับโรงภาพยนตร์ได้เปิดตัว Hydrogen One สมาร์ทโฟน Android ในแบรนด์ของตัวเอง โดยชูจุดขายคือสามารถดูคอนเทนต์แบบโฮโลกราฟิกได้โดยไม่ต้องใส่แว่น

สำหรับมือถือของ RED นี้ จุดเด่นจะอยู่ที่หน้าจอโฮโลกราฟิกขนาด 5.7 นิ้ว สามารถแสดงคอนเทนต์ทั้งในแบบสองมิติ, สามมิติแบบสเตอริโอ, AR, VR และ mixed reality และโฮโลกราฟิก 4-view (h4v) คอนเทนต์พิเศษเฉพาะของ RED โดยไม่ต้องใช้แว่น ซึ่งจอนี้เป็นนาโนเทคโนโลยีของ RED เอง

ด้านเสียงนั้น RED ใช้อัลกอริทึม H3O ฝังไว้ในระบบปฏิบัติการเพื่อแปลงเสียงจากสเตอริโอเป็นเสียงแบบหลายมิติ (RED บอกว่าเหมือนกับฟังเพลงแบบ 5.1 บนหูฟัง) ซึ่งจะเหมาะมากกับการใช้ฟังเสียงจากไฟล์ h4v ของ RED

IC Insights บริษัทด้านวิจัยตลาดอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เผยตัวเลขตลาดสมาร์ทโฟนในปี 2016 ที่ผ่านมาว่ามียอดส่งมอบทั้งหมด 1,490 ล้านเครื่องทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอยู่ 4% ที่ส่งมอบไป 1,430 ล้านเครื่อง

และจากอันดับที่ IC Insights จัดมาทั้งหมด 14 อันดับ ปรากฎว่ามีแบรนด์จากจีนติดอยู่ในลิสต์ไปถึง 10 บริษัทได้แก่ Huawei, OPPO, Vivo, ZTE, Lenovo, Xiaomi, TCL, Gionee, Meizu และ LeEco ตามลำดับ ส่วนที่เหลือเป็นแอปเปิล, ซัมซุง, LG และ ASUS

เผยโฉมเต็มตัวแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนใหม่จากบริษัท Essential ของ Andy Rubin ผู้ให้กำเนิดแอนดรอยด์ ตัวโทรศัพท์มีขนาดหน้าจอกว้าง และที่สำคัญไม่มีโลโก้ใดๆ บนตัวเครื่องเลย

ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอใหญ่เกือบชนขอบ กล้องหน้าฝังอยู่ระหว่างกลางพื้นที่หน้าจอช่วงบน ขอบล่างมีพื้นที่เล็กน้อยแต่เป็นพื้นที่ว่างเปล่าไม่มีโลโก้ ความละเอียดหน้าจอ 2560 x 1312 QHD ชิป Qualcomm 835 แรม 4 GB ความจำ 128 GB วัสดุตัวเครื่องทำจากเซรามิกและไทเทเนียม ที่ Rubin เคยระบุว่าทนทานกว่าวัสดุที่บริษัทคู่แข่งรายอื่นใช้

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Andy Rubin เผยภาพสมาร์ทโฟนตัวใหม่ของบริษัทเขาผ่านทวิตเตอร์ ล่าสุด บริษัทใหม่ของเขาหรือ Essential Products Inc. มีบัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการแล้ว โดยทวิตข้อความเชิงว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ในวันที่ 30 พ.ค. นี้ ("...something big is coming May 30th! Stay tuned...")

เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Blognone ได้มีโอกาสร่วมงาน Snapdragon Tech Day โดย Qualcomm ผู้ผลิตชิปสมาร์ทโฟน ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ครับ

ในงาน นอกจากโชว์ตัวเลขการเติบโตด้านต่างๆ หลักใหญ่ใจความคือพูดถึงเรื่องราวของ Snapdragon 835 ซึ่งเป็นชิป SoC (System on Chip) ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงหลายรุ่นที่หลายเจ้าเปิดตัวไปก่อนหน้า ทั้ง Samsung Galaxy S8 (รุ่นที่จำหน่ายในบางประเทศ), Xiaomi Mi6, Sharp Aquos R ซึ่ง Qualcomm เองก็เปิดตัวชิปตัวนี้พร้อมเดโมฟังก์ชั่นพื้นฐานที่แต่ละแบรนด์นำไปพัฒนาเป็นคุณสมบัติของสมาร์ทโฟนตนเอง

งานเขียนนี้จะขอแกะ deck เล่าถึงเรื่องราวที่น่าสนใจของ Snapdragon 835 แทรกไปกับบรรยากาศการเดโมของจริงที่ได้สัมผัสมานะครับ

เชื่อว่าสาวกเซเลอร์มูนทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กต้องอยากได้มาจับจอง Meitu ผู้สร้างแอพพลิเคชั่นแต่งรูปชื่อดังในจีน ทำสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษ Sailor Moon ออกมาขาย และยังมาพร้อมไม้เซลฟี่ที่ออกแบบมาเป็นคฑาร่ายมนตร์ด้วย

Sailor Moon Phone เป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์ M8 มาพร้อมกล้องหน้า 12-megapixel กล้องหลัง 21-megapixel หน้าจอ 5.2 นิ้ว แรม 4GB ชิป Helio X20 แบตเตอรี่ 3,000 มิลลิแอมป์ ราคา 430 ดอลลาร์ มีขายแค่ 1 หมื่นเครื่อง และยังมีขายแค่ในประเทศจีนเท่านั้นในตอนนี้

Qualcomm ผู้ผลิต เปิดตัวชิป Snapdragon 660 และ 630 ต่อยอดจาก 653 และ 626 ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนปัจจุบัน โดยแรงกว่าเดิมร้อยละ 20 และ 10 โดยในไลน์วางชิปกลุ่มนี้เป็น High Tier รองจากชิป 835 ที่เป็น Premium Tier

ของใหม่ในชิปนี้คือมากับโมเด็ม X12 รับสปีด LTE 600Mbps, Bluetooth 5.0, เสาสัญญาณแบบ 2x2 MIMO ประกบกับกราฟิก Adreno 508 ดีกว่าเดิม 30% รองรับแรมได้ 8GB พร้อมลงใน Samsung Galaxy A9 Pro, Oppo R9s Plus, Xiaomi Mi Max และ Asus Zenfone 3 Ultra เป็นต้น

วันนี้ทีมงาน Blognone มาร่วมงาน Snapdragon Tech Day ที่สิงคโปร์ จะสรุปงานอีกทีภายหลังงานจบครับ

ที่มา - Qualcomm

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตรอนโตและโรงพยาบาลเด็กในโตรอนโตเปิดเผยผลวิจัยว่า เด็กเล็กวัยกำลังหัดเดินหากใช้อุปกรณ์มือถือ-แท็บเล็ตมากเกินไป อาจส่งผลพัฒนาการการเดินและพูดช้าลง

การวิจัยเก็บข้อมูลจากเด็ก 900 คนที่ใช้มือถือและแท็บเล็ต และใช้เครื่องมือตรวจวัดพัฒนาการเพื่อประเมินการพัฒนาการพูดของเด็ก พบว่า ทุกๆ 30 นาทีที่เด็กใช้ไปกับการเลื่อนหน้าจอ เท่ากับความเสี่ยงในการพูดล่าช้าเพิ่มขึ้น 49%

แพทย์ระบุว่า เด็กวัยนี้ต้องพัฒนาสมองตัวเองด้วยการเดินและการสื่อสารกับสิ่งรอบข้าง หากปล่อยให้เด็กอยู่กับหน้าจอ แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อพัฒนาการทางการสื่อสารกับผู้อื่น

บิล เกตส์ ให้สัมภาษณ์กับ Mirror ของอังกฤษ ในหลายประเด็น และหัวข้อหนึ่งก็คือเขาเผยว่าอนุญาตให้ลูกๆ ใช้งานสมาร์ทโฟนได้เมื่ออายุ 14 ปี

เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เมลินดา เกตส์ ภรรยาของบิล เกตส์ ให้สัมภาษณ์ว่าลูกๆ ทั้ง 3 คน ถูกห้ามใช้ iPhone และ iPad แต่ไม่ได้พูดถึงการใช้งานเทคโนโลยีอื่น และขณะนั้นทุกคนก็ยังอายุไม่ถึง 14 ปี ด้วย

บิล เกตส์ บอกว่าในครอบครัวเขามีกติกาอื่นอีก เช่น ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะทานข้าวร่วมกัน เขายอมรับว่าสมาร์ทโฟนมีประโยชน์ ทั้งช่วยในการค้นหาข้อมูลทำการบ้าน เป็นช่องทางการติดต่อกับเพื่อนๆ แต่ต้องจำกัดการใช้งานในแต่ละวัน ซึ่งเกตส์บอกว่าจะทำให้ลูกๆ มีเวลานอนพักผ่อนที่เพียงพอ

ปัจจุบันลูกทั้ง 3 คนของบิล เกตส์ มีอายุเกิน 14 ปี ทุกคนแล้ว อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้บอกว่าสมาร์ทโฟนที่ลูกๆ ใช้เป็นรุ่นใดครับ

ที่มา: BGR

สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด Mi6 ของ Xiaomi เปิดตัวแล้ว จุดเด่นคือชิปเซต Snapdragon 835 ขนาด 10nm ที่ถือว่ามีขนาดเล็กที่สุดในโลกตอนนี้

ผลการสำรวจจาก Zendrive เผยว่า คนสหรัฐฯส่วนใหญ่ยังคงใช้มือเล่นโทรศัพท์ระหว่างขับรถ แม้จะรู้ว่ามันผิดกฎหมาย และอาจก่อให้เกิดอันตรายบนท้องถนนก็ตาม

Zendrive ทำการสำรวจคนขับรถทั่วไปถึงสามล้านคนในรอบสามเดือนที่ผ่านมา คำนวณเป็นทริปขับรถได้ 570 ล้านทริป ผลวิจัยพบว่า 88 ใน 100 ทริป คนขับใช้สมาร์ทโฟนระหว่างขับรถ คิดเป็น 3.5 นาทีต่อชั่วโมงที่ใช้ไปกับการเล่นโทรศัพท์

ในขณะที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสายแอนดรอยด์กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในแง่ของสเปค ตั้งแต่หน้าจอ กล้อง ชิปเซ็ตและแรม ที่ปัจจุบันเริ่มเห็นสมาร์ทโฟนที่มีแรมสูงถึง 6GB ออกมาแล้วและคาดว่าแรม 8GB น่าจะได้เห็นกันอย่างเร็วก็สิ้นปีไม่ก็ปีหน้า

แต่ทว่า Lao Shi ผู้บริหารของ Huawei กลับมองว่า ความจุของแรมในสมาร์ทโฟนที่ 4GB ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้ มากกว่านี้ไป จะเสียของและไม่จำเป็นเปล่าๆ โดยเฉพาะเมื่อผลการทดสอบภายในของ Huawei ที่ชี้ว่าชิปเซ็ต Kirin 960 ทำงานร่วมกับแรมความจุ 4GB ได้ลื่นไหลกว่าความจุ 6GB เสียอีก ซึ่งถึงแม้จะไม่มีรายละเอียดของผลการทดสอบนี้ออกมา ผู้บริหารระบุว่า ปัจจัยสำคัญคือการปรับแต่ง OS ไม่ใช่การเพิ่มแรม โดยยกตัวอย่างกรณีของ iOS

ระดับ Meitu ผู้ทำแอพถ่ายรูปที่สาวๆ ทั่วโลกติดใจจะลงมาทำสมาร์ทโฟนเองทั้งที ฟีเจอร์ถ่ายภาพต้องไม่ธรรมดาแน่นอน โทรศัพท์รุ่นใหม่ T8 ของ Meitu มี AI ช่วยเรื่องถ่ายเซลฟี่ ให้ฟันขาวขึ้น ลดถุงใต้ตา ผิวสว่างสดใส และฟิลเตอร์ที่สวยงาม

ฟีเจอร์ถ่ายรูปด้วยปัญญาประดิษฐ์ของ T8 มีชื่อว่า Magical AI Beautification การทำงานเหมือนกับฟีเจอร์ในแอพ Meitu เลย แม้กล้องหน้าถ่ายสวยจะไม่ได้มีแค่ Meitu เจ้าเดียว เพราะในจีนมีทั้งคู่แข่งอย่าง Oppo และ Lenovo ที่ทำกล้องหน้าคมชัด แต่ Meitu บอกว่า T8 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ให้คุณภาพภาพถ่ายระดับ DSLR

สเปกอื่นของ T8 คือ วัสดุเมทัลลิค กล้องหน้า 21 เมกะพิกเซล ชิปประมวลผล 2.3GHz หน้าจอ AMOLED 5.2 นิ้ว แรม 4GB ความจำ 128GB

HMD Global เป็นบริษัทสัญชาติฟินแลนด์ที่ก่อตั้งในช่วงกลางปี 2016 โดยเซ็นสัญญากับ Nokia Technologies บริษัทลูกของ Nokia เพื่อใช้แบรนด์ Nokia สำหรับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตเพียงผู้เดียวไปอีก 10 ปี และได้สิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโทรศัพท์มาอีกจำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้ HMD ยังซื้อเครื่องหมายการค้า Nokia สำหรับฟีเจอร์โฟนมาจากไมโครซอฟท์ (ไมโครซอฟท์ได้สิทธิใช้ไปถึงปี 2024) ส่งผลให้แบรนด์ Nokia ในฐานะโทรศัพท์มือถือที่เคยแยกจากกันไปช่วง Nokia ขายธุรกิจโทรศัพท์ให้ไมโครซอฟท์ กลับมารวมกันอีกครั้งใต้ HMD Global และเพิ่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรก Nokia 6

หลายคนอาจสงสัยว่า HMD Global เป็นใครมาจากไหน เป็นร่างทรงของบริษัทในจีนเข้ามาสวมแบรนด์ Nokia หรือเปล่า บทความนี้มีคำตอบครับ

Gionee ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนเปิดตัว M2017 สมาร์ทโฟนสุดหรูหราด้วยวัสดุจาโลหะและหนัง พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของตัวเครื่องและชิปที่ควบคุมกระบวนการเข้ารหัสของตัวเครื่องโดยเฉพาะ

M2017 มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด QHD ชิปเซ็ต Snapdragon 653 แรม 6GB กล้องหลังคู่ (13 ล้านและ 12 ล้านพิกเซล) กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล แบตเตอรี 7,000mAh ความจุ 128GB และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ รันแอนดรอยด์ 6.0 ครอบทับด้วย Amigo 3.5 ที่ Gionee ปรับแต่งเอง ความหนาของตัวเครื่องอยู่ที่ 10.78 มิลลิเมตร

เว็บไซต์ iFixit จัดอันดับ "สมาร์ทโฟนซ่อมง่าย" ในรอบปี 2016 แชมป์ตกเป็นของ LG G5 ที่ได้คะแนนซ่อมง่ายไป 8/10 ด้วยเหตุผลว่าสามารถถอดแบตได้เอง และชิ้นส่วนต่างๆ แยกโมดูลกันอย่างชัดเจน

อันดับที่เหลือได้แก่

• Google Pixel และ iPhone 7 / 7 Plus ได้คะแนน 7/10 เท่ากัน
• iPhone SE ได้คะแนน 6/10
• Galaxy Note 7 ได้คะแนน 4/10
• Galaxy S7 / S7 Edge ได้คะแนน 3/10

iFixit ให้ความเห็นว่าในอดีต สมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy ของซัมซุงถือว่าซ่อมง่าย แต่ช่วงหลังถูกออกแบบให้หน้าตาสวยงาม ซึ่งต้องแลกมาด้วยการใช้กาวติด คะแนนซ่อมง่ายจึงตกลงอย่างน่าเสียดาย

ที่มา - iFixit

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีนเผยร่วมมือกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในจีนเจ้าหนึ่ง ทำสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษออกมาขายต้อนรับเทศกาลปีใหม่จีน ในราคา 19,999 RMB หรือกว่า 1 แสนบาท ขายจำนวนจำกัดเพียง 999 เครื่องเท่านั้น

ผู้จัดทำสมาร์ทโฟนโพสต์ข้อความใน Weibo ว่า กำลังทำสมาร์ทโฟนรุ่นปีใหม่ โดยมีดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวพิพิธภัณฑ์ ความขลังของพระราชวังต้องห้าม มีตัวมังกรและก้อนเมฆในแบบศิลปะจีนอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นและวอลเปเปอร์ของพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

อย่างไรก็ตามมีคนไม่เห็นด้วย เพราะการอ้างชื่อของพระราชวังต้องห้ามมาทำเป็นธุรกิจแบบนี้ดูเป็นเรื่องไม่สมควร แต่รองผู้อำนวยการบริหารของพิพิธภัณฑ์ Wang Yamin คาดหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยเป็นสะพานเชื่อมระหว่างวัฒนธรรมจีนกับเทคโนโลยีสมัยใหม่

เมื่อต้นปี Sony ประกาศตั้ง หน่วยธุรกิจใหม่ชื่อ ForwardWorks เพื่อทำเกมสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ แนวทางคือการนำเกมเก่าที่มีฐานแฟนๆ อยู่ก่อนกลับมาให้เล่นบนสมาร์ทโฟน วันนี้ ForwardWorks เผยรายละเอียดเกมที่จะออกวางขายแล้ว

เกมดังของ Sony ที่ถูกปลุกผีกลับมาในรอบนี้ได้แก่

เมื่อกลางปีนี้ Nokia ประกาศให้ไลเซนส์ทำสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแบรนด์ของตัวเองกับ HMD Global จากฟินแลนด์ด้วยกัน ล่าสุด HMD Global ประกาศแล้วว่าจะวางขายสมาร์ทโฟนแบรนด์ Nokia ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ในครึ่งแรกของปี 2017

ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ HMD บอกเพียงว่าได้สิทธิใช้แบรนด์โนเกียเป็นเวลานาน 10 ปี สินค้าจะผลิตโดย FIH (บริษัทลูกของ Foxconn) และจะใช้ช่องทางการขายมือถือฟีเจอร์โฟนของโนเกียในปัจจุบัน กระจายสินค้าไปขายทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ เว็บไซต์ Nokia.com เปิดเซคชั่น Phones ขึ้นมาใหม่แล้ว โดยระบุว่าธุรกิจนี้บริหารโดย HMD Global

IDC คาดการณ์ว่ายอดส่งมอบสมาร์ทโฟนในปีนี้จะสูงถึงกว่า 1.45 พันล้านเครื่อง เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว (YoY) 0.6% ขณะที่นับเฉพาะสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G มีถึง 1.17 พันล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 21.3% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากตลาดเกิดใหม่ (emerging market) ในแถบเอเชียแปซิฟิกเสียส่วนใหญ่

Melissa Chau ผู้อำนวยการฝ่าวิจัยของ IDC เผยว่ายอดส่งมอบสมาร์ทโฟน 4G ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดีย ที่ค่าบริการและสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G ค่อนข้างแพงนั้น เกิดจากการท้าทายของโอเปอเรเตอร์เจ้าใหม่ๆ ที่แจกซิม 4G ฟรี พร้อมทำสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G ราคาถูกของตัวเองออกมาตีตลาดมากขึ้น

Michael Guntrum ชายคนหนึ่งจาก Pensylvania ได้เล่าเรื่องไว้ใน Facebook ของเขาว่า มีครั้งหนึ่งที่เขาไปตกปลาในน้ำแข็งกับเพื่อนใน Kyle Lake เขาวาง iPhone 4 ไว้ตรงหน้าตัก ซึ่งทำให้ระหว่างที่เขาตกปลา iPhone จึงลื่นไหลร่วงลงไปในรู ในตอนนั้น Guntrum ก็ตัดใจและคิดว่า iPhone เขาคงหายไปแบบไม่มีทางกลับแล้ว

SoftBank ผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ของญี่ปุ่น ตอบรับกระแสภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ข้ามยุคข้ามสมัยอย่าง Rogue One: A Star Wars Story ด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษ Star Wars ผลิตโดย Sharp มี 2 สี ดำและขาวให้เลือกว่าคุณจะอยู่ฝั่งไหน ระหว่าง Dark Side หรือ Light Side

สเปกมือถือไม่มีอะไรแปลกใหม่ หน้าจอ 5.3 นิ้ว, หนา 7.6 มม. หนัก 155 กรัม, ความละเอียดหน้าจอ 1080p, ชิปเซ็ต Snapdragon 820, กล้อง 22.6 megapixel, แบตเตอรี่ 3,000 มิลลิแอมป์, มี TV จูนเนอร์, แรม 3GB, ความจุ 32GB มีช่องใส่ micro SD เพิ่ม

MediaTek บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวัน เปิดคอร์สเรียนออกแบบสมาร์ทโฟน รับสมัครเฉพาะคนอินเดีย เนื่องจากตลาดสมาร์ทโฟนในอินเดียกำลังเติบโต โดยคอร์สเรียนจะเริ่มอาทิตย์หน้า ที่ประเทศไต้หวัน มีผู้เข้าเรียนเป็นคนอินเดีย 49 คน ผู้อบรมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสมาร์ทโฟนชาวไต้หวันกว่า 10 คน

การร่วมมือกันระหว่างสองประเทศนี้เป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลไต้หวัน คือนโยบายไปทางใต้ (new southbound policy) เป็นความคิดริเริ่มของรัฐบาลพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าในการสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจในภูมิภาคเช่น อาเซียนและอินเดีย

ตัวแทนบริษัทแมคโดนัลด์ให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ข่าว Bussiness Insider ว่า ทางบริษัทเตรียมให้ลูกค้าสั่งอาหาร และกดจ่ายเงินได้ผ่านสมาร์ทโฟน โดยเริ่มต้นจะเปิดให้ใช้ในสหรัฐฯ และตลาดต่างประเทศบางแห่งภายในปีหน้า และจะสามารถใช้ระบบนี้ได้ 25,000 สาขา ภายในปี 2018

การปรับตัวครั้งนี้ทำไปเพื่อไล่ตามให้ทันคู่แข่งอื่นอย่าง Starbucks, Dunkin’ Donuts และ Chick-fil-A ที่ต่างก็มีระบบสั่งอาหารและจ่ายเงินผ่านแอพพลิเคชั่น สั่งซื้ออาหารเสร็จก่อนที่ตัวจะไปถึงร้าน แมคโดนัลด์เคยเปิดให้ใช้ระบบดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ในออสเตรียและไทย แต่ปรากฏว่าคนที่ใช้จริงๆ มีแค่กลุ่มคนยุโรป และครั้งนี้ทางบริษัทตั้งใจยกระดับระบบนี้ให้อยู่ในตลาดที่กว้างขึ้น