ขอเตือนก่อนนะครับว่านี่เป็นข่าวลือจากเว็บ Engadget ที่อ้างรายงานของ Eldar Murtazin ว่าไมโครซอฟท์กำลังเจรจาที่จะซื้อกิจการโทรศัพท์มือถือของโนเกีย แม้ว่า Eldar ได้บอกไว้ว่าเขาไม่มีข้อมูลอื่น ๆ นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้เขาให้ข่าวเรื่องที่โนเกียจะทิ้ง Symbian มาใช้ Windows Phone เป็นระบบปฏิบัติการหลักเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่แล้วข่าวนั้นก็เป็นจริงในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สำหรับไมโครซอฟท์ เรื่องเงินคงจะไม่เป็นปัญหา ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์เคยเสนอที่จะซื้อยาฮูด้วยราคา 44 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาด (Market Cap) ของโนเกียในเวลานี้ นอกจากนี้ CEO คนปัจจุบันก็ยังเคยเป็นพนักงานระดับสูงของไมโครซอฟท์มาก่อน การตกลงการซื้อขายจึงไม่น่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับสองบริษัทนี้
ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ตอนนี้โนเกียกำลังเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ในการผลิต Windows Phone 7 และก็มีความคิดเห็นต่างๆ นาๆ ว่า แท้จริงแล้วก็เหมือนกับโนเกียถูกซื้อโดยไมโครซอฟท์กลายๆ ไปแล้วนั่นเอง
และตอนนี้ Eldar Murtazin แหล่งข่าวที่เดิมที่เคยเป็นต้นข่าวลือเรื่องโนเกียจะหันมาใช้ระบบปฎิบัติการ Windows Phone 7 ทำให้ข่าวนี้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น เขาได้รายงานบนบล็อกของเขาว่า สัปดาห์หน้านี้โนเกียจะเข้าเจรจากับไมโครซอฟท์เพื่อขายฝ่ายโทรศัพท์ให้ไมโครซอฟท์ และดูเหมือนว่าทั้งสองบริษัทจะดูรีบร้อนให้การซื้อขายนี้จบลงภายในสิ้นปีนี้ด้วยเหตุผลบางประการอีกด้วย
วันนี้โนเกียประกาศว่าจะเริ่มรีแบรนด์บริการต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ชื่อ Ovi (อาทิ Ovi Maps) ไปอยู่ภายใต้ชื่อ Nokia ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีนี้ โดยการรีแบรนด์นี้จะไปสิ้นสุดราวสิ้นปีหน้า (ค.ศ.2012)
เป็นที่น่าสังเกตว่าปีหน้าเป็นปีที่โนเกียอ้างว่าจะเปลี่ยนผ่านจากซิมเบียนไปสู่ Windows Phone 7 อย่างสมบูรณ์ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่การรีแบรนด์ Ovi ครั้งนี้ก็เพื่อจะให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจร่วมกับไมโครซอฟท์ในอนาคต
หลังจากโนเกียถอนตัวออกจาก MeeGo ไปส่วนใหญ่ (เหลืออยู่บ้าง) ความไม่ชัดเจนที่เกิดขึ้นก็ตกอยู่กับ Qt อีกส่วนหนึ่งว่าโนเกียจะเอาอย่างไรกับเทคโนโลยีนี้อย่างไรต่อไป ล่าสุด Lars Knoll นักพัฒนาจากทีม Qt ก็ออกมาแถลงแผนการพัฒนา Qt 5 แล้ว โดยยังยืนยันว่าโนเกียจะให้การสนับสนุน Qt ต่อไป และ Qt 5 Beta จะมาภายในปีนี้ และรุ่นจริงจะออกในปี 2012 โดยความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้แก่
ความคืบหน้าล่าสุดของกรณีเครื่องหมายการค้า "App Store" ของแอปเปิล
ไมโครซอฟท์และผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ 3 รายคือ HTC, Nokia, Sony Ericsson ร่วมกันยื่นคัดค้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "App Store" ของแอปเปิลในทวีปยุโรป โดยให้เหตุผลว่าคำนี้ขาดความเฉพาะ (distinctiveness) จึงไม่ควรอนุมัติสิทธิบัตรนี้แก่แอปเปิล
ที่มา - GeekWire
บริษัทวิจัย Pyramid Research พยากรณ์ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนโลกไปจนถึงปี 2015 โดยระบุว่า Windows Phone จะแซง Android ขึ้นเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งในช่วงต้นปี 2013
เหตุผลสนับสนุนของ Pyramid Research คือการจับมือกันระหว่าง 2 ยักษ์ โนเกียและไมโครซอฟท์ จะส่งผลสะเทือนวงการอย่างมาก และจะเริ่มสำแดงเดชอย่างเต็มที่ในช่วงปลายปี 2013 โดยโนเกียจะช่วยแก้ปัญหาของ Windows Phone เรื่องราคาของฮาร์ดแวร์ให้ต่ำลงในระดับที่น่าดึงดูด
นอกจากนี้ ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นๆ อย่าง Samsung, LG, Sony Ericsson ก็ยังอยากมีส่วนร่วมกับ Windows Phone อยู่ในอนาคต และอัตราการเติบโตของ Android เองจะช้าลงกว่าช่วงปีสองปีนี้
หลังจากที่ซีอีโอ Stephen Elop เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าจะต้อง"ลดจำนวนพนักงานจำนวนมาก" วันนี้โนเกียประกาศแผนการลดจำนวนพนักงานถึงสี่พันคน โดยจะทำการปลดพนักงานออกเป็นช่วงๆจนครบสี่พันคนภายในสิ้นปีหน้า โดยที่สำนักงานที่จะมีคนออกมากที่สุดคือที่ฟินแลนด์ เดนมาร์ก และสหราชอาณาจักร
นอกจากนั้นโนเกียจะย้ายกิจการทั้งหมดที่เกี่ยวกับซิมเบี้ยน รวมถึงพนักงานอีกสามพันคน ไปอยู่กับบริษัทแอคเซนเจอร์
รวมแล้วโนเกียจะเสียพนักงานไปถึงเจ็ดพันคน จากจำนวนทั้งหมดทั่วโลกหนึ่งแสนสามหมื่นคน คิดเป็นประมาณร้อยละห้าของพนักงานทั้งหมด
วันนี้โนเกียได้ตัดสินใจแล้วว่าจะย้ายทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา Symbian ให้กับบริษัทที่ปรึกษาชื่อดัง Accenture แทน ที่น่าดีใจด้วยก็คือพนักงานโนเกียที่เกี่ยวข้องกว่า 3,000 คน ที่ไม่ต้องตกงาน แต่ต้องทำงานให้กับเจ้านายใหม่เท่านั้น ซึ่งก็หมายความว่าโนเกียได้รักษาสัญญาที่ให้ไว้ในคราวแล้วว่าจะลดจำนวนพนักงานโดยไม่มีใครตกงานได้ โดยการเปลี่ยนแปลงจะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงสิ้นปีหน้า
อีกอย่างที่น่าสนใจก็คือในสัญญาที่โนเกียทำไว้กับ Accenture ทั้งสองบริษัทยังจะต้องร่วมกันในการสร้างซอฟต์แวร์และบริการบนแพลทฟอร์ม Windows Phone ต่อไป
ที่มา - Engadget
ข่าวนี้ถือว่าไม่ผิดคาดนักถ้าดูกันตามแผนการของโนเกียช่วงที่ผ่านมา โดยโนเกียประกาศวันนี้ว่าบริษัทจะปลดพนักงาน 4,000 อัตรา และโอนย้ายพนักงาน 3,000 คนด้าน Symbian ไปอยู่กับ Accenture ซึ่งโนเกียจะเอาท์ซอร์สงานเกี่ยวกับ Symbian ทั้งหมดไปยัง Accenture หลังจากนี้
การปรับลดนี้จะกระทบกับพนักงานในฟินแลนด์ เดนมาร์ก และอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ โดยกระบวนการปรับลดนี้จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในสิ้นปี 2012
ที่มา: Reuters
หน่วยงานที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงนักในกรณีข้อตกลงโนเกีย-ไมโครซอฟท์คือบริษัทแผนที่ NAVTEQ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของโนเกีย ถึงแม้ว่างานของ NAVTEQ จะมีส่วนทับซ้อนกับ Bing Maps ก็ตาม
ล่าสุดมีเอกสารภายในของโนเกียหลุดออกมาถึงเว็บไซต์ Phone Scoop ระบุว่าโนเกียกำลังจัดโครงสร้างองค์กรของ NAVTEQ ใหม่ โดยโนเกียจะนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ location ทั้งหมด (รวมถึง NAVTEQ) มาสร้างเป็นหน่วยธุรกิจ (business unit) ใหม่เพียงหน่วยเดียว
หน่วยธุรกิจนี้มีเป้าหมาย 3 ประการ
ภายหลังจากโนเกียประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด เลยทำให้ตอนนี้แอปเปิลกลายเป็นบริษัทจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในแง่รายได้แซงหน้าโนเกียไปแล้ว
โนเกียแถลงผลประกอบการไตรมาสแรกประจำปี 2011 ซึ่งคาดการณ์กันว่าบริษัทจะมีผลประกอบการแย่ตลอดปีนี้ภายหลังประกาศยุทธศาสตร์ Windows Phone 7 ร่วมกับไมโครซอฟท์ ที่น่าจะมีผลต่อยอดขายสินค้าปัจจุบัน รายละเอียดเป็นดังนี้ครับ
หลังจากได้เปิดแถลงความสัมพันธ์ที่สร้างความฮือฮาให้คนทั้งโลกมานานพอสมควรแล้ว ก็ถึงเวลาแล้วที่ Nokia และ Microsoft จะจับมือกันมาลงนามเซ็นสัญญาข้อตกลงระหว่างสองบริษัท
สำหรับการลงนามครั้งนี้ทางลูกทีมของ Microkia ได้กล่าวว่าพวกเขาได้ทำงานการอย่างหนักในพัฒนาอุปกรณ์ Nokia Windows Phone และจะสามารถออกสู่ตลาดได้แน่นอนในปี 2012 แต่พวกเขาก็ยังหวังว่าจะสามารถออกสู่ตลาดได้ทันในปี 2011 แม้ว่ามันจะเป็นไปได้ยากก็ตาม
ทางด้านทีมพัฒนาของ Nokia ได้เริ่มพัฒนาบริการและแอพพลิเคชั่นหลักๆ สำหรับ Windows Phone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอาศัย Windows Marketplace ในการทำตลาด นอกจากนั้นแล้วแอพพลิเคชั่นที่จะถูกพัฒนาขึ้นนั้นสามารถนำไปใช้ได้ทั้งบน Windows Phone, Symbian และ Series 40 อีกด้วย
เมื่อปีที่แล้วเรามีมหากาพย์ระหว่างรัฐบาลอินเดียกับ RIM เรื่องการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่าย BlackBerry (รายอื่นที่โดนด้วยคือ Skype และ Gmail แต่ไม่เด่นเท่า RIM) ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ข้อยุติ
ล่าสุดกรมโทรคมนาคม (Department of Telecommunications) ของอินเดียกำลังขยายผลจาก BlackBerry ไปยังระบบ push mail ของโนเกียด้วย โดยสั่งให้ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมหยุดให้บริการ Nokia Push Mail จนกว่าโนเกียจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลเข้าถึงทราฟฟิกได้
Indoor Navigation จะเป็นระบบนำทางสำหรับที่ใช้ในอาคาร ระบบนี้ใช้ตัวส่งสัญญาณที่จะทำหน้าที่เหมือนกับดาวเทียม โดยจะนำทางไปยังจุดต่างๆ ภายในอาคารที่กว้างขวางเช่น สนามบิน ระบบนี้จะให้ความแม่นยำสูงคาดเคลื่อนไม่เกิน 30 เซนติเมตร
อย่างไรก็ตามทาง Nokia เองก็ไม่ได้บอกว่าระบบนี้จะสามารถใช้งานจริงได้เมื่อได เราอาจคงต้องคอยกันอีกนานเลย
ที่มา - GSMArena
เป็นที่ทราบกันดีว่าโนเกียจะทำโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7 และตอนนี้ก็ได้มีข่าววงในออกมา
จากข่าวบอกมาว่าโทรศัพท์รุ่นใหม่ของโนเกีย W-Series จะออกมาสองรุ่นคือ "W7" ที่ไส้ในจะทำมาจาก X7 และ "W8" ก็ทำนองเดียวกันคือมาจาก N8 นั้นเอง โดยตัวต้นแบบนั้นใช้ชิปเซ็ทของ Qualcomm ตามที่ไมโครซอฟท์ได้กำหนดสเปคเอาไว้
ตัว W7 คาดว่าน่าจะเป็นโทรศัพท์ Windows Phone 7 ตัวแรกของโนเกียที่ได้ออกสู่ตลาดช่วงปลายปีนี้หรือช้าสุดต้นปีหน้า โดยจะมาพร้อมกับกล้อง 8 ล้านพิเซล พร้อม auto focus และ flash
ที่มา - Engadget
ในโอกาสเดียวกับที่เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Nokia X7 และ Nokia E6 โนเกียก็เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Symbian รุ่นใหม่ที่เรียกว่า "Anna" (หรือเดิมคือ PR2) ไปพร้อมกัน
พูดง่ายๆ ว่า Symbian "Anna" คือ Symbian^4 นั่นล่ะครับ เพียงแต่หลังจาก Symbian^3 เป็นต้นมา โนเกียเลิกนับเวอร์ชันของ Symbian และเปลี่ยนมาเป็นการอัพเดตย่อยหลายๆ ครั้งต่อปีแทน (ส่วนเหตุผลว่าทำไมใช้ชื่อ "Anna" นั้นไม่ได้ระบุไว้)
ของใหม่ของ Symbian Anna มีดังนี้
ไอคอนใหม่ เราเห็นข่าวกันมาสักระยะแล้ว (ข่าวเก่า 1, ข่าวเก่า 2)
แม้จะประกาศตัวใช้ WP7 เป็นระบบปฏิบัติการหลักไปแล้ว แต่โนเกียก็ยังไม่ทิ้ง Symbian และล่าสุดก็เปิดตัวมือถือ Symbian ใหม่อีกสองรุ่นคือ X7 และ E6 ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Symbian รุ่นใหม่ที่เรียกว่า "Anna"
Nokia X7 เคยมีภาพหลุดและคลิปหลุดออกมาก่อนหน้านี้ มันคือมือถือเพื่อความบันเทิงตัวแรกของโนเกียที่ใช้จอ 4" AMOLED ความละเอียด 640x360 พร้อม Gorilla Glass
เราเห็นข่าวแนวๆ พาชมสำนักงานของกูเกิล เฟซบุ๊ก ไมโครซอฟท์ ฯลฯ กันมาเยอะแล้ว แต่ยักษ์ใหญ่แห่งวงการมือถือจากฟินแลนด์กลับไม่มีคนพูดถึงในแง่นี้เท่าไรนัก
บล็อก Nokia Conversations เพิ่งโพสต์ภาพถ่ายของสำนักงานใหญ่ของโนเกียที่เมือง Espoo ในฟินแลนด์ สำนักงานใหญ่นี้เรียกว่า Nokia House หรือคนในกันเองเรียก "NoHo"
สำนักงานใหญ่แห่งนี้มีพนักงานกว่า 2,500 คนจาก 60 ประเทศ ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร ตัวสำนักงานอยู่ติดกับแม่น้ำ ทิวทัศน์สวยงาม
แต่หน้าหนาว แม่น้ำก็กลายเป็นน้ำแข็งดังภาพ
ในเมื่อ iOS, Android มีแอพถ่ายภาพใส่สีเติมฟิลเตอร์แนวๆ จากนั้นก็แชร์บน Social Network อย่าง Instagram หรือ PicPlz ก็ถึงคราว Symbian จะมีแอพกับเขาบ้างในชื่อ MOLOME ซึ่งเป็นผลงานของ @nuuneoi และทีมงานหัวลำโพงเช่นเคย
MOLOME (อ่านว่า โมโล่มี) มีรูปแบบการใช้งานเหมือนแอพถ่ายแชร์ภาพที่เห็นกันมาคือถ่ายภาพ เติมฟิลเตอร์ ช่วยแชร์ ได้แคร์คนที่กด like ผู้ใช้โทรศัพท์โนเกียแบบจอสัมผัส Symbian^3 และ S60v5 ไม่ต้องน้อยหน้าแล้วที่ไม่มีแอพจัดการรูปภาพแบบแนวๆ เพราะสามารถดาวน์โหลดกันฟรีๆ ได้แล้วทาง Ovi Store
ถึงแม้ว่ามูลค่าบริษัทตามราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ (market cap) จะบ่งบอกสถานะของบริษัทได้ไม่ดีนัก (เพราะหุ้นมีขึ้นมีลงอยู่ตลอดเวลา) แต่มันก็สามารถแสดงภาพรวมของอุตสาหกรรมได้ในระดับหนึ่ง
ล่าสุดบริษัทมือถือฝั่งไต้หวันที่มาแรงในช่วงหลังอย่าง HTC มีมูลค่าหุ้น 33.88 พันล้านดอลลาร์ แซงราชาแห่งมือถืออย่างโนเกีย (32.84 พันล้านดอลลาร์) เรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นาน HTC ก็เพิ่งจะแซง RIM (28.5 พันล้านดอลลาร์) ไปแล้วเช่นกัน
ปัจจัยสำคัญอันหนึ่งคือราคาหุ้นของโนเกียตกลงไปมากใน 2-3 ปีหลัง ส่วนมูลค่าหุ้นของ HTC ก็เพิ่มขึ้น 30 เท่าในรอบ 5 ปีหลังเช่นกัน
ที่มา - AllThingsD
อยู่ดีๆ โนเกียก็เริ่มแจกบัตรเชิญเข้าร่วมงานที่จะนำเสนอ "สิ่งใหม่บน Symbian สมาร์ทโฟน" ที่กรุงลอนดอนในวันที่ 12 เม.ย. เวลา 10:00 (16:00 ตามเวลาประเทศไทย)
มีความเป็นไปได้ที่โนเกียอาจเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Symbian รุ่นอัพเดตหรือไม่ก็สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ แต่หากเป็นอย่างหลังแล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยมีข่าวว่าโนเกียเตรียมจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนในช่วงเวลานี้ จึงต้องตามดูกันต่อว่าโนเกียจะโชว์อะไรในงานดังกล่าวกันแน่
จะมีใครรอซื้อโนเกียสมาร์ทโฟนอยู่บ้าง?
เส้นทางชีวิตของ Symbian ในช่วงหลังค่อนข้างโลดโผน เริ่มจากเดือนธันวาคม 2008 โนเกียไล่ซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท Symbian แล้วประกาศโอเพนซอร์สภายใต้การดูแลขององค์กร Symbian Foundation
แต่พอผลงานไม่คืบ เดือนกันยายน 2010 โนเกียก็ถอนนักพัฒนาทั้งหมดออกจาก Symbian Foundation และนำ Symbian กลับมาทำเองภายในบริษัท พอเดือนธันวาคมเว็บไซต์ Symbian.org ก็ปิดตัวลง
Purnima Kochikar รองประธานฝ่าย Forum Nokia เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงชุมชนนักพัฒนาของโนเกีย เกี่ยวกับอนาคตของ Symbian, Qt และ Series 40 ดังนี้
Symbian
โนเกียยังยืนยันคำเดิมว่าจะลงทุนใน Symbian ต่อไป แม้จะเลือก WP7 เป็นแพลตฟอร์มหลักไปแล้ว และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โนเกียได้ประเมินแผนการออกมือถือ Symbian ระหว่างปี 2011-2012 ซึ่งเป็น "ช่วงเปลี่ยนผ่าน" ข้อมูลที่เปิดเผยออกมาคือมือถือ Symbian รุ่นหน้าจะใช้หน่วยประมวลผลสูงกว่า 1GHz, มีหน่วยประมวลผลกราฟิกที่ดีขึ้น, มีการประสานงานกันระหว่างฮาร์ดแวร์กับบริการมากขึ้น
หลังจากที่ International Trade Commission หรือ ITC ได้ตัดสินว่าแอปเปิลมิได้มีความผิดในการละเมิดสิทธิบัตรของโนเกียแต่อย่างใดในคราวที่แล้ว คราวนี้โนเกียก็ได้ตัดสินที่จะยื่นคำร้องถึง ITC อีกรอบ โดยในคราวนี้ได้อ้างสิทธิบัตรของโนเกียที่ไม่ได้พูดถึงในการยื่นคำร้องคราวที่แล้วกว่าเจ็ดอย่าง ในฮาร์ดแวร์ที่แอปเปิลขายทั้งหมดตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นดนตรีพกพา คอมพิวเตอร์ และ แท็ปเล็ต
โดยสิทธิบัตรกลุ่มนี้ รวมไปถึงระบบปฏิบัติการที่สามารถใช้งานมัลติทาสกิ้งได้, การ Sync ข้อมูลผู้ใช้, โทรศัพท์และการเชื่อมต่อและใช่้งานอุปกรณ์ Bluetooth