Square บริษัทจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์พกพาของ Jack Dorsey ยื่นเอกสารขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐแล้ว

Square จะขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) โดยใช้ตัวย่อว่า "SQ" ส่วนราคาและวันขายหุ้นต้องรอประกาศอีกครั้งในอนาคต

จากเอกสารการเงินของบริษัทที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ ในครึ่งแรกของปี 2015 บริษัทมีรายได้ 560.5 ล้านดอลลาร์ หักลบต้นทุนแล้วขาดทุนอยู่ 77.5 ล้านดอลลาร์

Deezer บริการเพลงออนไลน์สัญชาติฝรั่งเศส (ที่เข้ามาทำตลาดบ้านเราได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว) เตรียมขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ปารีสช่วงปลายปีนี้

Deezer ก่อตั้งในปี 2007 ปัจจุบันมีสมาชิก 6.3 ล้านราย ให้บริการใน 180 ประเทศ ยุทธศาสตร์หลักของ Deezer คือขยายฐานสมาชิกผ่านบริการที่พ่วงกับโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือ คาดว่าบริษัทจะมีมูลค่าประมาณ 1 พันล้านยูโรหลังระดมทุนในตลาดแล้ว

ความน่าสนใจของ Deezer คือค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Warner Music, Sony Music, Universal Music มีหุ้นอยู่ในบริษัทด้วย โดยถือหุ้นรวมกันประมาณ 15%

ที่มา - Reuters

หุ้นของ Fitbit เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากยื่นเอกสารไฟลิ่งเมื่อเดือนที่แล้ว ด้วยตัวย่อ FIT ที่ราคาไอพีโอ 20 ดอลลาร์ต่อหุ้น แต่ในชั่วโมงแรกของการซื้อขายราคาหุ้นบวกขึ้นไปถึงกว่า 31 ดอลลาร์ต่อหุ้น และปิดการซื้อขายวันแรกที่ 29.68 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 48.4% ทำให้มูลค่ากิจการของ Fitbit อยู่ที่ราว 4 พันล้านดอลลาร์

ซีอีโอ James Park ให้สัมภาษณ์ว่าเขาเชื่อว่าบริษัทสามารถแข่งขันได้ในตลาดอุปกรณ์สวมใส่ แม้ตอนนี้จะมีคู่แข่งรายใหญ่ลงมาเล่นตลาดนี้กันมากขึ้น โดย Fitbit จะยังคงจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่งคือเน้นว่าเป็นอุปกรณ์ตรวจจับการออกกำลังกาย

Mark Shuttleworth ผู้ก่อตั้งบริษัท Canonical ผู้พัฒนา Ubuntu ให้สัมภาษณ์ว่าเขากำลังพิจารณาว่า Canonical ควรขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่

ที่ผ่านมา Canonical ใช้เงินลงทุนส่วนตัวของ Shuttleworth เอง และหารายได้จากการพัฒนา-ซัพพอร์ต Ubuntu ในโลกธุรกิจ บริษัทไม่เคยเปิดเผยผลประกอบการต่อสาธารณะ ตัว Shuttleworth บอกว่าแม้ตัวบริษัททั้งหมดยังไม่ทำกำไร แต่แผนก OpenStack ทำกำไรแล้ว และอนาคตของ Ubuntu ในวงการ OpenStack นั้นสดใสมาก เพราะตอนนี้ Ubuntu ครองตลาด 55% สำหรับระบบปฏิบัติการที่ใช้ทำกลุ่มเมฆ OpenStack

Shuttleworth บอกว่าไอเดียการนำ Canonical เข้าตลาดหลักทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และเขาต้องหารือกับพนักงานของบริษัทอย่างละเอียดก่อน ซึ่งก็ต้องกินเวลาอีกหลายเดือน

Fitbit ผู้ผลิตอุปกรณ์ติดตามสถานะการออกกำลังกาย เติบใหญ่ถึงขั้นเตรียมขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) แล้ว (ใช้ตัวย่อหุ้นว่า "FIT")

การยื่นเอกสารจดทะเบียนขายหุ้นทำให้ Fitbit เผยผลประกอบการทางการเงินสู่สาธารณะ เราจึงทราบว่าปี 2014 บริษัทมีรายได้ 745 ล้านดอลลาร์ และมีกำไร 132 ล้านดอลลาร์ ถือว่าเติบโตจากปี 2013 ที่มีรายได้ 271 ล้านดอลลาร์ (โตประมาณ 3 เท่าตัว) และขาดทุน 52 ล้านดอลลาร์

Fitbit ยังเผยข้อมูลว่าปีที่แล้วบริษัทขายสินค้าได้ 10.9 ล้านชิ้น ถือว่ามีส่วนแบ่งเกินครึ่งของอุปกรณ์สายรัดข้อมือฟิตเนส (fitness band) คาดว่าบริษัทจะระดมทุนจากการขายหุ้นประมาณ 100 ล้านดอลลาร์

Etsy เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนงานฝีมือ-งานแฮนด์เมด-ของเก่า เติบใหญ่และไปไกลถึงขั้นขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กแล้ว

Etsy เปิดมาตั้งแต่ปี 2005 และค่อยๆ เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเว็บไซต์มีสินค้าเกือบ 30 ล้านรายการ ผู้ขาย 1.4 ล้านราย ผู้ซื้อเกือบ 20 ล้านราย และยอดขายปีละ 1.9 พันล้านดอลลาร์

บริษัทแบ่งหุ้น 15% มาขายในตลาดหลักทรัพย์ ระดมทุนไปได้ 267 ล้านดอลลาร์ เงินทุนที่ได้จะนำมาใช้ขยายระบบลอจิสติกส์ให้ครอบคลุมประเทศต่างๆ มากขึ้น

หลังจากเคยมีข่าวว่า LINE กำลังจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ก่อนจะล้มเลิกไปเมื่อปลายปี 2014 ตอนนี้แผนการ IPO เริ่มมีเค้ามาอีกครั้ง หลังจากสำนักข่าว Nikkei ของญี่ปุ่นรายงานว่า

ทางที่มาระบุว่าแผนการ IPO เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ Takeshi Idezawa ซีอีโอคนใหม่ ตั้งเป้าไว้ โดยยังไม่มีรายละเอียดว่า LINE จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่นหรือสหรัฐฯ กันแน่

ถ้าหาก LINE เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นจริง น่าจะเป็นดีลครั้งใหญ่ในวงการไอทีฝั่งเอเชีย หลังจากมีบริษัทวิเคราะห์ออกมาประเมินมูลค่าของ LINE ว่าน่าจะใกล้เหยียบหลักหมื่นล้านเหรียญในเร็ววันนี้

GoDaddy บริษัทรับจดโดเมนและโฮสติ้งรายใหญ่ เปิดขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อวานนี้ โดยใช้ชื่อย่อ GDDY และตั้งราคาเริ่มต้นที่ 20 ดอลลาร์ ราคาปิดตลาดวันแรกที่ 26.15 ดอลลาร์ (เพิ่ม 31%) สูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทคาดไว้

ด้วยราคาหุ้นปิดตัวนี้ทำให้มูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market cap) ของ GoDaddy ขึ้นไปสูงเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์

ช่วงหลัง GoDaddy เริ่มปรับภาพลักษณ์ของตัวเองว่าไม่ใช่แค่ขายโดเมน แต่ยังมีธุรกิจด้านเว็บไซต์ อีเมล และซอฟต์แวร์สำหรับภาคธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทยังเลิกใช้วิธีการโฆษณาแบบเดิมๆ ที่ใช้สาวสวยเป็นพรีเซนเตอร์อีกด้วย

Box บริการ cloud storage ซึ่งยื่นข้อมูลเตรียมเข้าตลาดหุ้นตั้งแต่ปีก่อน ตอนนี้ขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสิ้นและเตรียมซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วยตัวย่อ BOX คืนนี้ (23 มกราคม 2015) ที่ราคาไอพีโอ 14 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้มีมูลค่ากิจการ 1,670 ล้านดอลลาร์

Box มีรายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2014 อยู่ 153.8 ล้านดอลลาร์ แต่สุทธิแล้วขาดทุนอยู่ 121.5 ล้านดอลลาร์

ปัจจุบัน Box ให้พื้นที่ฟรี 10GB แต่มีรายได้จากผู้ใช้ที่ต้องการซื้อพื้นที่เพิ่ม นอกจากนี้ยังมี Box for Business ที่เน้นจับกลุ่มลูกค้าองค์กรโดยให้พื้นที่ไม่จำกัด แต่เก็บค่าใช้บริการเป็นรายเดือน

การขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กของยักษ์อีคอมเมิร์ซจีน Alibaba ถูกจับตาอย่างมากเพราะเป็น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีนี้ และเป็นการขายหุ้น IPO ของบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเมื่อคืนนี้ตามเวลาบ้านเรา (19 ก.ย. ตามเวลาสหรัฐ) ก็ได้ฤกษ์เริ่มขายหุ้นเป็นวันแรก

Alibaba ตั้งราคาขายหุ้นที่ 68 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้บริษัทสามารถระดมทุนได้มากถึง 21.8 พันล้านดอลลาร์ (ราว 7 แสนล้านบาทในวันเดียว) และราคาหุ้นวันแรกพุ่งไปสูงถึง 93.89 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อคิดมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market cap) อยู่ที่ 228.5 พันล้านดอลลาร์ (7.3 ล้านล้านบาท) แซงหน้ามูลค่าบริษัทของ Facebook ที่ 201.6 พันล้านไปเรียบร้อย และตามหลังเพียงแค่กูเกิล แอปเปิล ไมโครซอฟท์เท่านั้น

หลังจากยื่นเอกสาร S-1 ให้กลต. ของสหรัฐฯ ไปเมื่อหลายเดือนก่อน วันนี้ GoPro เริ่มระดมทุนครั้งแรกในตลาดหุ้นอย่างเป็นทางการในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ภายใต้ตัวอักษรย่อ GPRO อย่างเป็นทางการแล้ว

GPRO ตั้งราคาหุ้น IPO ไว้ที่ 24 เหรียญ และทำราคาสูงสุดที่ 33 เหรียญทันทีที่เปิดตลาด ก่อนจะคงราคาอยู่ที่ราว 31 เหรียญในตอนนี้ ทำให้มูลค่าบริษัทโดยรวมของ GoPro มากกว่า 3 พันล้านไปเรียบร้อยแล้ว

เป็นข่าวมาสักพักแต่ตอนนี้เป็นทางการแล้ว เมื่อยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน Alibaba ได้ยื่นเอกสารเพื่อขอเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือยื่นไฟลิ่งแล้ว โดยจะทำการซื้อขายในตลาดหุ้นประเทศอเมริกา แต่ยังไม่สรุปว่าจะซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หรือ NASDAQ

บริษัทประกาศว่าต้องการระดมทุนราว 1,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นหุ้นราว 12% ของหุ้นทั้งหมด แต่เนื่องจาก Alibaba เป็นที่จับตามองจากนักลงทุนอย่างมาก นักวิเคราะห์จึงมองว่า Alibaba จะสามารถขายหุ้นในราคาที่สูงขึ้นได้มากกว่านี้ ซึ่งอาจมากถึง 15,000-20,000 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว และทำให้บริษัทมีมูลค่ากิจการราว 168,000 ล้านดอลลาร์

Weibo บริการแบบเดียวกับ Twitter ของจีน เตรียมเปิดขายหุ้น IPO ในตลาด NASDAQ ของสหรัฐอเมริกา โดยจะใช้ตัวย่อหุ้นว่า WB และจะตั้งราคาหุ้นที่ 17-19 ดอลลาร์ต่อหุ้น ระดมเงินประมาณ 380 ล้านดอลลาร์

การขายหุ้น IPO ของ Weibo จะทำให้มูลค่ากิจการทั้งหมดอยู่ที่ 4 พันล้านดอลลาร์ ปัจจุบันมีผู้ใช้เฉลี่ย 130 ล้านคนต่อเดือน มีรายได้ในปี 2013 ที่ 188 ล้านดอลลาร์

Weibo เป็นบริษัทลูกของบริษัท Sina เว็บพอร์ทัลจีนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์มาตั้งแต่ปี 2000 และหุ้นอีก 18% เป็นของ Alibaba ซึ่งก็มีแผนจะเปิดขายหุ้น IPO ในสหรัฐเช่นกัน

Box บริการเก็บข้อมูลบนกลุ่มเมฆ (cloud storage) ได้ยื่นเอกสารเพื่อขอเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือยื่นไฟลิ่งแล้ว โดยมีแผนเพิ่มเงินจากนักลงทุนอีก 250 ล้านดอลลาร์ (ส่วน Dropbox ยังคงเพิ่มทุนจากนักลงทุนนอกตลาดหุ้น)

ผลประกอบการในปีที่ผ่านมาของ Box มีความน่าสนใจหลายด้าน บริษัทมีรายได้ในปีที่ผ่านมา 124 ล้านดอลลาร์ เติบโต 111% จากปี 2012 แต่กลับขาดทุนสูงถึง 168 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายด้านการขายและการตลาดที่สูงถึง 171 ล้านดอลลาร์ (เป็นคนละส่วนกับต้นทุนโดยตรง และจะเห็นว่าสูงกว่ารายได้เสียอีก) เนื่องจาก Box เน้นกลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นหลัก จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้สูง

บริษัท King Digital Entertainment ผู้สร้างเกม Candy Crush Saga ที่มีแผนจะนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น มีรายงานล่าสุดว่าบริษัทเตรียมตั้งราคาหุ้นไอพีโอราว 21-24 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้มูลค่ากิจการ (ราคาหุ้นคูณจำนวนหุ้นทั้งหมด) สูงถึงราว 7,600 ล้านดอลลาร์

ช่วงนี้แอพแชททั้งหลายกำลังมาแรงมาก นอกจากข่าวการขายกิจการของ Viber และ WhatsApp แล้ว Wall Street Journal ยังรายงานข่าวว่า Kakao Corp. บริษัทแม่เจ้าของแอพแชทเกาหลี Kakao Talk กำลังอยู่ในช่วงเตรียมยื่นขายหุ้นต่อสาธารณะ (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้

ปัจจุบัน Kakao Corp. เปิดมาได้ 7 ปี รับเงินลงทุนจาก Tencent ของจีนและ Berjaya ของมาเลเซีย ปัจจุบันมีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียน 133 ล้านราย และคาดว่าจะเข้าตลาดหุ้นในเดือนพฤษภาคม 2015 เพื่อระดมทุนประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (มูลค่าบริษัทหลังระดมทุนแล้วน่าจะอยู่ที่ 2 พันล้านดอลลาร์)

บริษัท King Digital Entertainment หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า King ผู้สร้างเกมยอดฮิตแห่งปี Candy Crush Saga ได้ยื่นเอกสาร F-1 เพื่อขอเข้านำหุ้นบริษัทซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะตัวย่อว่า KING จากที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ และก็มีข่าวเลื่อนตามมา

บริษัทยังไม่ระบุจำนวนหุ้นไอพีโอและราคาหุ้นที่กำหนดไว้ แต่มีการนำเสนอข้อมูลบริษัทและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยมีส่วนที่น่าสนใจดังนี้

ผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพแอคชั่น GoPro ที่ทำยอดขายดีวันดีคืน ยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เพื่อเตรียมขายหุ้น IPO ต่อสาธารณะแล้ว

ตอนนี้ยังมีรายละเอียดของการขายหุ้น IPO ไม่มากเพราะต้องรอ SEC อนุมัติก่อน ส่วนข้อมูลทางการเงินของ GoPro ที่เปิดเผยต่อสาธารณะก็ยังมีไม่เยอะเช่นกัน (ต้องรอรายละเอียดในเอกสารที่ยื่นต่อ SEC ที่จะเปิดเผยในภายหลัง) แต่ทางบริษัทก็เคยออกมาคาดการณ์ว่ายอดขายในปี 2013 น่าจะทะลุหลัก 1 พันล้านดอลลาร์ไปแล้ว

GoPro เคยอยากขายหุ้น IPO ตั้งแต่ปี 2012 แต่ตัดสินใจเลื่อนออกไปก่อนเพราะระดมทุนจากทางอื่นได้

ที่มา - TechCrunch

บริษัท King ผู้สร้างเกม Candy Crush Saga ตัดสินใจเลื่อนการนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไปเป็นปีหน้า จากที่ก่อนหน้ามีข่าวว่ายื่นเอกสารแล้วเตรียมซื้อขายในปีนี้

แหล่งข่าวระบุว่าเหตุผลที่ King ตัดสินใจเช่นนี้ เพราะนักลงทุนมีความกังวลว่าที่บริษัทสร้าง Candy Crush จนดังได้นั้นอาจเป็นความโชคดีเพียงครั้งเดียว และเกมอื่นก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ คล้ายสิ่งที่เกิดกับ Zynga และเกม Farmville

ตอนนี้ King มีอีกสองเกมที่บริษัทประเมินว่าจะประสบความสำเร็จไม่แพ้ Candy Crush เมื่อเทียบระยะเวลาเดียวกันคือ Pet Rescue และ Farm Heroes

เมื่อวานนี้ Twitter เริ่มเข้าขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ โดยตั้งราคาเริ่มต้นที่หุ้นละ 26 ดอลลาร์ การขายหุ้นวันแรกเป็นไปด้วยดี ราคาตอนปิดตลาดอยู่ที่หุ้นละ 45.10 ดอลลาร์ หรือสูงกว่าราคาเริ่มต้นถึง 73%

ถ้าเอาราคา 45.10 ดอลลาร์มาคูณกับหุ้นทั้งหมดของบริษัท จะได้ว่า Twitter มีมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้นที่ 31.34 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9.8 แสนล้านบาท

กระบวนการขายหุ้นของ Twitter ถือว่าประสบความสำเร็จ ซึ่งกลับกันกับการขายหุ้นของ Facebook เมื่อปีที่แล้ว ที่เต็มไปด้วยปัญหาและคดีฟ้องร้องในภายหลัง อย่างไรก็ตาม Twitter ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองในระยะยาวว่าเป็นบริษัทที่ทำกำไรคืนให้ผู้ถือหุ้นได้ ซึ่งยังเป็นจุดอ่อนของ Twitter อยู่ในปัจจุบัน

Twitter จะเริ่มขายหุ้น IPO ในวันนี้ (7 พ.ย. ตามเวลาสหรัฐ) โดยบริษัทประกาศแล้วว่าจะขายหุ้นออกมาทั้งหมด 70 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 26 ดอลลาร์ ระดมเงินทั้งหมด 1.8 พันล้านดอลลาร์

ถ้านำราคาหุ้นนี้ไปคูณกลับกับจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท จะได้มูลค่าของกิจการตามราคาหุ้นที่ประมาณ 14 พันล้านดอลลาร์

หุ้นของ Twitter จะขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) โดยใช้สัญลักษณ์หุ้นว่า TWTR ครับ

ที่มา - @twitter, Guardian

Twitter ได้รายงานข้อมูลปรับปรุงของไตรมาสที่ 3 ในแบบฟอร์ม S-1 สำหรับขายหุ้นไอพีโอ ซึ่งเป็นผลประกอบการล่าสุดมีรายละเอียดดังนี้ครับ

• รายได้ในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 168.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 1 เท่าตัวจากช่วงเดียวกันในปีก่อน
• ขาดทุนสุทธิมากขึ้นจาก 21.6 ล้านดอลลาร์ เป็น 64.6 ล้านดอลลาร์
• ผู้ใช้งานต่อเดือนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ที่ 215 ล้านคนเป็น 230 ล้านคน

ที่มา: Bloomberg

เมื่อเดือนที่แล้ว ทวิตเตอร์ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ว่าได้ยื่นแบบฟอร์ม S-1 เพื่อเตรียมขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ วันนี้เอกสาร S-1 เปิดให้คนทั่วไปอ่านได้แล้ว ข้อมูลที่สำคัญในเอกสารมีดังนี้

จากข่าวก่อนหน้านี้ King.com ผู้ผลิตเกม Candy Crush Saga กำลังพิจารณานำบริษัทเข้าตลาดหุ้น วันนี้ข่าวอย่างเป็นทางการมาแล้วครับ

King ซึ่งเป็นบริษัทจากฝั่งอังกฤษ ยื่นเอกสารเพื่อขายหุ้นแก่บุคคลทั่วไป (IPO) ในตลาดหุ้น NASDAQ ของสหรัฐอย่างเงียบๆ คาดว่ามูลค่าของบริษัทหลังขายหุ้นแล้วจะอยู่ที่ 5 พันล้านดอลลาร์ (มูลค่าบริษัทของ Zynga ตามราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ราว 2.9 พันล้านดอลลาร์)

บริษัท King เปิดมาตั้งแต่ปี 2003 และเริ่มมีกำไรในปี 2005 แต่ที่ผ่านมาเราไม่มีข้อมูลเชิงสถิติและการเงินของ King มากนักเพราะเป็นบริษัทนอกตลาด ข้อมูลเท่าที่มีคือปีนี้บริษัทมีรายได้แล้ว 300 ล้านปอนด์ และมีผู้เล่นเฉลี่ย 30,000 ล้านครั้งต่อเดือน

ทวิตเตอร์ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ว่าได้ยื่นแบบฟอร์ม S-1 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เรียบร้อยแล้ว เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดขายหุ้นใหม่สู่สาธารณชน (IPO)

ทั้งนี้การยื่นเอกสาร S-1 โดยปกติจะต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินด้วย แต่เนื่องจากกฎหมายที่เพิ่งผ่านรัฐสภาสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว ทำให้บริษัทที่มีรายได้น้อยกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินต่อสาธารณะพร้อมการยื่นเอกสาร

บลูมเบิร์ก[รายงานเพิ่มเติม](https://twitter.com/BloombergNews/status/378267293824073728)ว่า Goldman Sachs จะเป็นวาณิชธนกิจที่ดูแลการนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้