อาจมีหลายครั้งที่เราต้องการติดต่อหน่วยฉุกเฉิน (เช่น 911 ในสหรัฐอเมริกา) แต่อยู่ในสถานการณ์ที่สื่อสารด้วยเสียงไม่ได้ เช่น มีคนร้ายอยู่ในบริเวณที่อาจได้ยิน บาดเจ็บหรือมีปัญหาเรื่องการพูดอยู่ก่อนแล้ว ข้อจำกัดเหล่านี้อาจทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากได้
ล่าสุดกูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์ให้แอพโทรศัพท์ของ Google Pixel ให้เราสามารถกดปุ่มเดียว (เช่น Medical, Police, Fire) ในแอพโทรศัพท์ แล้วกูเกิลจะสร้างเสียงสนทนาให้เราอัตโนมัติ ฝั่งโอเปอเรเตอร์หรือระบบอัตโนมัติของหน่วยงานฉุกเฉิน จะได้ยินเสียงพูดว่าผู้ใช้โทรศัพท์เครื่องนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องการความช่วยเหลือด้านใด พร้อมที่อยู่ของเรา (เป็นข้อความ) และพิกัด GPS ของเราในขณะนั้น
ช่วงวันสองวันนี้มีการปล่อยภาพเรนเดอร์ของ Pixel 4 ที่ต่างออกไปจากข่าวลือก่อนหน้านี้ คือมีโมดูลกล้องขนาดใหญ่อยู่บริเวณมุม สร้างความฮือฮาว่าดันไปเหมือนรูปเรนเดอร์ของ iPhone รุ่นถัดไป
ล่าสุดบัญชีทวิตเตอร์ Made by Google ที่ดูแลด้านฮาร์ดแวร์ของกูเกิลได้ปล่อยภาพเรนเดอร์ของ Pixel 4 ออกมาเอง พร้อมคำบรรยายว่า "ดูเหมือนจะมีกระแสความสนใจ นี่ไงล่ะ! คอยดูแล้วกันว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง"
ในงาน Google I/O เมื่อคืน นอกจากจะเปิดตัวสมาร์ทโฟน Google Pixel 3a และ 3a XL แล้ว กูเกิลยังประกาศเพิ่มโหมดถ่าย time lapse ให้ Pixel ทุกรุ่นด้วย
โหมดดังกล่าวจะซ่อนอยู่ในเมนู "More" บนแอพ Google Camera โดยสามารถเลือกความเร็วได้ตั้งแต่ 5x, 10x, 30x ไปจนถึง 120x และแอพ Google Photos จะรองรับการแสดงผล time lapse ด้วย
กูเกิลระบุว่าจะอัพเดตเพิ่มโหมด time lapse ให้ Pixel ทุกรุ่นเร็วๆ นี้ ส่วน Pixel 3a และ 3a XL จะมีโหมดนี้มาตั้งแต่แกะกล่องเลย
ที่มา - Engadget
ฟีเจอร์ Playground หรือโหมด AR บนกล้องมือถือ Pixel มีคาแรกเตอร์เสมือนจริงของคนดังหรือ Playmoji ให้ผู้ใช้งานเล่นสนุกๆ ได้ โดยล่าสุด Playmoji ของนักร้องดังที่สร้างปรากฏการณ์สะเทือนวงการเพลงอย่าง Childish Gambino ก็เปิดให้เล่นกันแล้ว
ผู้ใช้สามารถเลือก Playmoji ของ Childish Gambino ไปวางในรูปถ่ายหรือในคลิปได้ ในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ใช้ ARCore ที่สามารถแทรคแสง และสิ่งแวดล้อมในโลกจริง ให้ความรู้สึกว่าตัว Playmoji เหมือนอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ
Google ปล่อยแพตช์ความปลอดภัยประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ให้สมาร์ทโฟนในกลุ่ม Pixel แล้ว อุดช่องโหว่ความปลอดภัยทั้งหมด 42 จุด เป็นระดับร้ายแรง (critical) 11 จุด รวมถึงช่องโหว่ที่เกิดจากฮาร์แวร์ของ NVIDIA และ Qualcomm
หนึ่งในช่องโหว่ระดับร้ายแรงเป็นช่องโหว่ในเฟรมเวิร์ค ที่เปิดให้โจมตีทางไกลผ่านไฟล์ .PNG เพื่อรันโค้ดด้วยโปรเซสที่มีสิทธิระดับสูง ซึ่งกระทบตั้งแต่ Android Nougat ขึ้นไป อย่างไรก็ตาม Google ระบุว่ายังไม่พบรายงานการโจมตีด้วยช่องโหว่นี้
Google เริ่มจริงจังและตั้งแผนกฮาร์ดแวร์แยกมาตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งถึงแม้จะตั้งไม่นานและรายได้ของฮาร์ดแวร์ยังไม่ถูกแยกออกมาในรายงานงบประมาณ เพราะถูกจัดอยู่ในกลุ่มอื่นๆ (others revenue) ที่รวมกับธุรกิจคลาวด์และ Play Store แต่นักวิเคราะห์จาก RBC Capital Markets คาดการณ์ว่ารายได้ของฮาร์ดแวร์ก็ไปได้สวยกว่าที่เห็น
RBC คาดการณ์ว่ารายได้รวมของฮาร์ดแวร์ปีนี้ของ Google จะอยู่ที่ราว 8.8 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วจาก 5.3 พันล้านอยู่ราว 65% กำไรปีนี้อยู่ที่ 2.99 พันล้าน เพิ่มขึ้น 55% โดยรายได้และกำไรที่เยอะที่สุดมาจากกลุ่ม Pixel และ Google Home ตามมาด้วย Nest และ Chromecast
วันนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนธันวาคม 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ธ.ค. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ธ.ค. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ธ.ค. มาด้วย)
แพตช์ 1 ธ.ค. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 17 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 6 จุด เป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่าทั้ง 4 จุด ส่วนแพตช์ 5 ธ.ค. แก้เพิ่มอีก 36 จุด ส่วนมากเป็นเรื่องช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตอย่าง Qualcomm โดยเป็นช่องโหว่ระดับร้ายแรงถึง 5 จุด
วันนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนพฤศจิกายน 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 พ.ย. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 พ.ย. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 พ.ย. มาด้วย)
แพตช์ 1 พ.ย. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 17 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 4 จุด เป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่าทั้ง 4 จุด ส่วนแพตช์ 5 พ.ย. แก้เพิ่มอีก 19 จุด เกือบทั้งหมดเป็นเรื่องช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตอย่าง Qualcomm เกือบทั้งหมด เป็นช่องโหว่ระดับร้ายแรงถึง 3 จุด
วันนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนตุลาคม 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ต.ค. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ต.ค. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ต.ค. มาด้วย)
สำหรับแพตช์ 1 ต.ค. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 23 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 8 จุด เป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า 4 จุด ส่วนแพตช์ 5 ต.ค. แก้เพิ่มอีก 3 จุด แต่รอบนี้ไม่มีเรื่องช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์แต่อย่างใด
สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Pixel/Nexus รอบนี้ไม่มีแพตช์ด้านความปลอดภัย มีแต่เรื่องปรับปรุงฟีเจอร์ เช่น การปรับแต่งเรื่องการชาร์จ, ปรับปรุงการใช้งาน Android Auto สำหรับตระกูล Pixel
ก่อนหน้านี้ หากมือถือ Google Pixel หมดประกัน ผู้ใช้สามารถส่งไปหาบริการ uBreakiFix หรือ Puls ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับกูเกิลเพื่อรับบริการซ่อม ล่าสุด Google Store ได้เปิดบริการรับซ่อมเครื่องเองแล้ว
บริการซ่อมเครื่องของกูเกิลใช้ชื่อว่า Repair Center เมื่อผู้ใช้กดเข้าไปจะต้องใส่เลข IMEI เพื่อตรวจสอบว่ายังอยู่ในประกันหรือไม่ และเลือกอาการของเครื่อง หากเสียในประกันและประกันครอบคลุมก็สามารถส่งเครื่องเข้าไปเคลมได้ฟรี แต่หากอยู่นอกเหนือประกันระบบจะประเมินค่าซ่อมมาให้ เช่นเครื่อง Pixel 2 XL จอแตกก็อยู่ที่ 239 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 7,400 บาท หรือหากน้ำเข้าก็ต้องจ่ายค่าซ่อมที่ 413 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 13,000 บาท ไม่รวมภาษีของแต่ละรัฐ
ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Pixel, Pixel 2 และ Pixel 2 XL หลายราย พบปัญหาโหมดประหยัดพลังงานเปิดใช้งานอัตโนมัติ ในขณะที่แบตเตอรี่เหลืออยู่ 99% ขณะที่ผู้ใช้บางรายเปิดเผยทาง Reddit ว่าโหมดดังกล่าวเปิดเองเมื่อแบตอยู่ที่ 76% แม้จะทำการรีบูตเครื่องแล้ว แต่ปัญหาก็ยังคงอยู่
กูเกิลได้ตัดรูหูฟัง 3.5 มม. ออกไปในสมาร์ทโฟน Pixel 2 และแถมหัวแปลงมาให้ในกล่องตามสมัยนิยม หากใครทำหายก็ซื้อในราคา 9 ดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดกูเกิลอัพเดตสินค้าตัวนี้ใหม่เงียบๆ โดยระบุว่า latency ต่ำลง 53% และเล่นเพลงได้นานขึ้น 38% (แปลว่าตัวหัวแปลงกินไฟน้อยลง) เมื่อเทียบกับหัวแปลงรุ่นแรก นอกจากนี้ยังสั้นลง 2.8 มม. อีกด้วย
ในด้านราคา กูเกิลวางขายหัวแปลงรุ่นใหม่นี้ที่ 12 ดอลลาร์สหรัฐ โดยตอนวางขายหัวแปลงรุ่นแรกเคยตั้งราคาแพงหูฉี่ถึง 20 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะโดนกระแสถล่มด่า จนลดราคาลงมาเหลือ 9 ดอลลาร์สหรัฐเท่าราคาหัวแปลง Lightning ของแอปเปิล
อังคารบ้านเราที่ผ่านมา กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนกันยายน 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ก.ย. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ก.ย. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ก.ย. มาด้วย)
สำหรับแพตช์ 1 ก.ย. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 24 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 5 จุด ซึ่งรอบนี้เป็นเรื่องการได้สิทธิ์ (permission) โดยไม่ได้รับอนุญาต 3 จุด และเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า 2 จุด ส่วนแพตช์ 5 ก.ย. แก้เพิ่มอีก 35 จุด ส่วนใหญ่แก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง Qualcomm โดยในจำนวนนี้มีระดับร้ายแรงถึง 6 จุด
อังคารบ้านเราที่ผ่านมา กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนกรกฎาคม 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ก.ค. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ก.ค. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ก.ค. มาด้วย)
สำหรับแพตช์ 1 ก.ค. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 11 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 3 จุด ซึ่งเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า 1 จุด ส่วนแพตช์ 5 ก.ค. แก้เพิ่มอีก 33 จุด ส่วนใหญ่แก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง Qualcomm โดยในจำนวนนี้มีระดับร้ายแรงถึง 8 จุด
สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Pixel/Nexus มีแพตช์ความปลอดภัยเพิ่มอีกถึง 26 จุด และมีการปรับปรุงประสิทธิภาพ WiFi บนอุปกรณ์เฉพาะ Pixel 2, 2 XL
สำหรับคนที่ใช้งาน Pixel 1 และ Pixel 2 (หรือโหลด Pixel Launcher มาใช้) น่าจะคุ้นเคยกับการเปลี่ยนธีมของ Launcher ไปตามวอลเปเปอร์อยู่แล้ว หากวอลเปเปอร์เป็นสีสว่าง หน้า App Drawer, แพแนล Quick Setting และโฟลเดอร์ ก็จะเป็นสีขาว หรือหากวอลเปเปอร์เป็นสีมืด ธีมก็จะเป็นสีดำ
แน่นอนว่าย่อมมีนักพัฒนาเรียกร้องใน Issue Tracker ให้ Google อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกเปิดธีมเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเปลี่ยนไปตามวอลเปเปอร์แต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งทีมงานของ Google ก็ตอบกลับว่าได้เพิ่มตัวเลือก Dark Theme ในหน้า Setting > Display > Device Theme แล้ว ซึ่งก็คาดว่าน่าจะปล่อยลง Android P Developer Preview เร็วๆ นี้
กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนมิถุนายน 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 มิ.ย. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 มิ.ย. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 มิ.ย. มาด้วย)
สำหรับแพตช์ 1 มิ.ย. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 20 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 6 จุด ซึ่งเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า 3 จุด ส่วนแพตช์ 5 มิ.ย. แก้เพิ่มอีก 38 จุด ส่วนมากแก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง LG, MediaTek, NVIDIA และ Qualcomm โดยในจำนวนนี้มีระดับร้ายแรง 6 จุด
พบกันเป็นประจำทุกเดือนครับ ครั้งนี้ออกก่อนงาน Google I/O หนึ่งวันพอดี รอบนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนพฤษภาคม 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 พ.ค. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 พ.ค. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 พ.ค. มาด้วย)
สำหรับแพตช์ 1 พ.ค. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 7 จุด (CVE) ส่วนแพตช์ 5 พ.ค. แก้เพิ่มอีก 16 จุด ส่วนมากแก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง Qualcomm, NVIDIA โดยในจำนวนนี้มีระดับร้ายแรง 2 จุด
สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Pixel/Nexus มีแพตช์ความปลอดภัยเพิ่มอีกถึง 34 จุดและปรับปรุง multi-touch สำหรับทุกรุ่น และเฉพาะบน Pixel XL จะแก้ปัญหาการดึงกระแสเกินเวลาชาร์จไฟ
Google ยกเลิกการจำหน่าย Pixel และ Pixel XL รุ่นแรกพร้อมทั้งนำออกจาก Google Store แล้ว หลังวางจำหน่ายเพียงราวๆ ปีครึ่งเท่านั้น (ตั้งแต่ปลายปี 2016) ทำให้ตอนนี้ Pixel รุ่นแรกหาซื้อได้จาก eBay และ Amazon เท่านั้น
ในแง่ของการซัพพอร์ทซอฟต์แวร์ Pixel รุ่นแรกจะสิ้นสุดที่ตุลาคมปีนี้ เท่ากับว่า Android O จะเป็นเวอร์ชันสุดท้ายที่ได้รับอัพเดต ส่วนแพตช์รายเดือนจะสิ้นสุดที่ตุลาคมปีหน้า
หลังเปิดตัว Pixel 2 เมื่อปลายปีที่แล้ว Pixel รุ่นแรกก็ถูกจัดโปรโมชันลดราคาอยู่เรื่อยๆ ขณะที่การยกเลิกการขายรุ่นแรกนี้ ส่วนหนึ่งคาดว่าน่าจะมาจากการจะเปิดตัว Pixel รุ่นใหม่ในกลุ่ม Mid-Range ที่ราคาน่าจะมีการทับซ้อนกันด้วย
พบกันเป็นประจำทุกเดือนครับ รอบนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนเมษายน 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 เม.ย. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 เม.ย. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 เม.ย. มาด้วย)
สำหรับแพตช์ 1 เม.ย. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 59 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 7 จุด ซึ่งเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า 2 จุด ส่วนแพตช์ 5 เม.ย. แก้เพิ่มอีกถึง 293 จุด (เยอะที่สุดเป็นประวัติการณ์) ส่วนมากแก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง Qualcomm (อย่างเยอะ), Broadcom โดยในจำนวนมีระดับร้ายแรงถึง 9 จุด
พบกันเป็นประจำทุกเดือนครับ รอบนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนมีนาคม 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 มี.ค. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 มี.ค. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 มี.ค. มาด้วย)
สำหรับแพตช์ 1 มี.ค. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 16 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 8 จุด ซึ่งเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่าถึง 4 จุด ส่วนแพตช์ 5 มี.ค. แก้เพิ่มอีก 21 จุด ส่วนมากแก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง NVIDIA, Qualcomm โดยมีระดับร้ายแรง 3 จุด
IDC เปิดเผยรายงานยอดขายสมาร์ทโฟนของ Google ในตระกูล Pixel ทั้งรุ่นแรกและรุ่น 2 เมื่อปีที่แล้วขายไปได้รวมกันราว 3.9 ล้านเครื่อง ใกล้ๆ กับที่แอปเปิลขายได้ราว 1 อาทิตย์ แต่ก็ถือว่าเพิ่มมากขึ้นและ IDC เองก็มองว่าเป็นทิศทางที่ดีสำหรับการขายสมาร์ทโฟนของ Google
ขณะที่ข้อมูลจาก Kantar Worldpanel ระบุว่าส่วนแบ่งตลาดของ Pixel เพิ่มขึ้นจาก 1.8% เป็น 2.8% อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เราน่าจะได้เห็นการเดินเกมรุกด้านฮาร์ดแวร์ของ Google มากขึ้นโดยเฉพาะฝั่งสมาร์ทโฟน หลังได้พนักงานจาก HTC มาร่วมทีมทั้งหมดแล้ว
ที่มา - The Verge
พบกันเป็นประจำทุกเดือนครับ รอบนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ก.พ. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ก.พ. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ก.พ. มาด้วย)
สำหรับแพตช์ 1 ก.พ. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 7 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 1 จุด ซึ่งเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า ส่วนแพตช์ 5 ก.พ. แก้เพิ่มอีก 19 จุด ส่วนมากแก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง Qualcomm, HTC, NVIDIA โดยมีระดับร้ายแรง 2 จุด
สวัสดีปีใหม่ครับ พบกันเป็นประจำทุกเดือนครับ รอบนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนมกราคม 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ม.ค. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ม.ค. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ม.ค. มาด้วย)
สำหรับแพตช์ 1 ม.ค. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 20 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) ถึง 4 จุด ซึ่ง 3 จุดเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า ส่วนแพตช์ 5 ม.ค. แก้เพิ่มอีก 18 จุด ส่วนมากแก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง Qualcomm, NVIDIA, MediaTek, LG, HTC โดยมีระดับร้ายแรง 1 จุด
โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Pixel/Nexus ที่จะได้รับแพตช์รอบนี้มีดังนี้ครับ (ทั้งหมดเป็น Oreo 8.1)
พร้อมกับแพตช์ความปลอดภัยของเดือนธันวาคม กูเกิลก็ได้ฤกษ์ปล่อย Android 8.1 ตัวจริงแล้วเช่นกัน แน่นอนว่าอุปกรณ์กลุ่มแรกที่ได้รับอัพเดตนี้คือ Pixel 2, Pixel, Pixel C, Nexus 6P และ Nexus 5X
ของใหม่ในอัพเดตนี้คือการเปิดใช้งาน Pixel Visual Core ชิปประมวลผล Machine Learning ใน Pixel 2 รวมถึงเปิด API ใหม่คือ Neural Networks API สำหรับสมาร์ทโฟนที่มีฮาร์ดแวร์แยกเฉพาะสำหรับ machine learning
พบกันเป็นประจำทุกเดือนครับ รอบนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนธันวาคม 2017 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ธ.ค. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ธ.ค. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ธ.ค. มาด้วย)
สำหรับแพตช์ 1 ธ.ค. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 19 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) ถึง 6 จุด ซึ่ง 5 จุดเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า ส่วนแพตช์ 5 ธ.ค. แก้เพิ่มอีก 28 จุด ส่วนมากแก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง NVIDIA และ Qualcomm โดยมีระดับร้ายแรง 4 จุด