Google ประกาศรายการการอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ให้กับสมาร์ทโฟน Pixel ในชื่อ Pixel feature drop ที่จะมีการอัพเดตฟีเจอร์ให้ใหม่อย่างต่อเนื่องแยกออกจากการอัพเดตแพตช์รายเดือน ซึ่ง Google ไม่ได้บอกกรอบเวลาชัดเจนว่า Pixel feature drop จะมาเป็นรายเดือนเหมือนแพตช์ แต่ระบุแค่ว่าจะมีอัพเดตให้อย่างต่อเนื่อง (regular basis)
สมาร์ทโฟนที่ได้ Pixel feature drop คือสมาร์ทโฟนที่ยังอยู่ในระยะซัพพอร์ทรายเดือน ตอนนี้ก็มี Pixel 2 ขึ้นมาจนถึง Pixel 4 ส่วนรายละเอียดฟีเจอร์อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น
ภาพจาก Google
เริ่มจาก Pixel 4 เพิ่มฟีเจอร์ปรับแต่งภาพให้เบลอฉากหลังเหมือนถ่าย Portrait ให้กับภาพเก่าที่ถ่ายไปแล้วใน Google Photos โดยแตะที่ภาพที่ต้องการก็จะมีคำสั่งเบลอฉากหลังให้เลือกหรือจะกดที่ Edit ก็ได้
ถัดมา Screen Call (ใช้ได้เฉพาะในสหรัฐ) รองรับการตรวจจับและวางสายที่โทรจากระบบอัตโนมัติ (robocalls) โดย Google Assistant จะเช็คสายที่โทรเข้ามา ถ้าเป็นระบบอัตโนมัติจะไม่ส่งเสียงเรียกเข้าและวางสายให้โดยอัตโนมัติ ถ้าเป็นสายจากมนุษย์จะส่งเสียงเรียกเข้าตามปกติและแสดงข้อความว่าใครโทรมาและโทรมาทำไม ฟีเจอร์นี้ไม่ต้องต่ออินเตอร์เน็ต
ปรับแต่งการโทร Video Call ผ่านแอป Google Duo ให้ดีขึ้น โดยกรอบภาพจะจับที่หน้าผู้โทรโดยอัตโนมัติ ถ้ามีคนอื่นเข้ามาในกรอบภาพตัวเครื่องจะซูมออกให้เห็นคนอื่นที่เข้ามาร่วม Video Call ด้วย
ถ้าเจอปัญหาสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ดีระหว่างโทร Pixel 4 จะใช้ Machine Learning คำนวนสิ่งที่เราจะพูดเป็นคำต่อไปให้บทสนทนามีความต่อเนื่อง, ปรับ refresh rate ของหน้าจอขึ้นเป็น 90Hz ให้ภาพลื่นไหล และถ้าโทรระหว่างมือถือ Pixel ด้วยกันจะเลือกให้เบลอฉากหลังของเราได้ด้วย
นอกจากนี้ Pixel 4 จะ แสดงตำแหน่งที่ตั้งบน Google Maps ได้เร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันเจ้าของ Pixel 4 ในสหราชอาณาจักร, แคนาดา, ไอร์แลนด์, สิงคโปร์และออสเตรเลียจะได้อัพเดต Google Assistant เวอร์ชั่นใหม่ที่ออกคำสั่งต่อเนื่องได้แล้ว
ส่วนฟีเจอร์ที่อัพเดตให้ Pixel รุ่น 2, 3, 3a ได้แก่:
นอกจากนี้ Google ยังปรับปรุงระบบจัดการแรม (memory management) มาให้กับ Pixel ทุกรุ่นด้วย ซึ่งเรื่องจัดการแรมเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของ Pixel มาโดยตลอด
ถ้าใครสนใจ Google Pixel 4 อยู่สามารถอ่านสรุปรีวิวได้ที่นี่
ที่มา: Google
Comments
เมื่อ AI สารภาพรักแทนคุณ
ถ้าดูจาก Google Translate ของไทยแล้ว ปิดตัวเลือกจะดีกว่านะ
ทำไมต้องระหว่างรุ่นเดียวกัน - -"
หน่วยความจำไม่พอรึ
เอานี่ไปกิน DoubleSpace ฉบับ Google?!?
ให้สัมภาษณ์ The Verge ว่าจะออกทุกไตรมาส
ถ้าแรม 4 GB ไม่พอใช้
รุ่นต่อไปทำไมไม่ให้มา 8 GB
เพิ่มแรมก็ต้องเพิ่มต้นทุนสินค้าเพิ่มราคาขายอีก ถ้าบริหารจัดการดีๆ ให้แรม 4GB ใช้งานได้ราบรื่นมือถือทั่วๆ ไปก็ได้อานิสงส์ไปด้วยครับ WIN-WIN ทั้งคนใช้และผู้ผลิต
พอดีว่ามันไม่ราบรื่นน่ะสิครับ
เอาง่ายๆ ครับ แค่เปิดกล้อง
ที่มีการเก็บภาพหลายภาพมารวมด้วยเทคนิคสุดล้ำมาถ่ายนี่จบทุกอย่าง Garmin ที่ต่ออยู่ก็หลุด (เพราะ service มันถูก kill แต่มันต่อกลับมาใหม่เอง) ถ้าใช้ Android Auto นำทางบนหน้าจอรถอยู่ก็ดับเหมือนกัน เพลงที่เปิดไว้ก็มีโอกาสดับมันไม่เป็นอย่างราคาคุยนะสิครับ ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน LINE, Facebook, ดู Google Map รวมถึงเปิด Browser ดูข้อมูลสถานที่ สลับไป สลับมา มีโหลดใหม่ ยิ่งตอนเดินทาง Map โหลดใหม่, Grab โหลดใหม่ที่แทบจะบ้า
แต่ในขณะรุ่นที่ถูกกว่า อัดแรมมาให้ 6, 8 หรือรุ่นเรือธงเค้าอัดมากันที่ 12 GB เปิดพร้อมกัน 4-6 แอพ สลับไปมาได้ไม่ต้องโหลดใหม่
คือราคาจะพรีเมี่ยม ก็ช่วยทำให้รู้สึกว่าได้ฟีเจอร์พรีเมี่ยม หรือไม่ก็ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกว่าเป็นข้อจำกัดสิ
ขออนุญาตตอบรวบตรงนี้ พอดีไม่เคยใช้ Pixel เลยสักรุ่น แต่มโนเองว่าเพียวแอนดรอยคงไม่มีแอพอะไรหนักเครื่องเท่าไหร่ ถ้าจะอาการหนักขนาดนั้นจริงๆ ก็เพิ่มแรมเถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระลูกหลาน ?
คือถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นที่แรม 4GB เท่ากัน Pixel มันทำได้ดีกว่าอ่ะครับ
แต่ในราคาเท่ากัน แบรนด์อื่นเค้าไป 6GB อย่างต่ำ ซึ่งมันดีกว่าไปแล้วอ่ะ จัดการได้ไม่ดีเท่า แต่มันมีเหลือให้ใช้เยอะกว่า
เหมือนเลือกห้องเล็กแล้วจัด lay out ห้องดี มีเฟอร์นิเจอร์ครบ แต่ห้องแคบแออัด กับอีกคนเลือกห้องใหญ่เลย ไม่ต้องจัด lay out ให้เป๊ะแต่ก็มีพื้นที่เหลือให้รู้สึกโปร่ง
จริงๆผมใช้ Pixel 3a อยู่ ด้วยการใช้งานของตัวเองไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่พอนะ แต่เข้าใจว่าถ้าคนใช้งานเยอะๆยังไง 6GB มันก็สะดวกกว่า