Apple, Inc.
Appleinsider เว็บข่าวลือแอปเปิลที่โด่งดังในด้านความแม่นยำของข่าวลือได้ออกมารายงานว่ารุ่นต่อไปของ iMac คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของแอปเปิลจะมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านดีไซน์ โดยจะเป็นดีไซน์แนวอุตสาหกรรม (Industrial Design แนวหยาบ ๆ เหมือนโรงงานอุตสาหกรรมน่ะครับ ถ้านึกภาพไม่ออก ใกล้ตัวที่สุดก็คือดีไซน์แบบสนามบินสุวรรณภูมินั่นล่ะ) ในข่าวนั้นได้ใช้การเล่นคำสองความหมายในการอธิบายว่า "เป้าหมายของดีไซน์ใหม่ก็คือทำให้คู่แข่งเหมือนโดนตบเต็ม ๆ และดึงดูดผู้ที่สนใจอย่างแรง" (aimed at leaving both competitors and onlookers smitten)
เจอมาจากเว็บคุณ Poakpong คิดว่าแถวนี้มีคนใช้ iPod กันเยอะ น่าจะตรงกลุ่มเป้าหมาย เลยช่วยประชาสัมพันธ์เสียหน่อย
หลังจากที่ทางเราได้่ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้ Apple Inc. ทำการอัพเดทระบบการแสดงผลที่รองรับการใช้งานภาษาไทยด้วย ไปเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2548 ที่ผ่านมา (To support Thai language in iPod.) ทางเราได้สังเกตุว่าทาง Apple Inc. ยังนิ่งเฉยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
ถ้าใครดันเส้นเยอะ รู้จักกับแอปเปิลประเทศไทย (หรือแอปเปิลสำนักงานใหญ่) ช่วยส่งต่อก็จะยอดเยี่ยมมาก แต่ถ้าไม่มีเส้นเยอะขนาดนั้น ร่วมลงชื่อกันดีกว่า
MadTV รายการตลกล้อเลียนชื่อดังยามดึกของเครือข่าย Fox ได้ทำวีดีโอออกมาล้องาน MacWorld Expo ของ Steve Jobs แล้วครับ โดยการแขวะการชอบเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ ของแอปเปิล โดยในวีดีโอนี้ Steve Jobs ตัวปลอมจะทำการเปิดตัวสินค้าใหม่ iRack ครับ
ชมวีดีโอได้ที่YouTube
แมกกาซีน Fortune ได้ทำการจัดอันดับบริษัทที่น่าชื่นชมที่สุด 20 อันดับแรก โดยแอปเปิลนั้นได้อันดับที่ 7 จากการสำรวจผู้ใช้ประเภทไดเรคเตอร์ ผู้บริหาร และนักวิเคราะห์ธุรกิจการเงิน โดยการให้ผู้ใช้กลุ่มนี้กว่า 3,322 คนนั้นเรียงลำดับบริษัทที่พวกเขาชื่นชมมากที่สุด 10 อันดับ
Macworld.co.uk รายงานว่าขณะนี้สต็อกสินค้าแอปเปิลบางรายการน้อยมาก ๆ แล้ว สินค้าเหล่านั้นได้แก่ Mac mini ทุกรุ่น, Combo-drive iMac, MacBook Pro รุ่นระดับกลางรวมไปถึง MacBook สีดำ, iPod nano ทุกรุ่นและลำโพง iPod HiFi
ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ผ่านมาหลาย ๆ ครั้ง เมื่อสต็อกสินค้าแอปเปิลเริ่มน้อยลงมักจะเกิดจากการที่แอปเปิลได้เลิกผลิตสินค้ารุ่นนั้น ๆ เพื่อที่จะเตรียมการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ออกมา แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าทั้งหมดนี้อาจจะเกิดจากความต้องการสินค้าของแอปเปิลนั้นมากขึ้นนั่นเอง
สิ่งที่พอจะคาดการณ์ได้ตอนนี้คือน่าจะมีสินค้าแอปเปิลเปิดตัวใหม่ภายในเดือนนี้ หรือไม่แอปเปิลก็จะเร่งการผลิตสินค้าต่าง ๆ เหล่านี้มากขึ้น
สำหรับ QuickTime 7.1.5 นั้นมีการปรับปรุง และแก้ไขข้อบกพร่อง ในเรื่องของความปลอดภัย และแอปเปิลได้แนะนำไว้ว่า สำหรับผู้ใช้ QuickTime 7 ทุกคนควรอัพเดต มีหมายเหตุเพิ่มเติมเล็กน้อย สำหรับผู้ที่ใช้ไลเซนส์ Pro จากรุ่นก่อนๆ (QuickTime 5 และ QuickTime 6) จะต้องซื้อคีย์แบบ Pro ใหม่
และสำหรับ iTunes ได้มีการปรับปรุง และเพิ่มการทำงานร่วมกับ Apple TV ที่กำลังจะวางจำหน่าย สำหรับผู้ที่นิยมชมชอบการใช้งาน Cover Flow อัพเดตครั้งนี้มีเฮแน่นอน เพราะจะสามารถใช้คุณสมบัติ Cover Flow แบบแสดงผลเต็มหน้าจอได้แล้ว
ที่มา - Apple
รายงานจาก TUAW.com (The unofficial Apple weblog) แสดงให้เห็นถึงตัวเลขล่าสุดของผู้ที่ switch มาใช้แมคว่าอยู่ที่ราวๆ 9,000 คนต่อวัน ตัวเลขนี้มาจากการคำนวณของคุณทอม เยเจอร์ โดยอ้างจากตัวเลขที่ สตีฟ จอบส์ บอกว่าครึ่งหนึ่งของเครื่องแมคที่ขายออกไปนั้น เป็นการขายไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่
คุณทอมยังได้ทำการทดลองที่น่าสนใจ เพื่อศึกษาว่าในที่สุดแล้วผู้ที่ใช้วินโดวส์มาตลอดชีวิตนั้น ถ้าหากมีโอกาส จะสามารถเปลี่ยนใจมาใช้แมคได้หรือไม่ รายละเอียดการทดลองอ่านได้ตามลิงค์ข้างล่างครับ
นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ได้สำรวจความคิดเห็นในสหรัฐ, สหราชอาณาจักร, อินเดีย และจีนเกี่ยวกับ iPhone และใช้ข้อมูลเหล่านี้ทำนายยอดขายของ iPhone
ปี 2007 ทำนายว่า iPhone จะขายได้ 4 ล้านเครื่อง และปี 2008 ได้อีก 10.5 ล้านเครื่อง ซึ่งยอดขายนี้จะส่งผลให้อัตราการเติบโตของแอปเปิลขึ้นไป 4-5% เรียกได้ว่าเป็นช่วงขยายตัวอีกช่วงของแอปเปิลได้เลย
ตัวเลขอื่นๆ ในผลสำรวจคือ 75% ของคนอเมริกันที่ตอบแบบสอบถามสนใจใน iPhone และแอปเปิลเป็นแบรนด์มือถือที่คนต้องการซื้อเป็นอันดับ 4 ในสหรัฐ (แหล่งข่าวไม่บอกว่า 3 อันดับแรกมีอะไรบ้าง)
ที่มา - Ars Technica
แอปเปิลปล่อยโฆษณา iPhone ตัวแรกระหว่างงานประกาศผลรางวัลออสการ์ โดยตัดเอาฉากรับโทรศัพท์ในภาพยนตร์เรื่องต่างๆ (ไม่เว้นแม้แต่การ์ตูนอย่าง Flintstone) มาต่อกัน ก่อนจะตัดมาเป็นรูปของ iPhone
สนใจก็หาดูได้ตามลิงก์ อาจต้องรีบโหลดกันหน่อย เพราะแอปเปิลขึ้นชื่อในเรื่องไล่ปิดเว็บเหล่านี้อยู่แล้ว
ที่มา - Ars Technica
บริษัทวิจัยทางการตลาดออนไลน์ชื่อ Compete Inc. ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคสหรัฐจำนวน 379 คนเกี่ยวกับ iPhone โดยผู้ถูกสำรวจจำนวน 26% ของ 379 คนนั้นบอกว่าสนใจจะซื้อ แต่ที่น่าสนใจกว่าคือมีแค่ 1% ของ 26% ข้างต้นเท่านั้นที่ยินดีจะซื้อในราคา 499 ดอลลาร์ (iPhone มีรุ่น 499 กับ 599 เหรียญ)
42% ของกลุ่มที่สนใจจะซื้อคิดว่าราคาที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 200-299 เหรียญ ในประเด็นของเครือข่ายมือถือที่ต้องใช้ Cingular เท่านั้น 60% ของกลุ่มสนใจบอกว่าพวกเขายินดีจะย้ายค่ายไปใช้ Cingular เพื่อจะใช้ iPhone
สำหรับบ้านเราที่อยู่ในกลุ่ม "2008" คำถามที่คนจำนวนมากอยากรู้ก็คือ "มันใช้ภาษาไทยได้หรือเปล่า" อันนี้ต้องฝากคนที่รู้จักไปถามแอปเปิลประเทศไทยให้แล้วล่ะ
หลังจากที่เป็นเรื่องกันมานานในเรื่องเครื่องหมายการค้า ชื่อ iPhone ในที่สุด ก็ได้ข้อตกลงที่แปลกมากๆ คือ ทั้งแอปเปิลและ Cisco จะใช้ชื่อ iPhone ร่วมกัน !!
โดยข้อตกลงที่เปิดเผยออกมานั้น มีไม่มาก เพียงแต่คาดกันว่า ทั้งสองอาจจะตกลงในเรื่องของการนำชื่อไปใช้โดยไม่ให้สินค้าทั้งสองไปทับซ้อนในกลุ่มเดียวกัน แต่มันก็คงเป็นเรื่องน่าสับสนไม่น้อยเลย เวลาจะพูดถึง iPhone ในอนาคต อาจจะต้องระบุค่ายตามหลังไปด้วย
ทั้งบิล เกตส์ และสตีฟ จ็อบส์ต่างยืนยันว่าจะขึ้นไปถกเรื่องอนาคตของวงการไอทีบนเวทีเดียวกัน ในงาน D: All Things Digital ที่จัดโดย Wall Street Journal
รูปแบบของงาน D (ปีนี้ครั้งที่ห้าเรียก D5) จะเป็นการสัมภาษณ์สดล้วนๆ นอกจากจะได้สองคนนี้มาเป็นไฮไลต์แล้ว บรรดา CEO ดังๆ ของวงการก็มากันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็น John Chambers (Cisco), Steve Case (AOL ใครจำกันได้บ้าง), Steve Ballmer, Eric Schmidt (Google), Jeff Hawkins (คนคิด Palm) หรือแม้แต่ George Lucas
งานยักษ์แบบนี้บัตรขายหมดตั้งนานแล้ว ใครอยากดูคงต้องรอหลังวันที่ 30 พฤษภาคม น่าจะมีวิดีโอ ผมแอบหวังให้เริ่มต้นมาแบบนี้คงเยี่ยม
"Hi, I'm Steve" "Hi, I'm Bill"
กำหนดการสำหรับการประชุมกลุ่มผู้พัฒนาทั่วโลก ของ แอปเปิล ในงาน WWDC ประจำปี 2007 ได้ถูกประกาศขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 มิถุนายน ในกลุ่มผู้ใช้แมคต่างก็คาดหวังกันว่า ในงาน WWDC ครั้งนี้ จะมีการเปิดตัวระบบปฎิบัติการ Mac OS X รุ่นใหม่จากแอปเปิล ภายใต้ชื่อรหัสว่า Leopard
สำหรับงาน WWDC นั้น กลุ่มผู้เข้าร่วมงาน จะเป็นกลุ่มนักพัฒนาซอฟต์แวร์จากทั่วโลก ซึ่งแตกต่างจากงาน Apple World ที่กลุ่มผู้เข้าร่วมงานจะเป็นกลุ่มผู้ใช้งาน เสียเป็นส่วนใหญ่
ที่มา : Apple
ทุกวันนี้เพลงที่ขายผ่าน iTMS นั้นอนุญาตให้สามารถเล่นได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ห้าเครื่อง และเล่นบน iPod ได้ไม่จำกัดจำนวน แต่สตีฟ จอบส์ออกมาให้ความเห็นผ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่อยู่บนเว็บไซท์ของแอปเปิ้ลเองว่า ถ้าผู้ใช้ช่วยกันกดดันบริษัทเพลง โดยเฉพาะสี่บริษัทใหญ่คือ Universal Sony BMG Warner และ EMI แล้วละก็ สักวันหนึ่ง iTMS อาจจะสามารถขายเพลงที่ไม่มี DRM และสามารถเล่นบนเครื่องเล่น MP3 อันไหนก็ได้
แอปเปิลได้ประกาศว่า สามารถตกลงเรื่องเครื่องหมายการค้ากับ Beatles ได้แล้ว หลังจากที่มีปัญหากับ Apple Corps Ltd (บริษัทที่ดูแลผลงานเพลงของ The beatles และเป็นเจ้าของชื่อ และโลโก้แอปเปิล) มาตั้งแต่เปิดตัว iTMS ที่เป็นการผิดข้อตกลงที่ทำไว้กับ Apple Corps Ltd เมื่อปี 1991 ว่าจะไม่ทำธุรกิจเพลงด้วยชื่อแอปเปิล
ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการตกลงครั้งนี้ ทราบแต่เพียงว่าแอปเปิล สามารถใช้ชื่อแอปเปิลได้ในทุกธุรกิจ โดยจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับ Apple Corps Ltd โดยที่ Apple Corps Ltd ก็ยังสามารถใช้ชื่อนี้ได้ตามเดิม
แอปเปิลได้เตือน ผู้ใช้ไอจูนส์บนวินโดวส์ทุกคน อย่าพึ่งอัพเกรดวินโดวส์เป็นวิสตาในตอนนี้ โดยให้รอไอจูนส์เวอร์ชันใหม่ออกมาก่อน ค่อยทำการอัพเกรด เนื่องจากไอจูนส์เวอร์ชันปัจจุบันคือ 7.0.2 มีปัญหาเรื่อง compatibility กับวิสตาเช่น เพลงทีซื้อมาจาก iTMS ก่อนการอัพเกรดอาจจะเล่นไม่ได้ การแลกเปลี่ยนข้อมูล เพลงระหว่าง ไอจูนส์กับไอพ็อด อาจมีปัญหา Cover Flow animation ทำงานได้ช้าลง เป็นต้น สำหรับผู้ที่ทำอัพเกรดไปแล้ว สามารถดาวโหลด iTunes Repair Tool for Vista 1.0 มาติดตั้งเพื่อ แก้ให้เล่นเพลงทีซื้อมาจาก iTMS ก่อนการอัพเกรดได้
จากคำให้สัมภาษณ์ของเกร็ก โจสเวียก (Greg Joswiak) รองประธานการตลาดของไอพ็อด โดย ITmedia สื่อทางด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่น
โจสเวียกให้สัมภาษณ์ว่าเพราะเหตุที่ iPod shuffle เป็นผลิตภัณฑ์ที่ "สวมใส่ได้" (wearable) ทำให้มีความเกี่ยวเนื่องกับแฟชั่นอย่างมาก เมื่อพูดถึงแฟชั่นก็จะเกี่ยวข้องกับการใช้สีสัน
ส่วนเหตุผลที่เพิ่มสีส้มให้กับ iPod shuffle ก็เพราะสีส้มเป็นสีที่มาแรงในวงการแฟชั่นปีนี้นั่นเอง สีที่ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นมานั่นก็คือ สีดำ ซึ่งเป็นสีพิเศษ และสีแดง ที่ใช้ในโครงการ (RED)
แอปเปิลทำการเติมสีสันให้กับ iPod shuffle โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี คือ ฟ้า, ชมพู, เขียว, ส้ม และสีเงินต้นตำรับ
iPod shuffle ขนาด 1GB ราคา 79 เหรียญสหรัฐ
ที่มา: playlistmag
ข่าวลือประหลาดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อพนักงานของบริษัท Mars ผู้ผลิตช็อกโกแลตหลายยี่ห้อเช่น Snickers และ m&m ได้ซื้อขนมที่ไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบ (แต่ยังปลอดภัยสำหรับการกิน) แล้วพบว่า m&m บางเม็ตที่เขาซื้อมานั้นมีโลโก้ของบริษัทแอปเปิลอยู่ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่านี่เป็นการโฆษณาแบบใหม่หรือแค่เรื่องบังเอิญ (หรือจะเป็นเรื่องแหกตา?)
ระวังแกะเลย์ถุงต่อไปแล้วมีโฆษณาวิสต้าบนแผ่นนะ..
ที่มา - Gizmodo (ดูรูปที่นี่)
เครื่อง MacBook ที่วางขายในปีที่ผ่านมานั้นมีชิป 802.11n ใส่มาโดยไม่มีใครรู้จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนที่แอปเปิลให้บริการเปิดความสามารถนี้ขึ้นมาโดยเก็บค่าบริการ 1.99 ดอลลาร์ (ครั้งแรกประกาศเป็น 4.99 ดอลลาร์) โดยทางแอปเปิลอ้างว่าการเก็บค่าบริการนี้จำเป็นต้องทำเพื่อให้การทำบัญชีของแอปเปิลเป็นไปตามมาตรฐาน (Generally Accepted Accounting Principles - GAAP) แต่วันนี้ Lynn Turner อดีตหัวหน้าฝ่ายบัญชีของคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ก็ออกมาให้ความเห็นว่า GAAP นั้นไม่ได้ระบุให้เก็บค่าบริการแต่อย่างใด โดย GAAP นั้นเป็นเพียงมาตรฐานการทำบัญชีไม่ว่าบริษัทจะเก็บหรือไม่เก็บค่าบริการใดๆ
แฟนๆ แอปเปิลในทุกวันนี้จำนวนมากคงซื้อแมคมาเพื่อใช้งานวินโดวส์กันเป็นเรื่องปรกติหลังจากที่มี Bootcamp ออกมาให้ใช้งาน ฟีเจอร์นี้คาดกันว่าจะแถมมากับ Leopard ที่กำลังจะวางจำหน่าย แต่สำหรับคนทีี่ใช้ Tiger แล้วทาง MacScoop ระบุว่ามีรายงานว่าผู้ที่ต้องการใช้ Bootcamp ตัวจริงอาจจะต้องจ่ายเพิ่ม 29 ดอลลาร์เพื่อความสามารถนี้
ก่อนหน้านี้แอปเปิลเพ่ิงประกาศเรียกเก็บเงิน 1.99 ดอลลาร์เพื่อเปิดความสามารถ 802.11n ใน MacBook ของแอปเปิลไปก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่าคนใช้แอปเปิลคิดยังไงกันบ้าง แต่ผมรู้สึกว่าใช้แอปเปิลแล้วถ้าอยากใช้ของถูกลิขสิทธิ์ทั้งหมดนี่ดูค่าใช้จ่ายจะยุ่บยั่บเอาเหมือนกัน
News.com คอนเฟิร์มแล้วว่าแอปเปิลจะปล่อยโปรแกรมอนุญาตให้ผู้ที่ใช้ iMac, MacBook, MacBook Pro รุ่น Core 2 Duo และ Mac Pro สามารถที่จะใช้ AirPort ได้ที่ความเร็วมาตราฐาน 802.11n แทนที่จะเป็น 802.11g enhanced เหมือนเมื่อก่อน โดยจะคิดราคา $1.99
สำหรับจำนวนเงินน้อยแค่นี้ แอปเปิลจำเป็นที่จะต้องเก็บเนื่องจากต้องการให้มีรายได้ทางระบบบัญชีที่ถูกต้องเท่านั้น แหล่งข่าวอื่น ๆ กลับไม่เห็นด้วยกับการเก็บเงินของแอบเปิลครั้งนี้
อีกเรื่องหนึ่งคือตอนนี้ส่วนแบ่งทางตลาดของคอมพิวเตอร์ตระกูลแมคนั้นมากกว่าเดิมครับ จากปลายปี 2005 ที่ 3.6% ของตลาดคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในสหรัฐมาอีก 1.1% ขณะนี้อยู่ที่ 4.7%
หลังจากที่แอปเปิลเปิดตัว iPhone ไปไม่ถึงอาทิตย์ ก็มีคนลอกเลียน UI ของ iPhone โดยทำเป็นสกินมาใช้กับ PocketPC มาโพสแจกที่เว็บบอร์ด xda-developers แล้วสมาชิกคนหนึ่งที่เอาตัวสกินนั้น ไปเขียนบล็อกพร้อมทั้งใส่สกรีนช็อต และลิ้งค์กลับมายังหน้าดาวโหลด พอแอปเปิลรู้ จึงสั่งให้ทนาย ส่งจดหมายไปบอกสมาชิกคนนั้น ให้หยุดการเผยแพร่สกินนี้ ซึ่งกรณีแบบนี้เคยเกิดมาแล้ว กับเว็บที่เอาข้อมูลของสินค้าที่จะออกใหม่ ของแอปเปิลมาเปิดเผยก่อน ของ Palm ก็มีแล้วเหมือนกัน แต่ยังไม่โดนอะไร
ที่มา - TechCrunch
หลังจากมีเสียงเรียกร้องกันเข้ามามากเหลือเกินให้ทางแอปเปิลเปิดดาวน์โหลด Keynote ประวัติศาสตร์ในงาน Macworld 2007 นี้ ในที่สุดแอปเปิลก็เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดาวน์โหลดไปดูที่บ้านได้ฟรีๆผ่านทางไอจูนส์ โดยขนาดของวีดีโอจะอยู่ที่ 1.2 GB ยาว 1 ชั่วโมง 45 นาที
ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดให้ดาวน์โหลดในครั้งนี้ ทางแอปเปิลเคยเปิดให้ดู Keynote มาแล้วแต่เป็นในแบบ Stream ซึ่งพบว่ามีจำนวนผู้เข้ามาใช้เป็นจำนวนมาก แล้วส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถนั่งรอความอืดจนเกินทนได้ จนมีหลายต่อหลายคนเริ่มหาช่องทางอื่นไม่ว่าจะเป็น BitTorrent และถึงกับมีการซื้อขายไฟล์วีดีโอนี้เป็นซีดีกันเลยทีเดียว