แม้จะยังไม่เริ่มขายจริง แต่ดูเหมือน Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลจะมั่นใจในศักยภาพของ Apple Watch ใช่ย่อย หลังจากเพิ่งไปประกาศในงานสัมมนาเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตที่จัดรายปีของ Goldman Sachs ว่าเป้าหมายของ Apple Watch คือการเปลี่ยนการใช้ชีวิตของผู้คนเลยทีเดียว

เว็บไซต์ BuzzFeed News รายงานว่า หลายมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรได้เริ่มห้ามผู้เข้าสอบใส่นาฬิกาข้อมือเข้าห้องสอบแล้ว

เหตุผลในการห้ามคือ ถึงแม้จะมีสมาร์ทวอทช์หลายรุ่นออกสู่ตลาดแล้วแต่การมาถึงของ Apple Watch จะทำให้ความนิยมใช้สมาร์ทวอทช์เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนั้นสมาร์ทวอทช์มีฟังก์ชันเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟน (อาทิ รับส่งข้อความ ดูบันทึกที่จดไว้) และเป็นเรื่องยากที่ผู้คุมสอบจะระบุว่านาฬิกาข้อมือนั้นเป็นนาฬิกาธรรมดาหรือสมาร์ทวอทช์ การจัดการกับนาฬิกาข้อมือในการสอบจึงควรเป็นไปในทางเดียวกับสมาร์ทโฟน

หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ปรับใช้นโยบายคุมสอบใหม่นี้แล้วคือ University of London และ London's City University ครับ

Tim Cook กล่าวในงานแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสของแอปเปิลว่าแผนการพัฒนา Apple Watch เป็นไปตามกำหนดเดิม และจะเริ่มวางขาย Apple Watch ในเดือนเมษายนนี้

เขายังบอกว่าเขาหวังกับ Apple Watch ไว้สูงมาก เขาใช้มันทุกวันและอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมัน (can't live without it) ส่วนอัตราการพัฒนาแอพลง Apple Watch ของเหล่านักพัฒนาก็น่าประทับใจมากเช่นกัน

ที่มา - CNET

ยิ่งมีข่าวลือเกี่ยวกับสมาร์ทวอทช์ของแอปเปิลอย่าง Apple Watch เกี่ยวกับแบตเตอรี่ออกมาเท่าไร ก็ดูเหมือนระยะเวลาใช้งานจะยิ่งสั้นลงเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ Tim Cook เคยออกมาบอกเองว่าต้องชาร์จทุกวัน ล่าสุดระบุว่าถ้าใช้งานหนักๆ จะอยู่ได้เพียง 2.5 ชั่วโมงเท่านั้น

ข้อมูลชิ้นดังกล่าวออกมาจากแหล่งข่าววงในที่ใกล้ชิดกับแอปเปิล ซึ่งระบุว่าแอปเปิลกำลังอยู่ในช่วงทดสอบอายุการใช้งานของ Apple Watch เมื่อใช้กับแอพทั้งจากภายใน และภายนอก โดยแอปเปิลตั้งเป้าว่าจะให้ใช้งานแบบหนักๆ ได้ประมาณ 2.5 ชั่วโมง และใช้งานทั่วไปได้ 3.5 ชั่วโมง ส่วนการใช้สำหรับออกกำลังกายอย่างเดียวนั้นจะให้ได้ประมาณ 4 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

เพิ่งเพิ่มการรองรับ WatchKit มาใน iOS 8.2 รุ่น beta สำหรับเตรียมพร้อมใช้กับ Apple Watch ได้ไม่ทันไรก็มีรายละเอียดของแอพสำหรับใช้งาน Apple Watch ร่วมกับ iPhone ออกมาให้เห็นอีกแล้ว โดยพูดถึงฟีเจอร์ของ Apple Watch ที่ไม่ได้บอกเมื่อครั้งเปิดตัวอีกด้วย ไล่ทีละฟีเจอร์ได้ดังนี้ครับ

เพิ่งมีข่าวมาว่า Apple Watch มีแผนจะเริ่มขายในเดือนมีนาคม แต่ทว่าในงาน CES 2015 ที่กำลังจัดอยู่ในขณะนี้กลับมี Apple Watch รุ่นลอกเลียนแบบออกมาวางขายในงานแล้วด้วยผลงานของบริษัทจีนชื่อว่า Hyperdon

เจ้า Apple Watch ของปลอมที่ว่านี้ แม้หน้าตาจะเหมือน แต่ภายในต่างกันลิบลับโดยเฉพาะฟีเจอร์ ที่หลักๆ ทำได้เพียงเป็นตัวนับก้าว นาฬิกาจับเวลา นาฬิกาปลุก รับข้อความแจ้งเตือนจากแอพบางตัว และมีฟีเจอร์กันหายที่คาดว่าจะทำงานเมื่อหลุดจากระยะบลูทูธ

ตัวนาฬิกาทำงานได้กับ iPhone ที่เจลเบรกแล้วเท่านั้น โดยใช้งานได้ยาวนานถึง 180 ชั่วโมง ตามที่บริษัทเคลมไว้ สามารถชาร์จได้ผ่าน USB และเปิดราคามาเพียง 30 เหรียญเท่านั้น! (ประมาณ 1,000 บาท) เริ่มขายผ่านร้านค้าในสหรัฐฯ และจีนไปแล้ว

Mervis บริษัททำเครื่องประดับเปิดตัว Apple Watch รุ่นพิเศษที่นำ Apple Watch รุ่น Edition (รุ่นที่ใช้ทองสีกุหลาบ หรือ rose gold ขนาด 18 กะรัต ซึ่งคาดว่าอาจจะมีราคาสูงถึง 160,000 บาท) จับมาเปลี่ยนสายใหม่เป็นสายที่ประดับด้วยเพชรที่มีน้ำหนักรวมกัน 15.14 กะรัตทั้งสายในดีไซน์ตาข่ายแบบเทนนิส (tennis bracelet) โดยแต่ละสายนั้นจะมีเพชรวางจำนวน 8 แถว

เวลาผ่านไป รายละเอียดของ Apple Watch ก็ถูกปล่อยออกมาเพิ่มเติมเรื่อยๆ และจาก SDK ล่าสุดที่แอปเปิลเพิ่งปล่อยมาก็ได้ระบุถึงความละเอียดหน้าจอของ Apple Watch มาแล้ว

สำหรับความละเอียดหน้าจอของ Apple Watch จะแบ่งตามขนาดของหน้าจอที่มีอยู่สองขนาดคือ 38 และ 42 มม. โดยความละเอียดของหน้าจะแต่ละขนาดจะอยู่ที่ 340x272 พิกเซล และ 390x312 พิกเซล ตามลำดับ โดยใน WatchKit ยังระบุว่าหน้าจอของ Apple Watch เป็นหน้าจอระดับ Retina Display ที่ใช้กราฟิกขนาด 2x สำหรับแอพอีกด้วย

ด้วยความที่ความละเอียดของทั้งสองขนาดหน้าจอนั้นไม่เท่ากัน ทำให้รายละเอียดปลีกย่อยอย่างกราฟิกรูปภาพของทั้งสองขนาดจึงไม่เท่ากันไปด้วย งานนี้นักพัฒนาคงต้องเก็บรายละเอียดกันหน่อยครับ

หลังจากที่ Tim Cook ได้กล่าวถึงกำหนดการปล่อย WatchKit ไว้ในงานของแอปเปิลในเดือนที่แล้ว ตอนนี้ทางแอปเปิลก็ได้เปิดให้เข้าถึง WatchKit ได้แล้ว โดย WatchKit นี้ถูกรวมอยู่ในชุด Xcode 6.2 beta และ iOS 8.2 SDK beta ครับ

ใครที่พัฒนาแอพบน iOS อยู่ก็อย่าลืมเตรียมแอพให้พร้อมสำหรับ Apple Watch กันด้วยนะครับ

Steve Wozniak หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Apple ออกมาให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ CNNMoney ถึง iPhone 6 ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปได้ไม่นานว่า Apple จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้นถ้าออกสมาร์ทโฟนจอใหญ่ตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว โดยระบุว่าถ้าออกมาเร็วกว่านี้ "จะสามารถแข่งกับ Samsung ได้ดีกว่าที่เป็นอยู่"

นอกจากนั้นแล้ว เขายังให้ความเห็นเพิ่มเติมกับ Apple Watch ว่า เขาไม่ได้สนใจมันมากนัก เพราะเขาเองใช้นาฬิกาอัจฉริยะ (smart watch) มาตั้งแต่ยุคแรกๆ และบอกว่าตัวเองก็จัดการ "กำจัดมันทิ้งอย่างรวดเร็ว" (got rid of them quickly) โดยระบุว่าเขากลับไปหาสมาร์ทโฟนของเขาที่จอใหญ่กว่าเสมอ

เว็บไซต์ 9to5mac ได้ข้อมูลภายในของแอปเปิลที่อ้างว่าเป็นคำพูดของ Angela Ahrendts รองประธานอาวุโสฝ่ายค้าปลีกและร้านค้าออนไลน์ ที่พูดถึงกำหนดการวางขาย Apple Watch ว่าจะเป็นช่วง "ฤดูใบไม้ผลิ" ของปี 2015 (เดือนมีนาคมเป็นต้นไปจนถึงเดือนมิถุนายน)

ข้อความดังกล่าวของ Ahrendts พูดกับพนักงานสายค้าปลีกว่าต้องทำงานหนักในช่วงเทศกาลปลายปีนี้ และตรุษจีนต้นปีหน้า หลังจากนั้นจะต้องรับศึกหนักอีกครั้งเมื่อแอปเปิลเริ่มขายนาฬิกาในฤดูใบไม้ผลิ

ที่ผ่านมา แอปเปิลบอกกำหนดการวางขาย Apple Watch ไว้กว้างๆ เพียงแค่ "ต้นปี 2015" (early 2015) โดยไม่ระบุเดือนที่ชัดเจน

Tim Cook เพิ่งไปพูดที่งานของ Wall Street Journal (งานเดียวกับข่าว Apple Pay ถูกเปิดใช้บริการแล้ว 1 ล้านครั้งภายใน 3 วันแรก มากกว่าคู่แข่งทั้งหมดรวมกัน) โดยผู้ดำเนินรายการพยายามถามถึงอายุแบตเตอรี่ของ Apple Watch

Cook เลี่ยงจะตอบคำถามนี้ตรงๆ โดยเขาตอบว่าแอปเปิลคาดว่าคนจะใช้งานมันเยอะ จนสุดท้ายแล้วต้องชาร์จเป็นประจำทุกวัน (We think people are going to use it so much you will end up charging it daily)

เขายังบอกว่าสงคราม iOS vs Android จะไม่ซ้ำรอย Mac vs PC ในอดีตแน่ๆ เพราะปัญหาของ Mac คือมีแอพน้อยเกินไป แต่ iOS ไม่มีปัญหาแบบเดียวกัน

ในงานอีเวนท์ของแอปเปิลเมื่อคืนนี้ Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลได้กล่าวถึง Apple Watch ในคีย์โน้ตเล็กน้อยว่าจะปล่อยชุดเครื่องมือสำหรับพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDK) ของ Apple Watch หรือที่แอปเปิลเรียกว่า WatchKit ในเดือนหน้า ให้นักพัฒนาได้พัฒนาแอพพลิเคชันรองรับนาฬิกาอัจฉริยะของแอปเปิลก่อนที่จะวางจำหน่ายจริงในต้นปีหน้า

ที่มา - The Next Web

แม้ว่าจะเปิดตัวไปอย่างครบถ้วนในแง่ของการใช้งาน แต่จนถึงบัดนี้สเปคของ Apple Watch ก็ยังคงเป็นปริศนา ล่าสุดมีข่าวลือเกี่ยวกับสเปคของนาฬิกาเรือนแรกจากแอปเปิลออกมาให้ยลกันบ้างแล้ว

ข่าวลือสเปคของ Apple Watch มาจากรายงานของ Timothy Arcury ผู้อำนวยการของบริษัทลงทุน Cowen and Company ที่ระบุว่า Apple Watch รุ่นมาตรฐานมาพร้อมกับหน่วยความจำภายใน 4GB และแรม 512MB แต่เขาเชื่อว่าแอปเปิลน่าจะมีตัวเลือกหน่วยความจำมากกว่าที่ความจุ 8GB ด้วย (Apple Watch Edition ?)

แม้ว่าจะยังไม่มีใครรู้ราคาจำหน่ายที่แท้จริงสำหรับ Apple Watch Edition รุ่นสูงสุดของ Apple Watch ที่ใช้วัสดุหรูหราในการทำ แต่ John Gruber ผู้คิดค้นภาษากำกับข้อความ (markup) ชื่อดังอย่าง Markdown ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของ Apple ออกมาวิเคราะห์ว่า Apple Watch Edition อาจจะมีราคาจำหน่ายจริงพุ่งสูงถึง 4,999 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 160,000 บาท!)

แม้กระแสการตอบรับของ Apple Watch จากอุตสาหกรรมนาฬิกาอาจจะไม่ค่อยดีหลังการเปิดตัว แต่ Cindy Livingston ซีอีโอของบริษัท Guess Watches ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Guess แบรนด์สินค้าแฟชั่น กลับมีท่าทีที่แตกต่างกันออกไป โดยเพิ่งส่งจดหมายไปหา Tim Cook ซีอีโอของ Apple แสดงความยินดีที่เข้ามาในอุตสาหกรรมนี้

Tim Cook ไปออกรายการทีวี Charlie Rose และให้ข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่าง (ข่าวเก่า) ประเด็นอื่นๆ ที่ Cook พูดถึงในรายการมีดังนี้

Jean-Claude Biver ผู้อำนวยการฝ่ายนาฬิกาของบริษัท LVMH เจ้าของแบรนด์ดังอย่าง TAG Heuer, Zenith และ Hublot ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Die Welt สื่อเยอรมันโดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ Apple Watch ว่าการออกแบบนั้นไม่ดีเท่าที่ควร โดยวิจารณ์ว่า "มันดูเหมือนเป็นเพียงผลงานการออกแบบของนักศึกษาเทอมแรกเท่านั้นเอง"

Biver กล่าวแสดงความผิดหวังกับงานออกแบบของ Apple Watch ว่า "นาฬิกาตัวนี้มันช่างไม่มีเสน่ห์ดึงดูดเอาเสียเลย (แหล่งข่าวใช้คำว่า no sex appeal) มันดูหวานแหววมากเกินไป เหมือนๆ กับนาฬิกาอัจฉริยะที่มีอยู่ก่อนแล้วในท้องตลาด" เขายังย้ำความเห็นของเขาอีกว่า "ด้วยความสัตย์จริงนะ, มันดูเหมือนกับว่ามันถูกออกแบบมาโดยนักศึกษาที่ยังเรียนอยู่เทอมแรกด้วยซ้ำ"

ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิลเมื่อวาน ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการจ่ายเงินอย่าง Apple Pay ระบุไว้ว่าใช้งานได้กับอุปกรณ์ใหม่อย่าง iPhone 6, iPhone 6 Plus และ Apple Watch ซึ่งสร้างความสงสัยว่าการจ่ายเงินผ่าน Apple Watch นั้นจะทำได้อย่างไรเมื่อขาดฟีเจอร์เพื่อการยืนยันตัวตนอย่าง Touch ID ไป

หลังจากมีคำถามนี้ออกมาได้ไม่นาน ทั้งนักข่าว และผู้บริหารของ MasterCard ก็ออกมาตอบว่า Apple Watch นั้นใช้การยืนยันตัวตนก่อนชำระเงินผ่านเซนเซอร์ด้านหลังที่จะสัมผัสกับผิวของผู้ใช้ตลอดเวลา แต่ก่อนจะใช้งานแบบนี้ได้ต้องใส่รหัส PIN ก่อนเสมอ และทุกๆ ครั้งที่ถอด Apple Watch ออกจากข้อมือก็จะต้องใส่รหัส PIN อีกครั้ง

Apple Watch เปิดตัวมาพร้อมกับความสามารถที่มากมาย แต่กลับไม่มีการพูดถึงเรื่องแบตเตอรี่มากนัก ก่อนเปิดตัวเองก็มีข่าวลือว่าแบตไม่อึดมาก่อนแล้ว

หลังจากมีกระแสเรื่องนี้ออกไปได้ไม่นาน ก็มีแหล่งข่าววงในออกมายืนยันว่าแบตเตอรี่ของ Apple Watch นั้นไม่ได้ยาวนานตามที่คาดกัน โดยแอปเปิลเองก็ไม่ได้พอใจในเรื่องนี้ และมีแผนจะปรับปรุงเพื่อออกรุ่นใหม่ในปี 2015 เพื่อพัฒนาในจุดนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากที่แอปเปิลเปิดตัว Apple Watch ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วพอหลังจากที่งานจบ ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิลก็ให้สัมภาษณ์กับช่อง ABC ของสหรัฐเกี่ยวกับสินค้าที่เปิดตัวไป โดยมีตอนหนึ่งที่ทิม คุกที่เผลอเรียก Apple Watch ว่า iWatch ไปซะอย่างนั้น

อย่างที่ทราบกันดีว่าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของแอปเปิลในช่วง 10 กว่าปีให้หลังมานี้มักจะใช้คำขึ้นต้นด้วยตัว "i" (เช่น iTunes, iPhone ฯลฯ) และเมื่อมีสินค้าที่ใช้คำว่า "i" มาก ๆ เข้า ก็คงไม่แปลกเท่าไรที่ขนาดทิม คุกยังเผลอพูดว่า iWatch เลยครับ

เมื่อคืนผมนั่งดูถ่ายทอดสดงานแอปเปิลอยู่ พอถึงช่วงเปิดตัว Apple Watch ก็มีคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาทันที เนื่องจากผมเป็นคนใส่นาฬิกาข้างขวา คือ "แล้วจะใส่มันยังไง?" เพราะดูแล้วแอปเปิลเปิดวิดีโอเดโมโดยที่ไม่มีคนไหนใส่นาฬิกาข้างขวาเลย และเม็ดมะยมเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้งานพอสมควร

เช้านี้ผมเลยลองค้นดูพบว่ามีการพูดถึงเรื่องนี้กันมากทีเดียว จนมาเจอเว็บไซต์ SlashGear รายงานว่าได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่แอปเปิลแล้ว ได้ความว่าจะสามารถเลือกได้ว่าให้หน้าจอหันไปทางไหน โดยผู้ใช้ก็ต้อง "หมุน" นาฬิกาโดยให้เม็ดมะยมย้ายมาอยู่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง (จากที่อยู่บนขวา จะกลายมาเป็นล่างซ้ายแทน) แล้วก็สลับสายนาฬิกา เท่านี้ก็จะใช้นาฬิกาด้วยมือซ้ายได้แล้ว

ที่งาน Apple Event นอกจากการเปิดตัว iPhone 6 ทั้งสองรุ่นแล้ว แอปเปิลยังได้ถือโอกาสเปิดตัว Apple Watch (แอปเปิลเรียกว่า  WATCH) นาฬิกาข้อมือของตัวเองในช่วงท้ายของการนำเสนอ ซึ่งครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิลได้ออกมาใช้ประโยคเด็ดของสตีฟ จ็อบส์ อย่าง “One More Thing...” ในการเปิดตัว Apple Watch

Apple Watch เป็นนาฬิกาข้อมือที่มีความแม่นยำไม่เกิน +/- 50 มิลลิวินาที ตัวซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของ Apple Watch ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถเลือกเปลี่ยนแปลงได้ตามรสนิยมและความชอบใจ

รุ่นต่าง ๆ

เว็บไซต์ข่าว The Information อ้างข้อมูลจากพนักงานแอปเปิลที่รู้วงในว่า "อย่าคาดหวังกับแบตเตอรี่ของ iWatch ให้มากนัก" แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลว่าแบต iWatch จะอยู่ได้นานแค่ไหน

ปัญหาเรื่องแบตเตอรี่เป็นปัญหาใหญ่ของวงการ wearable ในปัจจุบัน โดยคู่แข่งร่วมวงการอย่าง Moto 360 ก็ถูกวิจารณ์เรื่องแบตเตอรี่ ส่วนอุปกรณ์อย่าง Pebble ถึงแม้แบตอยู่นานกว่าแต่ก็ขาดฟีเจอร์สำคัญอย่างจอสี-จอสัมผัส

นอกจากนี้ The Information ยังยืนยันข้อมูลก่อนหน้านี้ที่ว่า iWatch จะวางขายจริงในปี 2015

เว็บไซต์ 9to5Mac ที่เป็นเว็บรายงานข่าวเกี่ยวกับ Apple อ้างถึงรายงานข่าวของ The New York Times ที่ระบุว่า Jony Ive หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Apple ได้พูดกับนักออกแบบคนอื่นๆ ของ Apple ว่า iWatch จะทำให้ผู้ผลิตนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ ตกที่นั่งลำบาก (“Switzerland is in trouble.”)

โดยก่อนหน้านี้ทาง Apple ได้มีการว่าจ้างผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากบริษัทนาฬิกาและของหรูไปจำนวนมาก โดยรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับบริหารจากผู้ผลิตนาฬิกาชื่อดังอย่าง TAG Heuer ด้วย

แม้จะออกมาค่อนข้างมั่นใจขนาดนี้ แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่า iWatch จะสู้ Breguet ได้หรือไม่กันแน่ในเชิงความคลาสสิก