Breitling ผู้ผลิตนาฬิกาหรูจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดตัว B55 Connected นาฬิกาอัจฉริยะที่ผสานเข้ากับนาฬิกาคลาสสิกแบบเดิม เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในเชิงแนวคิด B55 Connected มีแนวคิดที่คล้ายกับ Withings Activite นั่นก็คือยังใช้กลไกในการเข็มนาฬิกาแบบเดียวกับนาฬิกาทั่วไป แต่เพิ่มคุณสมบัติในการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน รวมถึงคุณสมบัติทางอิเล็กทรอนิกส์บางอย่างเข้าไป (เช่น หน้าจอ LCD แสดงผลข้อมูล) ที่น่าสนใจคือผู้ใช้สามารถตั้งค่าเปลี่ยนเวลาของตัวนาฬิกาได้จากสมาร์ทโฟนโดยตรง ไม่ว่าจะแบบดิจิทัล หรือเข็มนาฬิกา (ในกรณีที่เดินทางไปต่างช่วงเวลา (timezone) บ่อยๆ) รวมถึงตั้งค่าอื่นๆ ของนาฬิกาได้จากตัวแอพในโทรศัพท์โดยตรง

หลังจากเมื่อช่วงต้นเดือน Pebble Time ได้ทำลายสถิติ โครงการที่ระดมทุนได้สูงที่สุดใน Kickstarter ยอดระดมทุนยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นว่าพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว หลังงาน Spring Forward ที่แอปเปิลเปิดตัว Apple Watch ไปเมื่อ 9 มีนาคมที่ผ่านมา

ในช่วงก่อนงาน Spring Forward จะเริ่ม ยอดระดมทุนต่อชั่วโมงของ Pebble Time อยู่ที่ประมาณ 6,000 ดอลลาร์ และขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 10,000 ดอลลาร์ ในช่วงงานเปิดตัว ก่อนที่จะพุ่งไปอยู่ที่ประมาณ 16,000 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ภายหลังงานจบ

เมื่อกลางปีที่แล้ว Xiaomi เปิดตัว Mi Band สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพในราคาเพียง 79 หยวนหรือประมาณ 400 บาทเท่านั้น โดยผมเพิ่งได้ลองสั่งมาใช้ และเห็นว่าคนไทยน่าจะยังสนใจกันพอสมควร บวกกับยังไม่ค่อยมีรีวิวอย่างละเอียดเป็นภาษาไทย เลยเขียนมาให้อ่านกันครับ

อัพเดต 27 พ.ค. 2558: ผมพบว่าการสั่งจากอีเบย์มีความเสี่ยงที่จะเจอของปลอมสูงมาก พี่ที่ผมรู้จักเป็นการส่วนตัวก็โดนมาแล้ว ฉะนั้นควรซื้อจากคนที่หิ้วมาเอง หรือสั่งจากเว็บไซต์ของ Xiaomi จะดีที่สุดครับ ตอนนี้ Xiaomi Singapore ก็มีขายแล้ว

ไม่ใช่แค่บริษัทไอทีที่สนใจในอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้ เพราะแม้แต่เจ้าแห่งความบังเทิงอย่าง Disney เองก็ให้ความสนใจกับอุปกรณ์ประเภทนี้อยู่ไม่น้อย ล่าสุดประกาศแผนใหม่ว่าจะลงทุนใน Magic Band สำหรับใช้ใน Walt Disney World เป็นมูลค่ากว่าพันล้านเหรียญด้วยกัน

สำหรับ Magic Band เป็นสายรัดข้อมือที่ผูกกับบัตรเครดิตของผู้ใช้ และทำหน้าที่เป็นตั๋วเข้าสวนสนุก และกระเป๋าเงินในเวลาเดียวกัน ทำให้การเที่ยวใน Walt Disney World ไม่ต้องพกเงินติดตัวแต่อย่างใด เพราะใช้การสแกน Magic Band แทนการจ่ายเงินนั่นเอง

ผู้ผลิตสัญชาติจีนอีกรายอย่าง Oppo เริ่มมีข่าวว่ากำลังซุ่มทำสมาร์ทวอทช์ของตัวเองบ้างแล้ว โดยจะมาพร้อมกับจุดขายเดียวกับสมาร์ทโฟนนั่นก็คือสามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

จากข้อมูลที่ปล่อยมาโดยบัญชีทวิตเตอร์ leaksfly ระบุว่าสมาร์ทวอทช์ของ Oppo นอกจากจะรัน Android Wear ตามสมัยนิยมแล้ว ยังจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ VOOC charging ซึ่งสามารถลดระยะเวลาการชาร์จจาก 0% ไป 100% ได้ภายใน 5 นาทีเท่านั้น

นอกจากจะมีฟีเจอร์หลุดมาแล้ว ยังมีภาพเรนเดอร์ของสมาร์ทวอทช์ตัวที่ว่าออกมาด้วย โดยจะใช้หน้าจอกลม และสามารถเปลี่ยนสายขนาด 22 มม. ได้ครับ

ที่มา - Phandroid

Elmar Mock หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์นาฬิกา Swatch ที่ถือเป็นแบรนด์ช่วยชีวิตของวงการอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิสในช่วงปี 1980 หลังจากหยุดชะงักเพราะนาฬิกากลไก quartz ราคาถูกจากญี่ปุ่นเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า การวางจำหน่าย Apple Watch นั้นจะทำให้อุตสาหกรรมนาฬิกาของสวิสเข้าสู่ "ยุคน้ำแข็ง" (ice age)

เปิดตัว พร้อมราคาอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Apple Watch ทั้งสามรุ่นในงาน Sping Forward ที่เพิ่งจบไปได้ไม่นาน

ในงานดังกล่าวมีโชว์ฟีเจอร์ของ Apple Watch อย่างละเอียดขึ้นด้วย รายละเอียดจะมาเขียนแยกถึงภายหลัง รวมๆ แล้วใกล้เคียงกับงานเปิดตัวครั้งแรก โดยรายละเอียดใหม่คือราคาของทั้งสามรุ่นได้ถูกเผยในงานนี้แล้ว ไล่ได้ดังนี้ครับ

ในช่วงประมาณ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา เราเห็นซัมซุงออกอุปกรณ์แบบสวมใส่มาแล้วหลายรุ่น (นับรวมกันได้ 6 รุ่นทั้ง Android, Tizen, Android Wear) พอมาถึงวันนี้ดูเหมือนว่าซัมซุงคงรู้สึกว่ามีสินค้าเยอะไปแล้ว ทำให้บริษัทประกาศ "ขอพัก" การออกสมาร์ทวอทช์ไปก่อน

Young-hee Lee ผู้บริหารฝ่ายอุปกรณ์พกพาของซัมซุงจึงให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่าตอนนี้บริษัทมีสมาร์ทวอทช์มากกว่าคนอื่นๆ แล้ว ตอนนี้ขอหยุดพัก (ใช้คำว่า pause) การออกสินค้าใหม่เพื่อพัฒนาสินค้าที่สมบูรณ์มากๆ แทน

ช่วงต้นปีนี้เราเห็นนาฬิการุ่นใหม่จาก LG, Huawei และแน่นอนรวมถึง Apple Watch ด้วย

ที่มา - Digits

คล้อยหลังจากการเปิดตัว Pebble Time และประสบความสำเร็จอย่างมากในการระดมทุนผ่านทาง Kickstarter วันนี้ Pebble ประกาศเปิดตัว Pebble Time Steel อย่างเป็นทางการ

แน่นอนว่า Pebble Time Steel ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมนอกจากเปลี่ยนวัสดุตัวเรือนเป็นโลหะเหล็กกล้าไร้สนิมเกรด 316L, แบตเตอรี่ใช้ได้นานขึ้นเป็น 10 วัน, จอถูกเชื่อมติดเข้ากับกระจก และมาในสีดำ (Gunmetal Black), สีเงินโลหะเหล็กกล้าไร้สนิม (Silver Stainless) และสีทอง! พร้อมสายหนังมาให้เปลี่ยนในตัวด้วย

HTC เปิดตัวสายรัดข้อมือ HTC Grip อุปกรณ์ wearable ชิ้นแรกของบริษัท โดยเป็นความร่วมมือกับบริษัทอุปกรณ์กีฬา Under Armour

HTC Grip มีความสามารถทุกอย่างที่สายรัดข้อมือฟิตเนสควรมี ใช้หน้าจอ PMOLED, GPS, เซ็นเซอร์วัดการเคลื่อนไหว, เข็มทิศ ส่วนซอฟต์แวร์ใช้แพลตฟอร์ม UA Record เก็บสถิติด้านสุขภาพของผู้สวมใส่

HTC Grip มีกำหนดวางขายเดือนเมษายนนี้ จะขายผ่านทั้งช่องทางของ HTC และของ Under Armour ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ราคายังไม่ประกาศครับ

ปีที่แล้ว Huawei เปิดตัวสายรัดข้อมือที่ถอดเป็นหูฟังได้ TalkBand B1 หลังจากนั้นเวลาผ่านมาอีก 1 ปีเต็ม ก็ได้เวลาเปิดตัว Huawei TalkBand B2 รุ่นอัพเกรดครับ

TalkBand B2 ยังยึดแนวทางการออกแบบสายรัดข้อมือแยกร่างได้เหมือนเดิม ส่วนของหน้าจอเป็นจอสัมผัส PMOLED ขนาด 0.73" ส่วนตัวเรือนอัพเกรดเป็นอะลูมิเนียมอัลลอย สายมีให้เลือกสองแบบคือสายหนัง และสายยางที่การันตีว่าไม่แพ้หรือระคายเคือง

จากที่มีคลิปหลุดออกมาเมื่อคืน วันนี้ Huawei เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะตัวแรกของบริษัท Huawei Watch ที่งาน MWC 2015 ตามคาดครับ

หลังจากที่เคยออกมาให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ วันนี้ Swatch หนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาจากสมาพันธรัฐสวิส เปิดตัว Touch Zero One นาฬิการุ่นใหม่ในกลุ่มของ Swatch Touch อย่างเป็นทางการ

Fullpower บริษัทที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีด้านอุปกรณ์ไอทีแบบสวมใส่ ที่เรียกว่า MotionX (ถูกนำไปใช้ใน Jawbone UP) ประกาศจับมือกับ Union Horlogere Holdings ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของผู้ผลิตนาฬิกาจากสมาพันธรัฐสวิส ร่วมทุนกันจัดตั้งบริษัท MMT (Manufacture Modules Technologies) โดยบริษัทนี้จะมีหน้าที่ในการพัฒนากลไกของนาฬิกาที่สามารถใช้ได้กับเทคโนโลยีของ Fullpower รวมถึงให้การสนับสนุนและการอนุญาตให้ใช้งาน (licensing) เทคโนโลยี MotionX กับบริษัทนาฬิกาของสวิสด้วย

นักปล่อยข่าวลือเจ้าเก่า @upleaks เผยรายละเอียดของอุปกรณ์สวมใส่ตัวแรกจาก HTC ในชื่อโค้ดเนมว่า PETRA ในตอนนี้ยังไม่มีภาพหลุดใดๆ ออกมา มีเพียงสเปกที่หลุดออกมาดังนี้

กูเกิลเตรียมดันตัวเองเข้าสู่ตลาดอุปกรณ์ไอทีสวมใส่อีกรอบ หลังจากการปล่อย Android Wear และแพลตฟอร์มเพื่อสุขภาพอย่าง Google Fit เมื่อปีก่อน ล่าสุดมีรายงานว่ากูเกิลกำลังจะลงทุนทางพันธมิตรกับผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Jawbone ในเร็ววัน

การเข้าเป็นพันธมิตรกับ Jawbone น่าจะช่วยให้กูเกิลสามารถเข้าถึงตลาดสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพได้ดีขึ้น เนื่องจากตัว Android Wear นั้นรองรับเฉพาะสมาร์ทวอทช์ และ Jawbone เองก็เป็นหนึ่งในผู้นำของตลาดอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้ (ที่ไม่ใช่สมาร์ทวอทช์) จากซีรีส์ UP ที่วางขายไปแล้วหลายรุ่น หลายราคา

หลังจากที่ LG เปิดตัว G Watch Urbane ไปไม่นาน ล่าสุดได้เปิดตัวรุ่นอัพเกรด Urbane LTE แล้ว โดยถึงแม้สเปครวมๆ จะไม่แตกต่างจาก G Watch Urbane แต่ทางด้านฟีเจอร์เรียกได้ว่าอัพเกรดได้ค่อนข้างน่าสนใจเลยครับ

นอกเหนือไปจากฟีเจอร์ของ G Watch Urbane แล้ว รุ่น LTE สามารถโทรออกและรับสายผ่าน VoLTE (Voice over LTE), ระบุตำแหน่งผู้ใช้ผ่าน GPS รวมไปถึงทำธุรกรรมผ่าน NFC ได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นทาง LG ยังเปลี่ยนเม็ดมะยมตรงกลางเม็ดเดียว เป็นปุ่ม 3 ปุ่ม ปุ่มบนสำหรับเข้าหน้า Quick Setting ปุ่มกลางสำหรับสลับหน้านาฬิกาและแอพ ปุ่มล่างสุดเป็นปุ่มย้อนกลับ

หลังจากไมโครซอฟท์ปล่อย SDK สำหรับ Microsoft Band อดีตพนักงานโนเกีย Justin Angel ผู้เคยแฮกสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพนี้ในคราวก่อนได้ลองเล่น SDK ดังกล่าวดู มีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้

มีคนไปพบว่ามีภาพสมาร์ทวอทช์รุ่นที่ยังไม่ออกสู่ตลาดบนเซิร์ฟเวอร์ของ Pebble เอง ถึงแม้ภาพนั้นจะถูกลบออกไปแล้วแต่ก็ยังมีคนเก็บภาพนั้นได้ทัน

จากภาพ (ดูได้ที่ท้ายข่าว) จะเห็นว่าสมาร์ทวอทช์มีหน้าจอสี ดูเหมือนขอบจอหนาขึ้นและปุ่มเล็กลงกว่ารุ่นก่อน เว็บไซต์ 9to5Mac เสริมว่า สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่นี้จะไม่มีหน้าจอสัมผัส, มีระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้งเทียบเท่ากับอุปกรณ์รุ่นแรกจาก Pebble, ซีพียู Cortex M4, ไจโรสโคปแบบ 6 แกน และระบบปฏิบัติการได้รับการออกแบบใหม่หมดโดยทีมที่อยู่เบื้องหลัง webOS

ที่มา: 9to5Mac

ดูเหมือน Pebble ผู้ผลิตสมาร์ทวอทช์รายแรกๆ ของตลาด จะเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในเร็ววันนี้ หลังจากเพิ่งเริ่มนับถอยหลังในหน้าเว็บหลัก โดยจุดหมายคือวันอังคารหน้าที่ 24 กุมภาพันธ์เวลา 22 นาฬิกาตามเวลาบ้านเรา

Geeksphone ผู้ผลิตมือถือ Revolution ที่สามารถรันได้ทั้ง Firefox OS และ Android และร่วมมือกับ Silent Circle ผลิต Blackphone สมาร์ทโฟนเน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เผยกับเว็บไซต์ TechCrunch ว่า กำลังพัฒนา GeeksMe สายรัดข้อมือพร้อมหน้าปัดจอ OLED ทรงกลมอยู่

ใครที่ตามข่าววงการอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ช่วงบูมๆ น่าจะรู้จักกับ Neptune Pine สมาร์ทวอทช์จอยักษ์ (?) ที่มาพร้อมกับสเปคอย่างกับสมาร์ทโฟน ซึ่งหลังจากวางขายจริงก็โดนรีวิวถล่มยับว่าเหมือนกับเอาสมาร์ทโฟนจอเล็กมาใส่สายเป็นสมาร์ทวอทช์เสียมากกว่า วันนี้ค่ายเดิมกลับมาอีกครั้งด้วยความพยายามที่จะทำอุปกรณ์สวมใส่ในรูปแบบใหม่อีกแล้ว

และของใหม่ในครั้งนี้ก็คือ Neptune Duo ที่แพคคู่มาด้วย Neptune Hub สมาร์ทวอทช์จอยักษ์ที่จะเรียกว่าเป็นกำไลรัดข้อมือก็ว่าได้ กับ Neptune Pocket หน้าจอไร้สายสำหรับเป็นหน้าจอที่สองให้กับ Neptune Hub นั่นเอง

แม้ว่าจะมีข่าวเสียหายตั้งแต่ยังไม่เริ่มขายมาพอควร แต่ดูเหมือนจะไม่ได้หยุดความร้อนแรงของสมาร์ทวอทช์ที่หลายคนจับตามองอย่าง Apple Watch ไปได้ ล่าสุด The wall Street Journal ไปได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวภายในระบุว่าแอปเปิลได้สั่งชิ้นส่วนสำหรับเจ้าสมาร์ทวอทช์ตัวนี้มากถึง 5-6 ล้านชิ้น โดยแบ่งเป็น Apple Watch Sport ครึ่งหนึ่ง และที่เหลือเป็น Apple Watch รุ่นอื่นๆ

สำหรับค่าตัวของ Apple Watch Sport จะอยู่ที่ 399 เหรียญ ตามมาด้วย Apple Watch รุ่นปกติที่ยังไม่เปิดราคา แต่คาดว่าราว 499 เหรียญ และรุ่นแพงสุดจะเป็น Apple Watch Edition ที่อาจจะแพงถึงขั้นหลายพันเหรียญเลยทีเดียว

Wall Street Journal รายงานข่าววงในว่า Apple Watch รุ่นแรกโดนตัดฟีเจอร์ออกเพียบ โดยเฉพาะฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่เคยชูเป็นจุดขายในงานเปิดตัวปีที่แล้ว

ตัวอย่างฟีเจอร์ที่ถูกตัดทิ้งได้แก่ การวัดระดับความเครียดและความดันเลือด เหตุผลคือฟีเจอร์ซับซ้อนเกินไปและเสี่ยงต่อการโดนกำกับดูแลจากภาครัฐในประเด็นความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ที่ไม่ระบุชื่อถูกตัดไปเพราะทำงานได้ไม่เสถียรพอ

ปัญหาของแอปเปิลในตอนนี้คือจุดขายของ Apple Watch เริ่มลดลง ทำให้แอปเปิลเริ่มมีปัญหาว่าอาจดึงดูดลูกค้าได้น้อยลง เพราะอธิบาย "เหตุผลที่ต้องใช้ Apple Watch" ได้ยากกว่าเดิม

Wall Street Journal ยังเผยข้อมูลว่าแอปเปิลเตรียมผลิต Apple Watch ราว 5-6 ล้านเครื่องเพื่อวางขายในเดือนเมษายนนี้

ยังคงเดินหน้าเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ที่เน้นความหรูหราในในชื่อรุ่น LG Watch Urbane อันมีจุดเด่นอยู่ที่ตัวเรือนทำด้วยโลหะทั้งชิ้น รูปลักษณ์เรียบหรูในสีเงิน และทอง (ดูแล้วน่าจะเป็น Rose Gold) พร้อมกับสายหนังขนาด 22 มม.

G Watch Urbane ใช้สเปคใกล้เคียงกับ G Watch R ทั้งหน้าจอกลม P-OLED ขนาด 1.3" ความละเอียดสูงขึ้นเป็น 320x320 พิกเซล, ซีพียู Snapdragon 400 ความถี่ 1.2GHz, หน่วยความจำภายใน 4GB และแรม 512MB, มีเซนเซอร์จับชีพจร, กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67, แบตเตอรี่จุ 410 mAh และแน่นอนว่ารัน Android Wear ครับ