คนที่ทดลองใช้ Windows 8 รุ่นทดสอบต่างๆ คงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามันเร็วขึ้นมาก และผลการทดสอบล่าสุดของ PC Magazine โดยเทียบ Windows 8 RP กับ Windows 7 Ultimate ก็ยืนยันว่า Windows 8 ชนะแบบทิ้งห่างในหลายแง่มุม

ที่ชัดเจนและจับต้องได้มากที่สุดคือเวลาที่ใช้บูตเครื่อง บนฮาร์ดแวร์ตัวเดียวกัน Windows 7 ใช้เวลา 38 วินาที ในขณะที่ Windows 8 RP ใช้เวลาน้อยกว่านั้นเกินเท่าตัวคือ 17 วินาที ส่วนเวลาปิดเครื่องก็ไปในทิศทางเดียวกันคือ Windows 7 ใช้เวลา 12.2 วินาที และ Windows 8 RP ใช้เวลา 9.9 วินาที

ดูเหมือนไมโครซอฟท์ตั้งใจที่จะลดจำนวนรุ่นย่อย (edition) ของ Windows Server 2012 แบบเดียวกับที่ทำกับ Windows 8 โดยบริษัทประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า Windows Server รุ่นล่าสุดจะมีรุ่นย่อยเพียง 4 รุ่น (จากเดิม Windows Server 2008 R2 ที่มีถึง 7 รุ่นย่อย) คือ

ความคืบหน้าของโครงการสร้างระบบปฏิบัติการบนมือถือของ Mozilla ที่ใช้โค้ดเนมว่า Boot to Gecko (B2G) ล่าสุดทาง Mozilla ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการของระบบปฏิบัติการนี้ว่า Firefox OS

การทำตลาดยังคงจับมือเป็นพันธมิตรกับ Telefónica บุกตลาดบราซิลเป็นที่แรกในช่วงต้นปี 2013 โดยมือถือรุ่นแรกที่จะวางขายจะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon ของ Qualcomm ยังไม่ยืนยันว่าผลิตโดย ZTE หรือว่า TCL (ภายใต้แบรนด์​ Alcatel)

ปล่อย Windows 8 รุ่น Release Preview มาได้สามรุ่นแล้ว คิวต่อไปของไมโครซอฟท์คือเตรียมปล่อยรุ่น RTM ให้กับผู้ผลิตไปใช้กับฮาร์ดแวร์ของแต่ละเจ้า ที่เพิ่งมีข่าวลือจาก Neowin ที่อ้างแหล่งข่าวที่เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Windows มาว่าไมโครซอฟท์เตรียมปล่อยรุ่นดังกล่าวในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้

เมื่อดูจากปฏิทินงานของไมโครซอฟท์แล้ว งานที่เข้าข่ายว่าจะถูกใช้สำหรับเปิดตัว Windows 8 RTM มากที่สุด คงหนีไม่พ้นงานคอนเฟอเรนซ์จำกัดคนเข้าของไมโครซอฟท์ที่ชื่อว่า Microsoft Global Exchange (MGX) ซึ่งปีนี้จะจัดในวันที่ 17-20 กรกฎาคม

Meltemi เป็นระบบปฏิบัติการที่เคยเป็นข่าวว่าโนเกียซุ่มพัฒนาเพื่อมาแทน S40 อย่างไรก็ตาม โนเกียไม่เคยพูดถึงมันอย่างเป็นทางการเลยสักครั้ง

ไมโครซอฟท์ให้รายละเอียดของคุณสมบัติใหม่ใน Windows 8 ที่น่าจะถูกใจคนแถวนี้กันมาก เพราะยกเครื่องเอนจินการเล่นมัลติมีเดียเสียใหม่ ให้กินพลังซีพียูน้อยลงมาก (2-3 เท่าตัวในบางกรณี ดูกราฟประกอบ) และช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้นบนอุปกรณ์พกพา

ปัจจุบันนี้การถอดรหัสวิดีโอง่ายขึ้นมากเพราะซีพียูมีตัวถอดรหัสภาคฮาร์ดแวร์ช่วย (สำหรับ codec ยอดนิยมบางตัวอย่าง H.264) ทำให้พึ่งพากำลังของซีพียูน้อยลง แต่ไมโครซอฟท์ก็เพิ่มเทคนิคการประมวลผลมัลติมีเดีย โดยแทนที่จะแบ่งการทำงานของซีพียูมาประมวลผลบ่อยๆ ก็ใช้วิธีรวมเป็นชุดแล้วนำมาประมวลผลทีเดียว ช่วยให้ซีพียูมีช่วงเวลาการหลับได้นานขึ้น (ตัวเลขของไมโครซอฟท์คือ 100 เท่า เทียบกับหลับ 10ms ของเดิม และหลับ 1 วินาทีในของใหม่) ผลคือซีพียูกินแบตเตอรี่ลดลง

มาตามนัด ไมโครซอฟท์ออกรุ่นพรีวิวรุ่นที่สามและรุ่นสุดท้ายของ Windows 8 ในชื่อ Windows 8 Release Preview มาแล้ว

ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ได้แก่

กูเกิลเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชุด Chrome OS รุ่นที่สองแล้ว โดยเพิ่มคอมพิวเตอร์รุ่นตั้งโต๊ะอย่าง Chromebox เข้ามาด้วย

Chromebox

เริ่มจากอุปกรณ์ตัวใหม่คือ Chromebox หรือคอมพิวเตอร์รุ่นเดสก์ท็อปที่รันระบบปฏิบัติการ Chrome OS โดยกูเกิลให้ซัมซุงเป็นผู้ผลิตให้

Chromebox เป็นกล่องขนาดเล็กวางในแนวนอน ไม่ได้มีจอภาพมาให้ในตัว แต่สามารถต่อจอภาพภายนอกได้พร้อมกัน 2 จอในตัว (ช่องต่อจอเป็น DisplayPort++ ที่ใช้กับ HDMI/DVI/VGA ได้ด้วย) ส่วนเมาส์กับคีย์บอร์ดมีขายแยกต่างหาก

สเปก

งานวิจัยจาก IDC ที่ได้รับสปอนเซอร์จากไมโครซอฟท์ สำรวจองค์กรขนาดใหญ่จำนวน 9 แห่งที่ใช้ทั้งระบบปฏิบัติการ Windows XP และ Windows 7 ผลสำรวจพบว่า Windows XP มีต้นทุนการดูแลรักษาเยอะกว่ามาก

ตัวเลขของ IDC บอกว่าในบางกรณี ค่าใช้จ่ายเรื่องการสนับสนุนผู้ใช้และระบบไอทีของ Windows XP อาจมากกว่า Windows 7 ถึงห้าเท่าตัว นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องเสถียรภาพและความปลอดภัยของ Windows XP ที่ต่ำกว่า ทำให้องค์กรอาจเสียเวลากับปัญหาเครื่องติดไวรัส ต้องบูตระบบหรือลงใหม่ ซึ่งถือว่าเสียเวลาทำงานไปกับเรื่องเปล่าประโยชน์

ปีที่ผ่านมาหลังจากเอชพีเปลี่ยนผู้บริหารหลายครั้ง นโยบายในเรื่องของ webOS ก็ไม่มั่นคงอย่างมาก โดยที่ผ่านมาเอชพีประกาศเปิดซอร์สโค้ดของ webOS ให้ชุมชนแต่ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวต่อจากนั้น วันนี้ The Verge ก็รายงานออกมาว่าทีมนักพัฒนา webOS ก็กำลังจะลาออกจากเอชพีไปอยู่กูเกิลแล้ว

ข่าวนี้มาจากแหล่งข่าวของ The Verge เพียงรายเดียว โดยยังไม่มีรายละเอียดว่าใครในทีม webOS บ้างที่จะย้ายงานไป รวมถึงจะย้ายไปทำงานด้านใดกันบ้าง เพราะเป็นไปได้ที่ทีมพัฒนานี้จะอยู่กับทีมแอนดรอยด์หรือทีม Chrome ก็ได้ เพราะ webOS นั้นเป็นระบบปฎิบัติการที่ผูกกับ HTML5 และ Webkit อย่างมาก

ถึงตอนนี้ ใครที่โตมากับยุครุ่งเรื่องของ PDA ก็อาจจะต้องเตรียมบอกลา Palm และลูกหลานของมันอย่างเป็นทางการ

คนที่คุ้นกับการกด F8 เพื่อเข้า Safe Mode ในวินโดวส์รุ่นก่อนๆ คงต้องปรับตัวกันสักหน่อย เพราะไมโครซอฟท์ออกแบบกระบวนการบูตและเมนูตัวเลือกตอนบูตใหม่หมดตั้งแต่หัวจรดเท้า

ไมโครซอฟท์อธิบายว่า Windows 8 ปรับวิธีการบูตเครื่องใหม่ให้เร็วขึ้นมาก (ฮาร์ดแวร์ที่ออกแบบมาสำหรับ Windows 8 และใช้ SSD สามารถบูตเสร็จใน 7 วินาที) ทำให้แนวคิดการขัดจังหวะหรือ interrupt ช่วงบูตเพื่อเข้าโหมดพิเศษทำได้ยากขึ้นกว่าเดิม (ช่วงเวลาการเช็คปุ่ม F8 ลดเหลือเพียง 200 ms ถ้ากดกันทันก็ลองได้ ซึ่งไมโครซอฟท์ลองเองแล้ว ทำเวลาได้เร็วที่สุด 250ms ระหว่างการปุ่มกดแต่ละครั้ง)

ไมโครซอฟท์เผยข้อมูลผ่านบล็อก Building Windows 8 ถึงการใช้งานจอมอนิเตอร์ที่มากกว่า 1 หน้าจอบน Windows 8 ว่ามีสิ่งที่ปรับปรุงเข้ามาอีกหลายประการ

อย่างแรกคือไมโครซอฟท์เผยสถิติจาก Windows Feedback Program ว่ามีคนใช้งานหลายหน้าจอมากน้อยแค่ไหน ผลมีดังนี้

• เดสก์ท็อป: หนึ่งจอ 85.32%, สองจอ 13.48%, สามจอ 0.85%, สี่จอ 0.34%
• โน้ตบุ๊ก: หนึ่งจอ 95.64%, สองจอ 4.36%, ที่เหลือ 0%

สำหรับของใหม่บน Windows 8 แบ่งออกเป็น 3 เรื่องคือ ภาพพื้นหลัง ทาสก์บาร์ และหน้าจอ Start/Metro

ข่าวสั้นแต่มีนัยยะสำคัญต่อผู้ใช้เดสก์ท็อปจำนวนมาก เพราะไมโครซอฟท์ออกมาประกาศแล้วว่าจะถอดธีม Aero/Aero Glass ที่ใช้มาใน Vista/7 ออกจาก Windows 8

ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่าต้องการเปลี่ยนหน้าตาของเดสก์ท็อปให้ใกล้เคียงกับ Metro มากขึ้น จึงถอดองค์ประกอบบางอย่างของ Aero Glass เช่น แสงสะท้อนหรือเงาใต้หน้าต่าง ออกไป (ทาสก์บาร์ยังใช้แบบโปร่งแสงอยู่) สีพื้นของขอบหน้าต่างเปลี่ยนมาใช้สีขาวเรียบๆ แทน ส่วนหน้าต่างที่ไม่ได้ใช้งานจะกลายเป็นสีเทาอ่อน

ทั้งหมดนี้ไมโครซอฟท์การันตีว่าโปรแกรมที่ออกแบบมาสำหรับ Vista/7 จะไม่ต้องแก้ไขใดๆ เพียงแต่ธีมจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเท่านั้น

ในที่สุดไมโครซอฟท์ก็ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า ระบบปฏิบัติการสำหรับเซิร์ฟเวอร์รุ่นถัดไปที่ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อ Windows Server 8 จะใช้ชื่อทำตลาดว่า Windows Server 2012 แทน

จากชื่อทุกคนก็พอเดาได้ว่ามันจะออกภายในปีนี้ ซึ่งไมโครซอฟท์เองก็พูดชัดแล้วว่าจะออกในปีนี้เช่นกัน

ไมโครซอฟท์ออกมาประกาศข้อมูลอย่างเป็นทางการแล้วว่า Windows 8 จะมีรุ่นย่อยหรือ edition เพียง 3 รุ่น ซึ่งจะต่างไปจาก Vista/7 อย่างมาก (และกลับไปคล้าย XP)

ต่อเนื่องจากข่าว Chrome OS มีหน้าต่างและเดสก์ท็อปแล้ว! เมื่อวานนี้กูเกิลได้ออก Chrome OS เวอร์ชัน 19.0.1084.17 Dev Channel ให้กับผู้ใช้ Chromebook แล้ว

ของใหม่ที่สำคัญคือการยกเครื่อง UI ครั้งใหญ่ เพิ่มหน้าต่างที่สามารถปรับขนาดได้ (ของเดิมจะทำงานในโหมดเต็มหน้าจอตลอดเวลา) เพิ่มทาสก์บาร์ (กูเกิลเรียกว่า Shelf) เพิ่มหน้าจอเรียกเว็บแอพ (คล้ายๆ กับ Launchpad ของแมคหรือ Dash ของ Ubuntu) และมีภาพพื้นหลังที่เปลี่ยนเองได้

Windows Vista ออกเมื่อปี 2006 ซึ่งก็นานพอสมควร ตอนนี้มันกำลังจะหมดระยะ Mainstream Support ในวันที่ 10 เมษายน 2012 (พรุ่งนี้) และกำลังจะเข้าสู่ช่วง Extended Support แล้ว

ความหมายของมันก็คือ

ความสำเร็จของ Kindle Fire ที่นำ Android 2.x ไปปรับแต่งจนกลายเป็นระบบปฏิบัติการของตัวเอง แต่ก็ยังขายดีถล่มทลาย กลายเป็นต้นแบบให้บริษัทฮาร์ดแวร์อื่นๆ อยากทำแบบเดียวกันบ้าง เพราะจะได้ปลดแอกตัวเองออกจากอิทธิพลของกูเกิลสักที

Microsoft Research ได้เริ่มทำการวิจัยและพัฒนาระบบปฏิบัติการโฉมใหม่เพื่อใช้ภายในที่อยู่อาศัยภายใต้ชื่อโครงการว่า HomeOS โดยมุ่งเน้นที่จะสร้างความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย หลักการของ HomeOS คือการเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ทั้งหมดภายในที่อยู่อาศัยผ่านทางคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการนี้รวมทั้งสามารถประยุกต์ใช้กับแอพพลิเคชันของระบบปฏิบัติการ และรองรับการใช้งานจากระยะไกลด้วย

ก่อนยุคสมัยของ Windows จะครองเมือง ไมโครซอฟท์เคยจับมือกับ IBM พัฒนาระบบปฏิบัติการแบบกราฟิกชื่อ OS/2 สำหรับพีซีในอนาคต แต่ภายหลังไมโครซอฟท์ก็ถอนตัวออกจากความร่วมมือครั้งนี้ หันไปทำ Windows ของตัวเอง และปล่อยให้ IBM ทำ OS/2 ต่อไปเพียงลำพัง

สุดท้ายระบบปฏิบัติการสองตัวนี้กลายเป็นคู่แข่งกันโดยตรง (GUI บนพีซี) ถึงแม้ OS/2 จะได้ชื่อว่าเป็นระบบปฏิบัติการมากความสามารถในยุคนั้น แต่ประวัติศาสตร์ก็บอกเราชัดเจนแล้วว่าใครชนะ ตอนนี้ OS/2 ก็เหลือเพียงตำนานอีกรายหนึ่งของวงการไอทีที่คนไม่ค่อยรู้จักด้วยซ้ำ

OS/2 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 เมษายน 1987 นับถึงวันนี้ก็ 25 ปีแล้ว ใครทันใช้จงแสดงตัวแต่โดยดี

ทุกวันนี้ไมโครซอฟท์ยังปิดปากเงียบเรื่องกำหนดวางจำหน่ายของ Windows 8 ซึ่งสื่อและนักวิเคราะห์ก็คาดกันว่าน่าจะเป็นไตรมาสที่สามของปี ใกล้เคียงกับช่วงการออกของ Windows 7 เมื่อสามปีก่อน

สำนักข่าว Bloomberg อ้างแหล่งข่าววงในที่ใกล้ชิดกับไมโครซอฟท์ ให้ข้อมูลว่า Windows 8 จะพัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์ช่วงฤดูร้อน (กลางปี) และวันวางขายจริงคือเดือนตุลาคม

ที่น่าสนใจคือ Windows on ARM (WOA) จะวางขายพร้อมกับ Windows 8 รุ่นปกติ โดยมีฮาร์ดแวร์เปิดตัวน้อยกว่า 5 รุ่น (เป็นแท็บเล็ต 3 รุ่น) ส่วนฮาร์ดแวร์ที่เป็นฝั่ง x86 จะมีมากกว่า 40 รุ่น

แหล่งข่าวยังบอกอีกว่าไมโครซอฟท์จะจัดงานสัมมนาใหญ่ แถลงข้อมูลการออก Windows 8 กับบรรดาพาร์ทเนอร์รายต่างๆ ในเดือนเมษายนนี้

หัวข่าวฟังดูแปลกๆ แต่เนื้อหาก็เป็นไปตามนั้น เพราะระบบปฏิบัติการที่มีแต่เบราว์เซอร์อย่าง Chrome รันเต็มหน้าจอ เริ่มมี "หน้าต่าง" "เดสก์ท็อป" "ทาสก์บาร์" เหมือนชาวบ้านเขาแล้ว

การเพิ่มองค์ประกอบเหล่านี้เข้ามาใน Chrome OS จะช่วยให้ระบบปฏิบัติการมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถสลับโปรแกรมได้ง่ายขึ้น และทำให้การรันโปรแกรมที่อยู่นอกเบราว์เซอร์อย่างหน้า File Manager หรือหน้าจอตั้งค่าของระบบไม่สับสนเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามตัว Chrome OS จะยังเน้นที่ "เว็บแอพ" เป็นหลักเหมือนเดิม

กลุ่มแฮกเกอร์ชื่อก้องโลก Anonymous เปิดตัวระบบปฏิบัติการของตนเองภายใต้ชื่อ "Anonymous-OS" ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกปรับแต่งมาจาก Ubuntu เวอร์ชัน 11.10 และทำงานภายใต้สภาพแวดล้อม MATE สำหรับรายละเอียดของระบบปฏิบัติการนี้ถูกระบุไว้เพื่อใช้ในการศึกษาและใช้ในการตรวจสอบความปลอดภัยของเว็บไซต์ต่างๆ และทางผู้พัฒนายังประกาศที่จะไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ใดๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของผู้ใช้

ช่วงนี้ไมโครซอฟท์จัดหนักระบบปฏิบัติการทุกระดับชั้น เริ่มตั้งแต่ Windows 8 Consumer Preview ตามด้วย Windows Server 8 Beta คราวนี้เป็นคิวของรุ่นเล็ก Windows Embedded กันบ้าง

คนที่เคยอ่านประวัติของ Linux คงทราบดีว่า ต้นกำเนิดของมันมาจาก Linus ลองเขียนโค้ดเลียนแบบ Minix ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ Unix เพื่อการศึกษาวิชาระบบปฏิบัติการ (ในขณะนั้น) แต่ภายหลังโครงการขยายใหญ่โตจนเกินระดับของ Minix ไปมาก

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ Minix จะโดน Linux กลบรัศมีไปเยอะ แต่ตัวระบบปฏิบัติการก็ยังคงอยู่และพัฒนาเรื่อยมาในฐานะซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส และภายหลังเมื่อ Minix เริ่มขยายตัวออกมาจากวงการการศึกษา มันก็ได้รับความนิยมในวงการอุปกรณ์ฝังตัว (เพราะออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก ไม่ค่อยมีอะไรซับซ้อน เดี๋ยวนักศึกษางง)