ไมโครซอฟท์ฉลอง 1 ปี Xbox 360 ด้วยบริการ Xbox Live Video Marketplace ซึ่งเจ้าของเครื่อง Xbox 360 สามารถดาวน์โหลดวิดีโอมาดูที่เครื่องได้โดยตรง (สำหรับรายการทีวีจะเก็บไว้ได้ตลอด ส่วนภาพยนตร์มีอายุ 24 ชั่วโมง)

บริการนี้จะเปิดในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นการตัดหน้าโครงการ iTV ของแอปเปิลที่มีกำหนดออกในไตรมาสแรกของปีหน้า คู่แข่งที่ได้รับผลกระทบแบบอ้อมๆ อีกรายคือ TiVo

ที่น่าตื่นเต้นคือไมโครซอฟท์ยังบอกว่าช่วงเปิดตัว 20% ของวิดีโอจะเป็น HD และในอนาคตจะเป็น HD เกือบทั้งหมด อันนี้เป็นทีเด็ดในการต่อสู้กับ BluRay ของ PS3 เพราะเจ้าของ Xbox 360 สามารถดูวิดีโอ HD ได้โดยไม่จำเป็นต้องมี HD DVD

ข่าวเครื่องเล่นเพลงและวีดีโอจากไมโครซอฟท์กำลังจะวางตลาดในสัปดหา์นี้อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าของไมโครซอฟท์กับไม่น้อย เมื่อไมโครซอฟท์ระบุว่าเครื่อง Zune และ PlaysForSure ซึ่งเป็นมาตรฐานการป้องกันการทำสำเนาของไมโครซอฟท์เองนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด และไมโครซอฟท์จะไม่มีการทดสอบความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ที่ใช้ทำงานบนมาตรฐาน PlaysForSure และจะไม่มีการอัพเดตเพื่อแก้ไขความไม่เข้ากันแต่อย่างใด

PlaysForSure คือความพยายามในการเอาขนะ iTMS ของแอปเปิลที่กำลังครองตลาดเพลงออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ หลังจากประสบความล้มเหลวในตลาดเพลง ไมโครซอฟท์พยายามอีกครั้งด้วย Zune เนื่องจากครั้งที่แล้วไมโครซอฟท์หวังพึ่งเครื่องเล่นจากพันธมิตรมากกว่าที่จะออกเครื่องเล่นเอง

Apple Job Opportunities ได้ประกาศหาพนักงานในตำแหน่ง Mobile Marketing Manager สำหรับ iTunes

โดยงานนี้ผู้สมัครจะต้องสามารถที่จะรวม iTunes Engineering เข้าสู่ตลาดของมือถือได้ ต้องมีการนำแฟน ๆ เพลง หนัง หรือคอนเสิร์ตให้รู้จักกับข้อเสนอหรือโปรโมชั่นต่าง ๆ ต้องมีความรู้เกี่ยวกับตลาดมือถือ รวมไปถึงความเข้าใจตัวมือถือ ขีดจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องสามารถทำงานกับผู้ให้บริการมือถือต่าง ๆ ทั่วโลกได้อีกด้วย และที่พลาดไม่ได้ ทำงานเกี่ยวกับ iTunes ต้องมีความรักในด้านดนตรีและความบันเทิง

iPod กำจัดคู่แข่งมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ Zune อาจเป็นอะไรที่ต่างออกไป ComputerWorld ให้เหตุผล 5 ข้อที่ทำให้ Zune กลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ iPod

ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ถูกท้าทายอย่างหนักจากโปรแกรมที่ชื่อว่า FairUse4WM ที่สามารถถอดระบบ DRM ออกจากไฟล์เพลงได้ ทำให้เพลงทั้งหมดสามารถฟังได้โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมของทางไมโครซอฟท์ และที่สำคัญคือมันจะไม่หมดอายุดังที่ไมโครซอฟท์ตั้งใจ

เนื่องจากรูปแบบการให้บริการของ PlayForSure นั้นคือการสมัครเพื่อฟังเพลงแบบไม่จำกัดในช่วงเวลาที่กำหนด ดังนั้นเรื่องนี้จึงทำให้ไมโครซอฟท์เดือดร้อนกว่าเจ้าอื่นๆ เช่นแอปเปิลอยู่มาก เพราะผู้ใช้บริการเพลงที่ใช้ PlayForSure สามารถโหลดเพลงจากผู้ให้บริการได้ไม่จำกัด แล้วถอดระบบป้องกันออกไปจากเพลงได้อย่างอิสระ

ไม่น่าเชื่อเลยครับ เหตุการณ์ปฏิวัติ ที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 19 กันยายน 2549 ที่ผ่านมา จะเป็นการสร้างปรากฏการณ์การสื่อสารรูปแบบใหม่ในโลกออนไลน์ เกิดขึ้นในสังคมไทย

เนื่องจากในคืนวันที่ 19 กันยายน 2549 ข้อมูลเรื่องการปฏิวัติ และการนำรถถังเข้ามาในเมือง ยังไม่มีที่ไหนเอามาเผยแพร์ได้เลย เพราะสื่อทีวีก็โดนงดออกอากาศในทุกๆ ช่อง สื่อวิทยุและสื่ออื่นๆ ก็ถูกควบคุม ซึ่งรวมถึงเว็บไซต์ใหญ่ๆ และเว็บไซต์ข่าวหลาย ๆ แห่งก็ไม่สามารถเข้าได้ นี้จึงเป็นโอกาศของเว็บไซต์เล็กๆ และการสื่อสารทางออนไลน์ในช่องทางอื่นๆ ที่จะเข้ามาช่วยทำให้การสื่อสารเกิดขึ้นได้ในเวลานั้น

หลังจากปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจไปมา Napster ที่โด่งดังมาจากการจุดประกายระบบการแชร์ไฟล์ ก็เตรียมประกาศขายธุรกิจของตัวเองแล้ว

โดยในตอนนี้ตัว Napster นั้นมีรายรับประมาณปีละ 100 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับเงินสดหมุนเวียนในมืออีก 100 ล้าน แต่ด้วยยอดขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่แล้วถึง 10 ล้านดอลลาร์ และโอกาสที่จะเข้าไปแข่งขันกับผู้ให้บริการอื่นๆ อย่าง iTMS นั้นคงเป็นเรื่องยากจึงทำให้น่าสงสัยว่าใครจะมาซื้อธุรกิจในสภาวะนี้ แต่ในเรื่องของการเป็นที่รู้จักนั้นก็อาจจะทำให้มีการลงทุนเข้ามาก็เป็นได้ เช่นที่ AOL ซื้อเน็ตสเคปไปเพียงเพื่่อเอาโดเมน Netscape.com เท่านั้น

หลังจากแอปเปิลเปิดตัว iTV (ไม่ใช่อันที่เป็นของสิงค์โปรไทยนะ) ไปเมื่อวันก่อน ทางกูเกิลก็ออกมายอมรับกับข่าวลือที่ว่าทางกูเกิลกำลังอยู่ระหว่างการเจรจา ร่วมมือกับทางแอปเปิลในผลิตภัณฑ์ตัวนี้อยู่

แม้ทางกูเกิลและแอปเปิลจะไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด ว่าที่ว่าเป็นการร่วมมือนั้นเป็นการร่วมมืออะไร แต่หลายสำนักก็ออกมาฟันธงกันระนาวแล้วว่ากูเกิลนั้นต้องการให้ iTV เข้าถึง Google Video ได้โดยตรง

เปิดตัวออกมาไม่ถึง 48 ชั่วโมง iTunes 7 ที่เปิดตัวกันอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการรองรับ Cover Flow และฟีเจอร์อื่นๆ ที่แอปเปิลถึงกับออกปากว่าเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สุดนับแต่ การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 แต่ผู้ใช้จำนวนมากก็ออกมาบ่นกับบั๊กจำนวนมากใน iTunes ตัวนี้ โดยบั๊กที่ผู้ใช้พบมีตั้งแต่เล่นเพลงแล้วเสียงเละเป็นพักๆ, เล่นข้ามเพลงไป, ทำงานร่วมกับ iPod nano บางรุ่นไม่ได้, ทำงานกับ Podcast ไม่ได้ หรือกระทั่งทำเพลงหายไปทั้งชุด!!!

ไมโครซอฟท์เตรียมออกบริการฝากวิดีโอออนไลน์ (ที่ยังไม่ยืนยัน) ว่า Soapbox โดยลักษณะจะเหมือนกับ YouTube เกือบหมด มีฟีเจอร์ครบครันไม่ว่าจะเป็น tag หรือ feed (อันนี้ YouTube ไม่มี) สามารถอัพโหลดวิดีโอได้ 100MB ใน "แทบทุก" ฟอร์แมต

บริการนี้กลับไปอยู่ที่ MSN แทนที่จะเป็น Windows Live แต่ว่าก็ยังแนบแน่นกับ Windows Live Spaces เหมือนที่เราคาดเดากันได้

ที่มา - Ars Technica

ระหว่างที่เรากำลังรอ 802.11n กันอย่างใจจดจ่อ เรื่องหนึ่งที่อาจจะรำคาญใจหลายๆ คนคือ อุปกรณ์ต่อพ่วงทุกวันนี้มันไม่ไร้สายกันเสียที แม้จะมีมาตรฐาน Bluetooth มานานแล้ว แต่็การใช้งานก็จำกัดอยู่ค่อนข้างมาก

แต่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เทคโนโลยีไร้สายอาจจะอยู่ใกล้กว่าที่เราคิด เมื่อโทรทัศน์ทั้งหมดในบ้านของเราอาจจะทำงานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่นเครื่องเล่นแผ่นออปติคอล โดยไม่ต้องมีสายอีกต่อไปด้วยมาตรฐาน Wireless HDMI

ระบบป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงของไมโครซอฟท์หรือ DRM 10 ที่ใช้กับบริการ PlayForSure ในที่สุดก็ถูกแครกจนได้โดยโปรแกรมที่มีชื่อว่า FairUse4WM (จากฟอรั่มใน doom9.org)

ซึ่งตอนนี้ใครที่ใช้บริการของ Napster To Go หรือ Rhapsody To Go คงจะสะดวกสบาย ไร้ปัญหากับการย้ายเพลงไปฟังยังเครื่องเล่น MP3

เรื่องนี้ไม่รู้จะส่งผลกระทบกับโครงการ Zune อย่างไรบ้าง

จากภาคหนึ่ง, ภาคสอง เรื่องก็คือ Creative ได้ฟ้องแอปเปิลว่า GUI แบบเมนูแยกตามศิลปินและอัลบั้มใน iPod ไปเหมือนกับสิทธิบัตรที่ Creative จดไว้ตั้งแต่ปี 2001 ซึ่งตอนนั้นใช้สำหรับ Zen ซึ่งแอปเปิลก็ตอบโต้ด้วยการฟ้องกลับ Creative ว่าละเมิดสิทธิบัตรอื่นๆ ของแอปเปิลเองเหมือนกัน

แต่ตอนนี้คดียุติแล้ว โดยแอปเปิลยอมจ่ายตังให้ Creative เป็นเงิน 100 ล้านเหรียญ สตีฟ จ็อบส์ให้สัมภาษณ์ว่า Creative โชคดีมากที่จดสิทธิบัตรนี้ไว้เร็ว (เลยได้ตังจากการฟ้องได้) ส่วนฝั่ง Creative ก็แสดงความยินดีที่ยุติคดีนี้ได้

หลังๆ อาจจะเห็นข่าวปัญหาวิดีโอใน YouTube ละเมิดลิขสิทธิ์ค่อนข้างเยอะ แต่ด้วยยอดคนเข้าถล่มทลาย (ให้โหลดวิดีโอวันละ 50 ล้านตอน, คนเข้าเดือนละ 13 ล้าน) ทำให้บรรดาค่ายเพลงทั้งหลายยอม YouTube ไปก่อน

ฝั่ง YouTube ก็เตรียมแก้ปัญหานี้อย่างยิ่งใหญ่ โดยการประกาศว่าจะเก็บมิวสิควิดีโอทั้งหมดที่มีมา (to have every music video ever created up on YouTube) ภายใน 12-18 เดือน ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับค่ายเพลงต่างๆ

ต่อไปเวลาอ้างถึงมิวสิคเพลงไหน ก็ YouTube!

ที่มา - Ars Technica

ถึงแม้ Podcast เพิ่งเกิดมาไม่นาน แต่ก็มีกระแสนิยมพูดถึงมากจนบางทีน่าสงสัยว่ามันเกินจริงไปหรือเปล่า (ผลวิจัยของ Forrester Research ในเดือนเมษาบอกว่า Podcast เป็นแค่ "hype")

แต่ตอนนี้มีผลสำรวจใหม่จากอีกสำนัก Nielsen Analytics ชื่อรายงานว่า The Economics of Podcasting ประมาณการให้เราว่า 6% ของประชากรอินเทอร์เน็ตของสหรัฐใช้งาน Podcast เป็นประจำ ส่วนใหญ่ประมาณ 3-4 ตอนต่อสัปดาห์ และความยาวเฉลี่ยประมาณ 44 นาที ซึ่งก็ถือว่าไม่น้อย

สมาพันธ์อุตสาหกรรมดนตรีนานาชาติ (International Federation for the Phonographic Industry) ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว Bloomberg ว่าทางสมาพันธ์กำลังดำเนินการทางกฏหมายกับยาฮูในประเทศจีน ข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เนื่องจากเว็บของฮายู มีการลิงก์ไปยังเว็บขายสินค้าด้านดนตรีซึ่งร้อยละ 90 เป็นสินค้าผิดกฏหมาย

การฟ้องร้องครั้งนี้เกิดขึ้นได้ เนื่องจากกฏหมายทรัพย์สินทางปัญหาฉบับใหม่ของจีน เปิดช่องที่ระบุถึงผู้ฟ้องร้องว่า สามารถเอาผิดกับเว็บที่ลิงก์ไปยังเว็บละเมิดลิขสิืทธิ์ได้ด้วย หากเว็บนั้นรู้หรือควรรู้ว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ในเว็บที่ตนลิงก์ไปถึง

หลังจากประสบความสำเร็จดีทั้งเพลงและรายการทีวีบน iTMS คราวนี้ถึงคิวของหนังซะที โดยแอปเปิลอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทภาพยนตร์ต่างๆ ว่าจะตั้งราคาขายเท่าไร ฝ่ายแอปเปิลต้องการทุกเรื่องราคาเดียว 9.99 เหรียญ ส่วนค่ายหนังต้องการให้ราคาต่างกันออกไปตามความเก่า-ใหม่

คราวที่แล้วค่ายเพลงต่างกดดันให้แอปเปิลเปลี่ยนวิธีคิดราคาเพลงที่ขายใน iTMS ให้เป็นราคาไม่ตายตัวเช่นกัน แต่ด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 80% เป็นน้ำหนักในการต่อรอง ทำให้สตีฟ จ็อบส์ชนะมาได้ คราวนี้ถ้าแอปเปิลสู้ค่ายหนังไม่ได้ ก็เป็นไปได้ว่าหนังที่ขายจะมีราคาระหว่าง 9.99-19.99 เหรียญต่อเรื่อง

หลังจากครีเอทีฟใช้ศาลเป็นอาวุธในตลาดเครื่องเล่นเอ็มพีสาม ทางแอปเปิลก็ออกมาแสดงจุดยืนด้วยการตอบโต้ ด้วยการฟ้องครีเอทีฟว่าเป็นฝ่ายละเมิดสิทธิบัตรของทางแอปเปิลถึงสี่ชิ้นด้วยกัน ที่น่าสนใจคือการยื่นฟ้องนี้มีขึ้นในวันที่ 15 ที่ผ่านมา วันเดียวกับที่ทางครีเอทีฟยื่นฟ้องแอปเปิล

การแสดงท่าทีเช่นนี้คงเป็นการบอกครีเอทีฟไปในตัวว่าแอปเปิลไม่สนใจจะเจรจาใดๆ เพื่อยอมความกันแม้แต่น้อย แต่แอปเปิลกำลังใช้การตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันกันทีเดียว

หลังจากที่ครีเอทีฟได้รับสิทธิบัตรในการจัดเรียงหมวดหมู่เพลงอัตโนมัติในปีที่แล้ว ครีเอทีฟซึ่งอาจจะถูกมองว่าเป็นรองในตลาดเครื่องเล่นเอ็มพีสามก็กลับมาใช้กฏหมายเป็นอาวุธใหม่ คณะกรรมการการค้านานาชาติของสหรัฐระบุว่าทางครีเอเทีฟได้ยื่นคำร้องให้มีการระงับไม่ให้แอปเปิลนำเข้า หรือขายไอพอดทั้งหมดในทันที เนื่องจากการละเมิดสิทธิบัตรดังกล่าว

งานนี้เดาได้ไม่ยากกว่าเดี๋ยวก็มีจ่ายเงินชดเชยแล้วต่างคนต่างไป

ที่มา - TGDaily

สัปดาห์นี้แอปเปิลประสบชัยชนะในสองศึกที่เกี่ยวข้องกับ iTMS

ศึกแรกคือบรรดาค่ายเพลงใหญ่ Big Four อันได้แก่ Universal, Warner Music, EMI และ Sony BMG ที่เคยออกมาฮึ่มฮั่มว่าจะคิดราคาเพลงแบบไม่ตายตัว (เพลงดังก็ขายแพง) ได้ยอมรับเงื่อนไขในการเจรจากับแอปเปิลแล้ว ทำให้เพลงที่ขายใน iTMS จะยังคงราคาเดิม เพลงละ 99 เซ็นต์ต่อไป อย่างไรก็ตามข่าววงในบอกมาว่าสัญญาอาจเป็นแค่ระยะสั้น ทำให้ปัญหานี้อาจกลับมาอีกในอนาคตอันใกล้

ที่มา - CNN

ใครที่เล่นเกมออนไลน์น่าจะคุ้นกับโฆษณาสินค้าต่างๆ ที่แทรกเข้ามาในเกมกันบ้าง

ตอนนี้มีการประเมินว่าตลาดโฆษณาในเกมจะได้รับความนิยมเพิ่งสูงมากในอีกปีสองปีนี้ และจะมีมูลค่าแค่เฉพาะในสหรัฐถึง 1.8 พันล้านเหรียญภายในปี 2010

นอกจากเกมออนไลน์แล้ว เกมคอนโซลอย่าง Burnout Revenge บน Xbox 360 ยังเปิดให้ดาวน์โหลดรถแข่งเพิ่มเติมฟรีๆ เพียงแต่รถเหล่านั้นจะมีโฆษณาแปะมาด้วย (ทำยังกะ F1) ตัวอย่างโฆษณาที่มีก็อย่างเช่น Alienware และ Dolby เป็นต้น

สงครามแผ่นออปติคอลรุ่นต่อไประอุขึ้นเรื่อยๆ เมื่อค่าย Blu-ray อย่าง TDK ออกมาประกาศว่าพร้อมวางตลาดแผ่น BD-R ที่เขียนได้ครั้งเดียวที่ความจุ 25 กิกะไบต์ และแผ่น BD-RW ที่เขียนซ้ำได้ที่ความจุเดียวกัน โดยแผ่นทั้งสองจะวางจำหน่ายในราคา 19.99 และ 24.99 ดอลลาร์ตามลำดับ

งานนี้ทางด้าน HD-DVD รีบออกมาโต้ว่าแผ่นเขียนได้ความจุ 30 กิกะไบต์ก็กำลังวางตลาดในเร็วๆ นี้เช่นกัน ส่วนด้าน Blu-ray นั้นยังมีไม้เด็ดคือแผ่นแบบสองชั้นที่ให้ความจุถึง 50 กิกะไบต์ ซึ่งทาง TDK ระบุว่าจะวางขายกันในปลายปี เพราะเครื่องที่รองรับยังไม่มีออกมาจนกว่านะถึงช่วงนั้น

Flickr สร้างมาตรฐานให้กับเว็บอัพโหลดรูปไปแล้ว มาถึงคิวของวิดีโอกันบ้าง อันที่คุ้นๆ ตากันหน่อยก็มี Google Video กับ YourTube แต่เอาเข้าจริงยังมีอีกเยอะ

ที่ DVguru มีรีวิวเว็บอัพโหลดวิดีโอจำนวน 10 แห่ง มีตัวที่น่าสนใจอย่าง Revver (คนอัพโหลดคลิปได้ตังจากค่าโฆษณาด้วย) หรือ Jumpcut (ตัดต่อวิดีโอมันออนไลน์เลย) ผลสรุปก็คือยังไม่มีตัวไหนชนะกันเด็ดขาด ขึ้นกับวัตถุประสงค์มากกว่าว่าอยากได้อะไร

ที่มา - DVguru

Designtechnica มีบทความสรุปสถานการณ์เพลงออนไลน์รอบโลกประจำปี 2006

ที่น่าสนใจที่สุดคงเป็นตัวเลขครับ ช่วงระหว่างคริสต์มาสถึงปีใหม่ปีที่แล้วประมาณอาทิตย์นึง มีเพลงออนไลน์ถูกขายในอเมริกาประมาณ 20 ล้านเพลง และในอังกฤษประมาณ 1 ล้านเพลง แต่ถึงแม้เทียบยอดขายตลอดปีกับปี 2004 เพลงออนไลน์จะโตถึง 194% แต่ถ้าคิดทั้งอุตสาหกรรมเพลงแล้ว มันยังเป็นแค่ 6% ของทั้งตลาด

AllofMP3 เว็บไซต์เพลงจากรัสเซียที่เรื่องลิขสิทธิ์ยังลูกผีลูกคน เปิดตัว allTunes โปรแกรมจัดการเพลงและดาวน์โหลดเพลงได้ เหมือน iTunes อย่างไงอย่างงั้น (ลองอ่านออกเสียงดูก็ฟังคล้ายๆเลย)