Arthur D. Levinson ประธานบอร์ดคนปัจจุบันของแอปเปิล (เป็นบอร์ดมาตั้งแต่ปี 2000 และเป็นประธานบอร์ดแทนสตีฟ จ็อบส์ ในช่วงสุขภาพย่ำแย่ในปี 2011) ไปพูดที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และเปิดใจตอบคำถามเกี่ยวกับสตีฟ จ็อบส์เป็นครั้งแรก

เว็บไซต์ The Verge ได้สัมภาษณ์ Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล ถึงความรู้สึกเกี่ยวกับภาพยนตร์ jOBS และข่าวที่ว่าเขาไม่มีส่วนร่วมต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ Wozniak ได้ตอบว่า "เขาอ่านสคริปต์ได้ตราบเท่าที่เขาสามารถอดทนต่อมันและคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ" และในที่สุดเขาก็ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมต่อภาพยนตร์นี้

Wozniak ได้เผยรายละเอียดสคริปต์ในส่วนของปฏิสัมพันธ์ระหว่างเขากับ Jobs ที่เขาได้รับมา โดยในบทระบุว่า Jobs พยายามให้เขาใช้ยา แต่ในความเป็นจริง Jobs ไม่เคยทำเช่นนั้นเลย หากเขาคุยกับ Jobs เรื่องยา Jobs จะรู้ว่า Wozniak จะไม่ยอมติดยาแต่ก็จะไม่ว่าอะไรและออกไปเที่ยวข้างนอกกับเพื่อนที่ติดยา

ภาพยนตร์ชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์ JOBS ได้ประกาศเมื่อวานแล้วว่าจะเข้าฉายรอบปฐมฤกษ์ที่ Sundance Film Festival วันที่ 19 เมษายนที่จะถึงนี้ ตอนนี้รายการ Entertainment Tonight ก็ได้นำคลิปแรกจากในภาพยนตร์นี้ออกมาให้ชมแล้ว จากในคลิปเราจะเห็นจ็อบส์ (รับบทโดย Ashton Kutcher) กำลังเถียงกับ Wozniak (รับบทโดย Josh Gad) เกี่ยวกับการสร้างระบบปฏิบัติการให้กับคอมพิวเตอร์ขึ้น

Wozniak: ไม่มีใครอยากจะซื้อคอมพิวเตอร์หรอก

จ็อบส์: คนเขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเขาอยากได้อะไร ถ้าเขายังไม่เคยเห็นมัน?

เข้าไปชมคลิปได้ที่นี่ครับ

รายงานล่าสุดของรอยเตอร์สเผยว่า สตีฟ จ็อบส์ เคยขู่กับ Palm ไว้ว่าถ้าไม่ยอมตกลงกับแอปเปิลในข้อตกลงห้ามซื้อตัวพนักงานกันและกัน แอปเปิลจะฟ้อง Palm กรณีละเมิดสิทธิบัตรของแอปเปิลทันที โดยข้อมูลจากรายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฟ้องแอปเปิล, กูเกิล, Pixar, Lucasfilm และบริษัทอื่น ๆ ที่มีส่วนร่วมในสัญญาห้ามซื้อตัวพนักงาน มีผลทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมแย่ลง

ต่อจากข่าว บ้านสตีฟ จ็อบส์ โดนขโมยขึ้น แต่ขโมยไม่รู้ว่าเป็นบ้านสตีฟ จ็อบส์ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว สรุปแล้วจับตัวขโมยได้ชื่อ Kariem McFarlin วัย 35 ปี

McFarlin เข้าไปขโมยกุญแจบ้านที่เก็บไว้ในเรือนเก็บของ (ซ่อนกุญแจไว้เพื่อให้ช่างซ่อมบ้านเข้ามาซ่อมแซมบ้านได้สะดวก) สิ่งที่เขาขโมยไปมีคอมพิวเตอร์สองเครื่อง ไอแพดหนึ่งเครื่อง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนหนึ่ง อัญมณีและสิ่งของส่วนตัว รวมถึงกระเป๋าเงินและใบขับขี่ของสตีฟ จ็อบส์ด้วย

Businessweek ได้แบ่งปันเรื่องราวที่ Steve Jobs ชักจูงให้ Mark Hurd ซีอีโอเอชพีที่ถูกไล่ออกในปี 2010 เนื่องด้วยคดีล่วงละเมิดทางเพศ (ข่าวเก่า) กลับเข้าไปทำงานที่เอชพีโดยเขาจะเป็นธุระในการเชื่อมความสัมพันธ์ของ Hurd กับเอชพีให้เอง

Hurd ต้องลาออกจากเอชพีเนื่องจากแรงกดดันของบอร์ด สามวันหลังจากนั้น Hurd ได้รับอีเมลจาก Steve Jobs ว่าอยากคุยด้วย เขาจึงมาพบ Jobs ที่บ้านใน Palo Alto ทั้งคู่ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงคุยกัน Jobs บอกให้ Hurd ทำในสิ่งที่ถูกต้อง กลับไปที่เอชพี เขาจะเป็นธุระในการเขียนจดหมายและโทรไปหาบอร์ดเอชพีให้ทีละคน

ภาพยนตร์ชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์ เรื่อง jOBS ที่รับบทโดยแอซตัน คุทเชอร์ ได้กำหนดฉายจริงเรียบร้อยแล้วครับ หลังจากที่มีข่าวว่าจะมีกำหนดการฉายรอบปฐมฤกษ์ในเดือนนี้

หลังจากที่ USPTO ได้เข้ารื้อค้นคลังสิทธิบัตรที่แอปเปิลขอจดเอาไว้ เพื่อใช้ปกป้องสิทธิของตัวเองต่างๆ นานา มากมาย เมื่อเดือนตุลาคม USPTO ได้ประกาศแช่แข็งและยกสิทธิบัตรขึ้นมาพิจารณาใหม่ไปแล้ว 1 ฉบับคือ US Patent 746938 - Apple Rubbing Banding ถ้าไม่เข้าใจ สิทธิบัตรฉบับนี้คือเอฟเฟค เด้งไปเด้งมาเวลาเลื่อนเมนูต่างๆ ที่ดูเหมือนหนังยางน่ะครับ

ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดของทิม คุก ยังมีประเด็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของเขากับสตีฟ จ็อบส์

คุกบอกว่าเขารักจ็อบส์มาก และคิดถึงจ็อบส์ทุกวัน เขาเล่าว่าก่อนจ็อบส์เสียชีวิตไม่นาน ตอนที่จ็อบส์เรียกคุกเข้าไปคุยให้รับตำแหน่งซีอีโอของแอปเปิล จ็อบส์บอกกับคุกว่าต้องการให้การเปลี่ยนผ่านราบรื่น และคุกไม่จำเป็นต้องแบกภาระว่าจะ "บริหารแอปเปิลตามแนวทางของสตีฟ จ็อบส์" ได้อย่างไร แต่เป็น "ทำสิ่งที่คิดว่าถูกต้องในสายตาของตัวเอง"

คุกบอกว่าคำพูดนี้ของจ็อบส์ช่วยปลดภาระอันหนักหน่วงของเขาในการรับช่วงบริหารแอปเปิลไปได้มาก เขายังบอกอีกว่าตอนที่เขาเป็นซีอีโอ จ็อบส์อาการดีขึ้น และเขาคิดว่าจ็อบส์จะอยู่กับแอปเปิลในฐานะประธานได้อีกนาน

สถาบันภาพยนตร์ Sundance ได้ออกมาเผยว่า jOBS ภาพยนตร์ชีวประวัติ "สตีฟ จ็อบส์" นำแสดงโดย Ashton Kutcher จะฉายรอบปฐมฤกษ์ในเดือนมกราคมปีหน้า ที่เทศการภาพยนตร์ซันแดนซ์

ผู้อ่าน Blognone คงรู้จักบริษัท Pixar Animation Studios กันเป็นอย่างดี (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของดิสนีย์) บริษัทนี้เดิมทีเป็นหน่วยคอมพิวเตอร์กราฟิกของ Lucasfilm ก่อนที่จะแยกตัวออกมาโดยเงินลงทุนของสตีฟ จ็อบส์

ล่าสุดมีพนักงานของ Pixar คนหนึ่งชื่อ Junn Lee โพสต์ภาพถ่ายของอาคารสำนักงานใหญ่ของ Pixar ที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "The Steve Jobs Building" เพื่อเป็นเกียรติแก่สตีฟ จ็อบส์ ในฐานะอดีตเจ้าของบริษัท (ก่อนขายให้ดิสนีย์) นั่นเอง

ทาง Pixar เองยังไม่แถลงข่าวใดๆ ในเรื่องนี้ครับ

ที่มา - @ijunns, Pixar News

เชื่อหรือไม่ ว่าเมื่อก่อนสตีฟ จ็อบส์ และแอปเปิลไม่ได้เป็นนักเลงสิทธิบัตรเหมือนทุกวันนี้ แต่ว่าก่อนหน้าที่จะมีปัญหาสิทธิบัตรในอุตสาหกรรมมือถือ แอปเปิลเคยโดน Creative Technology ฟ้องกรณี iPod ละเมิดสิทธิบัตรในปี 2006 (ย้อนอ่านข่าวเก่าบน Blognone ได้) โดยจากรายงานของ New York Times สตีฟ จ็อบส์ได้สาบานว่าต่อไปนี้แอปเปิลจะจดสิทธิบัตรทุกสิ่งทุกอย่างให้หมด

5 ตุลาคม 2554 สตีฟ จ็อบส์หนึ่งในบุคคลสำคัญของวงการไอที ได้จากโลกนี้ไปด้วยโรคมะเร็งในอายุ 56 ปี สิ่งหนึ่งที่จ็อบส์ได้พิสูจน์ไว้คือ ไม่ว่าจะรักหรือจะเกลียดเขา แต่อย่างน้อยเขาก็ีส่วนที่ช่วยผลักดันให้วงการไอที, ดนตรี และภาพยนตร์ ได้ก้าวไปข้างหน้า

เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการจากไป กลุ่มผู้ที่รักและชื่นชมในตัวสตีฟ จ็อบส์ โดยไม่ได้จำกัดค่าย ไม่จำกัดว่าจะต้องใช้สินค้าแอปเปิลแต่อย่างใด ได้รวมตัวกันจัดทำคลิปวิดีโอเพื่อแสดงความรำลึกถึง และเพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้รับรู้ถึงความเป็นตัวตนของสตีฟ จ็อบส์ โดยได้เลือกการให้เสียงในโฆษณาชุด "Think Different" ซึ่งถือเป็น 1 ในโฆษณาที่เป็นตำนานของทั้งแอปเปิลและตัวสตีฟ จ็อบส์เอง

Bloomberg Businessweek รายงานเส้นทางของแอปเปิลเมื่อไม่มีสตีฟ จ็อบส์ ไว้มากมาย โดยมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับแผนที่และ iOS Search Engine ดังนี้

จ็อบส์เป็นผู้ริเริ่มการทำแผนที่ด้วยตนเอง โดยสั่ง Scott Forstall รองประธานฝ่าย iOS ให้ไปตั้งทีมงานลับที่ชั้น 3 ตึก 2 ในสำนักงานใหญ่แอปเปิลเพื่อทำแผนที่แทน Google Maps บน iPhone โดยก่อนตาย จ็อบส์เกลียดกูเกิลมาก ที่นอกจากจะลอกฟีเจอร์ของ iPhone ไปแล้ว ยังไม่ยอมให้ฟีเจอร์ Turn-by-turn ของ Google Maps กับ iPhone

จ็อบส์เคยหารือว่าจะเอา Google Search Engine ออกจาก iPhone แต่ผู้บริหารระดับสูง 2 คนคัดค้าน เพราะลูกค้าต้องต่อต้านเรื่องนี้แน่ ๆ

Madame Tussauds ได้ทำหุ่นขี้ผึ้งสตีฟ จ็อบส์ขึ้นมาเนื่องในโอกาสครบรอบหนึ่งปีที่สตีฟ จ็อบส์ได้จากเราไป แน่นอนว่าหุ่นตัวนี้ต้องมาในชุดเสื้อคอเต่าสีดำ, กางเกงยีนส์ Levi's 501, รองเท้าผ้าใบและแว่นตาสั่งทำพิเศษของ Lunor ตามสไตล์การแต่งตัวของสตีฟ จ็อบส์นั้นเอง

มูลค่าของหุ่นขี้ผึ้งตัวนี้อยู่ที่ 1,500,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 193,400 ดอลลาร์สหรัฐ) ใช้เวลาทั้งหมดสามเดือนในการถอดแบบชนิดที่ว่าเหมือนสำเนาออกมาทุกรายละเอียด และทาง Madame Tussauds ได้รับการอนุญาตจากครอบครัวของจ็อบส์และแอปเปิลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหุ่นขี้ผึ้งสตีฟ จ็อบส์จะจัดแสดงที่ Madame Tussauds สาขาฮ่องกงจนถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2555 ก่อนจะย้ายมาจัดแสดงที่สาขากรุงเทพและเซี่ยงไฮ้ต่อไป

The New York Times ได้ลงบทความว่าด้วยปัญหาของแผนที่ใน iOS 6 ซึ่งเนื้อหาตอนหนึ่ง มีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับทัศนคติของแอปเปิลต่อโปรแกรมแผนที่ดังนี้ครับ

สัปดาห์นี้ดูเหมือนจะเป็นสัปดาห์แห่งข่าวของสตีฟ จ็อบส์ อย่างแท้จริง หลังจากที่วัดธรรมกายเสนอสารคดี "สตีฟ จ็อบส์ตายแล้วไปไหน" และถูกสื่อใหญ่นำไปพูดถึง จนกระทั่งมีคำชี้แจงจากทางวัด เรียกได้ว่ามีให้เสพอ่านกันทุกวัน ข่าวนี้จะเป็นการส่งท้ายสัปดาห์สตีฟ จ็อบส์ ด้วยภาพชุดใหม่จาก "jOBS" ภาพยนตร์อินดี้ว่าด้วยชีวประวัติของผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลผู้ล่วงลับ ในช่วงปี 1971 - 2000 ซึ่งก่อนหน้านี้เคย

จากข่าว ธรรมกายเสนอสารคดี "สตีฟ จ็อบส์ตายแล้วไปไหน" ผมได้รับการติดต่อจากพระมหาทศพร ปุญฺญงฺกุโร เว็บมาสเตอร์ของ dmc.tv ชี้แจงเรื่องเนื้อหาที่เป็นประเด็นข่าว ซึ่งก็ได้เพิ่มส่วนคำชี้แจงต่อท้ายข่าวเอาไว้แล้ว

วันนี้ผมได้รับอีเมลจากพระมหาทศพร ปุญฺญงฺกุโร อีกครั้ง ขอแก้ไขข้อมูลในข่าวชิ้นเดิมอีกรอบ (ซึ่งมุมมองของวัดธรรมกายกับผู้เขียนข่าวคือคุณ nant อาจไม่ตรงกัน)

ทางเราไม่มีปัญหากับการชี้แจงข้อมูลของต้นสังกัด (เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องราว) เพียงแต่เห็นว่าข่าวเดิมตกหน้าแรกไปไกลแล้ว (ปัจจุบันอยู่หน้า 3) ก็ขอโพสต์เป็นข่าวใหม่เพื่อให้ทราบโดยทั่วกันครับ

หลังจาก Blognone ลงข่าว ธรรมกายเสนอสารคดี "สตีฟ จ็อบส์ตายแล้วไปไหน" ก็มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวนี้ตามมาอีกพอสมควร (ใครพบเห็นอาจแจ้งลิงก์ไว้ได้ในคอมเมนต์) ที่โด่งดังหน่อยคงเป็นรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางช่อง 3 ที่รายงานข่าวนี้เมื่อเช้านี้ (21 ส.ค.)

ผมเห็นว่าในรายการได้พูดถึงคอมเมนต์ในข่าวข้างต้นด้วยบ้างส่วน ซึ่งก็ถือเป็นผลงานของชุมชนผู้อ่านที่นี่ด้วย เลยนำคลิปมาลงเพื่อจะได้ทราบทั่วกันว่า เรื่องนี้ถึงสรยุทธแล้วครับ (คลิปแปะไม่ได้ ดูกันเองตามลิงก์)

อัพเดตครั้งที่สอง: อ่าน คำชี้แจงจากวัดธรรมกายเรื่องสตีฟ จ็อบส์ (ครั้งที่สอง) ประกอบ และขอปิดคอมเมนต์ในข่าวนี้ ไปคุยกันในข่าวใหม่แทน

ทางสถานีโทรทัศน์ DMC โดยวัดพระธรรมกาย ได้นำเสนอชีวิตหลังความตายของ สตีฟ จ็อบส์ โดยทางรายการอ้างว่า วิศวกรอาวุโสคนหนึ่งของแอปเปิลชื่อ โทนี่ ทรวง ได้ขอให้ท่านพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) ใช้ญาณตรวจสอบภพภูมิของสตีฟ จ็อบส์ หลังความตาย มีใจความสรุปว่า

บ้านของสตีฟ จ็อบส์ในเมืองพาโลอัลโต ถูกขโมยวัย 35 ปีชื่อ Kariem McFarlin บุกขึ้นไปขโมยของ ตามหลักฐานของทางการระบุว่าได้คอมพิวเตอร์และทรัพย์สินอื่นๆ ไป 17 รายการ รวมมูลค่าความเสียหาย 60,000 ดอลลาร์ ตอนนี้จับตัวขโมยได้เรียบร้อย

เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคมแต่เพิ่งมาเป็นข่าวเพราะนักข่าวไปค้นพบเรื่องนี้จากเอกสารของสำนักงานอัยการ และตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นบ้านของสตีฟ จ็อบส์ ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าญาติๆ อาจไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นข่าว

ตอนนี้บ้านของสตีฟ จ็อบส์ไม่มีคนอาศัยอยู่เพราะอยู่ระหว่างการปรับปรุง ส่วนอัยการของคดีนี้ให้สัมภาษณ์กับ CNET ว่าขโมยรายนี้ไม่น่าจะรู้ว่านั่นเป็นบ้านของสตีฟ จ็อบส์ แต่คงผ่านมาแล้วเห็นบ้านไม่มีใครอยู่เลยบุกขึ้นไปขโมยของนั่นเอง

คดีแอปเปิลฟ้องซัมซุงละเมิดสิทธิบัตรในอเมริกายังมีเรื่องต่อเนื่อง โดยล่าสุดแอปเปิลได้เสนอศาลให้ถอดข้อกล่าวหาตอนหนึ่งที่ซัมซุงยื่นฟ้องไว้ โดยซัมซุงได้ยกคำพูดของสตีฟ จ็อบส์ในหนังสือชีวประวัติ Steve Jobs ที่ว่า "จะทำลายล้าง Android ทุกวิถีทาง" โดยระบุว่าคำพูดนี้แสดงให้เห็นว่าแอปเปิลมีอคติในการฟ้องร้องที่นำไปสู่ความคิดที่ไม่ถูกต้อง จนคนของแอปเปิลถูกทำให้เชื่อกันว่าต้องช่วยกันทำลาย Android ให้จงได้

แอปเปิลแย้งต่อศาลว่าการอ้างอิงนี้ไม่สมเหตุสมผล ซึ่งผู้พิพากษา Lucy Koh ก็เห็นด้วยโดยระบุว่าการพิจารณาคดีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสตีฟ จ็อบส์ ประเด็นนี้จึงถูกยกไป

มัลคอล์ม แกลดเวลล์ (Malcolm Gladwell) นักเขียนหนังสือที่ขายดีที่สุด (best selling) หลายเล่ม อาทิ Outliers: The Story of Success (ชื่อภาษาไทย: สัมฤทธิ์พิศวง) ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องระบบทุนนิยมและความเป็นผู้ประกอบการ (capitalism and entrepreneurship) ที่ห้องสมุดของกรุงโตรอนโต ประเทศแคนาดา ว่า ความไม่มีศีลธรรม (อาทิ *การขาดคุณธรรมกำกับชีวิตและการกระทำ (moral compass) ในการตัดสินใจในทางธุรกิจ) เป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะทำให้นักธุรกิจรายนั้นประสบความสำเร็จ เขาได้ยกตัวอย่าง บิล เกตส์ และ สตีฟ จ็อบส์

ก่อนหน้านี้สำนักข่าวรอยเตอร์สและ Wall Street Journal ได้ออกมายืนยันว่าไอโฟนรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวที่งาน WWDC นี้จะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบันอย่างแน่นอน ล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์กก็ได้ออกมายืนยันข่าวนี้ และบอกว่าสตีฟ จ็อบส์เป็นมีส่วนร่วมในการออกแบบไอโฟนรุ่นนี้ด้วย

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในรายงานนี้ไม่ได้มีการบอกว่าหน้าจอจะมีขนาดใหญ่แค่ไหน เพียงแต่บอกว่าหน้าจอเป็นหนึ่งในสิ่งที่แอปเปิลต้องการจะเปลี่ยนแน่นอน

ที่มา - 9to5Mac

ดูเหมือนสตีฟจ็อบส์ จะมีแนวคิดที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมหลายประเภทมาก เพราะนอกจากวงการเทคโนโลยีแล้ว ยังมีวงการศึกษา ถ่ายภาพ และทีวี ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ด้วย แต่แค่นั้นอาจจะยังไม่หมด หลังจากที่ Mickey Drexler ซีอีโอของบริษัท J.Crew และเป็นบอร์ดของแอปเปิลได้ออกมาบอกว่า จ็อบส์นั้นอยากทำรถด้วย

Drexler พูดในระหว่างงานคอนเฟอเรนซ์เกี่ยวกับนวัตกรรมของ Fast Company ว่า "ก่อนจ็อบส์เคยฝันว่าจะออกแบบรถยนต์ (iCar?) ก่อนที่เขาจะตาย ซึ่งมันจะกินส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ได้ถึง 50% น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ทำมัน" นอกจากเรื่องรถแล้ว พิธีกรได้ถามถึงความเป็นไปได้ของ Apple TV ตัวใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ Drexler บอกว่าห้องนั่งเล่นเป็นจุดที่เราจะเน้นในอนาคตอย่างแน่นอน (และก็แน่นอนว่าไม่มีรายละเอียดอะไรเลย)