ถึงแม้การพัฒนา Bixby เวอร์ชันภาษาอังกฤษจะล่าช้าเพราะข้อมูลในการเทรนด์ไม่เพียงพอ แต่ถึงกระนั้นแผนการขยายแพลตฟอร์มของ Bixby ไปยังอุปกรณ์อื่นก็ยังคงเดินหน้าต่อ ด้วยข่าวลือจาก WSJ ที่อ้างแหล่งข่าววงในว่าซัมซุงกำลังพัฒนาลำโพงอัจฉริยะของตัวเองอยู่

ลำโพงอัจฉริยะมีโค้ดเนมเป็นการภายในว่า Vega โดยโปรเจ็คนี้เริ่มมาเป็นปีแล้ว แต่ทว่าทั้งฟีเจอร์และสเปคของลำโพงยังคงไม่ได้ข้อสรุป ทำให้ยังไม่สามารถระบุกรอบเวลาของการเปิดตัวได้

หนังสือพิมพ์ Korea Herald ของเกาหลีใต้ อธิบายปัญหาความล่าช้าของ Samsung Bixby ภาคเสียงภาษาอังกฤษ (ภาษาเกาหลีเปิดบริการไปแล้ว) ว่าเกิดจากซัมซุงมีข้อมูล big data ภาษาอังกฤษไม่เยอะพอ ส่งผลให้ AI ของ Bixby เรียนรู้ไม่ได้ตามที่ต้องการ

ซัมซุงเคยประกาศไว้ว่า Bixby ภาคเสียงภาษาอังกฤษจะเปิดบริการในเดือนพฤษภาคม ตามด้วยเสียงจีนในเดือนมิถุนายน แต่มาถึงตอนนี้ก็ยังไม่เปิดตามที่ประกาศไว้ ตรงนี้โฆษกของซัมซุงยอมรับเองว่าพัฒนา Bixby ในภาษาอื่นล่าช้ากว่าแผน เพราะข้อมูลไม่เยอะพอ

Korea Herald ยังอ้างแหล่งข่าววงในว่า การสื่อสารและประสานงานระหว่างทีมของซัมซุงในเกาหลีใต้กับในสหรัฐ ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Bixby ภาษาอังกฤษล่าช้า

หลังการเข้าควบคุมกิจการ Harman ของซัมซุงเสร็จสมบูรณ์ไปเมื่อต้นปี โดยระบุแต่เพียงว่าการบริหารงานยังคงเป็นอิสระต่อกัน แต่ร่วมมือกันในหลายๆ ด้านมากขึ้น

ล่าสุดซัมซุงออกมาเปิดเผยแผนการเบื้องต้นหลังการควบรวมแล้วว่า จะพัฒนาโซลูชันสำหรับหลายอุตสาหกรรมอย่างคมนาคม, ค้าปลีก, โรงแรมและบริการ, และการศึกษา โดยใช้เทคโนโลยีจากทั้งซัมซุงและ Harman ร่วมกัน

ฝันร้ายเรื่องการระเบิดของโทรศัพท์ Samsung Galaxy Note 7 ผ่านพ้นไปแล้ว และโทรศัพท์รุ่นใหม่อย่าง Galaxy S8 ก็กำลังประสบความสำเร็จ ล่าสุดซัมซุงทำโทรศัพท์รุ่นจำนวนจำกัดออกมา เป็นเหมือนภาคต่อของ Galaxy Note 7 ตัวเครื่องผลิตด้วยชิ้นส่วนจาก Galaxy Note 7 มีแบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่า

โทรศัพท์รุ่นใหม่ใช้ชื่อว่า Galaxy Note Fan Edition ใช้แบตเตอรี่ 3,200 มิลลิแอมป์ วางขายในเกาหลีใต้วันที่ 7 กรกฎาคม ทำออกมา 4 แสนเครื่อง ราคาถูกกว่า Galaxy Note 7 ประมาณ 30%

อย่างไรก็ตาม ซัมซุงโดนกดดันโดยนักสิ่งแวดล้อมว่าควรจะรีไซเคิลหรือใช้ชิ้นส่วนจาก Galaxy Note 7 ที่เรียกคืนมา เพื่อลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์

หลังการระเบิดของ Galaxy Note 7 มีสาเหตุสำคัญมาจากแบตเตอรี่ ที่มี Samsung SDI เป็นผู้ผลิตหลัก ล่าสุดผู้บริหารระบุว่าบริษัทกำลังพยายามแก้ปัญหานี้ ทำให้ Samsung SDI จะสามารถผลิตแบตเตอรี่แบบ Solid-State ป้องกันการระเบิดได้ในอีก 1 ถึง 2 ปี

กลไกของแบตเตอรี่ Solid-State คือจะใช้สารอิเล็กโทรไลต์แบบแข็ง (solid) แทนของเหลวที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการจุดประกายไฟหรือระเบิด จากการรั่วไหลของอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งผู้บริหาร Samsung SDI ระบุด้วยว่าคู่แข่ง (LG Chemical) ก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ใกล้เคียงกันนี้อยู่ด้วย

ซัมซุงเคยประกาศไว้ว่า จะให้ปลดล็อคพีซีด้วยการสแกนนิ้วบนสมาร์ทโฟน Galaxy วันนี้สามารถใช้งานกันได้แล้ว

เงื่อนไขการใช้งานคือต้องเป็นพีซี Windows 10 ยี่ห้อใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้พีซีซัมซุง กับสมาร์ทโฟนซัมซุงรุ่นที่มีตัวสแกนนิ้วมือ ทั้งสองฝั่งต้องติดตั้งแอพ Samsung Flow (Play Store, Windows Store) แล้วเชื่อมอุปกรณ์ทั้งสองตัวกันผ่าน Bluetooth ก่อน

Greenpeace ร่วมมือกับ iFixit บริษัทซ่อมบำรุงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ตีพิมพ์รายงานด้านขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยทำการศึกษาเจาะจงไปที่สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และแล็ปท็อป และจัดลำดับคะแนนอุปกรณ์ที่สามารถซ่อมแซมกลับไปใช้ใหม่ได้

โดยในรายงานนับเฉพาะอุปกรณ์ที่เปิดตัวช่วงปี 2015-2017 ในส่วนของสมาร์ทโฟนที่ได้คะแนนเต็มคือ Fairphone 2 ซึ่งเป็นโทรศัพท์แยกส่วนได้ อะไหล่แต่ละชิ้นสามารถเปลี่ยนหรือทดแทนใหม่ได้ ทำให้ไม่ต้องทิ้งทั้งตัวเครื่อง ด้านแท็บเล็ต HP Elite X2 ได้คะแนนสูงสุด รองลงมาเป็น Dell Latitude E5270 ส่วนแล็ปท็อป HP EliteBook 840 G3 ได้คะแนนสูงสุด

อุปกรณ์ที่ได้คะแนนต่ำ ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ที่ถอดแบตเตอรี่ออกไม่ได้ เมื่อมีการเสื่อมสภาพจึงซ่อมแซมได้ยาก แบรนด์ที่ได้คะแนนต่ำคือ Apple, Samsung, Microsoft (คะแนนน้อยทั้งสามประเภทอุปกรณ์)

ซัมซุงเริ่มเดินหน้าพัฒนาระบบปฏิบัติการ Tizen เวอร์ชัน 4.0 โดยออกรุ่นทดสอบแรก M1 (Milestone 1)

ฟีเจอร์เด่นของ Tizen 4.0 คือรองรับ .NET ของไมโครซอฟท์ นักพัฒนาสาย .NET สามารถใช้ภาษา C# และคอมไพล์แบบ CLI (Common Language Infrastructure) ได้ทันที (รองรับตามสเปก .NET Standard 2.0)

ซัมซุงยังจับมือกับไมโครซอฟท์ออก Visual Studio Tools for Tizen เพื่อให้พัฒนาแอพบน Tizen ด้วย Visual Studio ได้ง่าย ตัวปลั๊กอินจะออกเวอร์ชัน 1.0 ช่วงปลายปีนี้

ฟีเจอร์ใหม่อีกอย่างของ Tizen 4.0 คือจะเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์ทุกประเภท เป็น unified build ไม่แยกรุ่นตามประเภทของอุปกรณ์ดังที่เคยทำมาใน Tizen เวอร์ชันก่อนๆ

@evleaks เจ้าเดิมโพสต์รายละเอียดของ Galaxy Note 8 ที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของเดือนกันยายนนี้

• หน้าจอขนาด 6.2" ใกล้เคียงกับขนาดของ Galaxy S8+
• กล้องคู่ด้านหลัง ความละเอียด 12MP พร้อม OIS
• Exynos 8895 หรือ Snapdragon 835, ให้แรม 6GB
• ตัวสแกนลายนิ้วมือยังอยู่ด้านหลังเหมือนเดิม แต่จะวางระยะห่างจากเลนส์กล้องมากขึ้น
• แบตเตอรี่ขนาด 3300 mAh
• รองรับ DeX และใช้อุปกรณ์เสริมชุดเดียวกับของ S8 ได้

ราคาขายรอบนี้จะอยู่ที่ 999 ยูโร (38,000 บาท) แพงขึ้นอีกจาก S8 (799 ยูโร) และ S8+ (899 ยูโร)

เว็บไซต์ Korea Herald รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนว่า ซัมซุงเตรียมจัดงานเปิดตัว Galaxy Note 8 เรือธงครึ่งหลังของปีในช่วงสัปดาห์ที่ 3 หรือสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนสิงหาคมนี้ ที่นครนิวยอร์ค

แหล่งข่าวบอกว่าเดิม ซัมซุงมีแผนจะเปิดตัวในงาน Internationale Funkausstellung ที่กรุงเบอร์ลินในเดือนกันยายน ก่อนเปลี่ยนแผนมาเป็นช่วงเวลาข้างต้น เพื่อตัดหน้า iPhone ที่คาดว่าจะเปิดตัวเดือนกันยายน โดย Note 8 คาดว่าจะมาพร้อมกล้องหลังคู่ตัวแรกของซัมซุง ที่รองรับการถ่ายภาพมุมกว้างเพิ่มเข้ามา

ที่มา - Korea Herald

ซัมซุงขยายผลเทคโนโลยีจอภาพแบบ QLED จากจอทีวี มาสู่จอมอนิเตอร์สำหรับตลาดเกมมิ่งแล้ว

เทคโนโลยี QLED Quantum Dot ช่วยให้แสดงระดับสีได้ถึง 125% ของมาตรฐาน sRGB และ 95% ของมาตรฐาน Digital Cinema Initiatives (DCI-P3) ช่วยให้แสดงภาพ HDR ได้ลึกกว่าเดิม

และเนื่องจากมันเป็นสินค้ากลุ่มเกมมิ่ง คุณสมบัติพื้นฐานก็มาครบครัน ทั้งมุมมองกว้าง 178 องศา อัตรารีเฟรช 144Hz, อัตรา latency ที่ 1ms, รองรับ AMD FreeSync 2 ในตัว (เป็นจอภาพรุ่นแรกที่รองรับ FreeSync 2)

สินค้าของซัมซุงแบ่งเป็นสองรุ่นคือ

ซัมซุงเปิดตัวมือถือ J Series ได้แก่ Galaxy J3, Galaxy J5, Galaxy J7 รุ่นปี 2017 เรียบร้อยแล้ว ทุกตัวใช้ระบบปฏิบัติการ Android Nougat เป็นมาตรฐาน รองรับสองซิมและใส่ MicroSD ได้ สเปกคร่าวๆ ของแต่ละรุ่นมีดังนี้

ซัมซุงนำเว็บเบราว์เซอร์ของตัวเอง (Samsung Internet) ขึ้น Play Store และเปิดให้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆ ที่ไม่ใช่ยี่ห้อซัมซุง (ตอนนี้ยังได้แค่ Nexus/Pixel) ดาวน์โหลดไปใช้งานได้แล้ว

ฟีเจอร์ของ Samsung Internet มีหลายอย่างที่แตกต่างไปจาก Chrome ที่เราคุ้นเคยกันดี ตัวอย่างเช่น การรองรับ VR บนเว็บเมื่อรับชมด้วย Gear VR

ช่วงหลังซัมซุงนำแอพของตัวเองหลายตัวขึ้น Play Store ให้อัพเดตกันโดยตรง ช่วยให้ซัมซุงสามารถออกแอพได้ถี่ขึ้น โดยไม่ต้องรอรอบการอัพเดตของระบบปฏิบัติการ

ในยุคสมัยของมือถือจอกว้างกว่า 16:9 แบบเดิมๆ เราเห็น LG G6 เลือกใช้หน้าจอสัดส่วน 18:9 (2:1) ด้วยเหตุผลว่ายึดตามฟอร์แมตภาพยนตร์ Univisium ที่พอมีภาพยนตร์ใช้บ้างแล้ว ถึงแม้มันยังไม่ใช่ฟอร์แมตที่ได้รับความนิยมสูง แต่ก็มีที่มาที่ไปของการเลือก 18:9

แต่กรณีของ Galaxy S8 ที่เลือกใช้สัดส่วน 18.5:9 ตรงนี้กลับไม่เคยมีคำอธิบายว่าเพราะเหตุใด ล่าสุดในบล็อกของซัมซุง มีการชี้แจงวิธีการคิดสัดส่วน 18.5:9 ออกมาแล้ว

ซัมซุงเริ่มวางขาย Samsung Connect Home เราเตอร์ไร้สายสำหรับบ้านสมาร์ทโฮม ในราคาตัวละ 169.99 ดอลลาร์ หรือแพ็กสามราคา 379.99 ดอลลาร์

แนวคิดของ Samsung Connect Home เหมือนกับ Google Wifi เราเตอร์ของกูเกิลที่ขายแบบแพ็คสามเหมือนกัน นั่นคือเป็นเราเตอร์อัจฉริยะที่วางไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้าน แล้วมันจะจัดการเรื่องการกระจายสัญญาณให้อัตโนมัติ (แต่ของกูเกิลราคาถูกกว่า)

จุดเด่นของ Samsung Connect Home นอกจากฟีเจอร์ด้าน Wi-Fi ก็คือฟีเจอร์เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฮม เนื่องจากซัมซุงมีผลิตภัณฑ์ SmartThings Hub อยู่แล้ว มันจึงทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี

เกาหลีใต้ประกาศกลุ่มทดลองการใช้ blockchain เพื่ออำนวยความสะดวกในงานลอจิสติก โดยใช้จัดการประวัติสินค้า ตั้งแต่ที่ผลิต, แปรรูป, และการขนส่ง เพื่อป้องกันการแก้ไขสถานที่ผลิตสินค้าไปจนถึงการโฆษณาเกินจริง

องค์กรที่เข้าร่วมทดสอบครั้งนี้ ได้แก่ ศุลกากรเกาหลีใต้, กระทรวงทะเลและประมง (Ministry of Oceans and Fisheries), บริษัทขนส่งทางทะเลฮุนได (Hyundai Merchant Marine), ไอบีเอ็มเกาหลีใต้, และ KT net

ทางศุลกากรเกาหลีระบุว่าหากโครงการนี้สำเร็จ กระบวนการเคลียร์ศุลกากรจะง่ายลง และลดต้นทุนลอจิสติกโดยรวม

วันนี้ในงาน Computex 2017 Samsung ได้ประกาศเปิดตัวแล็ปท็อปรุ่นใหม่โดยมีจุดเด่นอยู่ที่มาพร้อมกับ S Pen และมีช่องเก็บปากกาในตัวเหมือนกับมือถือตระกูล Note นอกจากนี้ยังสามารถพับจอได้ 360 องศา จอแสดงผลความคมชัดระดับ Full HD มาพร้อมเทคโนโลยี RealView Display รองรับ Windows Ink และมีระบบจดจำใบหน้าสำหรับใช้กับ Windows Hello ด้วย

ในส่วนของสเปค Notebook 9 Pro จะวางจำหน่าย 2 รุ่น คือรุ่นจอ 13.3 นิ้ว และรุ่นจอ 15 นิ้ว ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมกับชิป Intel Core i7 การ์ดจอ Radeon 540 และ SSD ขนาด 256 GB ส่วนแรม รุ่นจอ 13.3 นิ้วมี 8GB และรุ่นจอ 15 นิ้วมี 16 GB

ทั้งนี้ ทาง Samsung ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดวันวางจำหน่ายและราคาแต่อย่างใด

ผู้ใช้มือถือแอนดรอยด์หลายคนอาจเคยประสบปัญหาในการปรับเสียงของแอพที่หลายๆ ครั้งต้องการปรับระดับเสียงของแอพต่างกันในขณะที่ใช้งานพร้อมกัน เช่นอยากฟังเสียงแอพแผนที่ดังๆ แต่ไม่อยากฟังเพลงดังเกินไป

แต่หลังจากนี้ผู้ใช้งานมือถือของซัมซุงคงไม่ต้องทนอีกต่อไป เพราะซัมซุงเพิ่งออกแอพ SoundAssistant ที่ช่วยให้สามารถปรับระดับเสียงแยกตามแอพได้แล้ว

แอพ SoundAssistant ยังมีความสามารถอื่นๆ อีกด้วย เช่น ปรับเป็นโหมดสั่นเมื่อถึงวันเวลาที่กำหนดไว้ ปรับเสียงที่ออกจากหูฟังให้เป็น Mono ในกรณีที่ฟังเพลงจากหูฟังเพียงข้างเดียว

แอพ SoundAssistant สามารถโหลดได้ที่ Google Play

ซัมซุงประกาศแผนการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปของตัวเองในอนาคต ตั้งเป้าสู่กระบวนการผลิตระดับ 4 นาโนเมตรให้จงได้

แผนการของซัมซุงจะค่อยๆ ลดขนาดของกระบวนการลงทีละขั้น จาก 8 นาโนเมตรไปถึง 4 นาโนเมตร

ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S8 พร้อมระบบยืนยันตนแบบไบโอเมตริกใหม่คือการใช้เซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner) ซึ่งซัมซุงยืนยันว่า เป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุด ล่าสุดนักวิจัยจาก Chaos Computer Club ในเยอรมนีสามารถแฮกระบบนี้ได้แล้ว

จริงอยู่ที่ม่านตาของแต่ละคนจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบลายนิ้วมือ แต่นักวิจัยกลับสามารถใช้รูปดวงตาความละเอียดสูงของเจ้าของเครื่อง ก็สามารถปลดล็อกเครื่องได้แล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า วิธีได้มาซึ่งภาพดวงตาค่อนข้างง่าย อย่างภาพเซลฟี่ความละเอียดสูงบนอินเทอร์เน็ต หรือภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตอนกลางคืนด้วยโหมด Night-shot โดยเลนส์ขนาด 200มม. สามารถเก็บภาพดวงตาที่ใช้งานกับเซ็นเซอร์ได้ไม่เกิน 5 เมตร

Samsung USA จัดโปรโมชั่นซื้อ Galaxy S8 แบบซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง

นี่ไม่ได้แปลว่า Galaxy S8 ขายไม่ออก แต่เป็นโปรโมชั่นที่ Samsung USA จัดร่วมกับเครือข่าย T-Mobile โดยลูกค้าต้องซื้อ Galaxy S8 ราคาเต็มก่อน 2 เครื่องจากเว็บไซต์ Samsung.com แล้วเปิดใช้บริการกับ T-Mobile หนึ่งเครื่อง จากนั้นซัมซุงจะคืนเงิน (rebate) ของอีกเครื่องให้ตามหลังแต่ในมูลค่าสูงสุด 750 ดอลลาร์ (แปลว่าเราจะได้เครื่องติดสัญญา T-Mobile 1 เครื่อง และเครื่องเปล่า 1 เครื่อง)

ฝั่งของ T-Mobile ก็มีโปรโมชั่นลักษณะเดียวกัน แต่คืนเงินเป็นเครดิตสำหรับบริการ T-Mobile แทน

หลังจากที่มีข้อมูลออกมาว่า Galaxy Note 7 Refurbished จะถูกเรียกว่า Galaxy Note 7R นั้น ล่าสุดตัวแทนจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ในเกาหลีใต้หลายเจ้ายืนยันตรงกันว่า ซัมซุงจะเรียก Note 7 รุ่นที่กลับมาขายใหม่ว่า Galaxy Note FE

ตัวแทนผู้ให้บริการระบุว่า FE ย่อมาจาก Fandom Edition เหตุเพราะมองว่าผู้ใช้ Galaxy Note ยังคงมีความ loyalty ในแบรนด์นี้อยู่ (เรียกว่าเอากลับมาขายให้แฟนๆ โดยเฉพาะ) และจะวางจำหน่ายในเกาหลีใต้ปลายเดือนมิถุนายนนี้ ราคาคาดว่าน่าจะอยู่ที่ราว 7 แสนวอน (ราว 21,500 บาท)

ทั้งนี้คาดว่าซัมซุงจะวางขาย Galaxy Note FE ในเกาหลีใต้ราวๆ 3 แสนเครื่องครับ