มีหลายเกมที่ลอกรูปแบบการเล่นมาจากโปเกมอน โก แต่เกมนี้ต่างออกไป เพราะมันคือเกมสะสมเซนต์คาทอลิก ที่วาติกันเป็นผู้เปิดตัวเกมเองเลยในชื่อว่า JC Go หรือที่ย่อมาจาก Jesus Christ นั่นเอง จุดประสงค์คือต้องการเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น และสอดคล้องกับแนวทางของโป๊ปฟรานซิสในขณะนี้ด้วย

หนังสือพิมพ์ Corriere Della Sera ของอิตาลีรายงานว่า JC Go เป็นเกมให้ผู้เล่นเก็บสะสมสัญลักษณ์ต่างๆ ของศาสนาคริสต์ เพื่อมาร่วมสร้าง evangelisation team หรือทีมเผยแพร่พระกิตติคุณ และในเกมนี้จะไม่มีการต่อสู้กันของทีมใดๆ แต่เป็นการเก็บสัญลักษณ์ที่อยู่ละแวกใกล้เคียง เมื่อเจอสัญลักษณ์ก็ต้องตอบคำถามเพื่อจะได้สะสม นอกจากนี้ยังบริจาคเงินผ่านเกมได้ด้วย

The New York Times รายงานว่ารัฐบาลจีนได้แบนเว็บไซต์ขายของออนไลน์ทั้งหมดที่ขายคัมภีร์ไบเบิล ท่ามกลางการโปรโมทศาสนาพุทธและเต๋าภายใต้รัฐบาลสี จิ้นผิง

อย่างไรก็ตาม ตัวคัมภีร์ยังได้รับอนุญาตให้ขายตามโบสถ์ และร้านหนังสือในโบสถ์ได้ และมีคนสังเกตเห็นด้วยว่าตามเว็บไซต์ใหญ่อย่าง Taobao และ Amazon ยังมีคัมภีร์ไบเบิลขายอยู่

การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในขณะที่จีนกำลังเจรจากับวาติกันเพื่อยุติความแตกแยกระหว่างคริสตจักรคาทอลิกใต้ดินและรัฐบาล ที่ดำเนินมาเกือบ 70 ปี เนื่องจากรัฐบาลจีนพบการต่อต้านคอมมิวนิสต์ของวาติกัน ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่ามาตรการใหม่นี้อาจเป็นสัญญาณของการปราบปรามอย่างกว้างขวาง

องค์กรต่างๆ จัด Hackathon จนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่จะมีสักกี่ครั้งที่องค์กรศาสนาใช้แฮกกาธอน เป็นอีกช่องทางในการโปรโมทประเด็นเชิงสังคม

VHacks คือ Hackathon ครั้งแรกที่เจ้าภาพการจัดคือนครรัฐวาติกัน โดยมีเป้าหมายคือใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อเอาชนะอุปสรรคทางสังคม โดยครอบคลุมสามประเด็นหลักคือ การรวมตัวกันทางสังคม, ความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา และ การช่วยเหลือผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย

ผู้เข้าร่วม VHacks เป็นนักเรียนนักศึกษาประมาณ 120 ชีวิต และยังเน้นความหลากหลายทางภูมิหลังของผู้เข้าร่วมแข่งขันด้วย ไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนาคริสต์ก็เข้าร่วมการแข่งขันได้ นอกจากนครรัฐวาติกันแล้วยังมีผู้ร่วมจัดงานเป็นภาคเอกชนหลายแห่ง เช่น Google, Microsoft, SalesForce

เราเห็นหุ่นยนต์ให้พรไปแล้ว คราวนี้ถึงคราวมาฟังบทสวดส่งผู้ตายจากหุ่นยนต์บ้าง เมื่อ Pepper หุ่นยนต์รับแขกจาก Nestle และ SoftBank ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2014 ได้รับบทบาทหน้าที่ใหม่จาก SoftBank ให้กลายเป็นพระรับจ้างสวดศพ ซึ่งถูกนำมาโชว์ในงาน Life Ending Industry Expo ที่กรุงโตเกียว

ซอฟต์แวร์นี้ถูกเขียนขึ้นโดยบริษัท Nissei Eco ทำให้ Pepper สามารถสวดส่งผู้ตายในเสียงหุ่นยนต์ พร้อมตีกะลาเป็นจังหวะ ตามรูปแบบของพระญี่ปุ่น ซึ่งเข้ามาแก้ปัญหาในกรณีที่ไม่มีพระที่ว่าง ขณะที่ค่าบริการของ Pepper อยู่ที่เพียง 50,000 เยน (ราว 15,000 บาท) ซึ่งถูกกว่าพระจริงๆ ที่อยู่ที่ราว 240,000 เยน (ราว 80,000 บาท)

โบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ในเมือง Wittenberg ของเยอรมนีเปิดตัว BlessU-2 หุ่นยนต์ให้พรพร้อมหน้าจอทัชสกรีน สามารถให้พรได้ 5 ภาษาคืออังกฤษ, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, สเปนและโปแลนด์ สามารถเลือกเสียงได้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง และเมื่อจะให้พร หุ่นยนต์จะชูมือขึ้น พร้อมปล่อยแสงออกมาจากมือ และกล่าวบทสวดจากคัมภีร์ไบเบิล (ดูคลิปได้จากที่มา)

Stephan Krebs ผู้ที่อยู่เบื้องหลังโปรเจ็คนี้เผยว่า ไม่ได้ต้องการนำหุ่นยนต์มาแทนที่พระ (จากปัญหาการขาดแคลนนักบวชในยุโรป) เพราะเห็นว่าเป็นอะไรที่แทนที่กันไม่ได้ เพียงแต่ต้องการนำแง่มุมทางศาสนากับเครื่องจักรมาเจอกันเท่านั้น รวมถึงต้องการให้สังคมถกเถียงถึงความเป็นไปได้ ในการนำเทคโนโลยีจนไปถึงปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาททางศาสนา

ถือว่าเป็นข่าวเชิงเทคโนโลยีไลฟ์สไตล์อย่างปฏิเสธไม่ได้ เมื่อ สสส. เปิดตัว Road Safety Project ร่วมมือกับพระพยอม กัลยาโณ เปิดตัวพระพุทธรูปไว้ประทับหน้าคอนโซลรถ ที่ติดตั้งกลไก GPS ตรวจจับความเร็วไว้ภายใน พร้อมส่งเสียงเตือนเป็นเสียงพระพยอมให้คนขับลดความเร็วลง

สสส. ระบุว่า เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ มีคนบูชาพระหน้ารถมากมาย แต่กลับมียอดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากเป็นอันดับ 2 ของโลก จึงคิดแคมเปญนี้ร่วมกับ BBDO Bangkok เอเจนซี่โฆษณาสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา ยังไม่มีข้อมูลว่าจะผลิตจริงหรือไม่

Mark Zuckerberg ผู้ออกตัวว่าตนเองไม่นับถือศาสนาใด (athiest) มานาน ล่าสุดเมื่อวันคริสต์มาสที่ผ่านมา มีสัญญาณบอกว่าเขาอาจกลับมานับถือศาสนาอีกครั้ง

Mark Zuckerberg โพสต์อวยพร Merry Christmas และ Happy Hanukkah (เทศกาลปีใหม่ของชาวยิว) ลงใน Facebook ของตัวเอง จึงผู้ใช้คนหนึ่งถามในคอมเมนท์ว่า "คุณไม่นับถือศาสนาไม่ใช่หรือ"

Mark ตอบกลับว่าตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ผมถูกเลี้ยงมาแบบคนยิว ผมเคยผ่านช่วงเวลาที่ตั้งคำถามกับหลายสิ่งรอบตัว แต่ตอนนี้ผมมีมุมมองว่าศาสนาเป็นสิ่งสำคัญ (อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้บอกตรงๆ ว่านับถือศาสนาใด)

วัด Longquan ในกรุงปักกิ่งประเทศจีน ตัดสินใจเพิ่มกลวิธีในการเผยแพร่พระธรรมคำสอนด้วยวิธีใหม่ที่ล้ำยุคเอาการ ด้วยการสร้างหุ่นยนต์พระที่สามารถเคลื่อนที่ไปมาได้ สนทนาโต้ตอบแบบง่ายๆ ได้ และแน่นอนว่านำสวดมนต์ได้ด้วย ชื่อของหุ่นยนต์พระตัวนี้คือ Xian’er

Xian’er เป็นหุ่นยนต์สูงราว 2 ฟุต รูปลักษณ์ดูเป็นตัวการ์ตูนหลวงจีนที่กำลังถือแท็บเล็ตอยู่ในมือ ตัวแท็บเล็ตจอสัมผัสนี้จะมีรายการเมนูต่างๆ ให้เลือกได้ เช่น เลือกคำถามเพื่อสนทนาเรื่องทั่วไปหรือเรื่องธรรมะ (มีให้เลือกราว 20 คำถาม) หรือเลือกบทสวดมนต์จากหน้าจอก็ได้ ตัวหุ่น Xian’er สามารถเคลื่อนที่ด้วยล้อได้ 7 รูปแบบ และแสดงท่าทางตอบโต้กับเสียงพูดได้ ตัวหุ่นสามารถส่ายหน้าและพยักหน้าได้

หลายๆ คนที่เป็นพุทธศาสนิกชน อาจจะคุ้นเคยกับการที่เราต้องไปนิมนต์พระสงฆ์ถึงวัด เพื่อให้มางานนอกสถานที่ ประเพณีเช่นนี้ก็เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น แต่ล่าสุด Amazon ญี่ปุ่น ได้เปิดบริการนิมนต์พระออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ของตัวเองแล้ว

การนิมนต์พระผ่านออนไลน์นี้เป็นความร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่น Minrevi ที่ดำเนินการนิมนต์พระให้กิจกรรมของฆราวาส อัตราค่าบริการในระดับเริ่มต้น (รวมการนิมนต์พระ รถรับส่ง และเงินถวายพระ) อยู่ที่ 35,000 เยน ต่อครั้ง (ประมาณ 10,000 บาท) และมีระดับอื่นๆ เพิ่มเติม ตามแต่กำลังเงินและศรัทธา ซึ่งคนญี่ปุ่นหลายคนชื่นชอบบริการนี้มาก เพราะง่ายและราคาไม่แพง ผิดกับการไปนิมนต์เองที่อาจต้องเสียเงินขั้นต่ำสูงถึงครั้งละ 100,000 เยน (ประมาณ 30,000 บาท)

เว็บไซต์ Ubergizmo อ้างรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ Daily Mail ประเทศอังกฤษ ระบุว่าโบสถ์แห่งหนึ่งในเมือง Naples ที่ประเทศอิตาลี ติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือเอาไว้ เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมการใช้มือถือของเหล่าศาสนิกชนที่เดินทางมาโบสถ์

บาทหลวง Michele Madonna ซึ่งเป็นบาทหลวงประจำโบสถ์ที่ต้องเจอกับสถานการณ์รบกวนและขัดจังหวะจากพิธีต่างๆ เพราะเสียงและการใช้โทรศัพท์ของศาสนิกชนที่เข้าโบสถ์ ระบุว่าแต่เดิมมีการติดป้ายประกาศขอความร่วมมือไม่ให้ใช้ระหว่างพิธี แต่พอเวลาผ่านไป ก็มีการลักลอบแอบใช้อีก จนในที่สุดแล้วบาทหลวงจึงทนไม่ได้ ต้องไปซื้อเครื่องรบกวนสัญญาณจากร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาติดเอาไว้ โดยได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

จากข่าว ธรรมกายเสนอสารคดี "สตีฟ จ็อบส์ตายแล้วไปไหน" ผมได้รับการติดต่อจากพระมหาทศพร ปุญฺญงฺกุโร เว็บมาสเตอร์ของ dmc.tv ชี้แจงเรื่องเนื้อหาที่เป็นประเด็นข่าว ซึ่งก็ได้เพิ่มส่วนคำชี้แจงต่อท้ายข่าวเอาไว้แล้ว

วันนี้ผมได้รับอีเมลจากพระมหาทศพร ปุญฺญงฺกุโร อีกครั้ง ขอแก้ไขข้อมูลในข่าวชิ้นเดิมอีกรอบ (ซึ่งมุมมองของวัดธรรมกายกับผู้เขียนข่าวคือคุณ nant อาจไม่ตรงกัน)

ทางเราไม่มีปัญหากับการชี้แจงข้อมูลของต้นสังกัด (เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องราว) เพียงแต่เห็นว่าข่าวเดิมตกหน้าแรกไปไกลแล้ว (ปัจจุบันอยู่หน้า 3) ก็ขอโพสต์เป็นข่าวใหม่เพื่อให้ทราบโดยทั่วกันครับ

หลังจาก Blognone ลงข่าว ธรรมกายเสนอสารคดี "สตีฟ จ็อบส์ตายแล้วไปไหน" ก็มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวนี้ตามมาอีกพอสมควร (ใครพบเห็นอาจแจ้งลิงก์ไว้ได้ในคอมเมนต์) ที่โด่งดังหน่อยคงเป็นรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางช่อง 3 ที่รายงานข่าวนี้เมื่อเช้านี้ (21 ส.ค.)

ผมเห็นว่าในรายการได้พูดถึงคอมเมนต์ในข่าวข้างต้นด้วยบ้างส่วน ซึ่งก็ถือเป็นผลงานของชุมชนผู้อ่านที่นี่ด้วย เลยนำคลิปมาลงเพื่อจะได้ทราบทั่วกันว่า เรื่องนี้ถึงสรยุทธแล้วครับ (คลิปแปะไม่ได้ ดูกันเองตามลิงก์)

อัพเดตครั้งที่สอง: อ่าน คำชี้แจงจากวัดธรรมกายเรื่องสตีฟ จ็อบส์ (ครั้งที่สอง) ประกอบ และขอปิดคอมเมนต์ในข่าวนี้ ไปคุยกันในข่าวใหม่แทน

ทางสถานีโทรทัศน์ DMC โดยวัดพระธรรมกาย ได้นำเสนอชีวิตหลังความตายของ สตีฟ จ็อบส์ โดยทางรายการอ้างว่า วิศวกรอาวุโสคนหนึ่งของแอปเปิลชื่อ โทนี่ ทรวง ได้ขอให้ท่านพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) ใช้ญาณตรวจสอบภพภูมิของสตีฟ จ็อบส์ หลังความตาย มีใจความสรุปว่า

วาติกันแสดงความสนับสนุนซอฟต์แวร์ iBreviary(ภาษาอิตาลี) ที่เป็นคู่มืออธิษฐานสำหรับชาวคาทอลิกอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ซอฟต์แวร์ดังกล่าวขายอยู่ใน App Store ในราคา 99 เซนต์ ในสองภาษาคืออังกฤษ และอิตาลี พร้อมให้อัพเกรดได้ฟรีในอนาคต

Paul Tighe เลขานุการคณะที่ปรึกษาะพระสันตะปาปาฝ่ายการสื่อสารสังคมระบุว่าทางวาติกันกำลังเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อจะเผยแพร่คำสอนไปทั่วโลก

ที่มา - C|Net

การวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์จากทั่วทุกมุมโลกทำให้เทคโนโลยีในด้านนี้มีความก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ และหากเราสังเกตดูดีๆแล้ว การพัฒนาหุ่นยนต์ในแต่ละทวีปนั้นมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันเล็กน้อย

การพัฒนาหุ่นยนต์ในโซนเอเชียโดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นนั้น เน้นหนักในงานวิจัยเกี่ยวกับหุ่นยนต์เสมือนคน (Humanoid) ในขณะที่งานวิจัยจากประเทศตะวันตกนั้น กลับเป็นงานวิจัยหุ่นยนต์ในเชิงระบบอัตโนมัติและเครื่องจักรอัจฉริยะ

จนมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า ความเชื่อทางศาสนาของนักวิจัยนั้นมีผลต่องานวิจัยเหล่านี้หรือไม่?

เป็นเรื่องปกติที่เราจะเห็นเหล่ามิชชั่นนารีไปเผยแผ่ศาสนาตามที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกไม่ว่าจะเป็นที่กันดารหรืออันตรายแค่ไหน นักบวชเหล่านี้ก็จะไปเผยแผ่ศาสนาคริสต์ ตอนนี้เหล่านักบวชศริสตศาสนา นิกายคาทอลิค ได้วางแผนที่จะเข้าไปเผยแผ่ศาสนาในเกมเสมือนโลกจริงที่ชื่อ Second Life แล้ว

จากบทความที่ลงใน Rome-based Jesuit journal ที่เมื่อง La Civilta Cattolica, พระนักศึกษาด้านศาสนา Antonio Spadaro ได้ออกมา กระตุ้นให้โบสถ์คาทอลิคให้เข้าไปเผยแผ่ศาสนาในเกมส์ Second Life เนื่องจาก Second Life มีผู้เล่นมากกว่า 8 ล้านคนและมีเงินหมุนเวียนมากกว่า ล้านดอลลาร์ในแต่ละเดือน ซึ่งในตอนนี้มีเกมส์ตอนนี้มีโบสถ์ของชาวมุสลิม ที่สร้างโดยชาวมุสลิมสวีเดนไปแล้ว และเผยแผ่ศาสนาในเกมส์ดังที่เค้าทำในชีวิตจริง