มีรายงานจาก Bloomberg ว่า Didi Global ผู้ให้บริการแอปเรียกรถแท็กซี่รายใหญ่ในจีน เตรียมนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงภายในปี 2024 หลังจากบริษัทไอพีโอเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อปี 2021 แต่ถูกทางการจีนสอบสวน และทำให้ Didi ถอนบริษัทออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กในเวลาต่อมา

Xpeng ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ประกาศซื้อสินทรัพย์ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะจาก Didi ผู้ให้บริการแอปเรียกรถแท็กซี่รายใหญ่ของจีน โดยมูลค่าของดีลอยู่ที่ 744 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนธุรกิจนี้ของ Didi จะใช้ชื่อแบรนด์ใหม่ว่า Mona กำหนดเปิดตัวในปี 2024

Didi บอกว่าดีลนี้เป็นการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของสองบริษัท เพื่อผลักดันการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ตลอดจนเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากย้อนดูอดีต ดีลลักษณะคล้ายกันนี้ก็เกิดขึ้นกับ Uber ที่ขายธุรกิจพัฒนารถยนต์ไร้คนขับให้ Aurora และขายธุรกิจ Flying Taxi ให้ Joby Aviation

แหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวระบุกับ Reuters ว่ารัฐบาลจีนจะยอมให้แอป Didi Chuxing กลับมาให้บริการเต็มรูปแบบ มีแอปอยู่ในสโตร์ต่างๆ ได้เหมือนเดิมแล้ว หลังจากรัฐบาลไม่พอใจที่บริษัทไประดมทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อปี 2021

Didi ประกาศจัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ โดยมีวาระสำคัญเรื่องการขอเพิกถอนบริษัท ออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ในอเมริกา ตามที่มีข่าวตั้งแต่ปีที่แล้ว

บริษัทระบุว่าในระหว่างการขอเพิกถอนหลักทรัพย์ บริษัทจะไม่นำบริษัทไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นที่อื่นก่อน จนกว่ากระบวนการนี้จะแล้วเสร็จ แต่หลังจากนั้นอาจพิจารณานำบริษัทไปซื้อขายที่ตลาดหุ้นแห่งอื่น (รายงานข่าวก่อนหน้านี้คือฮ่องกง)

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Didi ถูกหน่วยงานกำกับดูแลของจีนสั่งให้ระงับการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น เพื่อทำการตรวจสอบการเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน จนนำมาสู่การสั่งให้เพิกถอนบริษัทออกจากตลาดหุ้น

Didi ประกาศเริ่มกระบวนถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค และเตรียมนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงแทน โดยตอนนี้กรรมการบริษัทได้อนุมัติแนวทางนี้แล้ว

ก่อนหน้านี้ Bloomberg อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวระบุว่าทางการจีนเป็นผู้สั่งให้ Didi ถอนหุ้นออกจากตลาดสหรัฐฯ หลังจากเพิ่งเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อกลางปีที่ผ่านมา

ที่มา - CNN

สำนักข่าว Bloomberg อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่า Cyberspace Administration of China หน่วยงานกำกับบริษัทไอทีของจีนสั่ง Didi บริษัทเรียกรถรายใหญ่ให้ร่างแผนการถอนหุ้นออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก (New York Stock Exchange) โดยอาจจะเป็นการย้ายไปยังตลาดหุ้นฮ่องกง หรืออาจจะถอนหุ้นออกจากตลาดไปเลย

หุ้น Didi เพิ่งเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อกลางปีที่ผ่านมานี้เท่านั้น แต่ไม่กี่วันหลังหุ้นเริ่มซื้อขาย Didi ก็ถูกสอบสวจากรัฐบาลจีน และแอปสโตร์ในจีนถูกสั่งให้ถอดแอป Didi ออก

หน่วยงานจัดการไซเบอร์ของจีน (CAC - The Cyberspace Administration of China) ออกคำสั่งให้แอปสโตร์ทุกแห่ง ถอดแอป Didi ของจากสโตร์ โดยระบุว่าแพลตฟอร์มเรียกรถรายใหญ่ของจีนนี้ เก็บข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานไว้อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวออกคำสั่งให้ Didi แก้ไขการจัดเก็บข้อมูลให้ถูกต้อง ตามข้อกำหนดการปกป้องข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน แต่ไม่ได้ระบุว่า Didi ทำผิดอย่างไรบ้าง

แพลตฟอร์มเรียกรถ Didi มีผู้ใช้งานในจีน 377 ล้านบัญชี และบริษัทเพิ่งไอพีโอเข้าตลาดหุ้นอเมริกา โดยถือเป็นไอพีโอที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทจีนในอเมริกา นับตั้งแต่ Alibaba ในปี 2014

Didi แพลตฟอร์มเรียกรถแท็กซี่รายใหญ่ในจีน ได้นำบริษัทไอพีโอเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นที่เรียบร้อย หลังจากเสนอขายหุ้นรอบสุดท้ายเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยใช้ตัวย่อ DIDI ในการซื้อขาย

ราคาหุ้นไอพีโออยู่ที่ 14 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในวันแรกปิดการซื้อขายที่ 14.14 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย มีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้นที่ 67,800 ล้านดอลลาร์ แต่ราคาซื้อขายระหว่างวันปรับตัวเพิ่มสูงสุดถึง 19% ถึงแม้การเข้าตลาดหุ้นของ Didi อาจมองเป็นธุรกิจแบบเดียวกับ Uber แต่ Uber เองก็ได้ประโยชน์ เพราะบริษัทถือหุ้นใน Didi อยู่ 12.8% ซึ่งมาจากการขายธุรกิจในจีนเมื่อปี 2016

Didi Global ผู้ให้บริการแอปเรียกรถรายใหญ่ของจีน ได้อัพเดตเอกสาร F-1 ต่อ กลต. สหรัฐ เพื่อเตรียมนำบริษัทซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากยื่นไฟลิ่งก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะเริ่มซื้อขายได้ในวันพุธนี้ด้วยตัวย่อ DIDI

บริษัทจะเสนอขายหุ้นแบบรับฝากของอเมริกา (ADS - American Depositary Share) จำนวน 288 ล้านหุ้น ที่ช่วงราคาหุ้นละ 13-14 ดอลลาร์ โดย 4 ADS เทียบเท่ากับ 1 หุ้นสามัญของ Didi การเสนอขายนี้คาดว่าจะระดมทุนได้ราว 4 พันล้านดอลลาร์ เป็นเงินสูงสุดของบริษัทจากจีนที่เข้าตลาดหุ้นอเมริกา นับตั้งแต่ Alibaba ในปี 2014 มูลค่ากิจการ Didi จะอยู่ที่ราว 6.2-6.7 หมื่นล้านดอลลาร์

Didi Chuxing แพลตฟอร์มเรียกรถโดยสารรายใหญ่ของจีน ได้ยื่นเอกสารไฟลิ่งเพื่อเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นในอเมริกาแล้ว โดยคาดว่า Didi อาจเป็นไอพีโอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของปีนี้ ทั้งนี้ในไฟลิ่งไม่มีการระบุถึงมูลค่าที่จะเพิ่มทุน แต่มีรายงานก่อนหน้าว่าบริษัทมีแผนเพิ่มทุนจากไอพีโอราว 10,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการอยู่ที่ราว 100,000 ล้านดอลลาร์

Didi Chuxing มีผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สำคัญได้แก่ SoftBank, Alibaba และ Tencent

มีรายงานว่า Didi Chuxing มีโครงการนำส่วนธุรกิจขายของสดของชำ Chengxin Youxuan ไอพีโอเข้าตลาดหุ้นในช่วงต้นปี 2022 หลังจากที่บริษัทแม่เตรียมเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์กในปีนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ และการแข่งขันในตลาดสูงจากรายใหญ่ตั้งแต่ Alibaba ไปจนถึง Meituan

รายงานระบุว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน เริ่มหันมาใช้แนวทางแยกบริษัทลูกเข้าตลาดหุ้น โดยเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจแตกต่างจากธุรกิจหลักของบริษัทแม่มาก เช่น JD.com ก็นำ JD Health บริการด้านสุขภาพเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง เป็นต้น

Didi Chuxing แอปเรียกรถโดยสารรายใหญ่ของจีน ได้ยื่นเอกสารไฟลิ่งแบบ confidential เพื่อเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์กแล้ว ซึ่งวิธีการยื่นเอกสาร confidential มีความแตกต่างคือจะมีระยะเวลาเปิดเผยข้อมูลทางการเงินและการดำเนินงานสั้นลง ก่อนบริษัทเข้าตลาดหุ้น ด้วยเหตุผลป้องกันคู่แข่งทางธุรกิจรับรู้ข้อมูล

มูลค่ากิจการที่ Didi ประเมินในไอพีโอคือราว 1 แสนล้านดอลลาร์ โดยคาดว่ามีการขายหุ้นเพิ่มทุนประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 10% ของหุ้นทั้งหมด ทำให้เป็นไอพีโอหุ้นบริษัทจีนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ Alibaba ในปี 2014

Didi ควบรวมกิจการกับคู่แข่งรายสำคัญในจีน Kuaidi เมื่อปี 2015 มีมูลค่ากิจการเมื่อปี 2017 ที่ 56,000 ล้านดอลลาร์ และปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์

DiDi Chuxing แอปเรียกรถโดยสารรายใหญ่ของจีน ประกาศเตรียมเปิดให้บริการในแอฟริกาใต้ โดยจะเริ่มที่ Cape Town เป็นเมืองแรก ซึ่งเป็นประเทศที่ 17 ที่ DiDi เข้ามาทำตลาด

ปัจจุบัน DiDi ให้บริการในกว่า 400 เมืองทั่วประเทศจีน ขณะที่ในตลาดต่างประเทศ DiDi บอกว่ามีผู้ใช้งานมากกว่า 550 ล้านบัญชี ใน 16 ประเทศ รวมทั้งเอเชีย ยุโรป ลาตินอเมริกา และออสเตรเลีย

ผู้ให้บริการแอปเรียกรถโดยสารในแอฟริกาใต้ปัจจุบันได้แก่ Uber และ Bolt โดยมีฐานผู้ใช้รวมจำนวนหลักล้านคน ขณะที่ภาพรวมตลาดมีความท้าทายเนื่องจากข้อกฎหมายด้านบริการขนส่งของหน่วยงานท้องถิ่น

ที่มา: TechCrunch

เมื่อคืนนี้ นักธุรกิจชื่อดัง Tony Woodsome เข้ามาสนทนาในรายการ "SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony" ของกลุ่ม CARE โดยช่วงตอบคำถามจากผู้ฟัง มีคนถามประเด็นเรื่อง Unicorn ในประเทศไทยว่าเป็นไปได้หรือไม่

ข้อมูลที่น่าสนใจคือ คุณโทนี่ได้เล่าว่ามีโอกาสได้คุยกับ Rajeev Misra ซีอีโอของ SoftBank Investment Advisers หน่วยลงทุนของบริษัท SoftBank และผู้บริหารสูงสุดของ SoftBank Vision Fund บริษัทลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ประเทศดูไบ เพื่อชวนให้กองทุนอย่าง Vision Fund เข้ามาลงทุนในบริษัท DnaNudge ที่เคยไปลงทุนเอาไว้

Qingju ธุรกิจให้บริการแชร์จักรยานในเครือ Didi Chuxing ผู้ให้บริการแอปรถแท็กซี่รายใหญ่ของจีน ประกาศรับเงินเพิ่มทุนซีรี่ส์ B อีก 600 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งรับเงินกู้อีก 400 ล้านดอลลาร์ จากกลุ่มนักลงทุน โดยไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม

Qingju เริ่มให้บริการเฉพาะในมณฑลเสฉวนเมื่อปี 2018 ปัจจุบันมีให้บริการใน 200 เมืองทั่วประเทศจีน

บริการแชร์รถจักรยานเป็นสตาร์ทอัพที่มาแรงในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็มีหลายรายที่ปิดให้บริการไป โดยผู้ที่ยังให้บริการรายใหญ่ในจีนปัจจุบันนอกจาก Qingju มี Hello Bike ที่มี Ant Group ถือหุ้นใหญ่ และ Meituan Bike หรือ Mobike เดิม ที่อยู่ในเครือ Meituan-Dianping

Cheng Wei ซีอีโอ Didi Chuxing แอปเรียกรถจีน เผยว่าคนกลับมาใช้บริการเรียกรถมากเท่ากับก่อนจะเกิดโรคระบาดแล้ว หลังจากซบเซาลงไปเพราะมาตรการกักตัว ปิดเมือง โดยมียอดเรียกใช้งานต่อวัน 30 ล้านครั้ง เป็นยอดใช้บริการ bike-sharing 10 ล้านครั้ง

แม้สถานการณ์บริการเรียกรถในจีนจะกลับมาดีขึ้น แต่ในต่างประเทศยังคงซบเซา ซึ่ง Didi Chuxing เปิดบริการในประเทศนอกจีนด้วยคือ ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และประเทศในแถบละตินอเมริกา โดยโฆษกบริษัทพบว่ายอดใช้บริการตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมายังฟื้นตัวในระดับต่ำ

บริการเรียกรถของจีน Didi Chuxing ก็โดนพิษโรค COVID-19 เล่นงานเหมือนกัน เนื่องจากคนจีนกักตัวและหลีกเลี่ยงการออกมาข้างนอก ส่งผลกระทบเต็มๆ ต่อการให้บริการ จำนวนผู้ใช้งานรายวันหายไปกว่าครึ่ง

ข้อมูลจาก Aurora Mobile ระบุว่า ผู้ใช้งานรายวันลดลงมากกว่าครึ่งภายในเดือนเดียวหลังจากโรคระบาดแพร่กระจาย คนขับที่ยังขับอยู่ก็ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงกว่าจะมีผู้โดยสารเรียกรถ

Didi Chuxing แอปเรียกรถโดยสารรายใหญ่ของจีน ประกาศกลับมาให้บริการคาร์พูล Hitch อีกครั้ง หลังจากบริษัทหยุดให้บริการไปตั้งแต่สิงหาคมปีที่แล้ว จากเหตุฆาตกรรมผู้โดยสารหญิงถึง 2 ครั้งภายในช่วงเวลาไม่กี่เดือน ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า Didi จะป้องกันเหตุร้ายได้อย่างไร

โดยในช่วงแรก Didi ระบุว่า Hitch จะยังเป็นช่วงทดสอบการให้บริการใน 7 เมือง และเพิ่ม Safety Assistant ตัวช่วยเหลือด้านความปลอดภัยภายในแอป ที่แสดงข้อมูลผู้ขับรถ พร้อมตัวขอความช่วยเหลือแบบเรียลไทม์

ทิศทางหนึ่งของบรรดาแอปเรียกรถแท็กซี่ คือการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง โดยเฉพาะรถยนต์ไร้คนขับ ล่าสุดมีข่าวว่า Didi Chuxing แอปเรียกรถของจีน ได้ตัดสินใจแยกแผนกรถยนต์ไร้คนขับออกมาเป็นอีกบริษัทหนึ่งแล้ว

Didi กล่าวว่าบริษัทใหม่ที่แยกออกมานี้ จะลงทุนในการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการเดินทางมากขึ้น และร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำในอุตสาหกรรม ตลอดจนนำสิ่งเหล่านี้มาเสริมกับแพลตฟอร์มของ Didi

ปัจจุบัน Didi ได้ใบอนุญาตทดสอบรถยนต์ไร้คนขับทั้งในรัฐแคลิฟอร์เนีย อเมริกา และจีนแล้ว แต่ระยะทางทดสอบรวมยังน้อยมาก โดยเฉพาะในจีนที่ผู้นำด้านนี้คือ Baidu

โตโยต้าประกาศเข้าร่วมลงทุนใน Didi Chuxing แอปแชร์รถโดยสารของจีน ด้วยวงเงิน 600 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง Didi กับ GAC Toyota (บริษัทร่วมทุนของ GAC ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีนกับโตโยต้า) เพื่อให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์สำหรับแพลตฟอร์มของ Didi ด้วย

การประกาศลงทุนของโตโยต้าครั้งนี้เคยมีรายงานข่าวออกมาเมื่อเดือนพฤษภาคม แต่วงเงินน้อยกว่า 600 ล้านดอลลาร์

ความร่วมมือนี้ทั้งโตโยต้าและ Didi จะพัฒนาบริการต่าง ๆ โดยเฉพาะเป้าหมายคือการสร้างแพลตฟอร์มเพื่อการขนส่งโดยสาร Mobility-as-a-Service (Maas) ในจีน ตลอดจนการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV)

เมื่อปีที่แล้ว Didi Chuxing ผู้ให้บริการเรียกรถผ่านแอปของจีนมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร จนทำให้ทางบริษัทต้องยกเครื่องด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่ ซึ่งล่าสุด Didi ได้ประกาศนำผู้ขับรถออกจากแพลตฟอร์มเนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานกว่า 3 แสนราย

การนำผู้ขับรถออกจากแพลตฟอร์มจำนวนมากนี้ เนื่องจากผู้ขับรถไม่ผ่านมาตรฐานที่ทางบริษัทกำหนดขึ้นมาใหม่ในช่วงของการยกเครื่องด้านความปลอดภัย โดยมาตรฐานใหม่ที่ทำให้ Didi ต้องเข้มงวดต่อผู้ขับรถจะส่งผลอย่างมากต่อ Didi เองที่ในระยะสั้นแพลตฟอร์มจะขาดแคลนผู้ขับรถจนทำให้ผู้ใช้บริการรอนาน แต่ Didi ได้พูดคุยเรื่องการระดมทุนรถยนต์ไร้คนขับแล้ว ซึ่งอาจเป็นหนทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว

Didi Chuxing แอปเรียกรถแท็กซี่รายใหญ่ของจีน ประกาศทดลองเปิดแพลตฟอร์มให้บริการเรียกรถที่ถือเป็นคู่แข่ง เข้ามาช่วยให้บริการรถยนต์ผ่านแอปได้ด้วย โดยเริ่มทดสอบในเมืองเฉิงตูเป็นแห่งแรก ซึ่งแอปจะสามารถเรียกรถจาก Miaozou บริการแอปรถคู่แข่งที่เน้นทำตลาดในเมืองนั้น

โดย Didi บอกว่าการเปิดให้ผู้ให้บริการแอปเรียกรถเหมือนกันรายอื่น มาเชื่อมต่อบนแพลตฟอร์มของ Didi ได้นั้น ทำให้ Didi เป็นแอปที่มีบริการขนาดใหญ่ขึ้น และรองรับรถยนต์ได้มากที่สุดในประเทศ

Nikkei Asian Review รายงานว่าโตโยต้ามอเตอร์ กำลังพิจารณาเข้าลงทุนใน Didi Chuxing ผู้ให้บริการแอปเรียกรถโดยสารรายใหญ่ของจีน โดยคิดเป็นมูลค่าราว 60,000 ล้านเยน ซึ่งโตโยต้าอาจตั้งแผนกใหม่เพื่อร่วมมือกับ Didi Chuxing โดยเฉพาะ

Didi และโตโยต้า นั้นเคยมีความร่วมมือกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับและระบบเชื่อมต่อภายในรถยนต์

ดีลดังกล่าวไม่แปลกนักสำหรับโตโยต้า เพราะโตโยต้าเองก็ลงทุนในแอปเรียกรถยนต์มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Uber ที่มากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ และ Grab ที่ลงทุนอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ เช่นกัน

Didi Chuxing แอพเรียกรถแท็กซี่รายใหญ่ของจีน เตรียมปลดพนักงานลง 15% หรือประมาณ 2,000 คน ถือเป็นการปลดคนรอบใหญ่ครั้งแรกของ Didi ซึ่งปัจจุบันเจอแรงกดดันอย่างหนักจากประเด็นความปลอดภัยของผู้โดยสาร

Reuters รายงานข่าวนี้โดยอ้างแหล่งข้อมูลภายในบริษัท ว่า Cheng Wei ซีอีโอของ Didi จะตัดธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของตัวเองออก จึงเป็นเหตุให้ต้องปลดคนในธุรกิจเหล่านี้ แต่บริษัทก็มีแผนจะจ้างคนเพิ่ม โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเท คโนโลยีด้านความปลอดภัย วิศวกรรม และขยายธุรกิจของ Didi ออกไปในต่างประเทศ

Didi Chuxing บริษัทให้บริการเรียกรถของจีนเปิดตัวบริการใหม่ในด้านสินเชื่อและประกันสำหรับทั้งผู้โดยสารและผู้ขับรถบนแพลตฟอร์ม สามารถสมัครบริการได้ผ่านแอพของ Didi

สำหรับบริการใหม่ของ Didi จะมีทั้งประกันสุขภาพ และประกันรถยนต์ ซึ่ง Didi ระบุว่าประกันเหล่านี้มีไว้เพื่อลดกำแพงที่กั้นของคนทำงานใน gig economy รวมถึงขยายความคุ้มครองให้เข้าถึงครอบครัวอีกจำนวนมาก โดย Didi ระบุว่าทางบริษัทได้ทดสอบให้บริการเหล่านี้ใน 10 เมืองตั้งแต่ปีที่แล้ว