ไมโครซอฟท์ออกมาประกาศความสำเร็จของ IE9 รุ่นเบต้าที่เปิดตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยระบุว่าใช้เวลา 2 วันมีคนดาวน์โหลดไปแล้ว 2 ล้านครั้ง

ตัวเลขนี้เอาชนะยอดดาวน์โหลด IE8 รุ่นเบต้าเมื่อปี 2008 ได้แบบสบายๆ เพราะตอนนั้น 5 วันได้ 1.3 ล้านครั้ง อย่างไรก็ตามยังห่างไกลกับงานเปิดตัว Firefox 3 ที่ทำได้ 8 ล้านครั้งใน 24 ชั่วโมง (ข่าวเก่า) ส่วนรีวิวก็ออกมาดีตามคาด

ไมโครซอฟท์ยังเปิดเผยสถิติของเว็บ Beauty of the Web ว่าอยู่ที่ 26 ล้านเพจวิวนับตั้งแต่เปิดตัว

เว็บไซต์ Technologizer ได้มีบทความวิจารณ์การเปิดตัว IE9 Beta ของไมโครซอฟท์ ซึ่งชวนพันธมิตรมากมายมาโชว์เว็บไซต์ที่ดึงพลังของ IE9 มาแสดง (ดูได้ใน Beauty of the Web) โดยเว็บทั้งหมดแสดงผลได้อย่างสวยงามบน IE9 แต่ถ้าเปิดด้วยเบราว์เซอร์ตัวอื่นก็จะมีปัญหาต่างกันออกไป เช่นเว็บของ BMW ช้ามากบน Safari/Chrome และดูบน Firefox ไม่ได้เลย

ทาง Technologizer เลยตั้งข้อสังเกตว่า ถ้า IE9 ได้รับความนิยม เราจะกลับสู่ยุค “Best Viewed With Internet Explorer” หรือเปล่า?

ZDNet มีสัมภาษณ์นักพัฒนาของไมโครซอฟท์ ซึ่งก็ได้คำตอบว่าไมโครซอฟท์สนับสนุนมาตรฐานเว็บ และการสนับสนุนฟีเจอร์เฉพาะเบราว์เซอร์นั้นเป็นหน้าที่ของนักพัฒนาเว็บเอง

ไม่ว่าจะรักหรือเกลียด คนนับพันล้านทั่วโลกก็ผูกพันกับ "ตัว e สีฟ้า" กันมานาน และการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกประการของ IE9 คือปรับโลโก้ให้ดูเป็นการ์ตูนมากขึ้น บนบล็อกของ IE มีเรื่องราวเบื้องหลังแบบยาวๆ

บทความอันนี้พูดถึงประวัติของโลโก้ IE ตั้งแต่อดีตกาล แนวคิดในการปรับรูปร่างของตัว e ให้ดูทันสมัยมากขึ้น รวมถึงวงแหวนสีเหลืองให้ดูโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม แนะนำให้อ่านครับ

ย้อนตำนานโลโก้ IE ผมชอบแบบแบนๆ ของ IE5 มากที่สุดเลยนะ

ฟีเจอร์เล็กๆ แต่สำคัญมากของ Chrome ครับ กูเกิลได้แก้ปัญหาที่หลายๆ คนเจอบ่อยเวลาก็อปปี้ข้อความจากเว็บมา paste ลงในตัวแก้ไขข้อความแบบ rich text แล้วมันจะติดสไตล์มาด้วย ทำให้ต้องใช้วิธีเอาไปใส่ Notepad ก่อนแล้วค่อยเอามาลงเบราว์เซอร์อีกครั้ง

กูเกิลแก้ปัญหานี้ง่ายๆ โดยเพิ่มปุ่มลัด Ctrl+Shift+V เข้ามาสำหรับการ paste ข้อความธรรมดาแบบไม่ติดสไตล์ (สำหรับแมคก็เป็น Cmd+Shift+V) ช่วยประหยัดเวลาได้มากมายถ้ารู้ว่ามีปุ่มลัดนี้

ผมลองบน Chrome 6 Stable พบว่าใช้ปุ่มลัดนี้ได้แล้ว

ที่มา - Chrome Blog

วงการเบราว์เซอร์กำลังเริ่มย้ายสมรภูมิ จากที่ปีก่อนๆ แข่งกันเรื่องจาวาสคริปต์ ตอนนี้กำลังเปลี่ยนมาแข่งกันด้านกราฟิกโดยใช้ GPU ช่วยประมวลผลแทน

ในส่วนของ Chrome จากที่มีข่าวไม่นานนี้ว่า Chrome 7 ใช้ GPU ช่วยประมวลผลกราฟิก ทางนักพัฒนาของกูเกิลได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการแล้ว

โค้ดส่วนเร่งความเร็ว 2D ได้เข้าใน trunk แล้ว และจะเข้าสู่ Chrome Canary Build ในเร็วๆ นี้ จากการรันทดสอบกับเดโมของ IE9 กูเกิลสามารถเร่งความเร็วของ Chrome ได้ถึง 60 เท่าในบางชุดการทดสอบ (รายละเอียดตามกราฟ)

Chrome เริ่มเพิ่มฟีเจอร์ Google Instant เข้ามาในซอฟต์แวร์รุ่นทดสอบ (Dev Channel และ Canary Build) โดยเราสามารถค้นหาผ่าน Omnibox ของ Chrome แล้วจะขึ้นผลการค้นหาอัตโนมัติจากหน้าเว็บของกูเกิลมาให้เลย

ตอนนี้ฟีเจอร์ยังไม่ถูกเปิดใช้มาตั้งแต่ต้น ผู้สนใจทดลองใช้ต้องเพิ่ม -enable-match-preview เข้าไปตอนรันโปรแกรมด้วย

ที่มา - Google Operating System

Microsoft จะเปิดตัว IE9 เบต้า โดยจัดงานชื่อ The Beauty of The Web ในวันที่ 15 กันยายนนี้ ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.beautyoftheweb.com ครับ แต่ไม่มีรายละเอียดอะไรมากไปกว่าวันที่ที่จะเปิดตัว

งานนี้จัดที่ San Francisco โดยเชิญแขกจำนวนจำกัด ผู้ได้รับเชิญมีทั้งนักพัฒนาเว็บไซต์, นักออกแบบ, Blogger รวมทั้งนักข่าว

ที่มา: beautyoftheweb.com และ WindowsTeamBlog.com

Firefox เพิ่งเพิ่มฟีเจอร์จัดกลุ่มแท็บ Tab Candy (หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Panorama) เข้ามาใน Firefox 4 Beta 4 ทางฝั่ง Chrome ก็มีคนทำส่วนเสริมลักษณะเดียวกันออกมาแล้วชื่อ Tab Sugar

การทำงานของ Tab Sugar นั้นเหมือนกับ Tab Candy/Panorama ทุกประการ แม้แต่ Aza Raskin ผู้พัฒนา Tab Candy ยังแสดงความประทับใจในเรื่องนี้

ที่มา - The Next Web

Firefox 4 Beta 5 มาพร้อมกับของใหม่ดังนี้

• GPU acceleration ใช้ Direct2D ช่วยประมวลผลกราฟิก (เฉพาะบนวินโดวส์เท่านั้น)
• เพิ่มฟีเจอร์ในการจัดการข้อมูลเสียงผ่าน Audio API ตัวใหม่ ช่วยให้นักพัฒนาเว็บเล่นกับ RAW data ของไฟล์เสียงได้มากขึ้น (เช่น เขียน visualization ตามเพลงด้วย HTML5)
• ปรับเมนู Firefox สีส้มๆ สำหรับ Vista/7 (ดูภาพประกอบ)

สองฟีเจอร์แรกดูวิดีโอเดโมได้จากลิงก์ที่มาครับ รุ่นนี้ยังไม่ปรับธีมของลินุกซ์เสียที

ที่มา - Mozilla Blog

แม้ว่าหลายคนจะมีเบราเซอร์ในดวงใจ และแอบภาวนาให้คนเข้าเว็บที่เราทำมีแต่เบราเซอร์ที่เราชอบ แต่ความเป็นจริงคือทางเดียวที่จะรับประกันการก้าวหน้าของมาตรฐานเว็บได้ มีเพียงวีธีเดียวคือการที่เบราเซอร์ที่หลากหลายร่วมกันพัฒนาไปตามมาตรฐานที่ตกลงกันอย่างจริงจัง และข่าวล่าสุดจากไมโครซอฟท์คือ Internet Explorer 9 Platform Preview 4 1.9.7916.6000 ได้หลุดออกมาบนอินเทอร์เน็ต เมื่อทดสอบแล้วพบว่ามันได้คะแนน Acid3 สูงถึง 95/100

ที่คะแนนระดับ 95/100 นั้นเราแทบจะพูดได้ว่า IE9 จะรองรับมาตรฐานเว็บสมัยใหม่ได้เกือบจะสมบูรณ์โดยบางคะแนนของ Acid3 นั้นเป็นคะแนนที่เบราเซอร์บางตัวไม่ผ่านเนื่องจากความไม่สมบูรณ์ของมาตรฐานที่กำลังจะมีการแก้ไข

เมื่อสองปีที่แล้ว กูเกิลได้เปิดตัว Chrome รุ่นเบต้าแรก และได้สร้างความฮือฮาให้วงการเบราว์เซอร์อย่างมาก ความเร็วของ Chrome เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามจาวาสคริปต์ที่เบราว์เซอร์ทุกตัวต้องลงมาเล่น ทำให้เบราว์เซอร์พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในรอบสองปีให้หลังนี้

ในโอกาสครบรอบสองปี กูเกิลได้ออก Chrome 6 รุ่นจริง (ตามรอบการออกรุ่นที่เร็วขึ้น) ส่วนรายการฟีเจอร์ใหม่อ่านได้จากข่าวเก่า มีอะไรใหม่ใน Chrome 6 และ Chrome 6 เข้าสู่สถานะ Beta

ที่มา - Chrome Blog

หลังมีข่าวว่า Chrome 7 จะเริ่มใช้ GPU ช่วยประมวลผล แนวทางการใช้งานแรกก็เริ่มเข้ามาด้วยหน้าจอ Tab Overview ที่ช่วยให้ผู้ใช้เลือกแท็บโดยเห็นภาพย่อส่วนของที่หน้าเว็บพร้อมๆ กันแบบเดียวกับ Exposé ของ Mac OS X

แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือใน Chrome 7 นั้นจะเพิ่มหน้าจอใหม่คือ about:labs มาให้ผู้ใช้เลือกเปิดฟีเจอร์ที่อาจจะยังไม่สมบูรณ์ขึ้นมาใช้งานได้ โดยแนวทางนี้เป็นไปในรูปแบบเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของกูเกิลเช่น Gmail, Google Calendar เป็นต้น ดังนั้นเราคงได้เห็นฟีเจอร์แปลกๆ อีกมาที่จะถูกส่งเข้ามาอยู่ในหน้าจอนี้ เพื่อคัดเอาบางฟีเจอร์ให้เป็นฟีเจอร์หลักของ Chrome และบางฟีเจอร์ที่จะถูกคัดออกไป

ไม่ต้องรอนาน อีกเดือนกว่ามันก็ออกตัวจริง

คนที่ทดลองใช้ Chrome 7 รุ่นทดสอบค้นพบว่า กูเกิลได้เปิดฟีเจอร์ GPU acceleration สำหรับกราฟิกสองมิติ โดยใช้เทคนิคแยกเลเยอร์ของเว็บเพจ เช่น ภาพ ข้อความ วิดีโอ CSS WebGL ฯลฯ แล้วใช้ GPU ช่วยคำนวณในบางเลเยอร์ (ข้อความและรูปภาพยังอยู่ใน CPU) รายละเอียดอ่านได้ใน GPU Accelerated Compositing in Chrome

วิธีการทำงานคือ Chrome จะแยกโพรเซสของ GPU ออกมาอีกตัว เป็นคนละส่วนกับตัวเบราว์เซอร์หลักและแท็บแต่ละแท็บ

หลังจาก Firefox for Mobile ออกรุ่น 1.0 บน Maemo ทางค่าย Mozilla ก็มุ่งพัฒนาเวอร์ชันบน Android ต่อ (ภาพแรก, Firefox Mobile for Android ออกปลายปีนี้?, Fennec รันบน Android ได้แล้ว)

เวลาผ่านมาอีกหลายเดือน ล่าสุดทาง Mozilla ได้ออก Fennec 2.0 Alpha ซึ่งใช้ได้บน Android และ N900 แล้ว

ฟีเจอร์สำคัญของ Fennec 2.0 คือการเชื่อมต่อกับ Firefox Sync และ "Electrolysis" หรือการแยกโพรเซสของ UI ออกจากโพรเซสของเว็บเพจ ทำให้ UI ตอบสนองได้เร็วขึ้นแม้เจอเว็บเพจโหลดหนักๆ

ถึงแม้มันจะกว้างแค่ 2 พิกเซล แต่มันอาจเป็น 2 พิกเซลที่สำคัญที่สุดในวงการออกแบบเว็บเลยก็ว่าได้

แต่ก่อนจนถึงปัจจุบัน การวาดหน้าเว็บเพจของ IE จะเพิ่ม "ขอบ" ขนาด 2 พิกเซลไว้ระหว่างหน้าต่างของเบราว์เซอร์กับเว็บเพจ เพื่อสร้างความรู้สึกว่าเว็บเพจอยู่ลึก (beveled) กว่าหน้าต่างเว็บเบราว์เซอร์ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือมันกระทบต่อการคำนวณความกว้างของเพจ ทำให้นักออกแบบหลายๆ คนปวดหัว เพราะความกว้างวัดเป็นพิกเซลของ IE ต่างออกไปจากเบราว์เซอร์อื่นๆ

ใน IE9 Preview 4 ไมโครซอฟท์ประกาศว่าจะยกเลิกการแสดงผล "ขอบ" ที่ว่านี้แล้ว โดยจะมีผลต่อเว็บเพจที่ถูกเรนเดอร์ใน Standards Mode (ขึ้นกับการตั้ง DOCTYPE) ส่วนเว็บที่เลือกแสดงผลแบบเก่า จะยังมีขอบเช่นเดิม

Firefox 4 Beta 4 ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามา 2 อย่าง

คนที่ใช้ Firefox 4 รุ่นเบต้าอาจเคยเห็น Test Pilot ซึ่งเป็นการ "ขอเก็บ" สถิติการใช้งานเบราว์เซอร์ เพื่อให้ทาง Mozilla มีข้อมูลนำไปตัดสินใจเพิ่มฟีเจอร์-เปลี่ยน UI ของ Firefox

ล่าสุดทาง Mozilla ออกมาเปิดเผยสถิติของการใช้ฟีเจอร์ Private Browsing หรือท่องเว็บแบบไร้ร่องรอย ผลลัพธ์ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะใน 1 วันมีช่วงเวลาที่คนนิยมใช้ Private Browsing อยู่ 4 ช่วง ได้แก่ ตอนพักกลางวัน (สูงที่สุด), ตอนเย็นหลังเลิกงาน, หัวค่ำหลังกินอาหารเย็น และดึกๆ หลังเที่ยงคืนเล็กน้อย

เว็บไซต์ derStandard.at มีโอกาสสัมภาษณ์ Chris Blizzard ผู้บริหารของ Mozilla ในหลายเรื่อง แต่คำถามสำคัญคือ "ทำไมตอนนี้ Firefox มีอันดับเกือบบ๊วยในการประมวลผลจาวาสคริปต์"

คำตอบของ Blizzard คือ Firefox 4 จะนำเทคนิค Tracing-JIT มาใช้ ซึ่งจะช่วยให้ประสิทธิภาพดีขึ้นมาก เหนือกว่าคู่แข่งไปอีก 1 ชั่วรุ่น (we'll be one generation ahead of everyone else)

ประเด็นอื่นๆ คือ Firefox จะมี hardware acceleration บนลินุกซ์และแมคอย่างแน่นอน เพียงแต่มีบนวินโดวส์ก่อนเพราะ API ของวินโดวส์ดีกว่า, ส่วนการแยกโพรแซสของแท็บจะทำเช่นกัน แต่ไม่ทันใน Firefox 4

Mozilla ประกาศว่าจะปล่อย Firefox 4 เบต้า 4 ในวันจันทร์หน้า โดยเวอร์ชันสำหรับ Windows จะเพิ่มฟีเจอร์ hardware acceleration ซึ่งเบื้องหลังของฟีเจอร์ดังกล่าวใน Firefox 4 คือการเรียกใช้ Direct2D ใน Windows แต่ฟีเจอร์ดังกล่าวจะยังไม่ถูกให้ใช้โดยดีฟอลต์ ผู้ใช้ต้องไปเปิดใช้เอง โดยเข้าไป about:config แล้วตั้งค่าดังนี้

• mozilla.widget.render-mode แล้วกำหนดค่าเป็น 6
• gfx.font_rendering.directwrite.enabled แล้วกำหนดค่าเป็น true

นอกจากนั้น ฟีเจอร์ tab sets ที่ช่วยให้ผู้ใช้รวมกลุ่มแท็ปเป็นก้อนแล้วจัดการมันได้ง่ายขึ้น (ดูรูปได้ท้ายข่าว) จะถูกเพิ่มลงใน Firefox 4 เบต้า 4 แทนฟีเจอร์ TabCandy ที่ปรากฏในเบต้า 3 ด้วยเช่นกัน

วันนี้เมื่อ 15 ปีที่แล้วเป็นวันแรกที่ไมโครซอฟท์เปิดตัว Internet Explorer หรือที่เรียกกันว่า IE รุ่น 1.0 ภายในไม่กี่เดือนหลังจากนั้นไมโครซอฟท์ก็เร่งเปิดตัวรุ่น 2.0 และรุ่น 3.0 ตามลำดับดังนี้

กูเกิลปรับสถานะของ Chrome 6 จาก Dev เป็น Beta เรียบร้อย ปรับช่วงการออกให้เร็วขึ้นเป็นทุก 6 สัปดาห์

ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญได้แก่

• Autofill
• Sync ข้อมูลได้เกือบครบทุกอย่าง
• เพิ่มพลัง V8 JavaScript Engine
• รวมปุ่ม Page กับ Options เป็นปุ่มเดียว

ที่เหลืออ่านใน มีอะไรใหม่ใน Chrome 6 (และอะไรถูกโยกไปไว้ใน Chrome 7)

ที่มา - Ars Technica

ค่าย Mozilla มีแผนจะให้ Firefox 4 อัพเดตตัวเองแบบเงียบๆ ทำงานแบบเบื้องหลัง ตามแนวทางของ Chrome โดยให้เหตุผลว่าผู้ใช้สับสนที่ Firefox แจ้งอัพเดตบ่อย แต่พอกดแล้วไม่พบอะไรเปลี่ยนแปลง

ฟีเจอร์นี้จะใช้สำหรับการอุดช่องโหว่ความปลอดภัย หรืออัพเดตย่อย (point release) เท่านั้น สำหรับการอัพเกรดใหญ่ (เช่น Firefox 4 เป็น Firefox 4.5) จะยังมีหน้าต่างแจ้งเตือนเหมือนเดิม กูเกิลเคยอ้างว่า ข้อดีของการอัพเดตเบื้องหลังแบบเงียบๆ คือผู้ใช้จะได้ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ล่าสุดเสมอ ตัวเลขของ Chrome คือ 97% เทียบกับ 85% ของ Firefox และ 53% ของ Safari

ผู้ใช้สามารถสั่งปิดฟีเจอร์อัพเดตเบื้องหลัง และกลับไปใช้ระบบแบบปัจจุบันได้ ฟีเจอร์นี้เฉพาะ Firefox บนวินโดวส์เท่านั้นครับ

โหมด Private Browsing (หรือที่ Chrome เรียก Incognito และ IE เรียก InPrivate) กลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของเบราว์เซอร์ 4 เจ้าใหญ่ ได้แก่ Chrome, Firefox, Safari และ IE แต่จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กลับพบว่าโหมด Private Browsing ไม่ทำให้ผู้ใช้ "ล่องหน" ทั้งหมดอย่างที่โฆษณา

ใน Firefox, Safari, IE พบปัญหาเดียวกันเมื่อเข้าเว็บผ่าน SSL ซึ่งเบราว์เซอร์ทั้งสามตัวจะเก็บไฟล์ certificate ของเว็บเหล่านี้ไว้บนคอมพิวเตอร์ ยังเหลือเป็นร่องรอยให้ตามได้อยู่ว่าผู้ใช้เข้าเว็บใดบ้าง นอกจากนี้เบราว์เซอร์แต่ละตัวยังทิ้งรอยในสถานการณ์ที่ต่างกันไป เช่น IE ถ้าเจอเว็บไซต์ที่ส่งข้อมูลผ่าน SMB ก็จะทิ้งรอยไว้ในวินโดวส์ เพราะมีส่วนที่แชร์โค้ดกับ Windows Explorer เป็นต้น

ไมโครซอฟท์ได้ปล่อย Internet Explorer 9 Platform Preview 4 (ข่าวเก่าของ Preview 1, Preview 2, Preview 3) มีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจาก Platform Preview ก่อนหน้านี้ ดังนี้

ข่าวออกมาสักหลายวันแล้ว แต่เพิ่งมีให้ดาวน์โหลดตัวโปรแกรม

ก่อนอื่นเท้าความก่อน เดิมที Chrome มีให้ดาวน์โหลด 3 เวอร์ชัน (ไม่รวม Chromium) คือ Stable, Beta, Dev เรียงตามเสถียรภาพของโปรแกรม ซึ่งผกผันกับความใหม่ของฟีเจอร์

แต่ทางนักพัฒนาของกูเกิลเริ่มไม่พอใจกับอัตราการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในรุ่น Dev เท่าที่ควร เลยออกเวอร์ชันที่สี่ซึ่งใหม่ที่สุด แต่ต้องแลกมาด้วยบั๊กและการขาดเสถียรภาพ ชื่อของมันคือ Canary Build (มาจากคำว่า canary in a coal mine หรือการเลี้ยงนกขมิ้นไว้ในเหมืองถ่านหินเพื่อเตือนภัยเรื่องก๊าซพิษ กูเกิลใช้เปรียบเทียบกับการเตือนว่าโปรแกรมมีบั๊ก)