ขออนุญาตขุดข่าวเก่ามาเล่าสู่กันฟังครับ

แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยกับ Business Insider ว่า เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ซีอีโอของยาฮู Marissa Mayer ได้เรียกประชุมพนักงานบริษัท และได้ประกาศแผนการทำงานของยาฮู ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการตัดสินใจว่าผลิตภัณฑ์ใดควรออกสู่ตลาด โดยเธอกล่าวว่า หากผลิตภัณฑ์ใดไม่สามารถเปิดตัวได้ภายใน 6 เดือน และไม่มีทางได้ผู้ใช้ 100 ล้านบัญชีผู้ใช้หรือไม่มีทางทำรายได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์ บริษัทก็จะไม่สนับสนุนผลิตภัณฑ์ดังกล่าว

Eric Schmidt ไปร่วมงานเปิดตัว Nexus 7 ที่ญี่ปุ่น (งานเดียวกับที่เขาพูดถึง Google Maps บน iOS)

บนเวทีเขายังพูดถึงยาฮูว่า กูเกิลยังสนใจจับมือเป็นพันธมิตรทำระบบค้นหากับยาฮูเหมือนเดิม โดยเขาพูดชัดเจนว่ากูเกิลสนใจเรื่องนี้มานาน และบอกยาฮูมาหลายรอบแล้ว ก่อนที่ Marissa Mayer จะย้ายข้ามวิกไปอยู่กับยาฮูด้วยซ้ำ

Ken Goldman เตรียมขึ้นเป็น CFO คนใหม่ของบริษัท Yahoo! แทนที่ตำแหน่งเดิมของ Tim Morse โดย Goldman จะสังกัดตรงกับ Mayer และจะเริ่มทำงานในวันที่ 22 ตุลาคมนี้

Mayer บอกว่า Goldman เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ทางการเงินสูง และเคยบริหารงานบริษัทหลายๆ แห่งจนประสบความสำเร็จมาแล้ว และ Goldman เป็นทางเลือกที่ดีของ Yahoo! เพื่อที่จะเติบโตต่อไป (an ideal choice for Yahoo as we enter our next phase of growth)

Goldman เคยเป็น CFO ของบริษัทรักษาความปลอดภัย Fortinet และทำงานให้บริษัท Siebel Systems ในตำแหน่ง CFO เป็นเวลาหกปีก่อนที่จะถูก Oracle ซื้อไปในเดือนมกราคมปี 2549

ที่มา - ZDNet

หลังจากยาฮูเปิดตัวโครงการแจกสมาร์ทโฟนให้พนักงาน มีตัวเลือกทั้ง iPhone 5, Galaxy S III, Lumia 920 เพียงวันเดียว Doug Dawson หัวหน้าฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ (media relations) ของโนเกียได้ทวีตประกาศว่า พนักงานยาฮูคนใดที่เลือกใช้ Lumia 920 จะได้รับแผ่นรองชาร์จแบบไร้สาย (wireless charging plate) ฟรี

ถึง Dawson จะไม่ได้บอกว่า "wireless charging plate" คือตัวชาร์จไร้สายรุ่นใด แต่หากอ้างตามคำพูดภาษาอังกฤษแล้วก็น่าจะเป็นรุ่นนี้

เราเคยนำเสนอข่าวว่าซีอีโอ Marissa Mayer แห่งยาฮูเตรียมเสนอแผนซื้อสมาร์ทโฟนแจกพนักงานทุกคน ตอนนี้มีรายละเอียดออกมาเป็นทางการภายในยาฮูแล้วครับ โดยโครงการนี้มีชื่อว่า Yahoo! Smart Phones, Smart Fun! ซึ่งยาฮูจะซื้อสมาร์ทโฟนให้กับพนักงานทุกคนใน 22 ประเทศ รวมถึงจ่ายค่าบริการโทรศัพท์และข้อมูลรายเดือนให้ด้วย โดยสมาร์ทโฟนที่ให้พนักงานเลือกมีดังนี้

เมื่อครั้งที่ไมโครซอฟท์เสนอซื้อยาฮู สื่อทั่วโลกก็ประดิษฐ์ชื่อเรียกการเสนอซื้อกิจการรอบนั้นด้วยชื่อของทั้งสองบริษัทมารวมกัน เช่น MicroHoo (หรือแบบอื่นๆ แล้วแต่จะคิดกันออก)

ถึงแม้ไมโครซอฟท์จะซื้อยาฮูไม่สำเร็จ แต่ผลการเจรจาก็ยังลงเอยด้วยข้อตกลงด้านระบบการค้นหาระหว่างยาฮูและไมโครซอฟท์ โดยยาฮูจะนำเอนจินดัชนีเว็บจาก Bing มาใช้แทน แลกกับผลประโยชน์อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป

ล่าสุดทั้งสองบริษัทออกมาประกาศความร่วมมือใหม่ในชื่อว่า Yahoo! Bing Network ซึ่งอธิบายง่ายๆ ว่าเป็นการขายโฆษณาบนผลการค้นหาร่วมกัน ลูกค้าที่ซื้อโฆษณาบน Yahoo! Bing Network สามารถเลือกลงได้บน Bing หรือ Yahoo! Search ได้ภายในระบบเดียว

ซีอีโอ Marissa Mayer แห่งยาฮูยังคงเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรต่อเนื่อง จากก่อนหน้านี้ได้เริ่มโครงการอาหารกลางวันฟรีแบบที่กูเกิลทำ ล่าสุด Business Insider อ้างแหล่งข่าวภายในบอกว่า Mayer นั้นลงมาตรวจดูขั้นตอนการรับสมัครพนักงานใหม่ทุกคนด้วยตนเองเลยทีเดียว ซึ่งในมุมของการบริหารจัดการนั้น การที่ซีอีโอต้องลงมาทำงานแบบนี้นั้นถือเป็นต้นทุนองค์กรที่สูงมาก (ซีอีโอมีค่าจ้างที่สูง จึงควรไปทำงานอื่นมากกว่า) โดยปัจจุบันยาฮูมีพนักงานอยู่ประมาณ 15,000 คน

Ross Levinsohn รองประธานฝ่าย global media ของยาฮูซึ่งเคยทำหน้าที่ซีอีโอรักษาการในช่วงที่ Scott Thompson ลาออกจนกระทั่งได้ Marissa Mayer มาเป็นซีอีโอ ได้ประกาศลาออกจากยาฮูแล้ว โดยเขาออกอีเมลถึงพนักงานบอกว่าการทำงานยาฮูนั้นเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตการทำงานของเขา แต่ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะมองหาความท้าทายใหม่ในอาชีพ

การลาออกของ Levinsohn นั้นไม่ผิดคาดนัก เพราะเขาถือเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่น่าจะได้เป็นซีอีโอยาฮูคนใหม่ ซึ่งเมื่อผลออกมาว่าไม่ใช่ เขาก็ตัดสินใจลาออก โดยแหล่งข่าวภายในระบุว่าซีอีโอ Mayer พยายามต่อรองกับเขาอยู่หลายวันแต่ก็ไม่เป็นผล

เพียงสัปดาห์ที่สองในฐานะซีอีโอคนใหม่ของยาฮู ก็มีรายงานว่า Marissa Mayer นำวัฒนธรรมแบบกูเกิลมาใช้กับยาฮูหลายอย่างด้วยกัน เช่น

• ประชุมพนักงานทั้งบริษัทในวันศุกร์บ่าย
• อาหารเที่ยงฟรีจากร้านอาหารของบริษัท
• มีแผนปรับบรรยากาศในสำนักงาน ผังการวางที่นั่ง ให้เอื้อต่อการทำงานร่วมกันมากขึ้น

พนักงานยาฮูรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับ AllThingsD ว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นประเด็นเล็กๆ น้อยๆ แต่พนักงานส่วนใหญ่ก็ตื่นเต้นกับมันมาก

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลออกมาว่า Mayer จะซีเรียสจริงจังกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์มากขึ้น ซึ่งถือเป็นความเชี่ยวชาญของเธอสมัยอยู่กูเกิล และมีการคาดการณ์ภายในบริษัทว่าเราจะเริ่มเห็นยาฮูออกซื้อกิจการมาเสริมทัพในเร็ววัน

Scott Thompson ซีอีโอคนก่อนนี้ของยาฮูที่มีปัญหาเรื่องวุฒิการศึกษาจนต้องลาออกหลังทำงานไปไม่กี่เดือน

หลังออกจากยาฮูไปได้ไม่นาน เขาก็ได้รับงานใหม่เรียบร้อย โดยเป็นซีอีโอของ ShopRunner เว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์แห่งหนึ่งที่ชูจุดขายเรื่อง "สั่งซื้อออนไลน์ ส่งของโดยร้านค้าปลีกออฟไลน์"

ยาฮูรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองของปีนี้ มีรายได้รวม 1.218 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิ 228.5 ล้านดอลลาร์ ลดลง 4% โดยซีเอฟโอ Tim Morse กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมายาฮูได้ทำข้อตกลงร่วมกับพันธมิตรหลายรายทั้ง Alibaba, Facebook ตลอดจน CNBC, Clear Channel และ Spotify

ในช่วงแถลงผลประกอบการกับนักวิเคราะห์นั้น ซีอีโอใหม่หนึ่งวัน Marissa Mayer ยังไม่ได้มาร่วมแถลงแต่อย่างใด โดยซีเอฟโอ Morse บอกว่าทางยาฮูต้องการให้ Mayer ได้ใช้เวลาศึกษาทำความเข้าใจองค์กรเสียก่อน ฉะนั้นยาฮูก็จะยังไม่มีการประเมินผลประกอบการในอนาคตสำหรับช่วงนี้

ท่าทางข่าวช็อควงการไอทีวันนี้ ยาฮูได้ซีอีโอคนใหม่แล้ว - Marissa Mayer จากกูเกิล จะยังช็อกไม่พอ เพราะล่าสุดมีข่าวว่า Marissa Mayer กำลังตั้งครรภ์อยู่ในขณะนี้!

เรื่องนี้ตัวเธอยืนยันกับ Fortune เอง กำหนดคลอดของเธอคือวันที่ 7 ตุลาคมนี้ ที่สำคัญนี่เป็นท้องแรกของเธอเสียด้วย (สามีของเธอคือ Zachary Bogue เป็นทนายที่ปัจจุบันหันมาเป็นนักลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัพ)

ตัว Mayer เองยอมรับว่าคิดถึงเรื่องลูกเป็นอย่างแรกเมื่อได้รับโทรศัพท์จากยาฮู และเธอก็เปิดเผยเรื่องนี้กับคณะกรรมการสรรหาซีอีโอของยาฮู ซึ่งก็ไม่มีคณะกรรมการคนไหนเห็นว่าเป็นปัญหา เธอบอกว่าจะลาคลอดไม่นาน (a few weeks) และระหว่างนั้นเธอจะทำงานไปด้วย

ยาฮูประกาศวันนี้ว่า Marissa Mayer จะมาเป็นซีอีโอคนใหม่และนั่งตำแหน่งในบอร์ดบริหารควบด้วย ทำให้ในที่สุดยาฮูก็ได้ซีอีโอคนที่ 3 ในรอบหนึ่งปี นับตั้งแต่ Carol Bartz ที่ถูกไล่ออก จนถึง Sco

Yahoo! Voices ซึ่งเป็นระบบจัดการงานเขียนออนไลน์ ที่ใช้ส่งงานเขียนไปยังบริการต่างๆ ของยาฮู อาทิเช่น Yahoo! News ได้ถูกแฮกเกอร์ผู้ไม่ประสงค์ออกนามเจาะระบบและเปิดเผยรหัสผ่านมากกว่า 450,000 บัญชีผู้ใช้บนเว็บไซต์แห่งหนึ่ง จุดประสงค์เพื่อเป็นการเตือนยาฮูให้ปิดช่องโหว่ที่เกิดขึ้น แถมยังทิ้งท้ายว่ายังมีช่องโหว่อีกจำนวนมากบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ของยาฮู ที่สามารถสร้างความเสียหายได้รุนแรงกว่านี้

รายการรหัสผ่านที่ถูกเปิดเผยนั้น ไม่ได้มีแต่บัญชีรายชื่อของยาฮูเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีของผู้ให้บริการอีเมลเจ้าอื่นๆ อีกด้วย อาทิเช่น Gmail ของกูเกิล และ Hotmail ของไมโครซอฟท์ เนื่องจากยาฮูได้อนุญาตให้ผู้ใช้ล็อกอินเข้าสู่ระบบโดยใช้บัญชีรายชื่อและรหัสผ่านของผู้ให้บริการอีเมลเจ้าอื่นๆ ได้

ก่อนหน้านี้ Facebook กับ Yahoo! มีคดีฟ้องร้องกันในชั้นศาลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิบัตรเกี่ยวกับเครือข่ายสังคมออนไลน์และเทคโนโลยีโฆษณา ล่าสุดดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายจะเข้าใจกันดีแล้ว และได้เซ็นสัญญาให้สิทธิแลกใช้สิทธิบัตรกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากเรื่องสิทธิบัตร ทั้งสองฝ่ายยังได้ตกลงที่จะขายโฆษณาร่วมกันอีกด้วย นี่อาจจะแสดงให้เราเห็นว่าการฟ้องร้องกันในบางครั้งสุดท้ายก็ทำให้เกิด "ความเข้าใจ" กันก็เป็นได้

ที่มา - Engadget

Yahoo! ประกาศความร่วมมือกับคลังภาพถ่ายอย่าง Getty Images ให้ระบบการค้นหาของ Yahoo! สามารถค้นหาภาพและวิดีโอจากคลังภาพได้

ระบบค้นหาของ Yahoo! จะเข้าถึงคลังภาพทั้งหมดของ Getty Images โดยจะมีภาพใหม่เพิ่มเข้ามาประมาณวันละ 25,000 ภาพ คนที่ต้องการซื้อภาพจาก Getty Images ก็สามารถเข้ามาใช้ระบบค้นหานี้ได้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

นอกจากนี้ Yahoo! ยังปรับปรุงระบบค้นหาภาพของตัวเองให้ดีขึ้น แสดง thumbnail เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ มีระบบพรีวิวและ badge สำหรับภาพคุณภาพสูงด้วย

ที่มา - Yahoo! Search Blog

Eric Jackson ผู้ก่อตั้งสถาบัน Ironfire Capital ได้ออกมาพูดในรายการ Squawk on the Street ช่อง CNBC ว่า "ในอนาคตนี้ Facebook จะหายไปจากโลกอินเทอร์เน็ตเหมือนที่ Yahoo ได้หายไป" … "แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม Yahoo ก็ยังสามารถทำเงินได้และก็ยังมีพนักงานกว่า 13,000 คน ถึงแม้ว่ามันจะมีมูลค่าเพียงแค่ 10% จากราคาตลาดสมัยที่ Yahoo รุ่งที่สุดเมื่อปี 2000"

สำหรับสาเหตุที่เขาเชื่อว่า Facebook จะหายไปนั้น เขาบอกว่าบนตลาดมือถือ Facebook ยังไม่สามารถปรับตัวได้ และโลกเราก็หมุนเร็วกว่าเดิม การแข่งขันก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ที่เคยครองตลาดในโลกเทคโนโลยีในเจอเนอเรชั่นก่อนหน้า มักจะมีปัญหาในการก้าวข้ามไปเจอเนอเรชั่นต่อไปเสมอ

เมื่อปีที่แล้ว ยาฮูออกแอพ Livestand สำหรับอ่านแมกกาซีนบนแท็บเล็ต ปรากฏว่าเวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งปี ยาฮูตัดสินใจหยุดพัฒนามันต่อแล้ว

ข่าวเหนือความคาดหมายประจำวันคือยาฮูหันมาทำเว็บเบราว์เซอร์กับเขาบ้างในชื่อ Axis

Axis ไม่ได้เป็นเบราว์เซอร์เต็มรูปแบบเหมือนกับ Chrome แต่มันเป็นแอพบน iPad/iPhone (เวอร์ชัน Android กำลังตามมา) ที่เรียกใช้เอนจิน WebKit ของแอปเปิลอีกทีหนึ่ง

จุดขายสำคัญของ Axis อยู่ที่ไอเดียครับ แนวคิดของมันคือตั้งคำถามว่าทำไมตอนเราค้นข้อมูลในเว็บ เราต้องเด้งไปที่หน้าผลการค้นหา (ที่เต็มไปด้วยลิงก์) ก่อนแล้วถึงค่อยเข้าไปยังหน้าเว็บที่ต้องการ ดังนั้น Axis จะรวมเอาหน้าผลการค้นหามาอยู่ในตัวเบราว์เซอร์เลย (แน่นอนว่าใช้ระบบค้นหาของยาฮู) มีพรีวิวของเว็บปลายทางมาให้ดูก่อนกดลิงก์ด้วยในตัว หรือในบางกรณีก็แสดงข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการหา เช่น สภาพอากาศ หรือ แผนที่ ให้เลยด้วยซ้ำ

WSJ รายงานข้อมูลโดยอ้างแหล่งข่าวคนสนิทของ Scott Thompson อดีตซีอีโอของ Yahoo! ที่เพิ่งลาออกไปว่าสาเหตุที่ Thompson ลาออกนั้นไม่ใช่ประเด็นวุฒิการศึกษา แต่เป็นเพราะเขาตรวจพบมะเร็งต่อมไทรอยด์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ทั้งนี้ Thompson ได้แจ้งข่าวดังกล่าวกับบอร์ดบริหารและเพื่อนร่วมงานคนสนิทเพื่อขอลาออกจากตำแหน่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้เริ่มเข้ารับการรักษาแล้วแต่เขาขอให้ไม่มีการเปิดเผยสาเหตุนี้ในการลาออกต่อสาธารณะ

ก็ขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้คุณ Thompson ผ่านพ้นโรคร้ายนี้ไปด้วยดีครับ

หลังจากซีอีโอ Scott Thompson ได้ออกมาขอโทษเรื่องปัญหาวุฒิการศึกษาแต่ยังไม่ลาออก ส่วนบอร์ดก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวน วันนี้ยาฮูได้ประกาศสั้นๆ ว่า "Ross Levinsohn ได้มารับตำแหน่งชั่วคราว แทน Thompson ที่ได้ออกจากบริษัทไปแล้ว โดยให้มีผลทันที" โดยไม่ได้ระบุว่า Thompson ได้ลาออกเองหรือถูกไล่ออกกันแน่

มีความคืบหน้าเรื่องปัญหาวุฒิการศึกษาของ Scott Thompson ซีอีโอ Yahoo! ที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เรียกร้องให้บอร์ดมีข้อสรุปในวันจันทร์ที่ผ่านมาครับ โดยล่าสุด Thompson ได้ออกอีเมลถึงพนักงานอีกฉบับ มีใจความสำคัญดังนี้

ข่าวนี้เป็นความคืบหน้าเรื่องปัญหาวุฒิการศึกษาของ Scott Thompson ซีอีโอ Yahoo! ซึ่งต้องบอกว่าประเด็นที่เป็นปัญหานั้นไม่ใช่เรื่องเขาไม่ได้จบสาขาด้านคอมพิวเตอร์แล้วจะบริหาร Yahoo! ไม่ได้นะครับ แต่เป็นปัญหาที่ว่า Thompson นั้นทำให้คนเชื่อว่าเขาเรียนจบด้านคอมพิวเตอร์ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งถือเป็นปัญหาด้านธรรมาภิบาลของบริษัทมหาชนในตลาดหุ้นอย่าง Yahoo!

เรื่องนี้เริ่มต้นจาก Dan Loeb ผู้บริหารกองทุน Third Point ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Yahoo! ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงบอร์ดบริหารว่าเขาพบว่าประวัติซีอีโอ Scott Thompson ที่แจ้งต่อคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ซึ่งระบุว่าจบการศึกษาสาขาบัญชีและวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จาก Stonehill College นั้นไม่ถูกต้อง โดยการสืบค้นข้อมูลพบว่า Thompson มีวุฒิการศึกษาในสาขาบัญชีเท่านั้น ความเกี่ยวโยงกับสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์นั้นมีเพียงวิชา Intro to Computer Science ที่เขาเคยลงทะเบียนเรียนระหว่างศึกษาอยู่ที่นั่น

หลังจากเหตุการณ์ที่มีการพบช่องโหว่ร้ายแรงบนบริการของ Hotmail และได้รับการแก้ไขแล้ว ในช่วงเช้าของวันนี้มีการแจ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องโหว่ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันบนบริการของ Hotmail, Yahoo! และ AOL ซึ่งช่องโหว่นี้ได้รับการเผยแพร่แล้วโดยยังไม่ได้รับการป้องกันหรือแก้ไขจากทางบริษัทเจ้าของบริการเลย

เมื่อเวลา 16:30 นี้ได้รับการยืนยันว่าช่องโหว่นี้ไม่สามารถใช้งานได้แล้วครับ อีกไม่นานคงมีประกาศจากทางต้นสังกัดของบริการออกมายืนยันในเรื่องผลกระทบและการแก้ไขครับ ผู้อ่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องโหว่นี้ได้ในแหล่งที่มาครับ