12Go Asia เป็นสตาร์ตอัพอีกหนึ่งรายที่พยายามเปิดบริการจองรถโดยสาร-เรือโดยสารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ตอนนี้มีบริการในไทย มาเลเซีย กัมพูชา แต่เน้นไทยเป็นหลัก) ตัวบริษัทจดทะเบียนในสิงคโปร์เมื่อปี 2013 แต่ก็มีสำนักงานในไทย ทีมผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตกที่อาศัยอยู่ในประเทศแถบนี้
จุดเด่นของ 12Go คือระบบจองตั๋วรถผ่านเว็บและแอพ (รองรับ iOS/Android) ที่ใช้งานง่าย และช่องทางการจ่ายเงินที่หลากหลาย ทั้งบัตรเครดิต, PayPal และการจ่ายที่ 7-Eleven
ผมมีโอกาสสัมภาษณ์คุณ Martin Natividad ผู้บริการของ 12Go Asia มาเล็กน้อย เลยนำบทสัมภาษณ์มาเผยแพร่ครับ
หลังจากที่ Uber ระงับการให้บริการในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดียเมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุดทาง Uber ได้ประกาศกลับมาให้บริการอีกครั้งแล้ว พร้อมเพิ่มมาตรการความปลอดภัยและตรวจสอบประวัติคนขับให้เข้มข้นยิ่งขึ้น
Uber ได้ดำเนินการเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของคนขับและความปลอดภัยของผู้โดยสารด้วยการยื่นขอใบอนุญาตจาก Radio Taxi Scheme และยินยอมอยู่ภายใต้กฎระเบียบของการบริการเรียกรถ รวมไปถึงร่วมมือกับกรมการขนส่ง เพื่อออกกฎระเบียบใหม่สำหรับการเรียกรถแบบ on-demand
จากกรณีคุณ Koki Aki ชาวญี่ปุ่นที่คุ้นเคยกับประเทศไทยโพสต์ปัญหาของการเรียกแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ จนเป็นข่าวใหญ่ตลอดรอบ 2-3 วันที่ผ่านมา (โพสต์ต้นฉบับใน Facebook)
ล่าสุดบริการแท็กซี่ Uber ใช้โอกาสเรื่องปัญหาแท็กซี่ในสนามบินของไทย ออกโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษสำหรับการเรียก Uber ออกจากสนามบินในกรุงเทพ (ride from airport) แล้ว โดยผู้ใช้งานจะได้ส่วนลด 400 บาทสำหรับการเดินทางจากสนามบิน ซึ่งตามปกติแล้วคิดราคาเหมาจ่าย 1,000 บาทขึ้นไป โปรโมชั่นนี้มีผลถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2015 นี้
ที่น่าสังเกตคือ Uber ออกโปรโมชั่นนี้เป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยครับ
ที่มา - Uber Facebook
ในยุคที่แอพเรียกรถแท็กซี่กำลังมาแรง เราเห็นแอพแชทอย่าง LINE เปิดตัว LINE Taxi ในญี่ปุ่นกันไปแล้ว ล่าสุดในฝั่งเกาหลีเอง แอพแชทยอดนิยม Daum Kakao ก็หันมาทำแอพลักษณะเดียวกันบ้างในชื่อ Kakao Taxi
Daum Kakao เซ็นสัญญาข้อตกลงกับสมาคมแท็กซี่กรุงโซล และบริษัท Korea Smart Card ทำแอพที่คอยเชื่อม "ผู้ขับแท็กซี่ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง" กับผู้โดยสารที่ต้องการ โดยผู้ขับแท็กซี่สามารถเข้ามาลงทะเบียนใช้แอพเพื่อให้บริการผู้โดยสารได้ โฆษกของ Kakao ระบุว่ารูปแบบการให้บริการจะต่างไปจาก UberX ที่ใช้คนขับ-รถที่ไม่ได้รับใบอนุญาต ทำให้บริการของ Kakao สะดวกและปลอดภัยมากกว่า
LINE Taxi บริการเรียกแท็กซี่ของ LINE เปิดให้ลูกค้าในญี่ปุ่นใช้งานแล้ว โดยเบื้องต้นลูกค้าที่อยู่ในเขตโตเกียวจะสามารถกดเรียกแท็กซี่จากแอพ LINE ได้เลย ไม่ต้องลงแอพใดๆ เพิ่มเติม (ต้องอัพเดตเป็น LINE 4.8.0 ขึ้นไป) ส่วนภูมิภาคอื่นๆ ของญี่ปุ่นจะเปิดบริการต่อไปในอนาคต
รูปแบบการใช้งานของ LINE Taxi จะเหมือนกับแอพเรียกแท็กซี่อื่นๆ แต่สามารถจ่ายเงินด้วย LINE Pay ซึ่งเป็นระบบจ่ายเงินของ LINE เองได้
สมาชิก Blognone ท่านใดอยู่ญี่ปุ่น ลองแล้วก็มาแชร์กันได้นะครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ที่มา - LINE
Uber เพิ่มบริการด้านรถยนต์แบบใหม่ UberCARGO เป็นการจัดหารถตู้ผ่านแอพเพื่อใช้สำหรับรับ-ส่งพัสดุ ประเดิมให้บริการที่แรกในฮ่องกง
ผู้ใช้บริการ UberCARGO สามารถเรียกรถตู้ให้มารับพัสดุเพื่อนำไปส่งยังสถานที่และติดตามสถานะการนำส่งของได้จากแอพของ Uber หรือจะเลือกโดยสารรถไปพร้อมกับพัสดุเหล่านั้นก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้สามารถขอให้คนขับของ UberCARGO ช่วยขนย้ายพัสดุได้ด้วย โดยค่าบริการของ UberCARGO นั้นจะมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 20 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 85 บาท) บวกกับค่าบริการเก็บตามระยะทางกิโลเมตรละ 4.50 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 20 บาท) และ/หรือ ตามเวลาที่ใช้บริการนาทีละ 1.60 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 7 บาท)
Uber ประสบปัญหาด้านกฎหมายอีกระลอก คราวนี้เกิดขึ้นในประเทศจีนและไต้หวัน โดย Reuter รายงานว่า ในประเทศจีน Uber ได้เปิดบริการในเมืองฉงชิ่ง และมีปัญหาในลักษณะเดียวกับ UberX ในไทย คือรถยนต์ที่ให้บริการไม่ได้มีป้ายทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะ (commercial license plate) โดยทางการเมืองฉงชิ่งกล่าวว่าจะปรับคนขับรถของ Uber ตั้งแต่ 3,000 หยวนถึง 100,000 หยวน แต่ไม่ได้พูดถึงมาตรการต่อ Uber โดยตรง
ขณะที่ในไต้หวัน เป็นประเด็นด้านกฎหมายของบริษัท Uber โดยตรง เพราะ Uber ได้ไปจดทะเบียนเป็นบริษัทให้บริการด้านข้อมูล (provide information service) แทนที่จะเป็นบริษัทด้านขนส่ง โดยกระทรวงคมนาคมไต้หวันกำลังรวบรวมข้อมูล ว่าตนมีอำนาจในการสั่งบล็อคการเข้าถึงเว็บไซต์และแอพพลิเคชันของ Uber หรือไม่
ในรอบปีที่ผ่านมา กระแสการใช้บริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพน่าเรียกได้ว่ามีความนิยมสูงมาก แต่ทว่าคงไม่ใช่กับทุกเจ้าที่ให้บริการแนวนี้ หลังจาก Easy Taxi บริการในเครือ Rocket Internet (เป็นเจ้าของ Zalora และ Lazada ด้วย) ประกาศผ่อนคันเร่งของ Easy Taxi ลงในบางประเทศของเอเชียแล้ว
ประเทศที่ Easy Taxi ประกาศว่าจะไม่เน้นต่อจากนี้คือ ฮ่องกง อินเดีย และอินโดนีเซีย ซึ่งจะถูกลดความสำคัญลงเพื่อไปเน้นในแถบอื่นมากขึ้น แม้จะยังให้บริการอยู่ แต่การสนับสนุนคู่ค้าในประเทศดังกล่าวจะมีเท่าที่จำเป็น และจะไม่มีพนักงานในประเทศดังกล่าวอีกต่อไป ส่วนอินเดียที่ยังไม่เปิดบริการเต็มตัวก็ตัดสินใจที่จะไม่เปิดบริการไปเลย
ข่าว Uber ถูกหน่วยงานภาครัฐทั่วโลกสั่งแบนยังออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสออกกฎฉบับใหม่ที่ห้ามเปิดบริการแบบ UberPOP ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2015 เป็นต้นไป
ตัวแทนของกระทรวงมหาดไทยบอกว่าบริการแบบ UberPop ผิดกฎหมาย และเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคเพราะมีระดับการประกันภัยผู้ขับรถต่ำกว่ามาตรฐาน ในขณะที่ Uber ก็ออกมาตอบโต้ว่าประกันของตัวเองได้มาตรฐานแล้ว และพยายามร้องเรียนให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว แต่ศาลปฏิเสธคำร้องฉุกเฉินของ Uber
การสั่งแบน UberPop เป็นผลมาจากผู้ขับแท็กซี่ฝรั่งเศสรวมตัวกันปิดถนนประท้วงในกรุงปารีสเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยใช้วิธีออกมาขับรถช้าๆ เพื่อให้การจราจรติดขัด (แต่ไม่ผิดกฎหมายที่ห้ามจอดรถนิ่งบนผิวจราจร)
ปกติแล้ว Uber มีนโยบายขึ้นราคาค่าโดยสารในกรณีมีความต้องการรถมากกว่ารถที่ว่าง (เช่น เวลาเร่งด่วน) นโยบายนี้เรียกกันว่า surge pricing ซึ่งก็มักมีปัญหาขัดแย้งเป็นข่าวกันอยู่เรื่อยๆ
เมื่อวานนี้มีเหตุการณ์จับตัวประกันในเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย ทำให้ตำรวจกันพื้นที่บริเวณเกิดเหตุไม่ให้ประชาชนเข้า ประชาชนในพื้นที่บางส่วนจึงเดินทางกลับบ้านจน Uber ฉวยโอกาสขึ้นราคาตามนโยบาย surge pricing ซะเลย
ผู้โดยสารคนหนึ่งให้ข้อมูลว่าการนั่ง Uber จากในเมืองไปสนามบินจะอยู่ราว 40-70 ออสเตรเลียดอลลาร์ แต่เมื่อวานนี้ราคาพุ่งสูงไปถึง 145-185 ดอลลาร์
หน่วยงานด้านการขนส่งของรัฐไอโอวา สหรัฐอเมริกา เตรียมออกแอพมือถือสำหรับแสดงใบขับขี่ (driver license) ในปี 2015 ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนไม่จำเป็นต้องพกใบขับขี่ที่เป็นบัตรจริงๆ อีกต่อไป ถือเป็นรัฐแรกของสหรัฐอเมริกาที่มีนโยบายแบบนี้
ตัวแอพจะมีระบบยืนยันตัวตนผ่าน PIN เพื่อบอกว่าเป็นเจ้าของใบขับขี่ตัวจริง มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง (highly secure) และตำรวจในรัฐจะถูกฝึกฝนให้ทราบว่าสามารถใช้แอพนี้แทนการแสดงใบขับขี่ได้ แต่ถ้าประชาชนยังอยากพกบัตรแบบเดิมก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
วิสัยทัศน์ของหน่วยงานขนส่งไอโอวาคือปรับตัวตามคนรุ่นใหม่ให้ทัน โดยผู้บริหารยังยกตัวอย่างว่าถัดจากสมาร์ทโฟน ก็คงต้องหาวิธีทำงานร่วมกับนาฬิกาอัจฉริยะด้วยเช่นกัน
จากกรณีอื้อฉาว คนขับ Uber ในอินเดียข่มขืนผู้โดยสาร ในที่สุด Uber ก็ทานกระแสไม่ไหว ออกมาประกาศปิดบริการในเมืองนิวเดลีเป็นการชั่วคราวแล้ว
Uber บอกว่าจะปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบผู้ขับรถให้ดีกว่านี้ และจะรับฟังความเห็นของผู้ใช้มากขึ้น ถ้าผู้ขับคนใดถูกแจ้งว่ามีปัญหา บริษัทจะตอบสนองต่อคำร้องทันที นอกจากนี้ Uber จะตรวจประวัติผู้ขับทุกคนในอินเดีย (ไม่ใช่แค่นิวเดลี) ใหม่ทั้งหมดเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
ส่วนในไทยยังมีข่าวว่า UberX ยังให้บริการต่อไป แม้ Uber ออกแถลงการณ์ว่ายินดีให้ความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบกก็ตาม
วันที่ 31 ธันวาคม 2013 หรือประมาณหนึ่งปีที่แล้ว Syed Muzzafar อดีตคนขับรถในเครือข่ายของ Uber ขับรถชนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตที่เมืองซานฟรานซิสโก (แม่ของเด็กบาดเจ็บสาหัส) หลังจากนั้นครอบครัวของผู้เสียชีวิตยื่นฟ้อง Muzzafar และบริษัท Uber
ขณะที่เกิดเหตุนั้น Muzzafar เพิ่งมาเป็นคนขับ Uber ได้ประมาณหนึ่งเดือน ซึ่ง Uber ระบุว่าบริษัทไม่เกี่ยวข้องด้วยกับอุบัติเหตุครั้งนี้ เพราะ Muzzafar ไม่ได้รับผู้โดยสารขณะเกิดเหตุ (แต่หลังจากนั้นบริษัทก็เพิ่มประกันภัยกรณีคนขับเกิดอุบัติเหตุขณะที่ไม่มีผู้โดยสาร)
คดีของ Muzzafar ถูกส่งฟ้องศาลโดยอัยการเขตซานฟรานซิสโกแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และ Muzzafar มีกำหนดไปขึ้นศาลเมื่อวานนี้
สัปดาห์นี้คงไม่ใช่สัปดาห์ของ Uber เท่าไรนัก เพราะมีข่าวหน่วยงานภาครัฐทั่วโลกสั่งแบนหรือดำเนินคดีกับ Uber มากมาย ล่าสุดหน่วยงานด้านขนส่งของเมืองริโอเดจาเนโร (Rio de Janeiro) ของบราซิล เตรียมยื่นคำร้องต่อตำรวจให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ Uber แล้ว
ข้อหาของ Uber คือให้บริการแท็กซี่โดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งผู้ขับรถในเครือ Uber ก็อาจโดนยึดรถด้วย ฝั่งของ Uber บราซิลเองระบุว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจากทางภาครัฐ แต่ก็ยินดีให้ความร่วมมือบนฐานของกฎเกณฑ์ "ที่มีเหตุมีผล" ซึ่งบริษัทมองว่ากฎฉบับปัจจุบันเก่าเกินไปและไม่ได้ออกแบบมาสำหรับยุคสมาร์ทโฟน
ที่มา - Bloomberg
จากกรณี อธิบดีกรมการขนส่งทางบกระบุ Uber ผิดกฎหมาย, Uber แถลงยอมรับข้อกฎหมาย ยืนยันปลอดภัย เชื่อถือได้ และ Uber ถูกจับในไทยหนึ่งคัน ปรับ 2,000 บาทฐานใช้รถป้ายแดง
ล่าสุด Uber ไทยออกแถลงการณ์ฉบับใหม่ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2557 (เข้าใจว่าหลังจากเข้าพบกรมการขนส่งทางบกในวันนี้ ตามข่าวที่เคยออกมาก่อนหน้านี้) มีใจความสำคัญคือยืนยันเป้าหมายของ Uber ว่าต้องการยกระดับชีวิตประจำวันของผู้คน, จะเคารพการทำหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก และพร้อมให้ความร่วมมือกับกรมฯ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีด้านคมนาคมต่อไป
ศาลเนเธอร์แลนด์ตัดสินแบนบริการ UberPOP (คล้าย UberX คือเปิดให้คนทั่วไปนำรถตัวเองมาเข้าระบบ แต่ต่างกันตรงที่ผู้โดยสาร UberPOP หลายคนสามารถแชร์รถคันเดียวกันได้) ด้วยเหตุผลว่ากฎหมายกำหนดให้คนขับต้องมีใบอนุญาตขับรถรับจ้างแยกเป็นพิเศษด้วย
Uber อาจโดนสั่งปรับเงินสูงสุด 100,000 ยูโร และผู้ขับจะมีโทษปรับ 10,000 ยูโรต่อคดี
ฝั่งของ Uber ออกแถลงการณ์ว่าจะยื่นอุทธรณ์ และบอกว่ากรณีนี้เป็นหนึ่งใน "การต่อสู้ระยะยาว" ต่อระบบกฎหมายที่ล้าสมัย (a long lasting legal battle) ซึ่งกฎหมายของเนเธอร์แลนด์ฉบับนี้ออกมาตั้งแต่ปี 2000 ในยุคที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนด้วยซ้ำ
Uber เดินหน้าลุย เปิดบริการในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าหน่วยงานด้านขนส่งของพอร์ตแลนด์จะประกาศว่า Uber เป็นบริการผิดกฎหมายก็ตาม
Portland Bureau of Transportation ออกประกาศว่ารับทราบว่า Uber ตัดสินใจเปิดบริการในพอร์ตแลนด์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และประกาศล่วงหน้าว่าจะจับ-ปรับทั้ง Uber และคนขับในสังกัดถ้าตรวจพบ เนื่องจากกฎระเบียบของพอร์ตแลนด์กำหนดให้บริษัทและผู้ขับแท็กซี่ต้องมีใบอนุญาตเสมอ
จากประเด็นข่าวเมื่อวานนี้ อธิบดีกรมการขนส่งทางบกระบุ Uber ผิดกฎหมาย ส่งผลให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ความเห็นประเภทหนึ่งที่พบได้มาก (ไม่ว่าจะเป็นในระบบคอมเมนต์ของ Blognone เองหรือคอมเมนต์บนเว็บไซต์อื่นๆ) คือความเห็นลักษณะที่ว่า "กรมการขนส่งทางบกควรไปกำกับดูแลแท็กซี่ให้ดีก่อน แล้วค่อยมาเอาผิด Uber"
บทความนี้เขียนขึ้นเพื่ออธิบายว่าตรรกะข้างต้นเรื่องการกำกับดูแลแท็กซี่นั้นไม่มีอะไรผิด แต่มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ Uber
ช่วงหลังมานี้เราเริ่มเห็นธุรกิจประเภท "จับผู้ให้บริการกับผู้ใช้บริการมาเจอกัน" ผ่านแพลตฟอร์มแอพมือถือเกิดขึ้นมากมาย เช่น Uber (รถยนต์) หรือ Airbnb (ห้องพัก)
ล่าสุดมีบริการอีกรายที่น่าสนใจคือ EasyVan บริการจับคู่คนส่งของกับรถส่งของ (มีในสิงคโปร์และฮ่องกงมาก่อนแล้ว) บุกเข้ามาทำตลาดไทยแล้วในชื่อว่า lalaMove
จากประเด็นเรื่อง UberX เริ่มให้บริการในไทย แต่พบว่ากลับใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคล (ที่เรียกกันว่าป้ายดำ) จนเกิดคำถามว่าผิดกฎหมายหรือไม่
ทีม Blognone สอบถามประเด็นนี้ไปยัง Uber ประเทศไทยแล้ว แต่ได้รับคำตอบว่าให้สอบถามไปยัง Uber ที่สิงคโปร์ และยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ระหว่างนี้เราจึงสอบถามความเห็นจากนักกฎหมายหลายท่าน และได้รับคำตอบมาดังนี้ครับ
ที่ผ่านมาเราอาจได้ยินหรืออ่านข่าวเกี่ยวกับการประท้วงบริการอย่าง Uber อยู่เป็นระยะ (ข่าวเก่า) แต่เหตุการณ์ส่วนมากมักจะเกิดขึ้นอยู่ในภูมิภาคอย่างยุโรปแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทว่า ที่กรุงไทเป สาธารณรัฐจีน (เรามักรู้จักกันในนาม 'ไต้หวัน') ก็มีการประท้วงเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน
จากรายงานของ Tech In Asia เว็บไซต์ข่าวด้านเทคโนโลยีที่รายงานข่าวในภูมิภาคเอเชีย ระบุว่า เมื่อวานนี้ กลุ่มสหภาพของคนขับแท็กซี่รวมตัวกันประท้วง โดยใช้รถแท็กซี่ของตนเอง ปิดการจราจรรอบเมือง และมีผู้ประท้วงบางส่วนที่ไปล้อมอาคารสำนักงานของกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร เพื่อทำการเผาป้ายทะเบียนรถ เป็นสัญลักษณ์ของการประท้วง
ต่อจากข่าว คนขับรถแท็กซี่ในยุโรปเตรียมปิดถนนประท้วง Uber เมื่อวานนี้รถแท็กซี่ประมาณ 12,000 คันในลอนดอนก็ออกมา "ชุมนุมบนถนน" ประท้วงที่จัตุรัส Trafalgar Square เวลาบ่ายสองโมง (ตามเวลาท้องถิ่น) ตามที่สัญญาไว้ วิธีการประท้วงของคนขับแท็กซี่ใช้วิธี "ขับช้าๆ" เพื่อให้การจราจรติดขัด บีบแตร และตะโกนชื่อ "Boris" ซึ่งหมายถึง Boris Johnson นายกเทศมนตรีของนครลอนดอน
Google Now เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่างเงียบๆ โดยสามารถแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อเดินทางด้วยรถสาธารณะ ว่าใกล้ถึงป้ายหรือสถานีที่ต้องลงเมื่อไร
รูปแบบการทำงานคือถ้าเปิด Google Now ขึ้นมาระหว่างโดยสารรถสาธารณะในเส้นทางที่ใช้บ่อย (เช่น จากบ้านไปที่ทำงาน) ตัวแอพจะถามว่าต้องการให้เตือนเมื่อใกล้ถึงป้ายที่ต้องลงหรือไม่ (พร้อมขึ้นไอคอนนาฬิกา) ถ้าเราแตะยืนยันให้ปลุก แอพจะแจ้งเตือนเราเมื่อใกล้ถึงป้ายนั้น
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอย่างละเอียดว่าฟีเจอร์นี้ใช้ได้ในพื้นที่ใดบ้างครับ (ผู้ใช้คนที่ค้นพบฟีเจอร์นี้อยู่ในเนเธอร์แลนด์)
Lyft ผู้ให้บริการแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชันในลักษณะเดียวกับ Uber เปิดตัวบริการ Lyft Plus บริการแท็กซี่ระดับพรีเมียมสุดหรูแบบ Uber Black โดยจะทดลองให้บริการในซานฟรานซิสโกก่อน
รถที่ให้บริการผ่าน Lyft Plus จะเป็นรถ Ford Explorer ความจุ 6 ที่นั่ง ที่ถูกตกแต่งภายในให้ดูหรูหราและสะดวกสบายมากขึ้น พร้อมบริการน้ำดื่ม ช็อคโกแลตและสายชาร์ตสมาร์ทโฟน และบริการเพลงจาก Spotify ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 15 เหรียญและเรตราคาต่อนาที อยู่ที่ 50 เซนต์ และต่อไมล์ อยู่ที่ 3 เหรียญ รวมไปถึงจะไม่คิดราคาเพิ่ม หากใช้บริการในช่วง prime time จึงทำให้ Lyft Plus มีค่าบริการที่ถูกกว่า Uber Black อยู่พอสมควร
Google ได้สิทธิบัตรใหม่เกี่ยวกับอัลกอริทึมเพื่อให้บริการเดินทางแก่ลูกค้าของร้านค้าที่ซื้อโฆษณาของ Google โดยสิทธิบัตรดังกล่าวถูกเสนอเพื่อขอจดไปตั้งแต่ปี 2011 โดยผู้คิดค้นสิทธิบัตรนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีที่ได้รับสิทธิบัตรหลายรายการสำหรับรถยนต์ไร้คนขับของ Google ด้วย