SoftBank รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดเดือนมิถุนายน ขาดทุน 3.16 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการขาดทุนมากที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท จากสองปัจจัยคือภาพรวมตลาดหุ้น ทำให้บริษัทที่ SoftBank มีราคาหุ้นปรับลดลง ตลอดจนปัญหาเงินเยนอ่อนค่า ทั้งนี้ส่วนของกองทุน SoftBank Vision Funds ขาดทุนรวม 2.92 ล้านล้านเยน
SoftBank Group รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2022 ซึ่งเป็นการปิดปีงบประมาณ FY 21 ด้วยพอดี ถึงแม้รายได้เพิ่มเป็น 6.2 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.67 ล้านล้านบาท) แต่กลับขาดทุนเป็นประวัติการณ์ 1.46 ล้านล้านเยน (ราว 4 แสนล้านบาท)
เหตุผลสำคัญมาจากกองทุน SoftBank Vision Fund ที่ขาดทุนยับเยิน 3.73 ล้านล้านเยน (ราว 1 ล้านล้านบาท) จากสภาพตลาดหุ้นทั่วโลกที่ตกหนักตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา เลยลากให้ธุรกิจทั้งเครือ (ที่ส่วนอื่นมีกำไรขั้นต้น 3.26 ล้านล้านเยน ราว 8.8 แสนล้านบาท) ขาดทุนตามไปด้วย
SoftBank กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ที่ลงทุนสตาร์ตอัพจำนวนมากผ่านกองทุน Vision Fund เริ่มเข้มงวดกับการลงทุน และถอยออกจากสตาร์ตอัพที่ไม่สร้างผลกำไร ทำให้มีสตาร์ตอัพกลุ่มหนึ่งเริ่มประสบปัญหาทางการเงิน หนึ่งในนั้นคือ Light บริษัทสตาร์ตอัพด้านกล้องอัจฉริยะ ที่อาจถึงขั้นต้องยุติกิจการ
อัพเดต 17.10 น NVIDIA ประกาศข่าวอย่างเป็นทางการแล้ว
Financial Times รายงานว่าดีล NVIDIA ซื้อ Arm ล่มแล้ว (อย่างไม่เป็นทางการ) โดย SoftBank ในฐานะเจ้าของปัจจุบันของ Arm ยกเลิกแผนการขายบริษัทให้ NVIDIA และจะนำ Arm ขายหุ้น IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2022 แทน ส่วน NVIDIA ก็ตัดสินใจถอยแล้วในการประชุมบอร์ดเมื่อวานนี้
ตามข่าวบอกว่า SoftBank จะได้รับเงินชดเชยจาก NVIDIA มูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ตามสัญญา และจะเปลี่ยนตัวซีอีโอของ Arm จาก Simon Segars มาเป็น Rene Haas ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญาของ Arm ในปัจจุบัน
โครงการ Loon ที่ทดสอบการให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายจากบอลลูนของ Alphabet ซึ่งประกาศยุติโครงการไปเมื่อต้นปี ได้รายงานแผนการบริหารข้อมูลและสิทธิบัตร ที่เกิดขึ้นในระหว่างการพัฒนาโครงการนี้ ซึ่งได้แก้ปัญหาหลายอย่างด้วย
Alphabet ระบุว่าแม้เป้าหมายหลักโครงการคือสร้างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากบอลลูนที่ลอยอยู่ แต่ระหว่างทางก็มีสิ่งน่าสนใจอาทิ วิธีการทำให้บอลลูนลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ได้นานที่สุด การสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตบนฟ้า หรือการทำให้บอลลูนสามารถเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายได้เองโดยไม่ต้องใช้คนควบคุม
Sorare สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มเกมฟุตบอลแฟนตาซีบน NFT ประกาศรับเงินทุนซีรี่ส์ B รวม 680 ล้านดอลลาร์ จากนักลงทุนนำโดย SoftBank มีกองทุน Atomico, Bessemer Ventures, D1 Capital, Eurazeo, IVP และ Liontree ร่วมลงทุน รวมถึงนักลงทุนอิสระได้แก่ Alexis Ohanian ผู้ร่วมก่อตั้ง Reddit และนักกีฬาฟุตบอล Gerard Piqué, Rio Ferdinand, Antoine Griezmann และ César Azpilicueta
Sorare ระบุว่าเงินทุนซีรี่ส์ B รอบนี้ เป็นการเพิ่มทุนครั้งใหญ่ที่สุดของสตาร์ทอัพในฝรั่งเศส และสูงสุดของซีรี่ส์ B สำหรับในยุโรป ทำให้มูลค่ากิจการเพิ่มเป็น 4,300 ล้านดอลลาร์
บริษัทบอกว่าจะนำเงินทุนนี้มาขยายทีมงาน ขยายความร่วมมือกับสโมสรฟุตบอล รวมถึงมองหาโอกาสสร้างแพลตฟอร์มบนกีฬาอื่นนอกจากฟุตบอล
Keenon Robotics สตาร์ทอัพหุ่นยนต์สำหรับงานบริการ จากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ประกาศรับเงินลงทุนซีรี่ส์ D เพิ่ม 200 ล้านดอลลาร์ โดยมีผู้ลงทุนหลักคือกองทุน Softbank Vision Fund 2 และมีกองทุน CICC ALPHA กับ Prosperity7 ของ Aramco เป็นผู้ร่วมลงทุน บริษัทระบุว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้ เป็นเงินทุนก้อนใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในธุรกิจหุ่นยนต์ภาคงานบริการ
Keenon ก่อตั้งในปี 2010 เน้นพัฒนาหุ่นยนต์ใช้ในงานส่งของ มีลูกค้าทั้งในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ สุขภาพ และงานดูแล
Kentaro Matsui ผู้บริหาร SoftBank กล่าวว่าหุ่นยนต์ในงานบริการ จะเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะในกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม และโรงพยาบาล ที่มีความต้องการมากขึ้น
SoftBank รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ตามปีการเงินบริษัท สิ้นสุดเดือนมิถุนายน ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 15.6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 1.479 ล้านล้านเยน และมีกำไรสุทธิ 9.32 แสนล้านเยน ซึ่งกำไรส่วนใหญ่มาจากการลงทุนผ่านบริษัทต่าง ๆ รวมทั้งกองทุน Vision Fund
กองทุน Vision Fund มีกำไรในไตรมาสที่ผ่านมา 2.355 แสนล้านเยน โดยมีการลงทุน 2 รายการที่สำคัญคือ DoorDash (16.0x) และ DiDi (1.1x)
Yahoo! Japan ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของ Z Holdings ที่มี SoftBank เป็นเจ้าของ ประกาศบรรลุข้อตกลงในการใช้ไลเซนส์เครื่องหมายการค้า Yahoo! และ Yahoo! Japan ในญี่ปุ่น
ในข้อตกลงนี้ Yahoo! Japan จะยกเลิกข้อตกลงในการใช้เครื่องหมายการค้าเดิม ที่ต้องจ่ายค่ารอยัลตี้รายปี พร้อมข้อกำหนดต่าง ๆ เปลี่ยนเป็นการซื้อสิทธิมูลค่า 1.785 แสนล้านเยน ทำให้ Yahoo! Japan มีความคล่องตัวในการนำเครื่องหมายการค้า Yahoo! นี้มาใช้กับบริการต่าง ๆ ในเครือได้ง่ายขึ้น
ข้อตกลงนี้จะเริ่มมีผลหลังดีล Verizon ขาย Yahoo และบริษัทในเครือให้กับบริษัทการลงทุน Apollo เสร็จสิ้น
Leica เปิดตัวสมาร์ทโฟนแบรนด์ของตนเองเป็นครั้งแรก โดยเป็นเอ็กคลูซีฟให้กับ SoftBank จำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น (ในตอนนี้) มีชื่อรุ่นว่า Leitz Phone 1 ซึ่งเป็นชื่อของผู้ก่อตั้ง Leica
ตัวเครื่องเป็นการนำสมาร์ทโฟน Sharp Aquos R6 มาปรับแต่งให้มีความเป็น Leica มากยิ่งขึ้น ทั้งโลโก้จุดสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ ฝาครอบเลนส์แบบแม่เหล็ก และวัสดุด้านหลังที่เป็นกระจกสีดำ
SoftBank รายงานผลประกอบการประจำปีการเงินบริษัทสิ้นสุดเดือนมีนาคม มีกำไรสุทธิรวม 4.99 ล้านล้านเยน ซึ่งมีปัจจัยหลักจากพอร์ตการลงทุนในกองทุน Vision Fund ที่ปีที่ผ่านมาทำกำไรได้สูงมาก
เฉพาะผลการดำเนินงานกองทุน Vision Fund ไตรมาสที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 4.03 ล้านล้านเยน สาเหตุหลักคือไอพีโอของ Coupang บริษัทอีคอมเมิร์ซจากเกาหลีใต้ที่ SoftBank ถือหุ้นอยู่ 35% ส่วนบริษัทอื่นในพอร์ตการลงทุนที่เข้าตลาดหุ้นในไตรมาสที่ผ่านมาได้แก่ AUTO1, View และ Qualtrics
SoftBank ประกาศเข้าลงทุนใน AutoStore System บริษัทผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับคลังสินค้า โดยจะถือหุ้น 40% ที่เงินลงทุน 2,800 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการของ AutoStore เป็น 7,700 ล้านดอลลาร์
ผลิตภัณฑ์ของ AutoStore ได้แก่ หุ่นยนต์สำหรับคลังสินค้า และซอฟต์แวร์สำหรับปรับปรุงการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์ ซึ่งมีลูกค้าแล้วมากกว่า 600 บริษัท มีการใช้งานหุ่นยนต์มากกว่า 20,000 ตัว ใน 35 ประเทศ ครอบคลุมทั้งธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ร้านค้าปลีก โรงงาน และสุขภาพ
AutoStore กล่าวว่าเงินลงทุนใหม่จาก SoftBank จะนำมาใช้ขยายตลาดทั่วโลกเพิ่มเติม โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
WeWork สตาร์ทอัพผู้ให้บริการ Office-sharing ประกาศบรรลุข้อตกลง ที่จะนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น ด้วยการขายให้บริษัทในตลาดหุ้นที่จัดตั้งขึ้นเพื่อซื้อกิจการอื่นโดยเฉพาะ ซึ่งวิธีการนี้เรียกว่า SPAC โดยบริษัทที่จะมาซื้อกิจการเพื่อแปลง WeWork ให้เป็นบริษัทในตลาดหุ้นคือ BowX Acquisition ที่มูลค่ากิจการของ WeWork 9,000 ล้านดอลลาร์
ข่าวความเคลื่อนไหวบริษัทเทคโนโลยีฝั่งเอเชียในช่วงนี้คือ การควบรวมระหว่าง LINE กับ Yahoo! Japan กลายเป็นบริษัทใหม่ Z Holdings ที่เพิ่งเสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม (ล่าช้ากว่าแผนเดิม 6 เดือนเพราะกระบวนการอนุมัติที่ล่าช้าจาก COVID)
หลังประกาศข่าว ผู้บริหารของ Z Holdings ได้ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times เผยแผนการในอนาคตดังนี้
เมื่อคืนนี้ นักธุรกิจชื่อดัง Tony Woodsome เข้ามาสนทนาในรายการ "SMEs มีปัญหา ปรึกษาพี่ Tony" ของกลุ่ม CARE โดยช่วงตอบคำถามจากผู้ฟัง มีคนถามประเด็นเรื่อง Unicorn ในประเทศไทยว่าเป็นไปได้หรือไม่
ข้อมูลที่น่าสนใจคือ คุณโทนี่ได้เล่าว่ามีโอกาสได้คุยกับ Rajeev Misra ซีอีโอของ SoftBank Investment Advisers หน่วยลงทุนของบริษัท SoftBank และผู้บริหารสูงสุดของ SoftBank Vision Fund บริษัทลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ประเทศดูไบ เพื่อชวนให้กองทุนอย่าง Vision Fund เข้ามาลงทุนในบริษัท DnaNudge ที่เคยไปลงทุนเอาไว้
Z Holdings บริษัทโฮลดิ้งเจ้าของ Yahoo! Japan และ LINE Corporation แถลงควบรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์แล้วในวันนี้ หลังจากประกาศดีลนี้เมื่อช่วงปลายปี 2019
ผลจากการควบรวมนี้ทำให้บริษัทใหม่ Z Holdings มีบริการบนอินเทอร์เน็ตมากกว่า 200 บริการ มีจำนวนผู้ใช้งานรวมมากกว่า 300 ล้านคน และขึ้นมาเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
ธุรกิจหลักของ Yahoo! Japan และ LINE ทั้งบริการเสิร์ช, เว็บพอร์ทัล, โฆษณา และแอปแชต จะยังคงให้บริการต่อไปตามเดิม โดยเพิ่มการโฟกัสใน 4 ธุรกิจใหม่ได้แก่
SoftBank รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2020 โดยมีไฮไลท์สำคัญคือผลตอบแทนของกองทุน Vision Fund มีกำไรสุทธิสูงถึง 844,100 ล้านเยน เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ขาดทุน เป็นผลจากสตาร์ทอัพหลายแห่งที่ SoftBank ไปลงทุน เริ่มไอพีโอเข้าตลาดหุ้น หรือมีราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงช่วงที่ผ่านมา อาทิ Doordash และ Uber
Masayoshi Son ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง SoftBank นำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนในงานแถลงผลประกอบการ บอกว่าการลงทุนของ SoftBank ช่วงที่ผ่านมา เปรียบเสมือนห่านที่ออกไข่ทองคำ และจำนวนไข่ทองคำนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นมาก นับตั้งแต่บริษัทเริ่มตั้งกองทุน Vision Fund ซึ่งตอนนี้ก็ได้เวลารับรู้ผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว
Klook แพลตฟอร์มสำหรับค้นหาและจองกิจกรรมในการเดินทาง ประกาศรับเงินลงทุนซีรี่ส์ E เป็นจำนวน 200 ล้านดอลลาร์ นำโดยกองทุน Aspex Management และกลุ่มนักลงทุนรายใหม่ ตลอดจนนักลงทุนเดิม อาทิ Sequoia Capital China, Softbank Vision Fund 1, Matrix Partners China และ Boyu Capital ทำให้บริษัทได้เงินลงทุนรวมแล้วมากกว่า 720 ล้านดอลลาร์ มูลค่ากิจการปัจจุบันไม่มีการรายงาน แต่มีสถานะเป็นยูนิคอร์น (มากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์) ตั้งแต่ปี 2018
การเจรจาควบรวมกิจการระหว่าง Grab / Gojek ที่ผ่านมาน่าจะลุ่ม ๆ ดอน ๆ หลังทั้งสองบริษัทปฏิเสธข่าวลือตั้งแต่ต้นปี ก่อนจะมีข่าวการกลับมาเจรจาอีกครั้ง และล่าสุด Bloomberg รายงานอ้างอิงคนใกล้ชิดว่าการเจรจาใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว
Bloomberg บอกว่าความเห็นต่างในดีลระหว่าง 2 บริษัทได้ข้อสรุปไปเป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ก็ยังมีรายละเอียดบางส่วนที่ต้องเจรจาต่อไปและแน่นอนว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังดีลนี้ไม่ใช่ใครอื่น Softbank เจ้าเดิม
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ตอนนี้ Hyundai ผู้ผลิตรถยนต์จากเกาหลีกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับ SoftBank เพื่อเข้าซื้อบริษัทผลิตหุ่นยนต์ Boston Dynamics โดยคาดว่าดีลนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์
ชื่อของ Hyundai มักจะรู้จักกันว่าเป็นผู้ผลิตรถยนต์ แต่ Hyundai ก็ยังมีธุรกิจหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมด้วย ทำให้ทางบริษัทสนใจเทคโนโลยีของ Boston Dynamics ได้ไม่ยาก และดีลนี้สำเร็จจริง Hyundai ก็นำเทคโนโลยีไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ต่อยอดให้ธุรกิจหุ่นยนต์ของตัวเองได้อีกขั้น
Kahoot! แพลตฟอร์มสำหรับจัดการเรียนรู้ในรูปแบบเกม ประกาศรับเงินเพิ่มทุน 215 ล้านดอลลาร์ จาก SoftBank โดยเป็นการซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเจาะจง ทำให้ SoftBank จะถือหุ้น 9.7%
Eilert Hanoa ซีอีโอ Kahoot! กล่าวว่าเงินเพิ่มทุนใหม่นี้ จะนำไปใช้ขยายการเติบโตของธุรกิจผ่านพาร์ทเนอร์รายใหม่, บริษัทร่วมทุน ไปจนถึงใช้เข้าซื้อกิจการ
แพลตฟอร์ม Kahoot! มีผู้เล่นเกมในช่วง 12 เดือนย้อนหลังมากกว่า 1,300 ล้านราย ช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา บริษัทก็ได้ประโยชน์จากการที่โรงเรียนต้องจัดการเรียนสอนแบบออนไลน์มากขึ้น
วันนี้ Alphabet บริษัทแม่ของ Google และ SoftBank บริษัทโทรคมนาคมจากญี่ปุ่นประกาศความสำเร็จในการเปิดทดลองใช้งานระบบเชื่อมต่อแบบ LTE จากโดรนพลังแสงอาทิตย์อย่างเป็นทางการ
สำหรับโครงการนี้ Alphabet และ SoftBank ประกาศความร่วมมือกันตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่ง SoftBank โดยบริษัทลูก HAPSMobile เป็นผู้สร้างอากาศยาน และ Alphabet โดยบริษัท Loon จะเป็นผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร
อัพเดต NVIDIA ประกาศข่าวเป็นทางการแล้ว การซื้อกิจการจะเสร็จสิ้นในเดือนกันยายน 2021 หรืออีก 1 ปีถัดจากนี้
NVIDIA ระบุว่าจะยังคงโมเดลความเปิดกว้างในการขายไลเซนส์ของ Arm แก่ลูกค้าทุกรายเหมือนเดิม แม้แต่คู่แข่งของ NVIDIA ก็ตาม ส่วนสำนักงานใหญ่ของ Arm จะยังอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ในอังกฤษเช่นเดิม และ NVIDIA ยังประกาศจะตั้งศูนย์วิจัยด้าน AI ขนาดใหญ่ที่เคมบริดจ์เพิ่มเติมด้วย
ข่าวเดิม
เดือนที่แล้วมีรายงานว่า ARM ประกาศแผนโอนย้าย 2 ธุรกิจ IoT ให้ SoftBank เพื่อโฟกัสที่ธุรกิจออกแบบชิปมากขึ้น ล่าสุด ARM ยืนยันว่ายกเลิกแผนการณ์ดังกล่าวแล้ว
โฆษกระบุว่าการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังการพิจารณาตัวเลือกต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วนแล้วและพบว่าประโยชน์ที่จะเกิดกับบริษัทไม่แตกต่างจากการโอนย้ายให้ SoftBank เลยเลือกที่จะเก็บเอาไว้ แต่บริษัทก็จะแยก 2 ธุรกิจ IoT ให้อยู่คนละส่วนกับธุรกิจออกแบบชิป ทั้งส่วนดำเนินธุรกิจและงานด้านบัญชี อย่างไรก็ตามโฆษกปฏิเสธว่าการตัดสินใจนี้เกี่ยวข้องกับการขาย ARM ของ SoftBank หรือไม่
กลุ่ม SoftBank ได้ส่งรายงานต่อหน่วยงานกำกับดูแลของญี่ปุ่น เผยว่าบริษัทได้ใช้เงินราว 1,200 ล้านดอลลาร์ ซื้อหุ้นของ Amazon ซึ่งถือเป็นการลงทุนกับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นอยู่แล้ว จากเดิมที่ SoftBank มักลงทุนกับสตาร์ทอัพที่ยังไม่เข้าตลาดหุ้น
ก่อนหน้านี้ Masayoshi Son ซีอีโอ SoftBank เผยว่าบริษัทได้ตั้งหน่วยงานลงทุนใหม่ เพื่อบริหารเงินสดที่บริษัทมีนำไปลงทุนในหุ้นซึ่งมีสภาพคล่องในการซื้อขาย โดยวงเงินลงทุนส่วนนี้มีราว 10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจากเอกสารที่รายงานนั้น นอกจาก Amazon แล้ว SoftBank ยังซื้อหุ้นของ Netflix, Tesla, Microsoft, Alphabet (บริษัทแม่ Google) รวมทั้งบริษัทวิดีโอออนไลน์ของจีนอย่าง Bilibili และ iQIYI อีกด้วย