จากงาน Business Messaging Summit Thailand 2024 Meta ได้มีการรายงานพฤติกรรมผู้ใช้งานในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของ Meta รวมถึงเปิดเผยฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่จะถูกเพิ่มเข้ามา
โดยตอนนี้ Meta มีเป้าหมายที่จะเป็นสื่อกลางเชื่อมต่อแพลตฟอร์มที่หลากหลายเข้ากับ Messenger เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย จึงเกิดเป็นฟีเจอร์ใหม่ ๆ ดังนี้
Meta ประกาศว่าจะหยุดให้บริการ Facebook Live Shopping หลังให้บริการมา 2 ปี โดยเริ่มต้นในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถไลฟ์สดหรือจัดตารางการไลฟ์ล่วงหน้าผ่าน Facebook Live Shopping ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานจะยังสามารถใช้ Facebook Live เพื่อไลฟ์สดได้แต่จะไม่สามารถเพิ่มรายการสินค้าหรือแท็กสินค้าได้ในการไลฟ์สด
Facebook มองว่าพฤติกรรมของผู้ใช้งานในปัจจุบันเปลี่ยนไปสนใจวิดีโอขนาดสั้นมากกว่าจึงเปลี่ยนไปเน้นที่ Reels ads ใน Facebook และ Instagram แทน นอกจากนี้ ผู้ใช้งานที่ต้องการไลฟ์สดเพื่อการซื้อ-ขายสินค้าสามารถศึกษาการใช้ Live Shopping ผ่านทาง Instagram ได้
Facebook เปิดตัวฟีเจอร์ Facebook Live ใหม่ที่นำ Messenger Rooms ระบบการประชุมแบบกลุ่มของ Facebook Messenger มาออกอากาศผ่าน Facebook Live ได้ทันที
Facebook ระบุว่าทางบริษัทเห็นเทรนด์ว่าการไลฟ์ในเพจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในเดือนมิถุนายนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยกิจกรรมไลฟ์ผ่าน Facebook ก็มีหลากหลาย โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้คนไม่สามารถไปไหนได้ Facebook Live ก็เป็นหนทางที่ดีในการเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกัน
Facebook จึงเลือกนำ Messenger Rooms มาช่วยเสริมบริการ Facebook Live คือผู้สร้างห้องสามารถสั่งเริ่มไลฟ์ได้ทันที ส่วนผู้เข้าร่วมก็สามารถเลือกได้ว่าจะอยู่ในห้องต่อไปหรือจะออกจากห้องก่อนที่จะเริ่มไลฟ์ และผู้สร้างห้องก็ยังมีสิทธิ์ในการควบคุมว่าใครจะเข้ามาในการไลฟ์บ้าง
การไลฟ์สดช่วงโรคระบาดเพิ่มขึ้น คนดูก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน Facebook จึงมองเห็นโอกาส ซุ่มพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่ให้คนดูไลฟ์สดบนมือถือได้ แม้ไม่มีบัญชี Facebook เลยก็ตาม
แต่เดิมถ้าคนที่ไม่มีบัญชี Facebook จะเข้าดูเนื้อหา หรือไลฟ์ต่างๆใน Facebook จะสามารถทำได้บนเดสก์ทอปเท่านั้น ซึ่งฟีเจอร์ใหม่เปิดให้ดูบนมือถือได้ด้วย เริ่มเปิดใช้งานในกลุ่มผู้ใช้แอนดรอยด์บางส่วนแล้ว และจะปล่อยให้ใช้บน iOS ในสัปดาห์ต่อไป
Facebook ยังพัฒนาฟีเจอร์ให้สามารถ "ฟัง" ไลฟ์ผ่านการใช้เน็ตมือถือแบบจำกัดได้ หรือเป็นการฟังแบบ audio เฉยๆ นั่นเอง เข้าฟังได้ทั้งคนที่ไม่มีบัญชี Facebook และมีปริมาณอินเทอร์เน็ตในมือถือน้อย
จากกรณีมีคลิปเสียงระหว่าง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก พูดคุยกับพนักงานหลุดออกมาเป็นคลิปเสียงยาวร่วม 2 ชั่วโมง (สามารถอ่านย้อนหลังได้ 1, 2) พูดคุยประเด็นต่างๆ ทั้งนโยบายลดอิทธิพลบริษัทไอทีใหญ่ ความนิยมของ TikTok ที่เพิ่มขึ้น
ล่าสุด มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ออกมาบอกเองว่าจะไลฟ์ให้ดูเลย ซึ่งตัวคลิปการถ่ายทอดสดนั้นจบไปแล้ว และสามารถดูซ้ำได้ที่ลิงก์วิดีโอด้านล่าง
เฟซบุ๊กประกาศฟีเจอร์ใหม่ๆ สำหรับงานวิดีโอบนแพลตฟอร์มในงาน International Broadcasting Convention (IBC) ที่อัมสเตอร์ดัม มีฟีเจอร์ใหม่ๆ ดังนี้
สำหรับ Facebook Live ในแฟนเพจ คนทำไลฟ์สามารถซ้อมไลฟ์ก่อน โดยเห็นกันเฉพาะแอดมินได้ เนื่องจากสื่อสมัยนี้นิยมใช้ Facebook Live ในการถ่ายทอดคอนเทนต์ข่าวสารมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถตัดต่อช่วงต้นคลิปออกได้ด้วย เพราะคลิปไลฟ์มักจะไม่เข้าที่เข้าทางตอนเริ่มต้นคลิป
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเวอร์ชั่นประหยัดเน็ตหรือ Facebook Lite ก็สามารถสร้างคลิปไลฟ์เองได้แล้วเช่นกัน จากที่ตอนแรกยังไม่มีฟีเจอร์นี้
ในยุคที่การทำไลฟ์เป็นเรื่องปกติ และสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านแอพโซเชียลชื่อดังแทบทุกตัว สิ่งที่ต้องระวังอาจเป็นเรื่องฟิลเตอร์หรือลูกเล่นต่างๆ ที่กดใช้ผ่านในแอพได้ง่าย (เกินไป?)
Shaukat Yousafzai นักการเมืองจากประเทศปากีสถานก็เป็นอีกรายที่ใช้การไลฟ์เป็นเครื่องมือเข้าถึงประชาชน แต่สิ่งที่เขา (หรือทีมงาน) ทำพลาดไปคือเผลอไปกดเปิดฟิลเตอร์ AR เวอร์ชันหูแมว ทำให้คนที่รับชมการไลฟ์เห็นเขามีหูแมว จมูกแมว มีหนวด และมีแก้มสีชมพูด้วย ก่อนที่ฟิลเตอร์จะถูกกดปิดไปในเวลาไม่กี่นาทีให้หลัง
ตัวของ Yousafzai เองก็ยอมรับความผิดพลาดในเรื่องนี้ โดยบอกว่าจะกำชับกระบวนการไลฟ์ของทีมงานให้รัดกุมยิ่งขึ้น
Portal ฮาร์ดแวร์หน้าจอที่ไว้วิดีโอคอลคุยกันมีอัพเดตใหม่ในงาน F8 ด้วยเช่นกัน คือนอกจากจะคุยกันผ่านช่องทาง Facebook Messenger ได้แล้ว ยังคุยผ่าน WhatsApp ได้ด้วย
การเพิ่ม WhatsApp เข้ามานั้นหมายถึงผู้ใช้จะสามารถวิดีโอคอลกับเพื่อนได้แบบเข้ารหัส นอกจากนี้ยังเพิ่ม Facebook Live สร้างคลิปไลฟ์จากตัวฮาร์ดแวร์ได้เลย
Portal ยังมีการเพิ่มทักษะเสียงอัจฉริยะ Alexa ของ Amazon, Flash Briefings ตัวควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน, แอพ Amazon Prime Video พร้อมทั้งมีลูกเล่นใหม่เพิ่มคือสติกเกอร์แบบ AR และ Instant Games เล่นเกมผ่านแชทได้เหมือนอย่างที่ Messenger มี
Sheryl Sandberg ซีโอโอโพสต์ลงในบล็อก Instagram พูดถึงคลิปไลฟ์เหตุร้ายที่นิวซีแลนด์ที่คนร้ายไลฟ์การก่อเหตุของตัวเองลง Facebook แม้ตัวคลิปจะถูกลบแต่ก็ไม่ทันคนที่บันทึกและอัพโหลดขึ้นไปใหม่ ซึ่ง Sandberg ออกมาพูดถึงมาตรการรวมๆ ที่บริษัทจะแก้ปัญหาในอนาคต และยังบอกด้วยว่าบริษัทกำลังมองหาวิธีจำกัดบุคคลที่สามารถทำคลิปไลฟ์ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆเช่นการละเมิดมาตรฐานชุมชน
นอกจากนี้ บริษัทจะลงทุนวิจัยสร้างเครื่องมือที่ช่วยระบุวิดีโอและรูปภาพที่มีความรุนแรง จะได้แก้ไขอย่างรวดเร็วและป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเอาไปแชร์ซ้ำ
Facebook ออกมาตอบข้อสงสัยเพิ่มเติมเรื่องคลิปเหตุร้ายนิวซีแลนด์ที่คนร้ายไลฟ์การกระทำของตัวเองไว้ ดังนี้
วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม ที่นิวซีแลนด์เกิดเหตุเศร้าสลด มือปืนกราดยิงในมัสยิดเมืองไครส์เชิร์ต ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 50 ราย โดยมือปืนทำการถ่ายทอดสดลง Facebook ไว้ขณะก่อเหตุ
ล่าสุด Chris Sonderby รองประธาน Facebook และที่ปรึกษาทั่วไป ออกมาบอกว่า วิดีโอดังกล่าวในช่วงที่ไลฟ์ มีคนดู 200 ครั้ง และก่อนที่วิดีโอจะถูกลบออก มีคนดูรวมแล้ว 4,000 ครั้ง เริ่มมีผุ้ใช้ report เข้ามาครั้งแรก 29 นาทีหลังจากที่คลิปเริ่มไลฟ์ และหลังไลฟ์จบมีการ report เข้ามา 12 นาทีหลังไลฟ์นั้นจบลง
Facebook เผยฟีเจอร์เพลงหลายอย่างบน Facebook นอกจากเพิ่มเพลงบนรูปโปรไฟล์เป็น Stories พร้อมสติกเกอร์เพลงใน Stories แล้วยังมีไลฟ์ร้องเพลงที่จะแสดงเนื้อเพลงประกอบไปด้วย ทีนี้คนจะได้ไม่ต้องจำเนื้อร้องหรืออ่านเนื้อร้องโดยสายตาไม่ได้โฟกัสกล้อง
เพลงที่เริ่มทำได้ในตอนนี้คือเพลงดัง New Rules ของ Dua Lipa, Better ของ Khalid และ Girls Like You ของ Maroon 5 ซึ่ง Facebook ระบุจะเพิ่มเพลงฮิตอื่นๆ อีกในอนาคต
Facebook ได้ซื้อตัวทีมงานและเทคโนโลยีของ Vidpresso ซึ่งมีทีมงานทั้งหมด 7 คน โดย Vidpresso เป็นสตาร์ทอัพที่พัฒนาเครื่องมือสำหรับผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ เพื่อสร้างเครื่องมือโต้ตอบกับผู้ชม อาทิ โพลล์ออนไลน์บนหน้าจอ, ความคิดเห็น ตลอดจนกราฟิกลูกเล่นต่าง ๆ เพื่อทำให้คลิปรายการสดมีความน่าสนใจมากขึ้น
Vidpresso ปัจจุบันมีลูกค้าและพาร์ทเนอร์เป็นสถานีโทรทัศน์ในอเมริกาหลายแห่ง รวมทั้งช่องทางออนไลน์อีกหลายเว็บไซต์ใหญ่ โดยในเบื้องต้นลูกค้าเหล่านี้จะยังใช้บริการของ Vidpresso ต่อไปได้ระยะหนึ่ง แต่ในอนาคตเทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกมาใส่ใน Facebook Live ทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเดียวกับที่สื่อรายใหญ่ใช้งาน
Facebook เผย Facebook Live เติบโตก้าวกระโดด ขณะนี้มีคนดูไลฟ์ไปแล้วเกือบ 2 พันล้านราย และคลิปไลฟ์ที่ไลฟ์โดยเพจที่ได้รับการรับรองก็มีจำนวนมากขึ้น 50% ในปี 2017
อย่างไรก็ตาม Facebook รับรู้ว่า Facebook Live มีปัญหามาก เช่น ไลฟ์ฆ่าตัวตาย ฆาตกรรม ซึ่ง Facebook ยังไม่สามารถจัดการป้องกันการเผยแพร่ความรุนแรงได้อย่างทันท่วงที
ยังมีอีกหนึ่งความท้าทายของ Facebook Live คือ คนมีแนวโน้มจะดูวิดีโอไลฟ์ที่ถูกทำแบบมืออาชีพ มากกว่าทำแบบมือสมัครเล่น ประกอบกับการที่ Facebook ยังแก้ปัญหาคลิปไลฟ์รุนแรงไม่ได้แล้ว ทำให้ต้องตั้งคำถามว่า Facebook Live จะเติบโตไปในทิศทางใด
เพราะกระแสการผลิตคอนเทนต์และไลฟ์สตรีมมิ่งเกมกำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Facebook ได้เปิดตัว Gaming Creator Pilot Program โปรแกรมนำร่องสนับสนุนผู้ผลิตคอนเทนต์จากวิดีโอเกม เน้นที่การร่วมมือกับผู้ผลิตคอนเทนต์เพื่อพัฒนา Facebook ให้รองรับการใช้งานของพวกเขามากที่สุด
โดย Facebook ได้ให้ข้อมูลว่า พวกเขาจะโฟกัสไปที่หัวข้อต่อไปนี้
หลังจากที่ ESL ผู้จัดทัวร์นาเมนต์ eSports ชื่อดัง ได้ประกาศความร่วมมือกับ Facebook ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2017 ถึงการให้สิทธิ์นำสตรีมถ่ายทอดสดภาคภาษาอังกฤษของรายการแข่งขันใหญ่อย่าง ESL CS:GO Pro League และ ESL One เผยแพร่ผ่าน Facebook Live แต่เพียงผู้เดียว โดยเริ่มต้นที่ ESL One Genting 2018 รายการแข่งขัน Dota 2 ระดับ Minor ที่เปิดฉากไปเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งผลตอบรับจากผู้ชมนั้นไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไรกับการตัดสินใจของ ESL ในครั้งนี้
ในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมา Facebook หันมาทุ่มให้กับวิดีโอมาก จนถึงขนาดยอมจ่ายเงินให้ publisher ดังๆ ผลิตวิดีโอเพื่อโพสต์ลง Facebook ให้ผู้ใช้คุ้นเคย
ล่าสุดมีข่าวจาก publisher บางราย ระบุว่า Facebook เตรียมหยุดจ่ายเงินค่าวิดีโอแล้ว โดยสัญญาฉบับเดิมของ Facebook จะจ่ายค่าจ้างทำวิดีโอให้ถึงสิ้นปี 2017 และบริษัทจะไม่ต่อสัญญาในปี 2018
รูปแบบการจ้างของ Facebook คือให้ publisher ผลิตวิดีโอทั้งแบบวิดีโอปกติ (ยาวขั้นต่ำ 90 วินาที) และการถ่ายวิดีโอ live (ยาวขั้นต่ำ 6 นาที) โดย Facebook จะจ่ายเงินให้ขั้นต่ำต่อเดือนตามที่ตกลงกัน เป้าหมายของ Facebook คือเปลี่ยนโมเดลจากการจ่ายเต็ม มาเป็นการจ่ายส่วนแบ่งโฆษณาที่จะแทรกมาช่วงกลางวิดีโอ (mid-roll) แทน
สตูดิโอทำหนัง Focus Features เตรียมฉลองครบรอบ 15 ปี ด้วยการฉายหนังที่ได้รับรางวัลลง Facebook Live แบบฟรีๆ หนังที่จะฉายได้แก่ The Motorcycle Diaries, The Constant Gardener และ Eternal Sunshine of the Spotless Mind
โดยหนังทั้งสามเรื่องจะเริ่มฉายวันนี้ เวลา 6 AM ตามเวลาแปซิฟิก ฉายผ่านเพจเฟซบุ๊ก Focus Features โดยก่อนหน้านี้ Facebook Live ได้รับคำครหาเรื่องฉายหนังเถื่อนเป็นจำนวนมาก นี่จึงเป็นครั้งแรกที่สตูดิโอทำหนังฉายหนังด้วยตัวเองอย่างถูกลิขสิทธิ์
ปัญหาความรุนแรงที่ถูกถ่ายทอดผ่าน Facebook Live กำลังเป็นประเด็นที่น่ากังวล เพราะมีคนเห็นทั่วโลก เครื่องมือคัดกรองยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ และนับจากวันที่เปิดตัว Facebook Live ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2015 มีความรุนแรงที่ถูกถ่ายทอดสดแล้วกว่า 45 เหตุการณ์ คิดเป็น 2 ครั้งต่อเดือน (ข้อมูลจาก Buzzfeed) เช่น ฆ่าตัวตาย ข่มขืน ฆาตกรรม กระทำรุนแรงต่อเด็ก
เฟซบุ๊กประกาศรองรับการแสดงคำบรรยาย (Closed Captions) บนเฟซบุ๊กไลฟ์แล้ว สำหรับผู้ชมที่มีหูหนวกและมีปัญหาด้านการได้ยินโดยเฉพาะ
ระบบคำบรรยายผ่านการถ่ายทอดสดของเฟซบุ๊กตอนนี้รองรับเฉพาะมาตรฐาน CEA-608 ขณะที่ผู้ที่ถ่ายทอดสดสามารถใช้บริการบริษัท Captioning Services Provider ที่เฟซบุ๊กเป็นพาร์ทเนอร์เพื่อใส่คำบรรยายแบบเรียลไทม์ได้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ฟีเจอร์นี้ตอนนี้รองรับเฉพาะบนพีซีและ iOS เท่านั้น
Facebook เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับส่วนถ่ายทอดสด ได้แก่ฟีเจอร์ Live Chat with Friends สร้างห้องแชทส่วนตัวระหว่างดูการถ่ายทอดสดและ Live with ชวนเพื่อนมาถ่ายทอดสดด้วยกัน
Live Chat with Friends เป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้สามารถเชิญเพื่อนที่กำลังดูการถ่ายทอดสดพร้อมเราเข้ามาแชทแบบส่วนตัว เหมือนเป็นการดูถ่ายทอดสดอยู่กับเพื่อนนั่นเอง แต่หากอยากจะสลับไปยังห้องแชทของการถ่ายทอดสดก็ทำได้เช่นกัน
ฟีเจอร์ต่อมาคือ Live with เป็นการชวนผู้ใช้ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคนดูเข้ามาถ่ายทอดสดร่วมกับเรา โดยหน้าจอของผู้ใช้คนนั้นจะปรากฎอยู่ในการถ่ายทอดสดของเราเป็นกรอบเพิ่มเข้ามา ทั้งนี้ผู้ใช้ที่ถูกเชิญเข้ามาถ่ายทอดสดก็สามารถปฏิเสธการเชิญได้
สำหรับฟีเจอร์ Live Chat with Friends กำลังอยู่ในช่วงทดสอบอยู่ คาดว่าจะปล่อยให้ใช้งานได้เร็วๆ นี้ ส่วนฟีเจอร์ Live with เปิดให้ใช้งานแล้วเฉพาะบน iOS ทั้งแบบบุคคลทั่วไปและเพจ ยังไม่มีกำหนดว่าจะปล่อยให้ Android ใช้งานได้เมื่อไหร่
ที่มา : Engadget
ESL ผู้จัดการแข่งขันอีสปอร์ตชื่อดังของโลก ประกาศความร่วมมือกับ Facebook ถ่ายทอดสดทัวร์นาเมนต์อีสปอร์ตสำคัญอย่าง ESL One และ Intel Extreme Masters (IEM) ผ่าน Facebook Live
ESL ไม่ได้ถ่ายทอดแค่วิดีโอช่วงการแข่งขันเท่านั้น แต่จะยังมีคอนเทนต์พิเศษ เช่น สัมภาษณ์นักแข่งหรือแคสเตอร์หลังเวที (ซึ่งเป็น exclusive เฉพาะ Facebook เท่านั้น) รวมถึงการถ่ายทอดการแข่งขันแมตช์ออนไลน์ของเกม CS:GO ของผู้เล่นระดับสูงในกลุ่ม ESEA Rank S สัปดาห์ละ 30 ชั่วโมงอีกด้วย
ความเคลื่อนไหวของ Facebook ในครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะตลาดอีสปอร์ตเป็นของ Twitch มานาน แต่ Facebook ก็พยายามผลักดัน Facebook Live ในตลาดนี้ ด้วยการเป็นพันธมิตรกับผู้จัดรายใหญ่อย่าง ESL แถมได้คอนเทนต์แบบ exclusive มาด้วย
Facebook ปรับเงื่อนไขการใช้งาน Facebook Live ห้ามถ่ายทอดสดที่ใช้ภาพนิ่ง แอนิเมชันวนซ้ำๆ หรือเปิดให้ผู้ชมโหวตเพียงอย่างเดียว
หลังจาก Facebook เริ่มเปิดใช้งาน Live มา ก็มีคนนำไปใช้งานผิดประเภท เช่น แสดงกราฟิกนับถอยหลัง (countdown) หรือแสดงภาพพร้อมเล่นเพลงไปเรื่อยๆ ซึ่งการปรับนโยบายครั้งนี้ จะส่งผลให้ Live ผิดประเภทถูกแสดงผลน้อยลง และผู้ใช้หรือเพจที่ทำผิดกฎบ่อยๆ อาจถูกแบนไม่ให้ Live อีกเลยก็ได้
ในเงื่อนไขของ Facebook ข้ออื่นๆ ยังกำหนดให้ระบุชัดเจนว่าวิดีโอที่แสดงผลเป็น Live สดจริงๆ หรือเป็นวิดีโอที่บันทึกไว้ก่อนหน้าด้วย
Mark Zuckerberg โพสต์ Facebook กล่าวถึงประเด็นความรุนแรง การฆ่าตัวตายผ่าน Facebook Live ระบุว่าคลิปรุนแรงต่างๆ บน Live เป็นเรื่องน่าสลดใจ และถ้าเราต้องการสร้างสังคม Facebook ที่ปลอดภัยต้องตอบสนองต่อปัญหาอย่างรวดเร็ว
Mark Zuckerberg บอกว่าช่วงปีหน้า Facebook จะเพิ่มบุคลากรดูแลเรื่องเนื้อหารุนแรงบนแพลตฟอร์ม 3,000 คน นอกเหนือจาก 4,500 คนที่มีอยู่แล้วในการทำหน้าที่รับเรื่องราวที่ผู้ใช้รายงานมายัง Facebook บุคคลเหล่านี้หรือ reviewer จะจัดการกับเนื้อหาต้องห้าม เช่น คำพูดแสดงความเกลียดชัง การกระทำอนาจารเด็ก เป็นต้น
เกิดเหตุสลดในประเทศไทย ชายคนหนึ่งอายุ 21 ปี ถ่าย Facebook Live ฆาตกรรมลูกสาวอายุ 11 เดือนประชดแฟนสาว สาเหตุคาดว่ามาจากความหึงหวง หลังจากนั้นก็ฆ่าตัวตายตาม ตัวคลิปมีความยาวประมาณ 4 นาที บันทึกเหตุการณ์สลดใจไว้ทุกอย่าง (ยกเว้นการฆ่าตัวตายของผู้ลงมือ)
ข่าวนี้ส่งแรงกระเพื่อมไปถึง Facebook อีกครั้งหลังจาก Steve Stephens ฆาตกรรมผู้อื่นผ่าน Facebook Live ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปไม่นาน ส่งผลให้ Facebook ตกอยู่ในภาวะกดดัน และคำถามเรื่องการจัดการระบบ Facebook Live ของ Facebook ดีพอแล้วหรือไม่ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ