WhatsApp ได้เพิ่มความสามารถใหม่ คือรองรับการ quote ข้อความแชทก่อนหน้าแล้ว โดยการ quote ข้อความแชทของ WhatsApp เพื่อเป็นการบอกว่าเรากำลังต้องการตอบกลับข้อความใดในบทสนทนา ป้องกันปัญหาสับสนเมื่อมีการสนทนาที่มีคนอยู่จำนวนมากๆ

วิธีใช้ฟีเจอร์นี้ เพียงแค่กดบอลลูนคำพูดในบทสนทนาค้างไว้สักพักก็จะมีปุ่ม Reply โดยเมื่อกดปุ่มนั้นแล้วข้อความแชทจะถูก quote มาโชว์เหนือกล่องพิมพ์ข้อความของเราทันที

สำหรับฟีเจอร์นี้ WhatsApp เริ่มปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้งานแล้ว ซึ่งจากรายงานคือใครที่ใช้ WhatsApp เวอร์ชัน 2.16.6 ก็สามารถใช้ได้ทันที

ที่มา - Engadget

บริการเก็บสถิติ SimilarWeb รวบรวมสถิติแอพแชทยอดนิยมของแต่ละประเทศในโลก รวม 187 ประเทศ พบว่า WhatsApp ได้รับความนิยมสูงสุด และถือเป็นแอพแชทอันดับ 1 ใน 109 ประเทศ โดยเฉพาะในละตินอเมริกา แอฟริกา ยุโรปบางประเทศ ตะวันออกกลาง-เอเชียใต้ รวมถึงรัสเซีย

แอพที่ได้รับความนิยมตามมาเป็นอันดับสองคือ Facebook Messenger ที่ครองแชมป์ใน 49 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส ยุโรปตะวันออก (เท่ากับว่าแอพแชทยอดนิยมใน 158 ประเทศเป็นของ Facebook ทั้งหมด) อันดับสามในแง่จำนวนประเทศคือ Viber ที่ครองแชมป์ใน 10 ประเทศ ได้แก่ยุโรปตะวันออก แอฟริกาบางประเทศ รวมถึงพม่าและศรีลังกา

เว็บไซต์ Security-in-a-box ที่เป็นเว็บไซต์ด้านความปลอดภัยอันเกิดจากการร่วมกันระหว่าง Tactical Technology Collective และ Front Line Defenders องค์กร NGO ด้านความปลอดภัยของไอทีและสิทธิมนุษยชน เผยแพร่บทความพิเศษที่เขียนโดย Maria Xynou และ Chris Walker ผู้เชี่ยวชาญของ Tactical Technology Collective โดยระบุว่าแอพสนทนาเข้ารหัสอย่าง Signal นั้นยังเหนือว่า WhatsApp และแนะนำให้ทุกคนใช้ติดต่อสื่อสารกัน

ทั้งสองคนให้เหตุผลไว้ 4 ประเด็นหลักคือ

WhatsApp ได้เริ่มทำการทดสอบฟีเจอร์วิดีโอคอลในตัวแอพแล้ว โดย Fonearena รายงานว่าตอนนี้ WhatsApp beta บน Android ได้มีตัวเลือกให้ใช้งานวิดีโอคอลสำหรับผู้ใช้บางคน

ตอนนี้คาดว่า WhatsApp น่าจะกำลังทดสอบฟีเจอร์นี้กับผู้ทดสอบเพียงกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และการมีตัวเลือกวิดีโอคอลก็น่าจะทำให้ผู้ใช้ WhatsApp ใช้งานได้สะดวกขึ้น โดย WhatsApp ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนการทดสอบวิดีโอคอล แต่ก็คาดกันว่า WhatsApp น่าจะค่อยๆ ปล่อยฟีเจอร์นี้เหมือนกับการปล่อยฟีเจอร์โทรด้วยเสียงบน WhatsApp ที่เพิ่งเปิดให้ใช้ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า WhatsApp กำลังทดสอบการเชิญเข้ากลุ่มผ่าน QR code, ลิงก์ และ NFC tag ด้วย

คล้อยหลังจากการที่ John McAfee เปิดเผยว่าสามารถดักอ่านข้อความบน WhatsApp ได้ ล่าสุดเว็บไซต์ข่าว Gizmodo ก็ออกมารายงานว่าการเปิดเผยดังกล่าวของ McAfee เป็นการหลอกผู้สื่อข่าว

Gizmodo ระบุว่า McAfee วางแผนส่งสมาร์ทโฟนสองเครื่องไปยังให้สื่อมวลชนสองเจ้า (จากแหล่งข่าวของ Gizmodo คือ International Business Times และ Russia Today) พร้อมกับมัลแวร์ที่ถูกฝังมาเรียบร้อยในกล่องที่ปิดสนิท หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานให้ McAfee จะเป็นคนแกะกล่องต่อหน้าสื่อก่อนที่จะแสดงข้อความให้เห็นว่าโดนดักได้ เรื่องนี้ถึงหู Dan Guido หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ซึ่งได้ข้อมูลจากผู้สื่อข่าวเพื่อขอคำยืนยันอีกที ทำให้เขาทวิตออกมาเปิดโปงแผนนี้ (ดูทวิตทั้งสองอันท้ายข่าว) และให้คำแนะนำกับผู้สื่อข่าวว่าอย่าใช้โทรศัพท์เหล่านั้น เพราะแค่ซีลพลาสติกหุ้มกล่องก็สามารถทำให้ดูเหมือนใหม่ได้ (shrink wrap)

John McAfee ผู้ก่อตั้งและอดีตผู้บริหาร McAfee ประกาศว่าทีมงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของเขา สามารถอ่านข้อความ WhatsApp ที่ถูกเข้ารหัสไว้ได้ โดยอาศัยเพียงช่องโหว่ของคีย์บอร์ดบนแอนดรอยด์และแอพสปายแวร์ที่ถูกติดตั้งลงไป โดยที่แอนดรอยด์ไม่ได้ถูกรูทด้วยซ้ำไป

McAfee ระบุว่าปัญหานี้เป็นความผิดพลาดของ Google มากกว่า WhatsApp พร้อมทั้งแจ้งเรื่องนี้ไปยัง 2 บริษัทแล้ว และนอกจาก WhatsApp แล้ว McAfee เผยว่ายังสามารถอ่านข้อความใน SnapChat จากช่องโหว่นี้ด้วยเช่นกัน

WhatsApp Web หรือบริการ WhatsApp บนเว็บ ได้เพิ่มความสามารถให้ส่งไฟล์ PDF ได้แล้ว จากที่ความสามารถนี้มีบน iOS, Android และ WhatsApp บนเดสก์ท็อป มาก่อนหน้านี้

วิธีส่งไฟล์ PDF คือเปิดการสนทนาก่อน แล้วไปที่ปุ่มแนบไฟล์มุมบนขวา และคลิกปุ่ม Document โดยปัจจุบัน WhatsApp ยังจำกัดให้ส่งได้เฉพาะไฟล์ PDF เท่านั้น ยังไม่สามารถส่งไฟล์เอกสารฟอร์แมตอื่นได้

ที่มา - The Next Web

ก่อนหน้านี้ไม่นานนักมีข่าวลือที่ว่า WhatsApp อาจขยายการใช้งานครอบคลุม Windows และ OS X ซึ่งตอนนี้ WhatsApp ก็ได้ออกแอพสำหรับ Windows และ OS X อย่างเป็นทางการแล้ว

ตัวแอพ WhatApp บน Windows และ OS X นั้นจะมีลักษณะคล้าย WhatsApp Web คือเป็นเพียงส่วนเสริมของ WhatsApp บนโทรศัพท์เท่านั้น และวิธีเข้าใช้งานก็ต้องสแกน QR Code เหมือนกัน

WhatsApp บนเดสก์ท็อปนั้น จะสามารถใช้งานได้บน Windows 8 หรือใหม่กว่า และ OS X 10.9 หรือใหม่กว่าเท่านั้น ดาวน์โหลดได้ที่ WhatsApp

ที่มา - WhatsApp

สืบเนื่องจาก WhatsApp ถูกศาลบราซิลสั่งให้ปิดระบบการใช้งานเป็นเวลา 72 ชั่วโมง เพราะการเข้ารหัสของแอพฯทำให้ตำรวจไม่สามารถสืบสวนคดีได้ ล่าสุดเมื่อวันอังคารศาลอุทธรณ์คำตัดสิน ส่งผลให้ WhatsApp กลับมาใช้งานได้อีกครัง หลังจากนั้น Mark Zuckerberg โพสต์ Facebook ว่า การที่คนบราซิลถูกเพิกเฉยในเรื่องเสรีภาพการสื่อสารในช่องทางที่พวกเขาต้องการ เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากในระบอบประชาธิปไตย

คำสั่งศาลดังกล่าวสืบเนื่องมาจากกรณีความล้มเหลวของเจ้าหน้าทีตำรวจในการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์เพื่อการสืบสวนคดีอาชญากรรมตั้งแต่ปี 2013 เพราะติดที่ระบบการเข้ารหัส (encryption) ของตัว WhatsApp เอง คำสั่งศาลประกาศตั้งแต่ 26 เมษายน แต่จะมีผลวันนี้ เวลาบ่ายโมงตามเวลาท้องถิ่น

WhatsApp อาจมีแอพเวอร์ชัน Windows และ OS X ให้ดาวน์โหลดกันในเร็วๆ นี้ ต้นตอมาจากบัญชีทวิตเตอร์ชื่อว่า WABetaInfo โพสต์รูปที่แคปเจอร์จากหน้าจอที่ดูเหมือนเป็นวิธีดาวน์โหลด WhatsApp สำหรับ OS X

ปัจจุบัน WhatsApp มีแอพอยู่แล้วบน Android, iOS, Windows Phone, BlackBerry OS, Nokia และ Symbian ซึ่งถ้าเพิ่มเวอร์ชัน Windows และ OS X เข้ามาด้วยจริง ก็น่าจะต่อยอดการซิงค์ได้ทุกอุปกรณ์โดยใช้เพียงหมายเลขโทรศัพท์เช่นเดิม

WhatsApp แม้จะได้รับความนิยมอย่างสูงแต่ช่วงแรกๆ ของบริการก็มีช่องโหว่อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งเมื่อปี 2014 ก็ร่วมมือกับ Open Whisper System ผู้ให้บริการ TextSecure นำโปรโตคอล Signal มาใช้งาน และตอนนี้ทาง WhatsApp ก็ประกาศว่าหลังจากนี้จะเปิดใช้ Signal เป็นค่าเริ่มต้นเสมอ โดยจะทำงานได้ ทั้งผู้รับและผู้ส่งจะต้องใช้แอปเวอร์ชั่นล่าสุดที่อัพเดตเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา

ความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐ (FBI + กระทรวงยุติธรรม) กับแอปเปิลในกรณีถอดรหัส iPhone เป็นเพียงตัวอย่างของปัญหาใหญ่เรื่องการเข้ารหัสข้อมูลเท่านั้น บริษัทด้านไอทีทุกแห่งมีโอกาสเจอปัญหาแบบเดียวกัน และล่าสุดมีข่าวว่ารายต่อไปที่จะโดนกดดันจากภาครัฐคือ WhatsApp

หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานข่าววงในว่า เจ้าหน้าที่ในกระทรวงยุติธรรมกำลังถกเถียงว่าจะแก้ปัญหาเรื่องการเข้าถึงข้อความใน WhatsApp อย่างไร ความนิยมใน WhatsApp เริ่มสร้างปัญหาในวงกว้าง เพราะรัฐบาลไม่สามารถดักฟังข้อความที่ถูกเข้ารหัสใน WhatsApp ได้

WhatsApp ได้ออกอัพเดตบน iOS เวอร์ชัน 2.12.15 โดยมีฟีเจอร์ที่สำคัญ คือการส่งเอกสาร PDF ในตัว จากก่อนหน้านี้ที่เพิ่งอัพเดตให้ Android ไป สามารถเลือกไฟล์ PDF จากแอพอื่นได้ เช่น iCloud Drive, Google Drive, Dropbox, OneDrive (ต้องใช้ iOS 8 หรือใหม่กว่า)

ส่วนการปรับปรุงอื่นๆ สำหรับอัพเดตครั้งนี้ ได้แก่

เงียบหายจากการอัพเดตไปนาน วันนี้ WhatsApp ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้แอนดรอยด์ได้ลองก่อนใครอย่าง WhatsApp Document สำหรับส่งไฟล์เอกสารได้ในตัวที่หลายคนรอมานาน

ฟีเจอร์ WhatsApp Document เพิ่มเข้ามาในเมนูแนบไฟล์ (รูปคลิปหนีบ) แทนที่ตำแหน่งเดิมของ Gallery ซึ่งถูกควบรวมกับ Photo กลายเป็น Camera ไปแล้ว โดยในตอนนี้ Document สามารถส่งได้เพียงไฟล์ PDF เท่านั้น แต่บอกรายละเอียดให้ครบถ้วนทั้งจำนวนหน้า ขนาดไฟล์ พรีวิวเอกสารภายใน

การอัพเดตฟีเจอร์ครั้งนี้ดูเหมือนจะมาจากฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ถ้าใครอัพเดตเวอร์ชันล่าสุดแล้วยังไม่เจอ Document ก็อาจต้องรอต่อไปซักหน่อยครับ

เว็บไซต์นิตยสาร Fortune รายงานว่า Diego Dzodan รองประธานของบริษัทประจำทวีปละตินอเมริกา ถูกจับขณะที่กำลังจะเดินทางไปทำงานในนคร Sao Paulo ประเทศบราซิล ตามคำขอของหน่วยงานทางการในเมือง Sergipe ของบราซิล เนื่องจาก Facebook และ WhatsApp ไม่ให้ความร่วมมือในการทำตามคำสั่งของศาลที่ต้องให้ความร่วมมือกับการสอบสวนซึ่งเกี่ยวพันกับการลักลอบค้ายาเสพติดและองค์กรอาชญากรรม

WhatsApp ได้ประกาศข่าวที่ไม่ค่อยดีนักในวันนี้ คือการหยุดการพัฒนาแอพหลายแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะ Nokia และ BlackBerry

WhatsApp ให้เหตุผลว่าช่วงที่บริการเปิดตัวใหม่ๆ ในปี 2009 ยังมีแพลตฟอร์มมือถือที่หลากหลาย 70% ของมือถือที่ขายไปเป็นแพลตฟอร์มของ Nokia และ BlackBerry แต่ปัจจุบัน 99.5% ของมือถือที่ขายไปเป็นแพลตฟอร์มของ Apple, Google และ Microsoft

ดังนั้น เพื่อการก้าวไปข้างหน้า WhatsApp จะนำทรัพยากรมาพัฒนาแอพบนแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ใช้กัน และจะหยุดพัฒนาและหยุดการสนับสนุนแอพบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ภายในสิ้นปี 2016 (หมายความว่าในปี 2017 ก็จะใช้งานไม่ได้แล้ว) ได้แก่

WhatsApp ประกาศหยุดสนับสนุนระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าและระบบปฏิบัติการที่มีคนใช้น้อย

• BlackBerry รวมถึง BlackBerry 10
• Nokia S40
• Nokia Symbian S60
• Android 2.1/2.2
• Windows Phone 7.1

แอพ WhatsApp บนระบบปฏิบัติการเหล่านี้จะใช้งานได้ถึงสิ้นปี 2016 จากนั้นจะเลิกซัพพอร์ตแล้ว

ที่มา - WhatsApp Blog

ต่อจากข่าวที่ Apple ประกาศสู้คำสั่งศาล ทางซีอีโอของหลายบริษัทก็เริ่มออกมาให้ความเห็น เช่น Sundar Pichai ซีอีโอ Google ที่ประกาศเข้าข้าง Apple และล่าสุดก็คือ Jan Koum ผู้ก่อตั้ง WhatsApp

Koum ได้แชร์จดหมายของ Tim Cook จากเว็บไซต์ Apple ลงบน Facebook ส่วนตัว พร้อมให้ความเห็นว่าตัวเขานับถือจุดยืนของ Tim Cook ต่อการปกป้องข้อมูลผู้ใช้ ตัวเขาเห็นด้วยกับทุกคำกล่าวในจดหมายเปิดผนึก และจะไม่ยอมให้มีกรณีที่อันตรายแบบนี้เกิดขึ้นได้

เดือนที่แล้ว WhatsApp ประกาศยอดผู้ใช้งาน 990 ล้านคน วันนี้บริษัทเดินทางมาถึงตัวเลขสำคัญ 1,000 ล้านคนเรียบร้อยแล้ว

WhatsApp ยืนยันว่าจะเดินหน้าพัฒนาใน 4 มิติที่สำคัญคือ speed, reliability, security, simplicity เพื่อขยายตลาดไปยังประชากรโลกที่เหลืออีก 6,000 ล้านคนให้ได้

ที่มา - WhatsApp Blog

Jan Koum ซีอีโอของ WhatsApp ไปขึ้นเวทีที่เยอรมนี และประกาศยอดผู้ใช้งานล่าสุดที่น่าผิดหวังเล็กน้อย เพราะอยู่ที่ 990 ล้านคน ยังไม่ถึงตัวเลขทองคำ 1,000 ล้านที่รอกันมานาน

Koum บอกว่าถึงแม้จะน่าผิดหวังไปสักหน่อย แต่ตัวเลข 990 ล้านคนก็ถือว่าเยอะมากๆ แล้ว และน่าจะแตะเป้าหมายได้ในไม่ช้า ปัจจุบัน WhatsApp มีพนักงานทั้งหมด 120 คน และได้เวลาหารายได้อย่างจริงจัง ตามแผนการยกเลิกค่าสมาชิก 1 ดอลลาร์ และทดลองโมเดลการหารายได้แบบใหม่ๆ ซึ่งการยกเลิกค่าใช้งานย่อมช่วยให้อัตราการเติบโตของ WhatsApp สูงขึ้นอีก

ที่ผ่านมา แอพแชทยอดนิยม WhatsApp อาจคิดราคาผู้ใช้งานปีละ 1 ดอลลาร์ (บางกรณีอาจยกเว้นค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้) แต่ล่าสุดบริษัทออกมาประกาศแล้วว่าต่อจากนี้ไป WhatsApp จะฟรีในทุกกรณีแล้ว

WhatsApp อธิบายว่าหลังจากยอดผู้ใช้งานเติบโตขึ้นมาก บริษัทพบว่าการเก็บเงิน 1 ดอลลาร์เริ่มไม่เวิร์ค ด้วยเหตุผลว่าผู้ใช้จำนวนมากไม่มีบัตรเครดิต-เดบิต อีกทั้งสร้างความกังวลว่าใช้งานฟรีแล้ว ถ้าอนาคตไม่ยอมจ่ายก็จะติดต่อกับคนอื่นไม่ได้

บริษัทบอกว่าปีนี้จะเริ่มหารายได้ด้วยวิธีอื่น เช่น การเปิดให้เราพูดคุยกับบริษัทหรือองค์กรได้ง่ายขึ้น (เช่น คุยกับธนาคารหรือสายการบิน) แต่ยืนยันว่าจะไม่ใช้การโฆษณาอย่างแน่นอน

หลังจากที่ไม่สามารถใช้งาน WhatsApp ที่ประเทศบราซิลได้เป็นเวลา 48 ชั่วโมงเต็ม ส่งผลให้ Telegram มีผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้น 5.7 ล้านคน

ในตลาดโลก WhatsApp มีผู้ใช้งานอยู่ทั้งหมด 900 ล้านคน และ Telegram มีผู้ใช้งานอยู่ 62 ล้านคน แต่ Telegram เปิดตัวได้เพียง 2 ปี เมื่อเทียบกับ WhatsApp เปิดตัวแล้วมา 7 ปี โดย Facebook เป็นเจ้าของในตอนนี้อยู่

Telegram บอกอีกว่าเมื่อมีผู้ใช้งานใหม่ประมาณ 1,500,000 คน ทำให้ระบบส่ง SMS มีปัญหากันไปเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็กลับมาทำงานได้ตามปกติ

ศาลบราซิลมีคำสั่งให้บล็อคการเข้าถึง WhatsApp ทั่วประเทศ เป็นเวลา 48 ชั่วโมง เริ่มต้นตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 17 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดยศาลระบุว่ามีบริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายหนึ่ง ร้องเรียนว่า WhatsApp มีการให้บริการโทรด้วยเสียงฟรี ซึ่งผิดกฎหมายของประเทศบราซิล ที่รัฐบาลต้องตรวจสอบการสนทนาผ่านเสียงได้ อีกทั้งการให้บริการฟรีของ WhatsApp ก็ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทโทรคมนาคมด้วย

ศาลระบุว่าได้มีการร้องขอตรวจสอบไปที่ WhatsApp ถึงสองครั้ง แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ กลับมา จึงมีคำสั่งให้บล็อก WhatsApp เป็นเวลา 48 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายละเอียดว่าทำไม WhatsApp จึงไม่ตอบโต้ และทำไมศาลจึงบล็อกการใช้งานแค่จำกัดช่วงเวลา

ดูเหมือนจะเริ่มมีการสกัดดาวรุ่งกันเกิดขึ้นในวงการแอพแชทแล้ว โดยตอนนี้มีผู้ใช้ WhatsApp จำนวนหนึ่งรายงานว่า ลิงก์ telegram.me ที่จะลิงก์ไปยัง Telegram หากถูกส่งผ่านแชทใน WhatsApp จะไม่ปรากฏเป็น hyperlink ที่คลิกได้ และลิงก์นี้ก็คัดลอกไปแอพอื่นไม่ได้

Telegram เป็นแอพแชทดาวรุ่งที่พุ่งแรงขึ้นในช่วงหลัง เนื่องจากเป็นแอพแชทที่เน้นความปลอดภัย รวมถึงฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ในการกระจายข้อมูลเป็นวงกว้าง ทำให้เป็นช่องทางในการสื่อสารของคนหลากหลายกลุ่ม เช่น Channels ที่มีกลุ่ม ISIS นำฟีเจอร์นี้ไปใช้งาน (และถูกปิดช่องทางไปในที่สุด)