Bloomberg รายงานว่าหลังปิดการซื้อขายในตลาดหุ้นอเมริกาของวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา มูลค่าความมั่งคั่งสุทธิของ Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Amazon ได้เพิ่มสูงขึ้นจนแซง Warren Buffett มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังไปแล้ว ทำให้เขากลายเป็นผู้ร่ำรวยเป็นอันดับที่ 3 ของโลกแทน โดย Bezos มีสินทรัพย์สุทธิ 65,052 ล้านดอลลาร์ ส่วน Buffett มี 65,020 ล้านดอลลาร์ (มากกว่าอยู่ 32 ล้านดอลลาร์)
เหตุผลที่ทำให้ Bezos มีความมั่งคั่งแซงหน้าปู่บัฟเฟตต์ ก็มาจากราคาหุ้นของ Amazon ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากถึง 54% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา หลังรายงานผลประกอบการทำกำไรสูงที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท ทำให้ตอนนี้ Amazon เป็นบริษัทมีมูลค่ากิจการสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของอเมริกา (แอปเปิล, Alphabet, ไมโครซอฟท์ และ Exxon Mobil คืออันดับ 1-4 ตามลำดับ)
Amazon ยังไม่ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ซึ่งถ้าหากออกมาดีมาก ราคาหุ้นก็อาจปรับตัวสูงขึ้นอีก และอาจทำให้เขาแซงมหาเศรษฐีอันดับ 1 และ 2 คือ บิล เกตส์ และ Amancio Ortega (ผู้ก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้า Zara) ได้
ที่มา: Bloomberg และ Yahoo! Finance
บริษัท Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett เศรษฐีหุ้นอันดับต้นๆ ของโลก เผยว่าเข้าไปซื้อหุ้นของแอปเปิลแบบเงียบๆ ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี โดย Berkshire ซื้อหุ้นแอปเปิลจำนวน 9.81 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 1.07 พันล้านดอลลาร์
ความน่าสนใจของการซื้อหุ้นครั้งนี้คือ Buffett เคยพูดเอาไว้ว่าไม่เข้าใจตลาดเทคโนโลยี และเลี่ยงการซื้อหุ้นของบริษัทไฮเทคมาตลอด แต่ในปี 2011 เขากลับทุ่มเงินถึง 1 หมื่นล้านดอลลารซื้อหุ้นของ IBM และตามด้วยการซื้อหุ้นของแอปเปิลในครั้งนี้ (ล่าสุดยังมีข่าวลือว่าเขาสนใจซื้อ Yahoo! ด้วย)
เว็บไซต์ข่าวหนังสือพิมพ์ USA Today รายงานข่าวลือว่า Warren Buffett เตรียมร่วมวงซื้อทรัพย์สินของ Yahoo กับนักลงทุนกลุ่มหนึ่งซึ่งมี Dan Gilbert ผู้ก่อตั้ง Quicken Loans บริษัทสินเชื่อสำหรับรายย่อย และเจ้าของทีมบาสเกตบอล Cleveland Cavaliers เป็นหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนดังกล่าวด้วย
เกริ่นนำก่อนสำหรับใครที่ไม่รู้จัก Warren Buffett นะครับ Buffett เป็นนักลงทุนที่มั่งคั่งและประสบความสำเร็จที่สุดในโลก ปัจจุบันเขาอายุ 80 ปีแล้ว ปีล่าสุดถูกจัดอันดับเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 3 ของโลก (ข่าวเก่า) เขาถูกยกย่องให้เป็นต้นแบบของการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของกิจการที่เข้าไปลงทุน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Buffett ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางไปเยี่ยมชมกิจการหลายประเทศในเอเชีย โดยเขาให้มุมมองการลงทุนในกิจการเทคโนโลยีซึ่งกำลังร้อนแรงในขณะนี้ไว้ดังนี้ครับ