ค่ายรถยนต์เกาหลี Hyundai มีระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถยนต์ชื่อว่า Blue Link มาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ล่าสุด Hyundai ประกาศขยายแพลตฟอร์ม Blue Link ให้รองรับนาฬิกาอัจฉริยะ Android Wear เพิ่มเติมด้วย
เจ้าของรถที่มีนาฬิกา Android Wear สามารถกดสตาร์ตเครื่องยนต์ ล็อคประตู เปิดไฟรถ บีบแตร และค้นหารถยนต์ได้จากนาฬิกาโดยตรง (ฟีเจอร์เทียบเท่าแอพมือถือ) แอพจะเปิดให้ดาวน์โหลดในไตรมาสแรกของปี 2015 ใช้ได้กับนาฬิกา Android Wear ของซัมซุง โซนี่ แอลจี โมโตโรลา ส่วนรถยนต์ที่รองรับคือรถที่มีระบบ Blue Link ทุกรุ่นนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา
Alcatel OneTouch เผยสมาร์ทวอทช์หน้าปัดทรงกลม บริษัทกล่าวว่านาฬิกานี้จะให้ความรู้สึกเหมือนนาฬิกาข้อมือทั่วไป รองรับการเชื่อมกับสมาร์ทโฟนรันแอนดรอยด์ สามารถติดตามกิจกรรมของผู้ใช้ (จากภาพท้ายข่าวจะเห็นว่าอย่างน้อยมันสามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจได้) ควบคุมการเล่นเพลง ถ่ายภาพ (เว็บไซต์ The Verge คาดว่าใช้นาฬิกาเป็นรีโมตถ่ายภาพ) และแสดงผลการแจ้งเตือนได้
บริษัทอ้างว่าราคานาฬิกานี้สามารถจับต้องได้ แต่ก็ยังไม่เผยราคาและสเปคแต่อย่างไร ต้องรอที่งาน CES ที่กำลังจะมีขึ้นปีนี้ครับ
ที่มา: The Verge
ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Pebble ที่อยากได้ฟีเจอร์แบบ Android Wear บ้าง หลังจากในอัพเดตใหม่เวอร์ชัน beta เพิ่มความสามารถให้ Pebble สามารถตอบผ่านข้อความแจ้งเตือนได้โดยตรงแล้ว
วิธีการของ Pebble จะใกล้เคียงกับ Android Wear ต่างกันตรงที่ตัวเครื่องไม่มีหน้าจอสัมผัส จึงใช้ปุ่มด้านข้างสำหรับเลือกรูปแบบข้อความที่ต้องการตอบกลับ (พิมพ์ไม่ได้เพราะไม่มีจอสัมผัสเช่นกัน) ซึ่งดูยุ่งยากกว่า แต่คงใช้แบตเตอรี่น้อยกว่าเช่นกัน
วิดีโอแสดงการทำงานของฟีเจอร์นี้สามารถดูได้ท้ายข่าว ส่วนใครที่อยากใช้ตอนนี้ สามารถไปลงทะเบียนเพื่ออัพเดตเวอร์ชัน beta ได้ที่นี่
Pebble ผู้บุกเบิกสมาร์ทวอทช์ได้เริ่มทดสอบการรองรับระบบการเตือนที่โต้ตอบได้ของ Android Wear แล้ว หลังจากเริ่มรองรับการแจ้งเตือนจากทุกแอพมาก่อนหน้านี้ โดยตัว Pebble จะรองรับการแสดงผลการแจ้งเตือนแบบเดียวกับอุปกรณ์ Android Wear อื่นๆ และผู้ใช้สามารถเลือกการโต้ตอบง่ายๆ กลับไปได้ แม้ตัว Pebble จะไม่รองรับการสัมผัสหน้าจอ และไม่ได้รัน Android Wear บนตัวเองก็ตาม
Jean-Claude Biver หัวหน้าฝ่ายนาฬิกาของกลุ่ม LVMH เจ้าของสินค้าแบรนด์เนมหลายตัวรวมทั้งนาฬิกา TAG Heuer เปิดเผยว่า TAG Heuer เตรียมประกาศความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์หลายรายเพื่อผลิตนาฬิกาอัจฉริยะหรือ Smart Watch และบางบริษัทอาจใช้วิธีซื้อกิจการเข้ามาเลย
Biver ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เขาไม่สนใจการรุกคืบเข้ามาของนาฬิกาพวกนี้ (แถมบอกว่า Apple Watch เป็นผลงานนักศึกษา) แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจและพร้อมสู้ศึกแล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยว่าพาร์ตเนอร์ที่ว่าจะเป็นใคร โดยมีข่าวลือว่าอาจมีทั้งกูเกิลและอินเทล
หลังจากที่ทางโมโตโรลาเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า Moto 360 จะมีอีก 3 รูปแบบคือแบบสายสำหรับคนข้อมือเล็ก, รุ่นสีอ่อน และรุ่นสีทองแชมเปญ
ล่าสุด ทวิตเตอร์ของอดีตเจ้าพ่อจอมแฉอย่าง Evan Blass (หรือที่เรารู้จักกันในนาม @evleaks) ทวีตภาพเรนเดอร์ของตัวเครื่อง Moto 360 รุ่นสีอ่อน และสีทองแชมเปญออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยในภาพเรนเดอร์ดังกล่าวนั้นจะมาพร้อมกับหน้าปัดนาฬิกา (watch face) ตามสีของสายและตัวเรือนด้วย
สำหรับความแตกต่างของ 2 รุ่นนี้เมื่อเทียบกับ Moto 360 รุ่นปกติคือ ตัวเรือนและสายนาฬิกาจะใช้สีที่แตกต่างกัน (จากปกติใช้สีดำทั้งเรือนและสายโลหะ) แต่ทั้งนี้ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายว่าเมื่อไร (ทางโมโตโรลาบอกไว้ว่าปลายปีนี้)
เมื่อตอนเดือนกันยายน เราเคยได้ยินข่าวลือว่า TAG Heuer ผู้ผลิตนาฬิกาและสินค้าเครื่องประดับหรูจากสมาพันธรัฐสวิส เตรียมที่จะทำนาฬิกาอัจฉริยะหรูหราออกมา ล่าสุดก็มีข่าวลืออีกครั้งหนึ่งเกี่ยวกับโครงการนี้
เว็บไซต์รายงานข่าวไอที Pocket-lint อ้างรายงานของ Business Insider ว่าทาง TAG Heuer เตรียมที่จะเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะของตนเองในต้นปีหน้า โดยระบุว่าจะเปิดตัวที่งาน CES (Consumer Electronics Show) ในวันที่ 5 มกราคม ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้จะใช้หน่วยประมวลผลของทางอินเทลในการเป็นหน่วยประมวลผลหลักด้วย
เพิ่งจะลือกันได้ไม่กี่วันเรื่อง Sony ทำนาฬิกาอัจฉริยะตัวใหม่ที่เลือกใช้ e-paper เป็นส่วนแสดงผล ตอนนี้ Sony ออกมาตอบเรื่องนี้แล้วว่าเป็นความจริง โดยนาฬิกาตัวนี้มีชื่อว่า FES Watch
Sony อธิบายว่า FES Watch นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Fashion Entertainments ที่มีเป้าหมายวิจัยตลาดเพื่อศึกษาหาความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้ e-paper มาทำสินค้าแฟชั่น โดยในขณะนี้ FES Watch คือผลิตภัณฑ์ต้นแบบตัวหลักของโครงการ
ปัญหาหนึ่งที่นักวิเคราะห์บางรายอธิบายสาเหตุที่นาฬิกาอัจฉริยะยังไม่ได้รับความนิยมเปรี้ยงปร้าง เป็นเพราะธรรมชาติของมันที่จะถูกออกแบบมาให้มีขนาดหน้าจอเล็กพอเหมาะต่อการสวมใส่บนข้อมือ จึงทำให้ไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับบางคนที่จะต้องมาคอยกดคอยจิ้มหน้าจออันจิ๋วเหล่านี้
Apple คือตัวอย่างที่ดีของความพยายามตีโจทย์นี้ด้วยการใส่เม็ดมะยมเข้ามาใน Apple Watch เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งสำหรับการสั่งงานนาฬิกาของตน มาตอนนี้เราพอมองเห็นความพยายามด้านงานออกแบบของ Samsung บ้างที่เพิ่งมีการเปิดเผยออกมาว่าได้ยื่นจดสิทธิบัตรที่มีเรื่องการควบคุมนาฬิกาอัจฉริยะด้วยวงแหวนรอบตัวเรือนที่ผู้ใช้สามารถหมุนปรับได้
ดูเหมือน Sony จะเอาจริงเอาจังกับตลาดสมาร์ทวอทช์เอาเรื่อง หลังจากที่มีทั้งสมาร์ทวอทช์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเอง และรุ่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Wear ล่าสุดมีแผนจะทำสมาร์ทวอทช์อีกรุ่นที่ใช้หน้าจอแบบ e-paper บ้างแล้ว
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับแผนการนี้ระบุว่าแผนนี้ทำเพื่อสร้างนวัตกรรมเพื่อไปแข่งกับรายอื่นในตลาดทั้งแอปเปิล และซัมซุง โดยนอกจากสมาร์ทวอทช์ตัวนี้จะใช้หน้าจอแบบ e-paper แล้ว ตัวสายยังใช้วัสดุแบบพิเศษที่ทำให้สามารถใช้งานเป็นหน้าจอ และสัมผัสได้ทั้งเรือนอีกด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้น สมาร์ทวอทช์ตัวนี้จะเน้นไปที่การทำตัวเครื่องให้ออกมาน่าใช้ มากกว่าทำเป็นอุปกรณ์ล้ำเทคโนโลยีอย่างที่ทั้งแอปเปิล และซัมซุงทำมาก่อนแล้ว ส่วนชื่อรุ่น และวันเปิดตัวยังไม่มีข้อมูลออกมาครับ
ยุคของนาฬิกาฉลาด (สมาร์ทวอช) อาจจะเริ่มต้นด้วย Pebble ที่สร้างปรากฎการณ์ความนิยมในหมู่นักพัฒนาเป็นวงกว้าง จนตอนนี้เองแพลตฟอร์มของนาฬิกาก็ดูจะเป็นก้าวแรกของคอมพิวเตอร์สวมใส่ได้ที่มีการใช้งานจริงเป็นวงกว้าง ตัว Wellograph เป็นทีมพัฒนาที่แยกมาจากที่ของ Atiz ที่ทำธุรกิจเครื่องสแกนหนังสือมาก่อน โดยเครื่องพัฒนาในไทยนี่เอง
ในแง่ของฟีเจอร์แล้ว Wellograph คงไม่สามารถนับได้ว่าเป็นสมาร์ทวอชเต็มรูปแบบแบบเดียวกับ Pebble หรือ Android Wear เพราะตอนนี้เองก็ยังไม่สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นลงไปได้โดยตรง ฟีเจอร์สำคัญของ Wellograph คือการจับการเดินและอัตราการเต้นของหัวใจ ตามชื่อของผู้ผลิตที่เรียกมันว่าเป็นนาฬิกาสุขภาพ (Wellness Watch)
สงครามอุปกรณ์แบบสวมใส่เริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ มีผู้เล่นเข้าสู่ตลาดมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาเรือนโปรดหลายคนก็ยังไม่พร้อมที่จะใส่อุปกรณ์อื่นเพิ่มเติม และยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนจากนาฬิกาเรือนโปรดมาสวมใส่อุปกรณ์ที่ไม่สามารถบอกเวลาได้หากไม่ประจุไฟในไม่กี่วัน
ทาง Kairos ผู้ผลิตสมาร์ทวอทช์แบบนาฬิกากลไกได้เล็งเห็นปัญหาจุดนี้ และได้เริ่มโครงการอุปกรณ์เสริมสำหรับนาฬิกาทั่วไป จนออกมาเป็น T-band สายนาฬิกาที่มีคุณสมบัติเหมือนกับสมาร์ทวอทช์และสมาร์ทแบนด์ทั่วไปที่สามารถนำมาเปลี่ยนกับสายนาฬิกาข้อมือของผู้ใช้ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องสวมอุปกรณ์เพิ่มขึ้นอีกชิ้นและไม่ต้องเลิกใช้งานนาฬิกาเรือนโปรด
หลังจากที่ Samsung Gear S ออกมาเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา ส่วนตัวพอเห็นในคลิปที่เปิดตัวแล้วก็อยากได้ จึงรีบไปซื้อมาลอง วันนี้ก็เลยจะขอลองมารีวิวให้ดูครับ โดยจะเน้นที่การใช้งานจริง ส่วน พวก Unboxing หรือ Feature ต่างๆ คนที่ติดตาม น่าจะได้เห็นกันไปแล้วครับ
Gear S เทียบกับ Gear Fit
ส่วนตัวเนื่องจากผมใช้ Gear Fit อยู่แล้ว จึงจะรีวิว Gear S เปรียบเทียบกับ Gear Fit ไปควบคู่กันนะครับ เริ่มจากตัวเรือนก่อนรูปลักษณ์ภายนอกค่อนข้างจะเหมือนกันเลยครับ ต่างกันที่ตัว Gear S จะใหญ่กว่าเหมือนเอา Gear Fit มาต่อกันสองเรือน
เว็บไซต์ TorrentFreak รายงานว่าแบรนด์ดังนาฬิกาหรูหลายรายเตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับงานละเมิดลิขสิทธิ์รูปแบบใหม่ นั่นคือผู้ออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งานสำหรับนาฬิกาอัจฉริยะที่ลอกเลียนงานออกแบบนาฬิกาของตน
ตลาดสมาร์ทวอทช์เริ่มร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ หลังจากมีเจ้าใหญ่เริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทไฟแรงจากจีน Xiaomi ก็ออกมาแสดงท่าทีเกี่ยวกับสมาร์ทวอทช์บ้างแล้ว
รายละเอียดดังกล่าวมาจากเฟซบุ๊กทางการของ Xiaomi ที่เป็นวิดีโอของ Hugo Barra ที่ออกมาโพสต์วิดีโอถามแฟนๆ ของ Xiaomi ว่าอยากเห็นฟีเจอร์อะไรในสมาร์ทวอทช์ของ Xiaomi โดย Barra บอกว่าหลังจากรับความเห็นไปแล้ว จะได้ข้อสรุปอีกในไม่กี่เดือนข้างหน้าว่าทาง Xiaomi จะเอายังไงกับสมาร์ทวอทช์ต่อไป
ใครที่เป็นแฟนๆ ของ Xiaomi ก็ลองไปแสดงความเห็นกันได้ครับ
ที่มา - Tech In Asia
เวลาผ่านไป รายละเอียดของ Apple Watch ก็ถูกปล่อยออกมาเพิ่มเติมเรื่อยๆ และจาก SDK ล่าสุดที่แอปเปิลเพิ่งปล่อยมาก็ได้ระบุถึงความละเอียดหน้าจอของ Apple Watch มาแล้ว
สำหรับความละเอียดหน้าจอของ Apple Watch จะแบ่งตามขนาดของหน้าจอที่มีอยู่สองขนาดคือ 38 และ 42 มม. โดยความละเอียดของหน้าจะแต่ละขนาดจะอยู่ที่ 340x272 พิกเซล และ 390x312 พิกเซล ตามลำดับ โดยใน WatchKit ยังระบุว่าหน้าจอของ Apple Watch เป็นหน้าจอระดับ Retina Display ที่ใช้กราฟิกขนาด 2x สำหรับแอพอีกด้วย
ด้วยความที่ความละเอียดของทั้งสองขนาดหน้าจอนั้นไม่เท่ากัน ทำให้รายละเอียดปลีกย่อยอย่างกราฟิกรูปภาพของทั้งสองขนาดจึงไม่เท่ากันไปด้วย งานนี้นักพัฒนาคงต้องเก็บรายละเอียดกันหน่อยครับ
โมโตโรลาเปิดตัว Moto 360 รุ่นสายโลหะแล้ว มีให้เลือกสองสีคืออ่อนและเข้ม ขายในราคา 299 ดอลลาร์
บริษัทยังประกาศว่าจะออก Moto 360 รุ่นสายเล็ก (slim band) สำหรับคนข้อมือเล็ก โดยจะมีรุ่นโลหะสีอ่อน 299 ดอลลาร์ และรุ่นสีทองแชมเปญ 329 ดอลลาร์ ขายช่วงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ โมโตโรลายังเพิ่มตัวเลือกการตกแต่งหน้าปัดนาฬิกาด้วยตัวเอง (My Design watch face) และเพิ่มแอพใหม่ Moto Body สำหรับวัดก้าว อัตราการเต้นของหัวใจ และอัตราการบริโภคแคลอรีด้วย
ที่มา - Motorola Blog
HP โผล่มาร่วมแจมตลาดนาฬิกาอัจฉริยะแบบเงียบๆ ไม่มีใครรู้เรื่อง โดยมาแหวกแนวด้วยการจับมือกับดีไซเนอร์แบรนด์แฟชั่นผู้ชายชื่อดัง Michael Bastian ออกนาฬิกา MB Chronowing มาทำตลาด
MB Chronowing แหวกแนวคิดของนาฬิกาอัจฉริยะในท้องตลาดแทบทุกตัว โดยมันใช้จอ LCD ขาวดำแบบสัมผัสจอไม่ได้ แนวคิดในการออกแบบของมันคือเป็น "นาฬิกาบอกเวลา" ธรรมดา จอเปิดค้างไว้ตลอด แสดงเข็มบอกเวลาเป็น LCD และเสริมด้วยฟีเจอร์แจ้งเตือนอีกเล็กน้อยเท่านั้น
หลังจากที่มีภาพหลุดโบรชัวร์ของ Fitbit Surge ไปแล้วรอบหนึ่ง
ให้หลังจากการเปิดตัวมาเมื่อเดือนกันยายน วันนี้โมโตโรลาประกาศอัพเดตซอฟต์แวร์ Android Wear 4.4W ให้กับ Moto 360 เรียบร้อยแล้ว
ใน Android Wear 4.4W มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ และการปรับอินเทอร์เฟซหลายอย่าง ไล่เรียงเป็นข้อๆ ได้ดังนี้ครับ
นอกจากจะมี Fitbit Charge และ Charge HR แล้ว ดูเหมือน Fitbit จะยังมีไม้เด็ดอีกรุ่นไว้เซอร์ไพรส์ด้วย และตอนนี้ก็มีภาพหลุดของอุปกรณ์ที่ว่ามาแล้วในชื่อรุ่น Fitbit Surge
Fitbit Surge เป็นสมาร์ทวอทช์ตัวแรกจาก Fitbit (Fitbit เรียกเจ้าตัวนี้ว่า Superwatch) ที่ไม่ได้เพียงแค่บอกเวลาเหมือนกับรุ่นก่อนๆ แต่เพิ่มฟีเจอร์เข้ามาหลายอย่างตั้งแต่ GPS ในตัว, PurePulse สำหรับวัดชีพจร รวมถึงความสามารถในการแสดงข้อความแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน และควบคุมการเล่นเพลงได้ โดยเปิดราคามาสูงพอสมควรที่ 249 เหรียญ (ประมาณ 8,000 บาท)
คงต้องรอเจ้า Fitbit Surge เปิดตัวจริงเสียก่อนถึงจะได้รู้ว่าเจ้า Superwatch นี้หน้าจอขนาดเท่าไร ทำอะไรได้อีกบ้าง และแบตเตอรี่ทนทานแค่ไหนครับ
Forbes รายงานข่าววงในว่าไมโครซอฟท์เตรียมเปิดตัวสินค้าสาย wearable ของตัวเองในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะเป็นนาฬิกาอัจฉริยะ (smart watch) ที่สามารถวัดอัตราการเต้นหัวใจได้ด้วย
ตามข่าวบอกว่าสินค้าของไมโครซอฟท์จะทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้หลายค่าย แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 2 วันสำหรับการใช้งานทั่วไป และหลังเปิดตัวไม่นานจะวางขายจริงทันที เพื่อชิงตลาดจาก Apple Watch ที่ออกต้นปี 2015 อย่างไรก็ตามตอนนี้เรายังไม่มีข้อมูลชื่อสินค้าและราคา
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่าไมโครซอฟท์ซุ่มทำ smart watch โดยใช้ทีม Kinect ที่มีประสบการณ์ด้านอุปกรณ์รับแสง (optical) เต็มเปี่ยม
ที่มา - Forbes
ใครที่ตามข่าวบน Blognone คงจะรู้จัก Project Ara โทรศัพท์ปรับสเปค-เปลี่ยนชิ้นส่วนเองได้ของกูเกิล (ถูกย้ายจากโมโตโรลา) และสมาร์ทวอทช์จากแอปเปิลและพันธมิตรที่ใช้ Android Wear เชื่อว่าหลายคนคงฝันถึงนาฬิกาข้อมือที่สามารถปรับสเปค-เปลี่ยนชิ้นส่วนได้เองเหมือนกับ Project Ara กันบ้าง
เราเห็น LG ทำอะไรกับ webOS ตั้งแต่ซื้อมาจาก HP แค่ทำเป็นสมาร์ททีวีแล้วจบเพียงแค่นั้น แต่นั่นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่หลายคนได้คาดคิด เพราะล่าสุดมีรายงานจาก The Verge ว่า LG ได้เผลอปล่อยหน้าเว็บ Developer Central ตัวใหม่ที่มีข้อมูลของ webOS SmartWatch หรือ "webOS Wear" ติดมาด้วย
ทั้งนี้ยังไม่มีการระบุว่ารูปร่างและข้อมูลของ webOS Wear นั้นจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง แต่รายละเอียดคร่าวๆ คือจะใช้งาน API และ SDK ชุดเดียวกันกับ webOS SmartTV และจากนักพัฒนาที่ได้ทดสอบตัว SDK ก็มีการเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า webOS Wear จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ และนี่ก็จะเป็นก้าวใหม่ครั้งสำคัญของ webOS ที่อยู่ในมือ LG ด้วย