Nikkei Asian Review รายงานว่ากลุ่มบริษัทโซนี่ เตรียมจัดตั้งกิจการร่วมค้า หรือ Joint Venture กับบริษัทผู้ให้บริการรถแท็กซี่ในประเทศญี่ปุ่นหลายราย เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับเรียกรถแท็กซี่ขึ้นมาเอง
กลุ่มแท็กซี่ที่เข้าร่วมนั้นประกอบด้วย Daiwa Motor Transportation, Hinomaru Kotsu, Kokusai Motorcars, Green Cab และ กลุ่ม Checker Cab
การร่วมลงทุนของโซนี่นั้นเพื่อหวังการแข่งขันกับแอพแท็กซี่ที่ตอนนี้บุกเข้ามาให้บริการในญี่ปุ่นมากขึ้น รวมทั้งเพื่อแข่งขันกับ Didi Chuxing ที่ตอนนี้มีกลุ่ม SoftBank ของญี่ปุ่นลงทุนสนับสนุนอยู่
Uber เริ่มทดสอบบริการใหม่ในชื่อว่า Uber Chap Chap บริการรถยนต์ราคาถูก เน้นการนำรถยนต์ประหยัดพลังงานมาให้บริการ โดยบริการนี้เริ่มทดสอบในเมือง Nairobi เมืองหลวงของประเทศเคนยาแล้ว ซึ่งคำว่า Chap Chap นั้นเป็นคำสแลงของชาวแอฟริกาตะวันออกที่มีความหมายว่า “เร็ว ๆ”
Uber ได้ร่วมมือกับบริษัทผู้นำเข้ารถยนต์ CMC Motors เพื่อนำเข้ารถยนต์ Suzuki Altos จำนวนกว่า 300 คันซึ่งเป็นรถยนต์ที่ประหยัดพลังงานมาให้บริการในเมือง Nairobi และมีผู้สนับสนุนทางการเงินคือธนาคาร Stanbic ของเคนยาที่จะมีข้อเสนอดี ๆ ให้กับผู้ขับรถ Uber ที่มีประวัติดี ซึ่งจะทำให้เป็นเจ้าของรถยนต์ได้ภายใน 3 ปี
Didi Chuxing ผู้ให้บริการเรียกรถจากจีนได้เซ็นสัญญาร่วมกับ SoftBank เพื่อให้บริการเรียกรถแท็กซี่ในประเทศญี่ปุ่น โดยทั้งสองบริษัทจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อทดลองระบบเรียกรถและคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในปีนี้
Didi และ SoftBank จะใช้วิธีการร่วมมือกับผู้ประกอบการแท็กซี่, ผู้กำหนดนโยบาย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ เพื่อเปิดใช้งานแพลตฟอร์มที่ผู้ให้บริการแท็กซี่ทุกบริษัทในญี่ปุ่นสามารถใช้งานได้ โดยบริการนี้จะเน้นไปที่แท็กซี่เนื่องจากบริการเรียกรถแบบ peer-to-peer นั้นผิดกฎหมายในประเทศญี่ปุ่น
เป็นที่รู้กันว่า Uber นั้นเป็นสตาร์ทอัพที่ขาดทุนมาตลอด โดยข้อมูลล่าสุดคือไตรมาสสามปีที่แล้วก็ยังขาดทุนสุทธิพันล้านดอลลาร์ ล่าสุดซีอีโอ Data Khosrowshahi ได้ให้สัมภาษณ์ โดยเขากล่าวว่า Uber จะทำกำไรได้ภายใน 3 ปี หรือภายในปี 2022 และยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับ Uber ที่น่าสนใจอีกมากที่ซีอีโอได้กล่าวไว้อีกหลายประเด็น
Didi Chuxing บริษัทเรียกรถแท็กซี่ในลักษณะเดียวกับ Uber จากจีนประกาศเข้าซื้อบริษัทเรียกรถสัญชาติบราซิลที่มีชื่อว่า 99 อย่างเป็นทางการ หลังจากที่บริษัท Didi เพิ่งจะเพิ่มทุน 4 พันล้านดอลลาร์ไปไม่นานนัก
Cheng Wei ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Didi กล่าวว่า การเข้าซื้อบริษัท 99 จะเป็นการเร่งการเติบโตในละตินอเมริกา และยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่าการเข้าสู่ตลาดสากลนั้นถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของ Didi ซึ่งทางบริษัทจะเปลี่ยนโฉมการเดินทางทั่วโลกและอุตสาหกรรมยานยนต์ผ่านการดำเนินธุรกิจทั่วโลกและพาร์ทเนอร์
แหล่งข่าวของสำนักข่าว Reuters รายงานว่า Didi Chuxing บริการเรียกรถจากประเทศจีนเตรียมขยายธุรกิจเข้าประเทศเม็กซิโกในปีหน้า ซึ่งจะถือเป็นการขยายกิจการออกนอกจีนครั้งแรกของ Didi
ในรายงานเผยว่า Didi จะเปิดตัวแอพบนสมาร์ทโฟนในเม็กซิโก และจะรับคนขับรถมาให้บริการบนแพลตฟอร์ม แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า Didi จะเริ่มให้บริการที่เมืองไหนก่อน ซึ่งแหล่งข่าวเผยว่าในไตรมาสแรกของปีหน้า Didi จะเปิดให้บริการในเม็กซิโก
Uber และ Yandex เคยตกลงกันไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่าจะรวมบริการร่วมเดินทางที่ปัจจุบันให้บริการอยู่ในรัสเซีย และประเทศต่าง ๆ โดยรอบ ได้แก่ อาร์เมเนีย, อาเซอร์ไบจาน, เบลารุส, จอร์เจีย และคาซัคสถาน มาอยู่ภายใต้บริษัทเดียวกัน ล่าสุดการดำเนินการนี้ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานป้องกันการผูกขาดของรัสเซีย Federal Antimonopoly Service แล้ว
เป็นที่รู้กันว่า SoftBank ได้ลงทุนในบริษัทเรียกรถมากมาย Ola, Grab, 99, DiDi Chuxing และล่าสุด Uber ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ
ล่าสุดสำนักข่าว Reuters รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับ Grab ว่า SoftBank อาจจะรวมบริษัทเรียกรถที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นบริษัทเดียว (ทั้ง Uber และ Grab) ซึ่งดีลการควบบริษัทอาจจะคล้าย ๆ กับที่ Uber ควบกิจการกับ DiDi Chuxing ในจีนก็ได้
ยังมีประเด็นเพิ่มเติมจาก Dara Khosrowshahi ซีอีโอ Uber ซึ่งไปพูดในงานสัมมนา DealBook ที่นิวยอร์ก เกี่ยวกับผลประกอบการของ Uber, การแข่งขันในแต่ละภูมิภาค ดังนี้
Lyft ผู้ให้บริการเรียกรถคู่แข่ง Uber ได้เตรียมขยายออกตลาดนอกสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก โดยเมืองที่จะไปเปิดตัวครั้งนี้คือ Toronto ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของประเทศแคนาดา
บริการที่ Lyft จะมอบให้ชาวเมือง Toronto ก็มีตั้งแต่ Lyft ธรรมดา, Lyft Plus, Lyft Premiere, Lyft Lux และ Lyft Lux SUV โดยตามแผนของ Lyft คือจะเปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนหน้า และตอนนี้ก็ได้เริ่มให้ผู้ที่สนใจจะขับรถกับ Lyft ลงทะเบียนแล้ว แต่ยังไม่เผยรายละเอียดเรื่องค่าโดยสาร
หลังจากมีข่าวและมีข้อขัดแย้งกันมาหลายเดือน ล่าสุดมีรายงานว่าบอร์ดบริหาร Uber ได้มีมติรับเงินลงทุนจาก SoftBank ซึ่งอาจมีมูลค่ารวมสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ โดยโฆษกของ Uber ยืนยันข่าวนี้แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติม
สนามบินในสหรัฐหลายสนามบินจะมีการกำหนดจุดรับส่งสำหรับบริการ Ride-Hailing อย่าง Uber และ Lyft เอาไว้ แตกต่างกับในตัวเมืองที่ไม่มี ซึ่งก็อาจจะสร้างปัญหาในแง่ของการจราจรโดยเฉพาะอย่างในซาน ฟรานซิสโกที่การจราจรค่อนข้างคับคั่ง
ล่าสุดเทศบาลซานฟรานซิสโกได้พูดคุยและตกลงกับ Uber และ Lyft ในการจัดสรรและกำหนดพื้นที่สำหรับจอดรับส่งผู้โดยสารตามจุดต่างๆ ของตัวเมืองขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการจราจร โดยคนขับจะรู้ได้จากตำแหน่งที่แสดงขึ้นมาบนแอป ขณะที่ Uber และ Lyft จะให้ข้อมูลการจราจรกับเทศบาลเเพื่อจัดการแก้ปัญหารถติดและเป็นการยืนยันอ้อมๆ ว่าทั้งสองบริษัทปฏิบัติตามข้อตกลง
Grab ประกาศว่าบริการเรียกรถโดยสารผ่านแอพ ได้ผ่านจุดสำคัญไปแล้ว โดยมีจำนวนเที่ยวโดยสารทะลุ 1 พันล้านครั้งเป็นที่เรียบร้อย โดยมีเที่ยวโดยสาร 66 เที่ยวที่ถูกนับเป็นครั้งที่หนึ่งพันล้าน
Grab เริ่มให้บริการที่มาเลเซียในปี 2012 ปัจจุบันให้บริการใน 142 เมืองของ 7 ประเทศ เฉพาะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อมาดูตัวเลขของคู่แข่งรายอื่น Uber ได้ประกาศ 5 พันล้านเที่ยวไปเมื่อเดือนมิถุนายน, Didi ของจีน (ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น Grab ด้วย) ไม่ได้บอกตัวเลขแต่ก็มากกว่า 1 พันล้านแล้ว ส่วน Lyft ประกาศว่าผ่าน 500 ล้านเที่ยวไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
Grab ประกาศรับเงินลงทุนจากกลุ่มบริษัท Toyota ผ่านบริษัทลูก Toyota Tsusho Corporation และกองทุน Next Technology Fund
การลงทุนของ Toyota ครั้งนี้ไม่เปิดเผยตัวเลข แต่นับเป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนก้อนใหญ่ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ที่เพิ่งประกาศข่าวไปเมื่อเดือนที่แล้ว
นอกจากเงินลงทุนแล้ว บริษัทแม่ Toyota Motor Corporation (TMC), Toyota Financial Services Corporation (TFS) และบริษัทประกันภัย Aioi Nissay Dowa Insurance ยังประกาศความร่วมมือกับ Grab นำระบบเก็บล็อกคนขับ TransLog ที่พัฒนาโดย The Connected Company บริษัทลูกของ TMC มาติดตั้งในรถยนต์ของ Grab เพื่อใช้คำนวณข้อมูลด้านประกันภัย สินเชื่อ และการซ่อมบำรุงด้วย
Didi Chuxing บริษัทแชร์รถจากจีน แม้จะยังไม่ได้ขยายกิจการไปยังประเทศอื่นๆ แต่บทบาทของ Didi คือนักลงทุนในบริษัทแชร์รถในท้องถิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Ola, Lyft, Grab เป็นต้น ล่าสุดลงทุนใน Careem บริษัทแชร์รถในดูไบ แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลข
ก่อนหน้า Careem บริษัท Didi ก็ลงทุนในบริษัทแชร์รถในบราซิล หรือ Brazilian company 99 ถึง 100 ล้านดอลลาร์ และลงทุนใน Taxify บริษัทท้องถิ่นในยุโรปอีกด้วย แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลข
จากการลงทุนในท้องถิ่นต่างๆ ส่งผลให้ Didi เป็นนักลงทุนเบื้องหลังบริษัทแชร์รถในประเทศต่างๆ ครอบคลุม 5 ทวีปแล้ว และแม้ว่าจะไม่ได้ขยายกิจการของตัวเองโดยตรง แต่ก็เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวไม่ใช่น้อยของอูเบอร์ และกลยุทธ์หนุนหลังคู่แข่งอูเบอร์ดูจะเป็นแนวทางหลักของ Didi ด้วย
SoftBank ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีและโทรคมนาคมจากญี่ปุ่น ที่รุกลงทุนในธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดผู้บริหาร SoftBank เผยความสนใจลงทุนในธุรกิจแอพเรียกรถในอเมริกา โดยสนใจทั้ง Uber และ Lyft
ถ้าฟังดูก็แค่สนใจลงทุนปกติ ก็ต้องบอกว่าปัจจุบัน SoftBank นั้นมีพอร์ตการลงทุนในแอพเรียกรถแท็กซี่อยู่แล้ว ได้แก่ Grab, Didi Chuxing (จีน), Ola (อินเดีย) และ 99 (ละตินอเมริกา) เรียกว่าแทบจะครบตลาดหลักแล้ว ขาดแค่อเมริกาเท่านั้น
ซีอีโอ Masayoshi Son กล่าวว่าอเมริกาเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และมองว่าอุตสาหกรรมเศรษฐกิจแบ่งปันมีโอกาสโตในภาพรวมอีกมาก บริษัทจึงสนใจลงทุนทั้งใน Uber และ Lyft แต่ขึ้นอยู่กับการเจรจากับทั้งสองบริษัทต่อไป
Lyft ผู้ให้บริการเรียกรถคู่แข่งสำคัญของ Uber ในสหรัฐฯ ได้ประกาศว่าตอนนี้มีอัตราการใช้บริการสูงสุดถึง 1 ล้านเที่ยวต่อวันแล้ว
การที่ยอดการใช้บริการของ Lyft เติบโตได้ถึง 1 ล้านเที่ยวต่อวันนั้นเป็นการเติบโตแบบช้า ๆ โดยในช่วง 48 เดือนที่ผ่านมาทางบริษัทมียอดการเรียกใช้บริการเติบโตขึ้นทุกเดือน และการเติบโตนับเป็นปีต่อปีนั้นสูงเกิน 100% และเป้าหมายต่อไปของ Lyft คือจะทำยอดต่อปีให้ได้ 350 ล้านเที่ยว
ยอดการเรียกรถของ Lyft ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในสหรัฐฯ เท่านั้น เนื่องจากทางบริษัทยังไม่ขยายบริการออกนอกประเทศ โดยปัจจุบัน Lyft มีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมประชากร 80% ในสหรัฐฯ
ท่ามกลางดราม่าทั้งหลายที่อูเบอร์ประสบพบเจอ ดูจะไม่สะเทือนผลประกอบการและความต้องการอยากใช้บริการแชร์รถนัก วันนี้ อูเบอร์แถลงว่ามียอดใช้บริการทะลุ 5,000 ล้านเที่ยวแล้ว
อูเบอร์เปิดบริการในปี 2010 โดยยอดใช้งานอูเบอร์ทะลุ 1,000 ล้านเที่ยวตอนปลายปี 2015 และพุ่งสูง 2,000 ล้านเที่ยวเมื่อปีที่แล้วนี้เอง และมียอดเที่ยวโดยสารแตะ 5,000 ล้านเที่ยวในวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา
หลังจากปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้า Uber ก็ได้ประกาศโครงการ 180 Days of Change เพื่อผลักดันให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกับคนขับรถ Uber ซึ่งผู้บริหารใช้คำว่า เป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญกับบริษัท แต่ที่ผ่านมายังดูแลได้ไม่ดีพอ (ประกาศนี้ออกมาก่อนที่ซีอีโอ Travis Kalanick จะลาออก)
หลังจากที่มีการรายงานข่าวกันอย่างต่อเนื่องเรื่องผู้โดยสารรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า May Natsupa โพสต์ข้อความผ่าน Facebook ว่าทหารเรียกแท็กซี่ที่ถูกเรียกผ่าน Grab ว่าจะปรับห้าพันบาทนั้น
จากกรณีที่ผู้ใช้ Facebook ชื่อ May Natsupa เผยแพร่เรื่องทหารจับแท็กซี่ที่ถูกเรียกผ่านแอพ โดนจับปรับ 5,000 บาทนั้น ทาง TV Pool Online อ้างว่า ASTV ผู้จัดการ รายงานว่า พ.ท.กฤษณพล โภชนดา ผู้บังคับกองทัพทหารปืนใหญ่ที่ 12 รักษาพระองค์ แจงผ่าน Facebook ถึงกรณีดังกล่าว
วานนี้ ผู้ใช้ Facebook ชื่อ May Natsupa โพสต์ข้อความพร้อมคลิป 4 ชิ้น แสดงเหตุการณ์การเรียก GrabTaxi มารับและถูกทหารเข้าจับกุม
ทางทหารระบุว่าได้รับคำสั่งมาและหากต้องการโต้แย้งให้ไปคุยกับนายก ทางฝั่งแท็กซี่จึงถามย้ำว่าต้องการทราบว่าผิดข้อหาอะไร ทหารตอบเพียงว่า "ผมทำตามหน้าที่"
ด้านแท็กซี่เล่าผ่านคลิปโดยยืนยันว่าตัวเองไม่ได้จอดรถรอแต่คลาดกับผู้โดยสาร แต่ทหารใช้มือล้วงเข้ามาในรถเพื่อบิดกุญแจดับเครื่องและจะปรับเงินจำนวน 5,000 บาท พร้อมไล่ผู้โดยสารลงจากรถ มิฉะนั้นจะโดนปรับด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กรมขนส่งยืนยันว่า GrabTaxi ถูกกฎหมาย