มีรายงานว่า แอปเปิลได้เข้าซื้อกิจการ Scout FM แอปพอดคาสต์ไปตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยตัวแทนของแอปเปิลก็ได้ยืนยันการเข้าซื้อกิจการนี้
Scout FM เป็นแอปสร้างสถานีวิทยุจำลอง โดยรวมพอดคาสต์หลาย ๆ รายการเข้าไว้ด้วยกัน และเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้งานเพื่อค้นหาและแนะนำพอดคาสต์ที่น่าสนใจ บริการของ Scout FM ออกแบบมาเพื่อทำงานบนลำโพงอัจฉริยะเช่น Echo เป็นหลัก แต่ก็มีแอปใน iOS และ Android ด้วย
ข้อมูลระบุว่า Scout FM เป็นแอปยอดนิยมตัวหนึ่งของผู้ใช้งาน CarPlay จึงน่าจะเป็นเหตุผลหลักให้แอปเปิลซื้อกิจการ เพื่อนำฟีเจอร์นี้มารวมกับบริการพอดคาสต์ ตลอดจนบริการด้านคอนเทนต์อื่น ๆ ในอนาคต
ในการอัพเดต iOS 13.6. วันนี้ Apple นอกจากการเผยฟังก์ชั่นใหม่ๆ ของ Apple News และได้เปิดตัวรายการพอดคาสต์ข่าวของตัวเองคือ Apple News Today เป็นการพูดสรุปข่าวประจำวันให้ฟังตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ ความยาวแต่ละคลิปเสียงราว 7-8 นาที เล่าสรุปข่าวโดยบรรณาธิการข่าวของ Apple News คือ Shumita Basu และ Duarte Geraldino
Apple News Today จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Apple News หาเจอได้ผ่านแท็บ audio และ Apple Podcast เปิดใช้งานในสหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ และออสเตรเลีย
Spotify เวอร์ชั่นแอปพลิเคชั่นบนมือถือ เปิดตัวชาร์ตจัดอันดับพอดคาสต์คือ Top Podcasts และ Trending Podcasts ใน 26 ประเทศ
Top Podcasts เป็นการรวมรายการพอดคาสต์ยอดนิยม 200 อันดับ สามารถเลือกดูอันดับในแต่ละประเทศได้ อัพเดตการจัดอันดับทุกเดือน ส่วน Trending Podcasts เป็นการแนะนำ 50 พอดคาสต์โดยใช้อัลกอริทึมผสมผสานกันระหว่างพอดคาสต์ที่ผู้ฟังน่าจะสนใจ (ทำนองเดียวกับเพลย์ลิสต์เพลง Discover Weekly) กับพอดคาสต์ที่มียอดคนฟังพุ่งสูงรวดเร็ว
Apple ถอด Pocket Casts แอปพลิเคชั่น Podcast รายใหญ่ออกจาก App Store จีนตามคำสั่งของรัฐบาลจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะมีเนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมายจีน
Pocket Casts เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเผยว่าได้รับการติดต่อจาก Apple ว่ารัฐบาลจีนขอให้ลบแอปนี้จาก App Store แต่ก็ไม่ได้แจ้งว่าเนื้อหาใดบ้างที่ขัดต่อกฎหมายจีน ทั้งยังบอกให้สอบถามไปยังหน่วยงานบริหารและจัดการไซเบอร์สเปซของจีนโดยตรง อย่างไรก็ตาม Pocket Casts เชื่อว่าแอปพ็อดคาสต์ควรจะเป็นช่องทางเปิดที่ปราศจากการเซ็นเซอร์ของรัฐบาล ผู้พัฒนาจึงไม่สนใจคำร้องขอของรัฐบาลจีน ก่อนที่แอปจะโดนลบจาก App Store จีนหลังจากนั้น 2 วัน
Joe Rogan คือดาราตลกและพิธีกรชื่อดัง หากใครไม่คุ้นชื่อก็คงจะคุ้นข่าว อีลอน มัสก์ สูบกัญชากลางไลฟ์พอดคาสต์ ก็มี Joe Rogan คนนี้เองเป็นพิธีกร ล่าสุด Rogan ได้ดีลใหญ่กับ Spotify ทำรายการพอดคาสต์แบบเอ็กซ์คลูซีฟในชื่อรายการว่า The Joe Rogan Experience
โดย The Joe Rogan Experience จะไม่ใช่พอดคาสต์ธรรมดา แต่เป็นพอดคาสต์พร้อมวิดีโอที่ Spotify ซุ่มทดลองอยู่ก่อนหน้านี้ รายการเริ่ม 1 กันยายนนี้
The Verge รายงาน Spotify กำลังทดลองทำพอดคาสต์แบบมีวิดีโอด้วย ผู้ผลิตรายการสามารถอัพโหลดคลิปได้ เริ่มต้นด้วยรายการ Zane and Heath: Unfiltered ที่จัดโดยยูทูเบอร์สองคน Zane Hijazi และ Heath Hussar โดยวิดีโอจะปรากฏในรายการเฉพาะตอนที่ 28-30 เท่านั้น มองเห็นได้ทั้งจาก Spotify เวอร์ชั่นเดสก์ทอป และมือถือ สามารถกดดูเต็มหน้าจอได้
Anchor แอปทำพอดคาสต์ที่ Spotify เข้าซื้อไปก่อนหน้านี้ ออกฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถแปลงไฟล์เสียงจากการคุยวิดีโอคอล ไม่ว่าจะคุยจากช่องทาง Zoom, Google Meet, Skype, FaceTime, Twitch, Instagram Live ให้เป็นไฟล์พอดคาสต์ได้
เมื่อผู้ใช้คุยวิดีโอคอลแล้ว สามารถอัพโหลดไฟล์เข้าไปที่แพลตฟอร์มของ Anchor รองรับทั้งไฟล์ .mp4 และ .mov หลังจากนั้นผู้ใช้ก็สามารถปรับแต่งพอดคาสต์ของตัวเองได้ไม่ว่าจะเป็น การตัดต่อเสียง ใส่ซาวด์ เพลงเบื้องหลัง หรืออัดเสียงตัวเองใส่ลงไปเพิ่มก็ได้ Anchor ระบุว่ายังไม่สามารถอัพโหลดไฟล์จาก YouTube เข้ามายัง Anchor ได้ แต่ถ้าผู้ใช้งานมีตัวไฟล์ต้นฉบับอยู่แล้ว ก็สามารถทำได้
ถึงแม้การระบาดของ COVID-19 จะทำให้คนอยู่บ้าน และน่าจะเป็นผลดีกับสื่อออนไลน์ แต่มีข้อมูลจาก Podtrac พบว่าภาพรวมการฟัง Podcast ในอเมริกามีจำนวนลดลง โดยปริมาณการฟังลดลง 10% ส่วนตัวเลขผู้ฟังนั้นลดลงถึง 20%
การลดลงนั้นพบในทุกหมวดรายการ โดยกลุ่มรายการ Podcast แนวอาชญากรรม ซึ่งเป็นที่นิยมในอเมริกา การฟังลดลงถึง 30% หมวดกีฬาลดลง 13% ส่วนหมวดรายการตลกลดลง 15% ทั้งนี้ Podcast กลายเป็นสื่อออนไลน์แนวทางใหม่ที่มีการเติบโตสูงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
คาดว่าสาเหตุที่การฟัง Podcast ลงลง ก็เนื่องจากคนต้องกักตัวอยู่ในบ้าน ทำให้สื่ออย่างโทรทัศน์และเว็บข่าวออนไลน์ กลายเป็นทางเลือกหลักในการรับสื่อ สะท้อนจากเรตติ้งช่องข่าวเคเบิ้ลทีวีในอเมริกามีผู้ชมเพิ่มมากกว่าเท่าตัว
Google ปล่อยแอป Podcasts สำหรับผู้ใช้งาน iOS อย่างเป็นทางการแล้ว ตามหลังจากที่ปล่อยเวอร์ชัน Androidเวอร์ชันรีดีไซน์
Google Podcasts บน iOS เป็นแอปเวอร์ชันรีดีไซน์เช่นเดียวกับบน Android ที่แบ่งเป็น 3 แท็บเช่นเดียวกัน คือ Home, Explore และ Activity โดย Home จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับพอดคาสท์ที่สมัครสมาชิกไว้, Explore จะแนะนำพอดคาสท์ที่น่าสนใจ และ Activity จะแสดงคิวการเล่นพอดคาสท์, ประวัติการฟัง และสถานะการดาวน์โหลด
นอกจากเวอร์ชัน iOS แล้ว Google Podcasts เวอร์ชันเว็บก็รีดีไซน์ใหม่เช่นกัน ซึ่งตอนนี้ทั้ง iOS และเว็บปรับเป็นรีดีไซน์ใหม่หมดแล้ว ในขณะที่ฝั่ง Android กำลังทยอยปล่อยเวอร์ชันใหม่ให้ผู้ใช้ทีละกลุ่ม
Google เริ่มทยอยปล่อยแอป Podcasts เวอร์ชันใหม่บน Android อย่างเป็นทางการ โดยรอบนี้มาพร้อมการรีดีไซน์ใหม่และฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่าง
Google Podcasts เวอร์ชันใหม่จะใช้ระบบ 3 แท็บ โดยแท็บหลักคือ Home จะแสดง episode ล่าสุดที่สมัครสมาชิกไว้ พร้อม carousel แสดงรายการต่าง ๆ แทนที่เลย์เอาท์แบบเดิมที่เป็นกริด และ Google เลิกแนะนำพอดคาสท์ในหน้า Home แล้ว และย้ายไปอยู่ในส่วน Discover ที่อยู่ภายใต้หน้า Search แทน ส่วนแท็บสุดท้ายคือ Activity มีไว้เพื่อจัดการคิวเล่นพอดคาสท์, ดาวน์โหลด และสมัครสมาชิก เป็นต้น
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Podcasts เวอร์ชันใหม่ก็มีระบบดาวน์โหลดและลบพอดคาสท์อัตโนมัติ รวมถึงฟีเจอร์เลือกว่าต้องการรับการแจ้งเตือนการอัพเดตจากพอดคาสท์ที่ไปสมัครสมาชิกไว้หรือไม่
ในงาน CES ที่ลาสเวกัส Spotify เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยเรื่องการทำโฆษณาบนพอดคาสต์ คือ Streaming Ad Insertion (SAI) เป็นระบบหลังบ้านที่แทรกโฆษณาลงในพอดคาสต์อัตโนมัติ โดยทำโฆษณาอิงจากข้อมูลผู้ใช้แต่ไม่ระบุชื่ออย่าง อายุ เพศ อุปกรณ์ที่ใช้งาน ซึ่งปกติ Spotify ใช้ระบบแทรกโฆษณานี้ลงในเพลงอยู่แล้ว ล่าสุดคือขยายมายังพอดคาสต์ด้วย
นอกจากนี้ SAI ยังสามารถแสดงประสิทธิภาพของโฆษณาบนพอดคาสต์ได้ว่า ว่ามีคนเข้าถึงเท่าไร มีใครเข้าถึงบ้าง โดยไม่ได้ระบุชื่อแต่ระบุเพศ อายุ และอุปกรณ์ที่คนใช้ในการเข้าถึง โดยจะจำกัดการใช้งานเฉพาะพอดคาสต์ที่เป็นคอนเทนต์เอกซ์คลูซีฟก่อน
Apple ร่วมมือกับ Amazon เพื่อทำให้ Alexa ระบบผู้ช่วยส่วนตัวของ Amazon Echo สามารถเล่น Apple Podcasts ได้ในตัว เช่นเดียวกับ Apple Music ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้
การจะเริ่มเล่น Apple Podcasts ได้นั้น ผู้ใช้ Amazon Echo จะต้องล็อกอิน Apple ID ในแอป Alexa ก่อน จากนั้นจึงจะสามารถสั่ง Alexa ให้เล่น Apple Podcasts ผ่าน Amazon Echo ได้ ฟีเจอร์ใหม่นี้รองรับลำโพงตระกูล Echo ทุกรุ่น ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ Apple Podcasts เป็นบริษัทพอดคาสท์เริ่มต้นได้ในแอป Alexa เช่นกัน
Apple Podcasts ที่เล่นผ่าน Amazon Echo นี้จะซิงค์ข้อมูลผ่าน Apple ID ด้วยเช่นกัน สามารถสั่งให้ Alexa เล่น Podcasts ต่อจากที่ฟังค้างไว้ก็ได้
Spotify มีเพลย์ลิสต์แนะนำมาให้ตลอดอยู่แล้ว ล่าสุด Spotify จะแนะนำเพลย์ลิสต์พอดคาสต์มาให้ด้วยคือ Your Daily Podcasts
วิธีการแนะนำใช้อัลกอริทึมแบบเดียวกับ Discover Weekly คือ อาศัยพฤติกรรมการฟังพอดคาสต์ของตัวเอง กดติดตามรายการไหนไว้ เป็นการรวมพอดคาสต์ตอนที่เพิ่งออกใหม่มาให้ฟังกัน
Your Daily Podcasts สามารถใช้งานได้ทั้ง Spotify เวอร์ชั่นฟังฟรีและพรีเมี่ยม เริ่มใช้งานในประเทศ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, สวีเดน, เม็กซิโก, บราซิล, แคนาดา, ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
ระยะหลัง Spotify ให้ความสำคัญกับพ็อดคาสต์มาตลอด ล่าสุดก็เพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับคนฟังพ็อดคาสต์ให้สามารถสร้างเพลย์ลิสต์ รวมเพลงและพ็อดคาสต์เข้ามาไว้ด้วยกันได้แล้ว
วิธีการก็ยังคงเหมือนการเพิ่มเพลงหรือสร้างเพลย์ลิสต์ในแบบเดิม อย่างไรก็ตาม Spotify ระบุว่า ณ ตอนนี้สามารถเพิ่มพ็อดคาสต์เข้าไปในเพลย์ลิสต์ได้เฉพาะบนสมาร์ทโฟนก่อน บนเดสก์ท็อปยังทำได้แค่เปิดฟังเท่านั้น
ที่มา - Spotify
Spotify ยังคงลุยพอดคาสต์ต่อไปเรื่อยๆ ล่าสุดมีรายงานว่า Spotify กำลังทำฟีเจอร์ใหม่ กดสร้างพอดคาสต์ได้จากในแอพเลย
จากตัวอย่างหน้าจอจะเห็นว่าในเมนูพอดคาสต์จะมีปุ่มให้กดบวกเพื่อสร้างพอดคาสต์ได้ โดยระบบจะดึงไปสร้างไฟล์ในแอพ Anchor ที่ Spotify เข้าซื้อไปก่อนหน้านี้ ซึ่งในหน้าโปรโมทของ Anchor ระบุความสามารถว่าสามารถสร้างพอดคาสต์และอัพไปยังแพลตฟอร์มอื่นได้ด้วยเช่น Apple, Google Podcast และอื่นๆ
Spotify เปิดตัว Spotify for Podcasters แพลตฟอร์มที่พ้นจากสถานะเบต้าและเปิดให้กับผู้ผลิตเนื้อหา Podcast ทุกคนสมัครใช้งานได้
Spotify for Podcasters เป็นแดชบอร์ดที่ให้ข้อมูลพฤติกรรมเกี่ยวกับผู้ฟังรายการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตเนื้อหา Podcast ต้องการ อาทิ เพศ อายุ พื้นที่ ลักษณะเพลงที่ฟัง ไปจนถึงลักษณะการฟังรายการแยกย่อยเป็นแต่ละตอน ทำให้ผู้ผลิตเนื้อหาสามารถปรับปรุงรายการให้ตรงความต้องการดีมากขึ้น
ผู้ผลิตรายการ Podcast บน Spotify สามารถใช้งานได้แล้วที่ Podcasters.spotify.com ทั้งนี้ Spotify เผยว่ามีผู้ผลิตเนื้อหาที่ร่วมทดสอบตอนเบต้าอยู่ราว 1 แสนราย
กูเกิลประกาศไว้ตั้งแต่งาน Google I/O 2019 ว่า Google Search จะรองรับการค้นหาเนื้อใน podcast และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบบค้นหานี้ก็เริ่มเปิดใช้งานแล้ว
วิธีการใช้งานเพียงแค่ค้นหาด้วยคำว่า podcast + ชื่อหัวข้อที่ต้องการ จากนั้นเราจะเห็นหมวด Podcasts โผล่ขึ้นมาในหน้าผลการค้นหาตามปกติ โดยอัลกอริทึมจะอิงจากการสแกนไฟล์เสียงของกูเกิลใน podcast แต่ละตอนนั่นเอง (ตอนนี้ยังรองรับเฉพาะเสียงภาษาอังกฤษ และเปิดใช้เฉพาะในสหรัฐ)
กูเกิลบอกว่าในอนาคตจะไม่ต้องป้อนคำว่า podcast ด้วยซ้ำ เพราะผลการค้นหา podcast จะแสดงขึ้นมาเหมือนกับการค้นรูปหรือวิดีโอในปัจจุบัน
Spotify ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2019 มีสถิติที่น่าสนใจดังนี้
Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนว่า Apple กำลังลงทุนทำพอดแคสต์แบบออริจินัล สู้ Spotify ที่ลงทุนพอดคาสต์ไปไม่น้อยเช่นกัน จากข่าวนี้ทำให้หุ้น Spotify ร่วง 3%
เม็ดเงินโฆษณาบนพอดคาสต์เพิ่มขึ้น 54% ในปี 2018 โดยมีจำนวน 479 ล้านดอลลาร์ และถ้า Spotify สามารถมีส่วนแบ่งในตลาดนี้ได้ 25% บริษัทก็จะสามารถทำรายได้ 250 ล้านดอลลาร์ต่อปีเลยทีเดียว
Apple เองก็พยายามสู้ในตลาดนี้ด้วยเช่นกัน แม้ Apple จะเปิดตัวพอดคาสต์ตั้งแต่ปี 2005 และไม่มีการอัพเดตใหญ่ๆ เลยจนถึงตอนนี้ ซึ่งปัจจุบันบน Apple มีพอดคาสต์ให้ฟัง 7 แสนชิ้นบนแอพพลิเคชั่น Bloomberg ระบุว่า Apple ก็ยังไม่มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน แต่ตอนนี้กำลังคุยกับบริษัทสื่อเพื่อตกลงเรื่องดีลคอนเทนต์กันอยู่
Spotify รื้อดีไซน์เมนู Your Library แยกเมนูเพลงกับพอดคาสต์ออกจากกันอย่างชัดเจน ยังใช้งานได้เฉพาะกลุ่มผู้ใช้พรีเมี่ยม
ทั้งในแท็บเมนูเพลงและพอดคาสต์ จะมีอีกสามเมนูแยกย่อย คือใน Music มีแท็บ Playlists, Artists, Album และในพอดคาสต์ มี แท็บ Episodes แสดงพอดคาสต์ตอนใหม่ๆ ที่ผู้ใช้งานกดติดตามไว้, Downloads รวมพอดคาสต์ที่กดไว้ฟังออฟไลน์, Shows ใหดูภาพรวมของช่องที่เราติดตาม และดูย้อนหลังพอดคาสต์ของช่องที่เราติดตามได้
Spotify เป็นอีกแพลตฟอร์มสำหรับคนหาฟังพอดคาสต์ ซึ่งล่าสุดได้ดีลใหญ่มาไว้ในมือคือ ได้เซ็นสัญญาทำพอดคาสต์กับ Higher Ground โปรดักชั่นของบารัก และ มิเชล โอบามา โดยทั้งคู่จะมาพูดพอดคาสต์ให้ฟังในบางตอนด้วย สำหรับเนื้อหาพูดคุยยังไม่ชัดเจนว่าจะครอบคลุมเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งในการแถลงระบุแค่ว่าเป็นการคุยกันในหลายๆ หัวข้อ
ข่าวนี้อาจไม่สร้างความประหลาดใจนัก เพราะท่าทีของแอปเปิลช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ชูแอปแยก Music, TV มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยล่าสุด Mark Gurman แห่งสำนักข่าว Bloomberg ระบุว่าในงาน WWDC สัปดาห์หน้า ซึ่งแอปเปิลจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการ macOS เวอร์ชันใหม่ โปรแกรม iTunes ถูกตัดออกไปเรียบร้อย หลังมีให้ใช้งานมานาน 18 ปี
โดยแอปเปิลจะเปิดตัวโปรแกรม 3 ตัว แยกออกมามาทดแทนการทำงานที่เดิมอยู่บน iTunes ทั้งหมด นั่นคือ Music, TV และ Podcasts ทั้งนี้ผู้ใช้งานที่ต้องการเชื่อมต่อจัดการอุปกรณ์แอปเปิล จากเดิมที่ทำบน iTunes ก็จะย้ายไปทำที่โปรแกรม Music แทน
กูเกิลเปิดงาน Google I/O ปีนี้ด้วยการประกาศแผนอัพเดตบริการ Google Search ที่จะมีฟีเจอร์เพิ่มอีก 3 ฟีเจอร์หลัก คือ การแสดงผลเรื่องราวตามเวลา (story timeline), ค้นหา podcast, และการแสดงผลเป็น augmented reality (AR)
ช่วงปีที่ผ่านมานี้ podcast เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้มีชื่อเสียงและหน่วยงานหลายแห่งเริ่มทำ podcast ของตัวเองกัน ไม่ว่าจะเป็น Marvel, Bernie Sanders หรือแม้แต่คุณทักษิณก็ตาม คราวนี้ก็ถึงตาของ Mark Zuckerburge บ้าง
เมื่อวานนี้ Facebook ประกาศเชิญชวนผ่าน Twitter ให้รับฟังรายการ Tech and Society with Mark Zuckerberg ซึ่งจนถึงตอนนี้ (25 เมษายน 2562) มี podcast เผยแพร่แล้ว 2 ตอน สำหรับเนื้อหารายการ ส่วนใหญ่จะเป็นการสัมภาษณ์ระหว่าง Mark กับผู้เชี่ยวชาญรับเชิญ เน้นไปที่เรื่องเทคโนโลยีและประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ อาทิ กฎหมายกับเทคโนโลยี ปัญหาความเป็นส่วนตัว หน้าที่ของสื่อมวลชน รวมถึงการทำงานของ Facebook เพื่อส่งเสริมสังคมและแก้ปัญหาดังกล่าว
เมื่อพูดถึงแพลตฟอร์มระดมทุนออนไลน์แนว crowdfunding หลายคนอาจคิดถึงโปรเจกต์ล้ำๆ ใน Kickstarter, Indiegogo, GoFundMe ซึ่งออกแนวนำเสนอสินค้าเจ๋งๆ หรือโครงการแก้ปัญหาอะไรบางอย่างในสังคม ถ้าเจ๋งพอก็จะได้รับการระดมทุนเยอะ นำเงินไปสานต่อโครงการให้สำเร็จได้
แต่สำหรับครีเอทีฟสร้างผลงานทางศิลปะ พวกเขาต่างใช้ช่องทางโซเชียลในการลงงาน ไม่ว่าจะเป็น YouTube, SoundCloud, Facebook แต่โมเดลรายได้ก็ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าจะมีแมวมองตาดีมาจ้างถ้ามียอดคนติดตามมากพอในโซเชียลมีเดีย ยังไม่นับเรื่องอัลกอริทึมที่คาดเดาไม่ได้ของโซเชียลมีเดีย เรียกได้ว่าต้องพึ่งพาตัวเองสูงมากกว่าจะมีรายได้เข้ามา
Patreon ถือเป็นแพลตฟอร์มระดมทุนอออนไลน์อีกตัวหนึ่ง แต่เน้นระดมทุนให้ครีเอเตอร์งานศิลปะโดยเฉพาะ จุดต่างของ Patreon กับแพลตฟอร์มอื่นคือใช้ระบบจ่ายค่าสมาชิก (subscription) แทนการระดมทุนรายชิ้นธรรมดา