ผู้ใช้ทวิตเตอร์บัญชี @h0x0d หรือชื่อในวงการว่า WalkingCat มักมีข่าวหลุดสายไมโครซอฟท์ออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดเขาไปค้นพบลิงก์บนเว็บไซต์ office.com ของไมโครซอฟท์ เป็นฟอร์มให้พนักงานของไมโครซอฟท์กรอกเพื่อทดลองใช้ปุ่มคีย์บอร์ดรูป Office แทนปุ่ม Menu ในปัจจุบัน (ข้างปุ่ม Control ด้านขวา)

พนักงานของไมโครซอฟท์จะได้ปุ่ม Office ไปสับเปลี่ยนกับปุ่ม Menu ที่คนทั่วไปไม่ค่อยใช้งานกันนัก ความแตกต่างคือเราสามารถกดช็อตคัต Office + ตัวอักษรต่างๆ ได้ (เช่น Office + O หรือ Office + T) และแบบฟอร์มของไมโครซอฟท์ก็ถามความเห็นหลังใช้งานว่าเป็นอย่างไร อยากให้เพิ่มช็อตคัตอื่นอีกไหม และสอบถามความเป็นไปได้หากจะมีปุ่ม Office บนคีย์บอร์ดของโน้ตบุ๊กด้วย

หลังจากที่ได้เปิดให้ผู้ใช้ Excel บนสมาร์ทโฟนฝั่ง Android ได้ใช้งานฟีเจอร์ถ่ายรูปเอกสารแปลงเป็นตารางให้อัตโนมัติก่อนระบบปฏิบัติการอื่นมาได้ระยะหนึ่ง

ล่าสุดไมโครซอฟท์ก็เริ่มปล่อยอัพเดตรอบเดือนพฤษภาคม 2019 ให้ผู้ใช้แอพ Excel บนอุปกรณ์ฝั่ง iOS ได้ใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวกันบ้างแล้ว

ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตให้กับแอพจัดการงาน Microsoft To-Do โดยครั้งนี้มีฟีเจอร์สำคัญคือการเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์จัดการโครงการ Microsoft Planner เพื่อดึง task ที่มีการมอบหมายจาก Planner ไปแสดงบนแอพ To-Do ภายใต้รายการ Assigned to Me ของผู้ใช้ที่ได้รับมอบหมายให้อัตโนมัติ

ฟีเจอร์ดังกล่าวจะช่วยให้การจัดการงานทั้งในระดับทีมและของแต่ละบุคคลทำได้ง่ายและสะดวกกว่าเดิม โดยไมโครซอฟท์ได้วางให้ Planner เป็นพื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกันเป็นทีม ส่วนแอพ To-Do นั้นจะรับหน้าที่เป็นฮับสำหรับจัดการงานที่แต่ละคนมีอยู่ในมือ และต่อไปแอพ To-Do ก็จะมาแทนที่ Outlook task เดิมอีกด้วย

เราเห็น Visual Studio มีฟีเจอร์ใช้ AI ช่วยแนะนำการเขียนโค้ดกันไปแล้ว คราวนี้ Word กำลังจะได้ฟีเจอร์แบบเดียวกันคือใช้ AI ช่วยแก้ไขสำนวนการเขียน

ไมโครซอฟท์นำเทคนิค machine learning มาช่วยเรียนรู้วิธีการเขียนเอกสาร "ที่ดี" ในบริบทต่างๆ และสามารถแก้ไขข้อความ (rewrite) เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น หรือใช้คำที่ความหมายคล้ายกันแทน

ก่อนหน้านี้เราอาจต้องค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ เพื่อดูวิธีการเขียนที่เหมาะสม แต่ตอนนี้ Word สามารถทำได้โดยตัวมันเองเลย เบื้องหลังการทำงานของมันคือ Microsoft Graph ที่มองเห็นวัตถุต่างๆ ภายในเอกสารว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร และใช้ AI เรียนรู้จากเทมเพลตเอกสารจำนวนมากเพื่อให้คำแนะนำตรงเป้า

เมื่อปี 2018 ไมโครซอฟท์พยายามดันให้ทุกอย่างขึ้นไปอยู่บนร้าน Microsoft Store ซึ่งรวมไปถึงซอฟต์แวร์ยอดนิยมอย่าง Office 365

แต่สถานการณ์ในปี 2019 อาจต่างออกไป หลังมีผู้ใช้พบว่าไม่สามารถติดตั้ง Office 365 ผ่าน Microsoft Store ได้แล้ว โดยผู้ใช้จะถูก redirect ให้ดาวน์โหลดตัวติดตั้งจากเว็บไซต์ office.com แทน

ตอนนี้ ซอฟต์แวร์ในชุด Office ยังมีตัวตนอยู่ใน Microsoft Store แต่เมื่อคลิกปุ่ม Install แล้วจะกลายเป็นการเปิดเว็บไซต์ขึ้นมาแทน เว้นแต่ว่าพีซีของเรามี Office ติดตั้งมาให้อยู่แล้ว (ผมลองกับบัญชีของตัวเองที่มี Office 365 อยู่แล้ว แล้วก็พบว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อกด Install ในแอพ Store จะเปิดเบราว์เซอร์แทน)

ที่ผ่านมาการแก้ไขไฟล์ตระกูล Microsoft Office อย่าง Words, Excel และ PowerPoint ผ่าน Google Docs, Slides และ Sheets จะต้องแปลงไฟล์ก่อนถึงจะนำไปเปิดและแก้ไขได้

ล่าสุด Google ประกาศว่าทั้ง Google Docs, Slides และ Sheets เตรียมรองรับไฟล์ตระกูล Office ทั้งหมดแล้ว โดยสกุลไฟล์ที่รองรับมีทั้ง .doc, .docx, .dot สำหรับ Words .xls, .xlsx, .xlsm, .xlt สำหรับ Excel และ .ppt, .pptx, .pps, .pot สำหรับ PowerPoint โดยบริเวณซ้ายบนที่เป็นชื่อไฟล์ จะมีสกุลไฟล์บอกไว้ด้วย เช่น .docx

Google ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มกับผู้ใช้ในกลุ่ม G Suite ก่อนจะตามมาด้วยกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป

Slack อาจมอง Microsoft Teams เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว ถึงขั้นซื้อโฆษณาหนังสือพิมพ์ ในวันที่ Microsoft Teams เปิดตัว แต่เมื่อโลกธุรกิจหมุนรอบบริการต่างๆ ของไมโครซอฟท์ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่ Slack จะต้องเชื่อมต่อกับบริการของไมโครซอฟท์ให้แนบแน่นขึ้น

วันนี้ Slack จึงประกาศทำ integration กับบริการแอพในชุด Office 365 ของไมโครซอฟท์หลายตัว ดังนี้

ไมโครซอฟท์ญี่ปุ่นยืนยันว่าจะปล่อยอัพเดตให้กับวินโดวส์และชุดโปรแกรมออฟฟิศเพื่อให้แสดงวันที่อย่างถูกต้องในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้

สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่เปิดระบบอัพเดตอัตโนมัติอยู่แล้วก็ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม และไมโครซอฟท์จะออกคำแนะนำเพื่อตรวจสอบว่าได้ติดตั้งอัพเดตแล้วหรือยังในภายหลัง

ช่วงเปลี่ยนรัชกาลของญี่ปุ่นทับกับช่วง Golden Week ของญี่ปุ่นที่เริ่มวันที่ 27 เมษายนนี้ไปอีก 10 วัน ไมโครซอฟท์ญี่ปุ่นระบุว่าจะเปิดช่องทางให้คำปรึกษาเป็นพิเศษตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน เป็นเวลาสามวันช่วงเปลี่ยนรัชกาล

ที่มา - Japan Times

ฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft Excel ที่สร้างเสียงฮือฮาในช่วงนี้คือ การถ่ายรูปแล้วแปลงเป็นตารางให้อัตโนมัติ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการกรอกข้อมูลลงตารางไปได้มาก

ด้วยความสงสัยใคร่รู้ว่ามันทำงานได้ดีแค่ไหน ผมเลยดั้นด้นหาวิธีทดลอง และพบว่าถ้าเข้าร่วม Beta Test ของแอพ Excel บน Android จะได้ใช้ฟีเจอร์นี้เร็วกว่าคนอื่น (แบบคนปกติรอแล้วรออีกก็ยังไม่มา) เมื่อเข้าร่วมโครงการและรอประมาณหนึ่งวัน แอพก็อัพเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด ก็ได้เวลามารีวิวฟีเจอร์นี้กัน

ปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของ Excel ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น นั่นคือ ถ่ายรูปเอกสารแล้วแปลงเป็นตารางให้อัตโนมัติ

ล่าสุดฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานจริงแล้วบน Office 365 อัพเดตรอบเดือนกุมภาพันธ์ 2019

วิธีใช้งานคือเราต้องดาวน์โหลดแอพ Excel บนอุปกรณ์พกพา (ตอนนี้ยังใช้ได้เฉพาะ Excel บน Android) เพื่อถ่ายภาพตารางในกระดาษ กดสั่งแปลงเป็นตารางในฟอร์แมต Excel แล้วเซฟขึ้นคลาวด์ได้ทันที

ผมลองกับบัญชีตัวเองแล้วยังไม่ได้อัพเดตตัวนี้ (ยังเป็นรอบเดือนมกราคม 2019) ใครสามารถลองใช้งานได้จริงแล้วฝากทดสอบครับว่าเวิร์คแค่ไหน

นโยบายของไมโครซอฟท์ช่วงหลังแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ต้องการขาย Office 365 แบบเสียค่าสมาชิก มากกว่า Office 2019 แบบซื้อไลเซนส์ขาด โดยคิดค่าไลเซนส์ของ Office 2019 ให้แพงขึ้นกว่ารุ่นก่อนอีก 10% เพื่อจูงใจให้คนอยากใช้ Office 365 แทน

แต่แค่นั้นยังไม่พอ ไมโครซอฟท์ยังออกแคมเปญเปรียบเทียบฟีเจอร์ระหว่าง Office 365 และ Office 2019 ให้เห็นกันชัดๆ ว่า Office 2019 ด้อยกว่าในหลายแง่มุม เช่น

ไมโครซอฟท์อัพเดต Office 365 โดยหน้าจอเซฟไฟล์ (กดปุ่มเซฟหรือ Control+S) จะเปลี่ยนมาเลือก OneDrive เป็นค่าดีฟอลต์ (หรือ SharePoint Online แล้วแต่กรณี)

เหตุผลของไมโครซอฟท์คือกระตุ้นให้ผู้ใช้หันมาเซฟลงคลาวด์เพื่อป้องกันข้อมูลหาย นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังอัพเดตฟีเจอร์ให้ titlebar ของหน้าต่าง สามารถกดเพื่อเปลี่ยนชื่อ-ย้ายตำแหน่งไฟล์ที่อยู่บนคลาวด์ได้ง่ายขึ้นด้วย

อัพเดตตัวนี้จะเริ่มปล่อยให้ผู้ใช้ Office 365 ทั้งบนวินโดวส์และแมคในเดือนกุมภาพันธ์นี้

ที่มา - Microsoft

ของใหม่อีกอย่างใน Windows 10 Insider Preview Build 18305 (19H1) คือแอพ Office ตัวใหม่ที่ชื่อว่า Office เฉยๆ ไม่มีอะไรห้อยท้าย โดยมาแทนแอพ My Office ของเดิม

แอพ Office ตัวนี้เรียกได้ว่าเป็น Office Hub หรือหน้าเริ่มต้นของ Office แบบเดียวกับบนเว็บไซต์ Office.com ในปัจจุบัน ประกอบไปด้วยช็อตคัตสำหรับเรียกแอพอื่นๆ ในชุด Office และรายการเอกสารล่าสุด-เอกสารที่เราปักหมุดเอาไว้ รวมถึงฟีเจอร์ Search เอาไว้ใช้ค้นหาเอกสารได้ด้วย

แอพ Office ตัวใหม่สามารถใช้ได้กับทั้ง Office 365, Office 2016, Office 2019 ขึ้นกับว่าเราใช้เวอร์ชันไหน และในกรณีที่เราใช้ไลเซนส์ Office ขององค์กร ก็สามารถปรับแต่งหน้าจอนี้ให้มีโลโก้หรือสัญลักษณ์ขององค์กร รวมถึงเชื่อมต่อกับแอพอื่นขององค์กรได้ด้วย

เราเห็นข่าว Microsoft รีดีไซน์ไอคอน Office ใหม่ในรอบ 5 ปี เน้นแสงเงาและมิติมากขึ้น กันไปแล้ว ล่าสุดมีวิดีโอจากสตูดิโอออกแบบ Tendril ที่ไมโครซอฟท์จ้างให้ทำวิดีโอเพื่อโชว์ในงาน Ignite Conference ให้เห็นการใช้งานชุดไอคอนใหม่เหล่านี้

ในวิดีโอแสดงให้เห็นเบื้องหลังแนวคิดของไอคอนชุดใหม่ ที่เน้นเรื่องการใช้แสงเงา เลเยอร์ ระยะลึก ความเคลื่อนไหว ตามแนวทาง Fluent Design System แบบใหม่ของไมโครซอฟท์

เว็บไซต์ต้นทางยังมีภาพต้นแบบอีกจำนวนมาก ใครสนใจงานด้านดีไซน์ลองเข้าไปดูเป็นตัวอย่างกันได้ครับ

ไมโครซอฟท์ออกอัพเดต Microsoft Office รอบเดือนธันวาคม 2019 (สำหรับผู้ใช้ Office 365) การเปลี่ยนแปลงสำคัญอยู่ที่ Office for Mac ที่รองรับธีมสีเข้ม Dark Theme ของ macOS Mojave แล้ว

ของใหม่อย่างอื่นของเวอร์ชันแมคได้แก่ PowerPoint รองรับการถ่ายภาพจากกล้อง iPhone ผ่านฟีเจอร์ Contiunity, PowerPoint เพิ่มตัวช่วยตรวจไวยากรณ์ตัวใหม่, Word รองรับการฝังฟอนต์ในไฟล์ และ Outlook ได้ฟีเจอร์ด้านการจองห้องประชุม-แชร์ปฏิทิน

ส่วน Office เวอร์ชันพีซีในเดือนนี้ (v1811) มีของใหม่ไม่มาก ได้แก่ ฟีเจอร์จองห้องประชุมใน Outlook, ตั้งค่าซูมข้อความใน Outlook และ Access รองรับธีม 4 แบบเหมือนกับโปรแกรมตัวอื่นๆ ในชุด (Colorful, Dark, Gray, White)

Microsoft ได้รีดีไซน์ไอคอนของ Office ใหม่ในรอบ 5 ปี โดยไอคอนใหม่นี้จะเน้นแสงเงาและมิติมากขึ้นกว่าไอคอนรุ่นก่อนหน้านี้

Microsoft ระบุว่า ไอคอนของ Office ปัจจุบันใช้มาตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งช่วงที่ผ่านมานี้ Office เปลี่ยนไปมาก ทั้งเร็วขึ้น, เชื่อมต่อได้มากขึ้น, มี AI เข้ามาช่วยทำงาน และอื่น ๆ อีกมาก Microsoft จึงออกแบบไอคอนใหม่เพื่อให้ตอบกับยุคสมัยปัจจุบัน

ไอคอนชุดใหม่ของ Office จะใช้สีโดยรวมเข้มกว่าเดิม มีการไล่เฉดสีมากขึ้น จากเดิมที่จะใช้สีแค่แบบเดียว และมีมิติรวมทั้งแสงเงามากขึ้น

สำหรับไอคอนชุดใหม่ทั้งหมดนี้ Microsoft จะปล่อยให้ผู้ใช้ Office เริ่มใช้เดือนหน้า โดยจะเริ่มจากมือถือและเว็บก่อน

อาการแพตช์คุณภาพต่ำจนต้องถอนการอัพเดต ไม่ได้เกิดเฉพาะกับ Windows เท่านั้น ล่าสุดไมโครซอฟท์ต้องยกเลิกแพตช์ประจำเดือนของ Office ออกสองตัว เพราะอัพเดตแล้วทำให้โปรแกรมในชุด (โดยเฉพาะ Microsoft Access) แครช

แพตช์สองตัวนี้คือ KB4461522 และ KB2863821 ซึ่งเป็นแพตช์เกี่ยวกับปฏิทินภาษาญี่ปุ่น ความโชคดีของเรื่องนี้คือมันเป็นแพตช์เฉพาะ Office 2010 เท่านั้น ช่วยลดผลกระทบของการแครชให้แคบลง

ไมโครซอฟท์ถอนแพตช์สองตัวนี้จากการอัพเดตแล้ว และแนะนำให้คนที่ติดตั้งไปแล้ว ลบออกด้วยเช่นกัน

ที่มา - Betanews

Microsoft เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ To-Do ให้ Microsoft Word เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทิ้งข้อความไว้ว่าต้องกลับมาใส่ข้อมูลเพิ่มเติมตรงนี้ต่อโดยไม่ต้องหลุดจาก workflow เดิม

วิธีใช้ฟีเจอร์นี้ พิมพ์ว่า TODO: finish this section หรือ << insert closing here >> ซึ่ง Word จะสามารถตรวจจับเองได้ว่าอะไรคือ To-Do และรวมไว้ให้ โดยผู้ใช้จะใส่ข้อความเพื่อระบุได้ว่าส่วนนี้จะต้องกลับมาทำอะไร และใช้เครื่องหมาย @ เพื่อเมนชั่นถึงผู้ใช้คนอื่นได้ด้วย ส่วนผู้ใช้ที่ถูกเมนชั่นจะได้รับการแจ้งเตือนพร้อมลิงก์มายังส่วนที่ถูกเมนชั่นในเอกสาร ซึ่งในอนาคต Microsoft จะพัฒนาให้ผู้ที่ได้รับเมนชั่นถึงสามารถตอบเป็นข้อความที่ต้องการเติมจากการแจ้งเตือนได้ และคำตอบนั้นจะถูกเติมลงในเอกสารอัตโนมัติ

ไมโครซอฟท์ประกาศราคาขายปลีกของ Office 2019 ตามที่เคยประกาศไว้ว่าจะขึ้นราคา โดยซอฟต์แวร์ไคลเอนต์ขึ้นราคาประมาณ 10% จาก Office 2016 และซอฟต์แวร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ขึ้นราคาประมาณ 30%

ซอฟต์แวร์ที่ขึ้นราคาเป็นไลเซนส์แบบ perceptual แบบดั้งเดิม (ซื้อขาดแล้วใช้ได้ตลอดไป) ส่วนไลเซนส์แบบ subscription ที่เรารู้จักกันในแบรนด์ Office 365 ไม่ได้ขึ้นราคาตามไปด้วย ซึ่งเหตุผลที่ขึ้นราคาก็ชัดเจนว่าต้องการบีบให้ลูกค้าย้ายไปใช้ Office 365 นั่นเอง

แพ็กเกจและราคาของ Office 2019

ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตให้กับ Office Lens แอพถ่ายภาพเพื่อใช้แปลงเป็นเอกสาร โดยได้เพิ่มความสามารถใหม่ให้ทั้งบน iOS และ Android มีรายละเอียดดังนี้

ฟีเจอร์ใหม่บน iOS

• เพิ่มตัวเลือกให้สามารถเขียนข้อความลงในเอกสารได้

ไมโครซอฟท์ประกาศในงาน Ignite 2018 ว่าจะเลิกพัฒนา Office Mobile เวอร์ชัน Windows 10 แล้ว ทำให้แอพในชุด Office เหลือเพียงเวอร์ชันเดสก์ท็อป (Windows/Mac) และ Mobile (Android/iOS) เท่านั้น

Office Mobile เริ่มมาจากการเป็นแอพบน Windows Phone/Windows 10 Mobile และภายหลังก็ขยายมายัง Windows 10 รุ่นปกติด้วย (เพราะพัฒนาด้วยเทคโนโลยี UWP) โดยมันเป็น Office เวอร์ชันที่ความสามารถน้อยกว่า Office รุ่นเดสก์ท็อป แต่ออกแบบมาสำหรับหน้าจอสัมผัสทั้งมือถือและแท็บเล็ต

การหยุดพัฒนา Office Mobile คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนัก เพราะ Windows Phone/Windows Mobile หมดอนาคตไปแล้ว และ Office รุ่นเดสก์ท็อปก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าสำหรับการใช้งานบน Windows 10 เพราะมีฟีเจอร์มากกว่ากันมาก

ไมโครซอฟท์เปิดตัว Microsoft Search เครื่องมือค้นหาข้อมูลที่ใช้งานได้บนบริการของไมโครซอฟท์แทบทุกตัว ตั้งแต่ Bing, Office ไปจนถึง Edge และ Windows

ไมโครซอฟท์บอกว่าจะปรับกล่องค้นหาบนบริการหลายๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็น Outlook, PowerPoint, Excel, Sway, OneNote, Microsoft Teams, Office.com, SharePoint ให้อยู่ที่เดียวกัน ทั้งเวอร์ชันเดสก์ท็อป เว็บ และอุปกรณ์พกพา กล่องค้นหาจะมีฟีเจอร์ personalize ตามข้อมูลของผู้ใช้แต่ละคน และสามารถค้นหาเอกสารข้ามบริการกันได้ เช่น เปิด Word อยู่ เราสามารถค้นหาเอกสาร PowerPoint ในบัญชีผู้ใช้ของเราได้

ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Excel หลายอย่าง แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือฟีเจอร์ Insert Data from Picture แปลงรูปถ่ายตารางบนกระดาษ มาเป็นตารางใน Excel ให้อัตโนมัติ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องมานั่งกรอกตัวเลขเองด้วยมือ

วิธีการใช้งานฟีเจอร์นี้ก็ตรงไปตรงมา ถ่ายรูปตารางด้วยกล้องมือถือ ลากเส้นกำหนดพื้นที่ตารางที่ต้องการ จากนั้น Excel จะใช้พลัง OCR แปลงภาพถ่ายเป็นตารางให้ ฟีเจอร์นี้จะมาบน Excel for Android ก่อนในเร็วๆ นี้

ไมโครซอฟท์ออก Office 2019 ตัวจริงให้ใช้งานกันทั้งบนวินโดวส์และแมค (เข้าสถานะ general availability หรือ GA)

เนื่องจากช่วงหลังไมโครซอฟท์เปลี่ยนโมเดลจากซื้อไลเซนส์ขาดมาเป็นเช่าใช้งานที่มีอัพเดตของใหม่ให้ตลอด ดังนั้นผู้ใช้ Office 365 อาจได้ฟีเจอร์หลายอย่างของ Office 2019 มาก่อนแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ Office 2019 แบบไลเซนส์ซื้อขาด (on premise) จะได้ฟีเจอร์ทั้งหมดของ Office 365 นับจาก Office 2016 ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา

ของใหม่ใน Office 2019 มีดังนี้

ไมโครซอฟท์เริ่มปล่อย Outlook โฉมใหม่ ที่โชว์หน้าตามาตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยจะเปิดให้ใช้งานกับลูกค้า Office 365 เวอร์ชัน Outlook for web และ Outlook for Windows (ผู้ใช้ Outlook.com ได้ใช้ตัวใหม่ไปก่อนแล้ว)

Outlook for web มีฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง ดังนี้