การอัพเดตล่าสุดของ Mac OS X คือการอัพเดต Java เพราะเนื่องจาก Apple ต้องการให้ Java มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
Java for Mac OS X 10.5 Leopard
Java for Mac OS X 10.6 Snow Leopard
การอัพเดตนี้สามารถอัพเดตได้เลยทันที ส่วนขนาดของการอัพเดตมีขนาด 78.9 MB
ที่มา-Cult to Mac
ถึงรอบการอัพเดตก็ได้เวลาที่ Eclipse จะออกรุ่นใหม่คือ Eclipse Indigo ซึ่งเป็นรุ่น 3.7 โดยมีฟีเจอร์สำคัญคือ
สถานการณ์ล่าสุดของคดีออราเคิลฟ้องกูเกิลเรื่องสิทธิบัตร Java ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายออราเคิลเท่าไรนัก
ต่อจากข่าวเมื่อเดือนที่แล้ว ศาลสั่งลดจำนวนสิทธิบัตรที่ออราเคิลฟ้องกูเกิล จาก 132 ประเด็นเหลือ 3 ประเด็น ทางออราเคิลได้ขอต่อรองจำนวนสิทธิบัตรเป็น 21 ประเด็น ซึ่งผู้พิพากษา William Alsup ก็ยอมตกลงให้ตามนั้น
แต่ Alsup ก็เปิดทางเลือกไว้ว่า ศาลอาจขอให้สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ (USPTO) เข้าตรวจสอบ (reexamine) ประเด็นของออราเคิลก่อนว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะฟ้องกูเกิลหรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบทั้งหมดจะต้องใช้เวลาอีกเป็นปี
จากกรณีออราเคิลฟ้องกูเกิลเรื่อง Android เรายังไม่เคยรู้ว่ามูลค่าความเสียหายที่ออราเคิลเรียกร้องมีค่าเท่าไรกันแน่ ฝ่ายกูเกิลเองพยายามปิดบังตัวเลขอันนี้ (เพราะอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นใน Android ของพันธมิตร) แต่ล่าสุดออราเคิลเผยเอกสารนี้ออกมาแล้วในชั้นศาล
มูลค่าความเสียหายของออราเคิลขึ้นกับการตีความของศาล แต่มูลค่าที่เป็นไปได้จะอยู่ระหว่าง 1.4-6.1 พันล้านดอลลาร์ ในกรณีที่ศาลชี้ว่ากูเกิลผิดจริง
ฝ่ายกูเกิลโต้ว่าตัวเลขนี้เกินจริงไปมาก เพราะสูงกว่าเงินที่ซันทำได้จากจาวาถึง 10 เท่า (และ 20 เท่าถ้าคิดเฉพาะจาวาบนมือถือ) ประเด็นที่กูเกิลใช้ต่อสู้คือวิธีการคำนวณความเสียหายของออราเคิลที่คาดเคลื่อน ทั้งในทางการเงินและทางกฎหมาย
ความคืบหน้าล่าสุดของคดีออราเคิลฟ้องกูเกิลข้อหา Android ละเมิดสิทธิบัตร Java
เดิมทีนั้น ออราเคิลได้ยื่นฟ้องกูเกิลว่าละเมิดสิทธิบัตรจำนวน 132 ชิ้น แต่เนื่องจากศาลประเมินว่าการพิสูจน์สิทธิบัตรว่าละเมิดหรือไม่นั้นกินเวลามาก จึงสั่งให้ออราเคิลลดจำนวนสิทธิบัตรที่จะฟ้องลงเหลือ 3 ชิ้น เพื่อที่ปริมาณงานของศาลจะลดลง
ข่าวนี้ฟังดูดีต่อฝ่ายกูเกิลมาก แต่เอาจริงก็ไม่ใช่แบบนั้น เพราะออราเคิลถูกบังคับให้ฟ้องเฉพาะสิทธิบัตรที่มั่นใจว่าผิดเน้นๆ จำนวน 3 ชิ้นเท่านั้น ถ้าศาลตัดสินว่าผิดจริงกูเกิลก็ผิดอยู่ดี แต่ในอีกมุม กูเกิลก็สู้คดีง่ายขึ้นด้วย เพราะมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องป้องกันตัวและหาหลักฐานมาหักล้างสิทธิบัตรชิ้นใดบ้าง
ความวุ่นวายในประเด็นสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับ Java ยังไม่จบลงง่ายๆ โดยระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาลนี้ทางออราเคิลก็ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ Apache Foundation เปิดเผยการสื่อสารกับกูเกิลและ Open Handset Alliance ตลอดจนพนักงานอื่นๆ ของกูเกิล โดยเฉพาะในประเด็นสัญญาอนุญาตของ Java SE และ Apache Harmony
เนื่องจาก Android นั้นใช้ไลบรารีจำนวนมากจาก Apache Harmony ซึ่งไม่เคยได้รับการรับรองว่าผ่าน Java TCK เนื่องจากติดข้อสัญญาอนุญาตของตัว TCK เอง การที่ออราเคิลดึง Apache เข้ามาเกี่ยวข้องในกรณีนี้เป็นไปได้ว่าออราเคิลกำลังพยายามชี้ให้ศาลเห็นว่า Apache Harmony เองก็ละเมิดสิทธิบัตรของออราเคิล ซึ่งทำให้ Android ละเมิดไปด้วย (ดูข่าวเก่า)
NetBeans เครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ IDE จากออราเคิล/ซัน เดินทางมาถึงเวอร์ชัน 7.0 แล้ว โดยของใหม่รุ่นนี้ได้แก่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและดาวน์โหลดได้จาก NetBeans IDE 7.0 Release Information
James Gosling บิดาแห่งจาวาประกาศเข้าทำงานกับกูเกิลแล้ว โดยเริ่มทำงานวันแรกวันนี้ (28 มี.ค.)
Gosling บอกว่าเขายังไม่แน่ใจว่าจะไปทำงานด้านไหนเหมือนกัน การร่วมงานกับกูเกิลครั้งนี้จะยิ่งทำให้คดีที่ออราเคิลฟ้องกูเกิล (ละเมิดสิทธิบัตร, ก็อปปี้โค้ด) ร้อนแรงขึ้นไปอีก เพราะตอนนี้ผู้สร้าง (และสัญลักษณ์) จาวาย้ายมาอยู่องค์กรเป็นขั้วตรงข้ามกับเจ้าของจาวาในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ Tim Bray ผู้บริหารระดับสูงของซันและหนึ่งในผู้สร้าง XML ก็ทำงานกับกูเกิล โดยอยู่ในทีม Android
James Gosling บิดาแห่งจาวา ขึ้นเวทีงานสัมมนา TheServerSide Java Symposium โดยกล่าวสนับสนุนทิศทางการพัฒนาจาวาของออราเคิล แม้ตัวเขาเองจะมีปัญหากับการทำงานที่ออราเคิลจนต้องลาออกก็ตาม
Gosling บอกว่าออราเคิลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดูแลจาวาให้ดี เพราะซอฟต์แวร์ระดับมิดเดิลแวร์ทั้งหมดของออราเคิลต้องพึ่งพาจาวา เขายังพูดถึงประเด็นเรื่องการควบคุม JCP ของออราเคิลว่าเป็นหลักฐานยืนยันว่าทิศทางการควบคุม JCP ของซันในอดีต (ซึ่งออราเคิลเคยคัดค้าน) เป็นสิ่งถูกต้อง
อีกหนึ่ง "ความเปลี่ยนแปลง" หลังจากออราเคิลเข้าซื้อซัน
ทางออราเคิลได้ประกาศบนเว็บไซต์ของตัวเองว่าตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2011 เป็นต้นไป ผู้ที่จะสอบใบรับรองด้าน Java Architect, Java Developer, Solaris System Administrator และ Solaris Security Administrator จะต้องลงเรียนคอร์สสอนเนื้อหาและปฏิบัติจริง (Hands-on Course) เพิ่มด้วย
คอร์สเหล่านี้มีระยะเวลา 3-5 วัน ราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มอยู่ที่ 2,000-4,000 ดอลลาร์ สมัครเรียนได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของออราเคิล เช่น Oracle University Training Center และ Oracle Authorized Education Center
ออราเคิลเผยแผนการพัฒนา Java Enterprise Edition (หรือที่เราเรียกกันว่า Java EE) ทั้งรุ่น 7 ในปี 2012 และรุ่น 8 ในปี 2013/2014
Java EE 7 จะปรับปรุงเรื่อง Contexts and Dependency Injection (CDI) ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ใช้เชื่อมข้อมูลองค์กรเข้ากับกลุ่มเมฆ และจะเปลี่ยนระบบแคชใหม่จากเดิมที่มี JCache ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เสนอโดยออราเคิลมานานแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก กำหนดออกคือไตรมาสที่สามของปี 2012
Java EE 8 จะออกตามหลัง Java EE 7 ประมาณหนึ่งปี จะพัฒนาเพื่อรองรับ cloud มากขึ้น โดยเพิ่มฟีเจอร์ NoSQL เข้ามาสำหรับการประมวลผลขนาดใหญ่ แนวทางการพัฒนา Java EE 8 จะผูกกับ Java SE 8 ที่จะออกก่อนหน้านั้น (ประมาณเดือนตุลาคม 2012) ซึ่งปรับปรุงโครงสร้างให้แยกส่วน (modularization) มากขึ้น
เว็บไซต์ AppleInsider รายงานว่า Mac OS X 10.7 Lion รุ่นสำหรับนักพัฒนาได้ตัดฟีเจอร์เดิมของ Mac OS X รุ่นก่อนออกไป 3 อย่าง
หลังจากสร้างความฮือฮาด้วยการชนะมนุษย์ในรายการเกมโชว์ Jeopardy! ไปแล้ว ทีมงานของ IBM ก็เริ่มออกมาให้สัมภาษณ์ถึงรายละเอียดในโครงการ Watson มากขึ้น โดยจากบทสัมภาษณ์ของทีมงานเว็บ Reddit นั้น ทีมงานได้ระบุว่าโค้ดส่วนใหญ่ของ IBM Watson เขียนขึ้นด้วยภาษาจาวา
ออราเคิลออกประกาศ Security Alert for CVE-2010-4476 พร้อมโปรแกรมแก้ไขบัก
ซึ่งเป็นบักในส่วนการแปลงข้อความตัวอักษรเลขฐาน 10 ไปเป็นเลขฐาน 2 จำนวนจริงแบบความละเอียดสองเท่า (double-precision binary floating-point) ที่เมื่อเจอเลข 2.2250738585072012e-308 จะวนติดอยู่ในลูปและไม่สามารถทำงานคำสั่งถัดไปได้
บักนี้ร้ายขนาดไหน? ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็ทำให้โปรแกรมอย่าง "javac" ค้างได้ รายละเอียดลองอ่าน "Java Hangs When Converting 2.2250738585072012e-308" ดู
ระหว่างที่โลกจาวาสำหรับองค์กรกำลังอัพเกรดไปสู่ Java EE 6 ในส่วนของผู้ใช้ JBoss จำนวนหนึ่งเริ่มแสดงความไม่พอใจเมื่อ JBoss AS 6.0 ที่เปิดตัวเมื่อต้นเดือนมกราคมผ่านมาประกาศว่าจะซัพพอร์ตเฉพาะมาตรฐาน Java EE 6 Web Profile ซึ่งเป็นชุดมาตรฐานที่เล็กกว่ามาตรฐาน Java EE 6 ตัวเต็ม
ทางโครงการ JBoss ระบุว่าการซัพพอร์ตเฉพาะ Java EE 6 Web Profile เป็นเพราะทาง JBoss มีทรัพยากรไม่เพียงพอที่จะพัฒนามาตรฐานทั้งหมดให้อยู่ในระดับซัพพอร์ต อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีจำนวนมากใน Java EE 6 ตัวเต็มนั้นได้รับการอิมพลีเมนต์ใน JBoss AS 6.0 ไว้แล้ว
บริษัทวิจัย Forrester Research ออกรายงานพยากรณ์อนาคตของจาวา หลังอยู่ภายใต้การกำกับทิศทางจากออราเคิล รายงานชิ้นนี้ Forrester หาข้อมูลจากการสัมภาษณ์บริษัทใหญ่ๆ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับจาวา รวมถึงสัมภาษณ์นักพัฒนาทั้งผ่านเว็บไซต์และในงานสัมมนาอย่าง JavaOne
ตัวรายงานฉบับเต็มขายราคา 499 ดอลลาร์ แต่เราก็พออ่านเนื้อหาบางส่วนของรายงานได้จากบล็อกของ Forrester และเว็บไซต์บางแห่งที่ได้อ่านรายงานฉบับนี้
เนื้อหาแบบสรุปก็คือ นโยบายใหม่ของออราเคิลจะทำเงินจากจาวาได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการที่คนใช้จาวาน้อยลง และจาวาจะมีสถานะคล้ายกับ COBOL คือใช้เฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น
ข่าวลือจากเว็บไซต์ BGR อ้างแหล่งข่าววงในบริษัท RIM ว่า RIM กำลังพิจารณาจะเพิ่มฟีเจอร์ให้ PlayBook และมือถือ BlackBerry ในอนาคต สามารถรันแอพของ Android ได้ด้วย
RIM กำลังหาวิธีให้ Java Virtual Machine สามารถทำงานได้บนระบบปฏิบัติการ QNX (ที่ใช้ใน PlayBook) เพื่อให้แอพเก่าๆ ของ BlackBerry ทำงานได้บน QNX ด้วย แต่หนึ่งในตัวเลือกของ RIM ก็คือการใช้ Dalvik ซึ่งเป็น VM ที่อยู่บน Android
ถ้า RIM เลือก Dalvik จริง ก็มีความเป็นไปได้สองทางคือ RIM เอา Dalvik ที่โอเพนซอร์สอยู่แล้วไปทำต่อเอง หรือไม่ก็เซ็นสัญญาร่วมมือกับกูเกิลเสียเลย
ที่มา - BGR
Amazon เปิดตัวบริการใหม่ในตระกูล Amazon Web Service (AWS) ชื่อ Elastic Beanstalk
Elastic Beanstalk มีหน้าที่ดูแลเรื่องโหลดให้กับแอพพลิเคชันของเราบน AWS เมื่อมีโหลดเพิ่มขึ้นหรือต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลมากขึ้น Elastic Beanstalk จะขยายจำนวนเครื่อง (instance) บน AWS ให้เราโดยอัตโนมัติ เช่น สั่งเพิ่มหน่วยประมวลผลใน EC2 ให้เองถ้าโหลดเยอะ หรือเพิ่มเนื้อที่เก็บข้อมูลใน S3 ถ้าหากว่าเนื้อที่ไม่พอใช้
ในเบื้องต้น Elastic Beanstalk รองรับเฉพาะแอพพลิเคชันที่สร้างด้วย Java/Tomcat แต่ในอนาคตจะขยายไปยัง Ruby กับ PHP เพิ่มด้วย
คุณ Florian Mueller นักวิเคราะห์ผู้เคยให้ความเห็นว่ากูเกิลอาจร่วมมือกับ Apache และ Myriad แยกกันโจมตีออราเคิลก็เป็นได้ ได้เปิดเผยผลการวิเคราะห์ที่อาจกลายเป็นตัวอย่างหลักฐานให้ออราเคิลในการฟ้องศาลได้ โดยเขาระบุว่ามีโค้ดอย่างน้อย 43 ไฟล์ที่ Android ก็อปปี้จาก Java ตรงๆ โดย 37 ไฟล์นั้นซันได้ระบุว่าเป็น "PROPRIETARY/CONFIDENTIAL" และ "DO NOT DISTRIBUTE!" และนอกจากนั้นอีกอย่างน้อย 6 ไฟล์ใน Android 2.2 (Froyo) กับ Android 2.3 (Gingerbread) ที่ดูเหมือนจะถูก decompile จาก Java 2 SE และถูกแจกจ่ายต่อภายใต้ไลเซนส์ Apache โอเพ่นซอร์สโดยไม่ได้รับอนุญาต
โครงการ Apache ออก Tomcat 7.0.6 ซึ่งเป็นรุ่นเสถียรรุ่นแรกของ 7.x แล้ว หลังออกรุ่นทดสอบมาหลายรุ่นในปีที่แล้ว
Tomcat เป็นซอฟต์แวร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์สำหรับใช้งาน Java Servlet และ JSP โดยฟีเจอร์สำคัญในรุ่น 7.x ก็คือรองรับ Java Servlet 3.0 และ JSP 2.2 (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ JavaEE 6) การเปลี่ยนมาใช้ Java Servlet 3.0 ทำให้เปลี่ยนระบบคอนฟิกมาเป็นแบบแยกไฟล์ (annotation) ช่วยให้ระบบปลอดภัยมากขึ้น
รายละเอียดทั้งหมดอ่านได้จาก changelog ครับ
ที่มา - InfoWorld
หลังจากที่แอปเปิลประกาศเลิกทำ Java for Mac ของตัวเองไปเมื่อปีก่อน และหันมาสนับสนุนโครงการ OpenJDK ของออราเคิลแทน ล่าสุด OpenJDK ได้ออกโค้ดชุดแรกของ Java 7 for Mac แล้ว
โค้ดชุดนี้เป็นรุ่นแรกสุดจริงๆ ยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก ติดตามสถานะได้จาก Mac OS X Port Project Status
ที่มา - The Register
ข่าวเล็กๆ ที่ออกมาพร้อมกับ Android 2.3 คือ NDK r5 ที่อัพเดตมาพร้อมกัน ส่วนหนึ่งที่สำคัญของมันคือ NativeActivity
ที่เปิดช่องให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ทั้งหมดโดยไม่ต้องเขียนจาวาแม้แต่บรรทัดเดียว
ตัวแอพพลิเคชั่นยังคงรันอยู่ภายใต้ DalvikVM และหากต้องการเรียกฟังก์ชั่นบางส่วนจากจาวาก็ทำได้ผ่าน JNI
Tim Bray เขียนบล็อกเรื่องนี้โดยยกตัวอย่างซอร์สโค้ดที่มีฟังก์ชั่น main
เพียงฟังก์ชั่นเดียวในภาษา C/C++ ก็สามารถทำงานได้ (ตัวอย่างโค้ดอยู่ท้ายข่าว)
ที่มา - Android Developer
แนวทางการเพิ่มภาษาเพื่อให้ส่งซอฟต์แวร์เข้าสู่ AppUp ได้หลากหลายขึ้นเป็นแนวทางที่ชัดเจนของ Intel AppUp Center มาค่อนข้างชัด แม้จะดูช้าไปสักหน่อยแต่วันนี้ AppUp SDK สำหรับ Java ก็เปิดให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการแล้ว
นอกจากการรองรับภาษาตามปรกติแล้ว AppUp SDK รุ่น Java จะมาพร้อมกับ Intel AppUp™ Software Packaging Utility for Java เครื่องมือสำหรับการแพ็กซอฟต์แวร์ตามข้อกำหนดของ AppUp เพื่อลดปัญหาในการส่งซอฟต์แวร์เพื่อตรวจสอบ โดยทางอินเทลสัญญาว่าภาษาอื่นๆ เช่น C++ และ .NET จะได้รับเครื่องมือแบบเดียวกันนี้ในอนาคต
เพียงไม่กี่เดือนหลังจากกูเกิลเข้าซื้อ Instantiations ในเดือนสิงหาคมที่ผ่าน กูเกิลก็ปล่อยซอฟต์แวร์ทั้งหมดออกแจกฟรี และวันนี้ก็ประกาศส่งโค้ดบางส่วนเข้าไปยังโครงการ Eclipse Foundation
โค้ดส่วนที่กูเกิลส่งไปอยู่ในความดูแลของ Eclipse นั้นคือ WindowBuilder และ CodePro Profiler รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์
WindowBuilder เป็นเครื่องมือสร้าง GUI ที่ได้รับคำชมค่อนข้างมาก มันได้รับรางวัลส่วนเสริมแบบเพื่อการค้าของ Eclipse ที่ดีที่สุดในปี 2009 โดยรองรับทั้ง GWT, Swing, SWT, RCP, และ XWT
บริษัท Myriad Group (Wikipedia) จากฝรั่งเศส-สวิตเซอร์แลนด์ ผู้พัฒนา Myriad Browser บนมือถือ และโปรแกรมที่เขียนด้วย J2ME อีกหลายตัว ยื่นฟ้องออราเคิลเรื่องสิทธิ์การใช้งานจาวา
Myriad กล่าวหาซัน (ปัจจุบันคือออราเคิล) มีเงื่อนไขการใช้งานจาวาตาม TCK (Java Test Compatibility Kit) ที่ไม่ยุติธรรมตามข้อตกลง Java Specification Participation Agreement ที่ออกโดย JCP และเรียกค่าเสียหาย 120 ล้านดอลลาร์ รวมถึงขอให้ศาลสั่งออราเคิลให้แก้เงื่อนไขของ TCK