David Young ช่างภาพกล้องฟิล์มคนหนึ่งพบปัญหาว่ากล้องในอดีตไม่มีระบบวัดแสง (exposure) แบบเดียวกับกล้องดิจิทัลในปัจจุบัน แม้เราสามารถใช้แอพช่วยวัดแสงบนโทรศัพท์ได้แต่การใช้งานก็ไม่สะดวกเท่าไรนัก

เขาจึงคิดทำแอพช่วยวัดแสงบน Google Glass ที่ใช้งานสะดวกกว่ามาก เพราะไม่ต้องใช้มือสั่ง และรองรับการสั่งงานด้วยเสียงโดยตรง (สั่งว่า "Show measurements") รูปแบบการใช้งานคือตั้งค่า ISO และ F-Stop จากนั้นแอพจะให้ค่า shutterspeed ที่เหมาะสมมาทั้งหมด 3 ค่า (แถมค่า above/below มาให้ด้วย)

ใครที่มี Google Glass สามารถลองเล่นได้ที่ Glassware น่าจะเป็นตัวอย่างแอพบน Google Glass ที่ใช้ประโยชน์ได้จริงอีกตัวหนึ่งครับ

มีข่าวมาพักใหญ่แล้ว Baidu ยักษ์ใหญ่วงการค้นหาของจีนกำลังพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะคู่แข่ง Google Glass ซึ่งวันนี้เผยข้อมูล พร้อมชื่อของเจ้าอุปกรณ์ที่ว่าออกมาแล้วในชื่อ Baidu Eye

Baidu Eye จะทำงานต่างจาก Google Glass ตรงที่ไม่มีหน้าจอของตัวเอง แต่จะเน้นประมวลผลข้อมูลก่อนจะส่งไปยังสมาร์ทโฟน ฟีเจอร์หลักๆ ของ Baidu Eye นอกจากการวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว ยังสามารถสั่งงานด้วยเสียง หรือท่าทางได้

แนวทางของการใช้ Google Glass กับอุตสาหกรรมต่างๆ นั้นมีมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เช่น ใช้กับวงการแพทย์หรือแฟชั่น ล่าสุดโรงแรมในสเปนเตรียมเปิดบริการ Google Glass ให้กับแขกที่เข้าพักแล้ว

โรงแรมดังกล่าวมีชื่อว่า Abadia Retuerta LeDomiane ซึ่งเป็นทั้งโรงแรมและไร่ไวน์ที่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่ใกล้กับเขตการผลิตไวน์ Ribera del Duero ของสเปน เตรียมให้บริการ Google Glass กับแขกที่เข้าพักจำนวน 8 อัน โดยแขกสามารถยืมมาใช้ได้อย่างอิสระ ตลอดการเข้าพักและเที่ยวชมในไร่ไวน์ของโรงแรม

ทั้งนี้รูปภาพและวิดีโอที่บันทึกใน Google Glass ของแขก จะได้รับการบันทึกลงการ์ดหน่วยความจำ และมอบให้แขกเมื่อสิ้นสุดการเข้าพักเป็นที่ระลึกด้วย

ดูเหมือน Google Glass กำลังจะมีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว หลังจากเว็บไซต์ Phandroid ไปพบกับสิทธิบัตรชิ้นใหม่ของกูเกิลที่มีภาพของ Google Glass โฉมใหม่ ซึ่งปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้าไปหลายอย่างด้วยกัน

จากภาพที่แนบมากับสิทธิบัตร Google Glass จะมีขนาดเล็กลง แบนลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสองรุ่นก่อนที่ออกมา และตัดก้านด้านข้างที่รวมฮาร์ดแวร์ทั้งหมดตั้งแต่บอร์ด หน้าจอ แบตเตอรี่ และกล้องออกไป

Babak Parviz ผู้ริเริ่มสร้างทีม Google Glass นวัตกรรมชิ้นสำคัญของ Google กำลังจะย้ายไปทำงานให้กับ Amazon แล้ว

Parviz เป็นผู้ก่อตั้งทีม Google Glass และมีบทบาทสำคัญในฐานะหัวหน้าทีมพัฒนาดังกล่าว ผลงานเด่นอีกอันของเขาคือคอนแทคเลนส์อัจฉริยะที่สามารถตรวจวัดปริมาณน้ำตาลในน้ำตาซึ่งมีการเผยแพร่ผลงานไปเมื่อตอนต้นปี นอกจากนี้ผลงานของเขาอีกอันที่น่าทึ่งแต่อาจไม่เป็นที่รู้จักกันกว้างขวางนักคือการพัฒนาคอนแทคเลนส์ที่ฝัง LED ไว้ในตัวเพื่อแสดงผลแบบ HUD

หลังจากที่ Google Glass วางขายในสหราชอาณาจักรไม่นาน ก็ถูกบริษัทสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งของอังกฤษแฮกเข้าแล้ว โดยการแฮกนี้ ทำให้ Glass สามารถรับคำสั่งจากคลื่นสมองได้ ผ่านแอพพลิเคชัน MindRDR และอุปกรณ์ตรวจจับคลื่นสมองหรือ electroencephalography (EEG) ที่ต้องติดตั้งเพิ่มเข้าไปกับตัวแว่นนั่นเอง

เมื่อติดตั้งแล้ว ผู้ใช้สามารถสั่งให้ Glass ถ่ายรูปแล้วโพสต์ขึ้นโซเชียลมีเดียได้ด้วยการคิดเท่านั้น ทั้งนี้เกิดจากการที่ตัวแอพสามารถตรวจจับคลื่นสมองที่เปลี่ยนแปลง เมื่อผู้ใช้เพ่งสมาธิมากขึ้น

หลังกูเกิลประกาศวางขาย Google Glass ในสหราชอาณาจักรได้ไม่นาน ผู้ให้บริการโรงภาพยนตร์หลายๆ แห่งก็เริ่มออกคำสั่งห้ามมิให้สวมใส่ Google Glass เข้าโรงภาพยนตร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระบุเหตุผลเบื้องต้นว่าเพื่อป้องกันการลักลอบการแอบถ่ายภาพยนตร์เพื่อนำไปแจกจ่ายต่อ

กูเกิลปรับปรุงฮาร์ดแวร์ Google Glass เวอร์ชันใหม่รับงาน Google I/O โดยเพิ่มแรมจาก 1GB เป็น 2GB และเพิ่มแบตเตอรี่ให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย เมื่อผนวกกับการปรับปรุงด้านซอฟต์แวร์แล้วทำให้แบตอึดกว่าเดิม 15%

Steve Lee ผู้บริหารของกูเกิลระบุว่าการที่ Glass มีแรมเพิ่มขึ้นจะช่วยให้รันแอพพร้อมกันได้เยอะขึ้น และเรียกแอพขึ้นมาได้เร็วกว่าเดิม

นอกจากนี้ในส่วนของซอฟต์แวร์ กูเกิลยังปรับปรุงการถ่ายภาพให้แสดงกรอบ viewfinder ที่มุมทั้งสี่ของจอ, เพิ่มฟีเจอร์ Google Now ให้แสดงที่จอดรถและสถานะการส่งพัสดุอีกด้วย

หลังจากวางขาย Google Glass เฉพาะในสหรัฐอเมริกาประเทศเดียวมานาน กูเกิลก็ได้ฤกษ์ขยับขยายออกมายังประเทศอื่นๆ สักที โดยเริ่มจากสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกครับ

Google Glass เวอร์ชันที่วางขายจะเป็นรุ่น Explorer Program (แต่นับเป็น revision ที่ห้านับจากรุ่นแรกสุด) ซึ่งแน่นอนว่าราคาแพงระยับที่ 1,000 ปอนด์ หรือราว 55,000 บาท

การวางขาย Google Glass อย่างเป็นทางการในสหราชอาณาจักร ทำให้หน่วยงานและบริษัทต่างๆ เริ่มพิจารณาว่าควรออกนโยบายห้ามสวม Glass ในพื้นที่ของตัวเองหรือไม่ ซึ่งจากการสำรวจของ BBC ก็พบว่าบริษัทส่วนใหญ่อนุญาตให้สวมใส่ได้แต่ห้ามถ่ายภาพหรือวิดีโอ ยกเว้นโรงภาพยนตร์ Vue ที่ห้ามใส่ Glass ขณะภาพยนตร์กำลังฉาย

แม้ว่าจริงๆ แล้วมันอาจจะไม่ถึงขั้นสวยล้ำนำสมัยตามความรู้สึกของใครบางคน แต่ Google Glass ที่ออกแบบมาใหม่ก็ดูเป็นเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ได้ขัดหูขัดตาน้อยลง และทั้งหมดนี้ต้องยกให้เป็นความดีความชอบจากฝีมือการออกแบบโดยสตูดิโอ DVF ของนักออกแบบเสื้อผ้าชื่อดัง Diane von Furstenberg

แว่นตาที่ผ่านการออกแบบใหม่นี้มีตัวกรอบและเลนส์เช่นเดียวกับแว่นตาทั่วไป โดยมีทั้งแบบเลนส์สายตาสั่งตัดพิเศษ และเลนส์กันแดด โดยมีการออกแบบกรอบแว่น 5 แบบ และมี 8 เฉดสีให้เลือก

ผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้จาก Net-a-Porter หรือจาก Google โดยตรง โดยราคาขายสำหรับแว่นแบบมีเลนส์สายตาอยู่ที่อันละ 1,725 ดอลลาร์ ส่วนแบบเลนส์กันแดดจะขายอันละ 1,620 ดอลลาร์

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมตำรวจดูไบให้สัมภาษณ์กับ GulfNews ว่าแว่นตาอัจฉริยะของกูเกิลกำลังถูกทดสอบโดยกรมตำรวจ เพื่อใช้ในส่วนงานจราจร สำหรับตรวจหารถที่กำลังเป็นที่ต้องการของทางการ และใช้ในการจับและปรับผู้ขับขี่ผิดกฎ โดยทางกรมตำรวจได้พัฒนาแอพพลิเคชันสองตัว สำหรับรองรับการใช้งานดังกล่าว

Google Glass สามารถช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหารถที่เป็นที่ต้องการ ได้ด้วยการตรวจสอบจากฐานข้อมูลของกรมตำรวจจราจร เมื่อเจ้าหน้าที่มองไปที่ทะเบียนรถ และถ่ายรูปจุดเกิดเหตุของการกระทำผิดกฎ ซึ่งจะถูกอัพโหลดขึ้นระบบโดยอัตโนมัติ พร้อมวันเวลาและพิกัดสถานที่เกิดเหตุ และหาก Google Glass ผ่านเกณฑ์การทดสอบและเกิดประโยชน์ในการใช้งานจริง ทางกรมตำรวจจึงจะสั่งซื้อ Google Glass และเริ่มให้เจ้าหน้าที่ใช้

กูเกิลจับมือกับร้านขายแว่นตา 3 รายในสหรัฐอเมริกา เพื่อวางขายแว่น Google Glass ในร้านค้าเหล่านี้ เป้าหมายของกูเกิลคือต้องการให้ลูกค้าได้ลองสวมใส่ Google Glass จริงๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ

แนวคิดของกูเกิลคือคนที่สวมแว่นอยู่แล้วจะไม่มีปัญหามากนักในการปรับตัวไปใช้ Google Glass ที่มีคุณสมบัติมากขึ้น ซึ่งผลก็ออกมาดี โดยเจ้าของร้าน Wink Optometry ให้สัมภาษณ์ว่าตอนแรกลูกค้าจะไม่เข้าใจว่า Google Glass เป็นอย่างไร แต่เมื่อทางร้านมีโอกาสเดโมสินค้าให้ดู ลูกค้าก็ให้ความสนใจอย่างรวดเร็ว

หนังสือพิมพ์ LA Times สัมภาษณ์ลูกค้าวัย 42 ปีรายหนึ่งว่าเขาใส่ Google Glass ตลอดทั้งวัน โดยใช้ถ่ายภาพ อ่าน/ส่ง SMS และเช็คอีเมล

Google แต่งตั้ง Ivy Ross ผู้เคยทำหน้าที่ดูแลการตลาดรวมถึงงานออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในธุรกิจแฟชั่นให้กับหลายบริษัทเป็นผู้ดูแลงาน Google Glass

Ross จบการศึกษาจาก Fashion Institute of Technology และศึกษาต่อด้านธุรกิจ Harvard Business School ก่อนจะมาทำงานดูแลการตลาดรวมถึงการออกแบบและพัฒนาสินค้าให้กับหลายบริษัทในธุรกิจวงการแฟชั่น Mattel, the Gap, Disney, Coach, Old Navy รวมทั้ง Calvin Klein และมาลงเอยที่ Google ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายในตอนนี้

น่าสนใจว่า Google Glass ในอนาคตจะมีรูปโฉมและให้ประสบการณ์ใช้งานเปลี่ยนไปได้มากขนาดไหน ภายใต้การกำกับดูแลของผู้โชกโชนประสบการณ์ด้านแฟชั่นคนนี้

Google เตรียมพัฒนา Google Wallet ให้สามารถใช้งานได้ผ่านทาง Google Glass โดยอาศัยการสั่งงานด้วยเสียงของผู้ใช้

แหล่งข่าวผู้อ้างว่ามีความใกล้ชิดกับ Google ระบุว่า ผู้ใช้ Google Glass จะสามารถส่งเงินให้ผู้ใช้อื่นได้โดยการใช้คำสั่งเสียง "send money" จากนั้นระบบจะทำการหักยอดเงินจาก Google Wallet ส่งไปให้แก่ผู้รับตามที่ถูกกำหนดไว้ โดยในขณะนี้มีการทดสอบระบบอยู่เป็นการภายในแล้ว และคาดว่าจะพร้อมปล่อยให้ใช้งานได้จริงในอีกไม่นาน

ความสามารถในการส่งเงินนี้ คล้ายกับฟีเจอร์การส่งเงินผ่านทาง Gmail ที่ให้บริการมาตั้งแต่ปีก่อน

ที่มา - TechCrunch

กลายเป็นประเด็นร้อนชั่วข้ามคืน หลังจากเว็บไซต์ Teardown.com ในเครือของกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา TechInsights ออกมาแกะ Google Glass พร้อมกับประเมินราคาของเจ้าอุปกรณ์ดังกล่าวว่าแท้จริงแล้วต้นทุนเพียงแค่ประมาณ 80 เหรียญเท่านั้น (ประมาณ 2,600 บาท) จากราคาขายในปัจจุบันที่ 1,500 เหรียญ (ประมาณ 48,600 บาท)

ดูเหมือนกูเกิลจะอยากขยายฐานผู้ใช้ Google Glass อย่างจริงจัง หลังจากมีผู้ที่เคยแสดงความสนใจสั่งซื้อ Google Glass เมื่อปีก่อน แต่ล้มเลิกไปเพราะกรอบแว่นในตอนนั้นของ Google Glass ไม่มีกรอบแว่นตาทั่วไป ตอนนี้มีรายงานว่ากูเกิลเริ่มส่งคำเชิญชวนให้กลุ่มผู้สั่งเหล่านั้นสามารถทดลองใส่ Google Glass พร้อมกรอบแว่นแบบใหม่ ซึ่งจะส่งไปให้ถึงบ้าน โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 50 เหรียญ

วันนี้ 15 เมษายน กูเกิลเริ่มขาย Google Glass Explorer Edition แบบไม่จำกัดสิทธิ์ (ใครก็ซื้อได้) กูเกิลเลยถือโอกาสอัพเดตเฟิร์มแวร์ของ Google Glass ให้เป็น Android 4.4 KitKat รุ่นล่าสุดแล้ว

ผู้ใช้ Google Glass ได้ประโยชน์จาก KitKat ไม่มากนัก (ประหยัดแบตเตอรี่, เพิ่มเสถียรภาพ) แต่คนที่ได้ประโยชน์มากคือนักพัฒนาที่ทำแอพลง Android อยู่แล้ว สามารถพัฒนาแอพด้วย Android SDK รุ่นล่าสุดได้พร้อมกันเลย

มีรายงานว่า กูเกิลเตรียมเปิดให้คนที่สนใจซื้อ Google Glass มาทดลองเล่น แต่ไม่มีสิทธิ์ในการเข้าซื้อโดยตรงจากกูเกิลนั้น สามารถเข้าซื้อ Google Glass รุ่น Explorer Edition ได้แล้ว โดยมีเงื่อนไขว่า กูเกิลจะเปิดให้เข้าซื้อแค่วันที่ 15 เมษายนนี้วันเดียวเท่านั้น อนึ่งผู้ซื้อต้องรับทราบข้อตกลงในการใช้งานเหมือนกับผู้ที่ได้สิทธิ์ทดสอบทุกประการ และที่สำคัญที่สุดก็คือ สามารถซื้อได้จากในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

ในด้านแพคเกจ ผู้ซื้อจะได้รับ Google Glass พร้อมอุปกรณ์และเลนส์แว่นกันแดดจำนวนหนึ่งชุด และสามารถสั่งทำแว่นตาสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสายตาได้ ซึ่งก็เหมือนกับผู้ที่มีสิทธิ์ในการเข้าซื้อทุกอย่าง แต่ในด้านรายละเอียดอื่นๆ นั้น กูเกิลจะประกาศอีกครั้งอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ครับ

ทีมวิจัยของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกากำลังทดสอบการใช้งาน Google Glass ในสนามรบ พร้อมทั้งพัฒนาแอพขึ้นมาเพื่อใช้งานควบคู่กันไปด้วย

BATMAN (Battlefield Air Targeting Man-Aided (K)nowledge) คือชื่อของหน่วยงานวิจัยแห่งกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในฐานทัพอากาศ Wright Patterson ซึ่งอยู่ในเขตมลรัฐ Ohio มีหน้าที่ค้นคว้าวิจัยวิทยาการเพื่อการทหารและพลเรือน ได้เปิดเผยข้อมูลแก่ VentureBeat ว่าขณะนี้ทีมวิจัยกำลังทดสอบการใช้งาน Google Glass ในสนามรบควบคู่ไปกับแอพที่ BATMAN พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ

เราเคยรายงานข่าวการพยายามขอจดเครื่องหมายการค้าในคำศัพท์ทั่วไป อย่างเช่น Candy สำหรับกรณีนี้เป็นกูเกิลเองที่อยากจดทะเบียนคำว่า Glass กับเขาบ้าง

กูเกิลประกาศความร่วมมือกับ Luxottica Group บริษัทผู้ผลิตแว่นรายใหญ่ที่สุดในโลก เจ้าของแบรนด์ดังมากมายทั้ง Ray-Ban, Oakley, Persol รวมถึงถือสิทธิในการผลิตแว่นแบรนด์แฟชั่นอีกเพียบ เช่น Giorgio Armani, Burberry, Stella McCartney, Versace, Vogue

Luxottica จะนำความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและการผลิตแว่นมาสร้าง Google Glass รูปแบบใหม่ๆ อีกมาก และในอนาคตเมื่อ Google Glass วางขายจริงๆ ก็จะวางขายผ่านช่องทางจำหน่ายแว่นในเครือ Luxottica อีกด้วย ส่วน Luxottica ก็ระบุว่าจะมอบหมายให้สองแบรนด์ดังในเครือคือ Ray-Ban และ Oakley มาร่วมพัฒนาแว่นกับกูเกิลอย่างจริงจัง

กูเกิลยังไม่บอกว่าเราจะได้เห็นแว่นที่ผลิตโดย Luxotiica เมื่อไรนะครับ

Layar ผู้บุกเบิกวงการ augmented reality บนมือถือ (ที่ช่วงหลังเงียบไปนาน) ประกาศออกแอพ Layar เวอร์ชันบน Google Glass แล้ว

ผู้ใช้ Google Glass สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอพ และใช้งานโดยสั่ง "OK Glass, scan this" เพื่อดูข้อมูลสถานที่ต่างๆ จาก Layar ที่อยู่เป็นจำนวนมาก (Layar ปรับแต่งแอพของตัวเองให้มี UI เหมาะกับ Google Glass)

ตัวอย่างการใช้งานที่ Layar นำมาโชว์คือนิตยสาร Men's Health และ Glamour ที่สามารถใช้แว่น Google Glass สแกนเนื้อหาในนิตยสารเพื่อดูข้อความ รูปภาพ และเนื้อหาเพิ่มเติมอื่นๆ ได้

ที่มา - Layar, Phandroid

แม้ว่า Google Glass เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถแปลงโฉมอุตสาหกรรมไอทีได้ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่มีแคมเปญ Google Glass Explorer ผู้ที่ได้รับ Google Glass ส่วนใหญ่ได้ออกมาแสดงความเห็นในแง่ลบ ทำให้แคมเปญนี้เริ่มที่จะไม่ประสบความสำเร็จ และกลายเป็นการสร้างกระแสในแง่ลบให้กับ Google Glass แทน

ล่าสุด กูเกิลได้เริ่มเผยแพร่บทความตอบข้อสงสัย 10 ข้อที่หลาย ๆ คนมีเกี่ยวกับ Google Glass ยกตัวอย่างเช่น:

กูเกิลประเทศไทยและกลุ่ม GDG Thailand ร่วมกันสนับสนุนผู้หญิงให้ก้าวขึ้นมามีบทบาทและเสริมศักยภาพ กับการจัดงาน WomenTechmakers ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในช่วงใกล้เคียงกับวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งเป็นวันสตรีสากล ร่วมเข้ามาแลกเปลี่ยนทักษะที่ผู้หญิงถนัดไม่แพ้ผู้ชาย แบ่งปันประสบการณ์การทำงานและไลฟ์สไตล์แบบผู้หญิงๆ รวมถึงร่วมสังสรรค์และทำความรู้จักผู้หญิงในคอมมิวนิตี้ของนักพัฒนาและแวดวงไอที

สำหรับงานนี้จะถูกจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ, โคราช (กำลังรอการยืนยัน), เชียงใหม่ และระยอง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมรวมไปถึงลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้จากลิงก์ที่มาครับ (ผู้ชายก็ลงได้นะครับ)

ที่มา - GDG Thailand

กูเกิลอัพเดต Google Glass รอบล่าสุดด้วยเฟิร์มแวร์ XE12 ไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่ล่าสุดมีข่าวว่ากูเกิลได้เลื่อนแผนอัพเดต XE14 ออกไปอย่างไม่มีกำหนดและจะปล่อยออกมาก็ต่อเมื่อมันพร้อมเสียแล้ว หลังจากที่ออกมาประกาศในเดือนมกราคมว่า อัพเดต XE14 อาจจะอัพเดตให้ได้ใช้งานกันในเดือนกุมภาพันธ์