มาดู Charles Arthur นักข่าวจาก The Guardian หนังสือพิมพ์อังกฤษชื่อดัง แกะรอยตามหาคนแฮ็ก fan page ของ Mark Zuckerberg กันครับ ต้นฉบับอ่านสนุกดี มีลุ้นตอนท้าย
เริ่มจากที่ข้อความที่คนที่สวมรอยเป็น Zuckerberg เขียนทิ้งไว้ดู
"Let the hacking begin: if facebook needs money, instead of going to the banks, why doesn't Facebook let its user invest in Facebook in a social way? Why not transform Facebook into a 'social business' the way Nobel Price winner Muhammad Yunus described it? http://bit.ly/fs6rT3 What do you think? #hackercup2011"
หลังจากที่ fan page ของ Mark Zuckerberg ถูกแฮ็ก ทาง Facebook ก็เพิ่มระดับความปลอดภัยของเว็บไซต์ ด้วยการเปิดให้ผู้ใช้เลือกใช้งานผ่านโปรโตคอล HTTPS ได้ตลอดเวลาครับ
ก่อนหน้านี้โดยปกติแล้ว Facebook จะใช้โปรโตคอล HTTPS แค่ตอน log in เท่านั้น ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการ "ไฮแจ็ก" session cookie ได้ อย่างที่ซอฟต์แวร์ Firesheep แสดงให้เห็นมาแล้วว่ามันอันตรายแค่ไหน
หลังจากทดสอบระบบในวงจำกัดมาเกือบหนึ่งปี Facebook ก็ประกาศนโยบายให้ผู้พัฒนาแอพบน Facebook จำเป็นต้องใช้สกุลเงิน Facebook Credits แล้ว (Facebook จะหักค่าหัวคิว 30% จาก Facebook Credits)
Facebook บังคับว่าการเปลี่ยนเงินจริงเป็นเงินเสมือนจะต้องใช้สกุลเงิน Facebook Credits เท่านั้น ส่วนที่เหลือถ้าผู้พัฒนาแอพอยากมีระบบเครดิตของตัวเอง ค่อยแปลงจาก Facebook Credits อีกทีหนึ่ง ในอนาคต Facebook จะพยายามออกแคมเปญชักชวนให้ผู้ใช้ซื้อ Facebook Credits มากขึ้น เช่น แคมเปญชักชวนเพื่อนซื้อไอเทมในเกมเป็นคู่ถูกกว่า เป็นต้น
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อตอนสายๆ ของเมื่อวาน อยู่ๆ บนแฟนเพจของ Mark Zuckerberg ได้ปรากฎข้อความหนึ่งขึ้น ดังนี้
Let the hacking begin: If facebook needs money, instead of going to the banks, why doesn’t Facebook let its users invest in Facebook in a social way? Why not transform Facebook into a ‘social business’ the way Nobel Price winner Muhammad Yunus described it? http://bit.ly/fs6rT3 What do you think? #hackercup2011
ซึ่งไม่นานข้อความนี้ก็ถูกลบไป พร้อมกับการถูกอุ้มหายไปของแฟนเพจ ซึ่ง ณ เวลาที่มันถูกลบ ข้อความนี้ก็ถูกกด like ไปกว่า 1800 ครั้ง และมีข้อคิดเห็นอีกเกือบๆ 500 ข้อความ
Martin Essl ตัวแทนจาก Sony Ericsson ประกาศในงาน Inside Social Apps ว่ามือถือแอนดรอยด์ที่จะวางขายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะรวมเอาฟีเจอร์ Facebook Single Sign On และพรีโหลด Facebook App มาให้ทุกรุ่น
นี่แปลว่าต่อจากนี้ไป ถ้าซื้อมือถือจาก Sony Ericsson เราอาจต้องใส่รหัสผ่าน 2 ชุดคือ Google/Facebook จากนั้นก็จะล็อกอินแอพหลายๆ ตัวได้อัตโนมัติทันที
ใกล้เคียงกับคำว่า "Facebook Phone" เข้าไปทุกทีแล้วสินะ
ที่มา - TechCrunch
ในสหรัฐอเมริกามีธรรมเนียมว่า ประธานาธิบดีต้องแถลงผลงานและนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาในเดือนมกราคมทุกๆ ปี ซึ่งแถลงการณ์นี้มีชื่อเรียกเฉพาะว่า State of the Union
ตามปกติแล้ว State of the Union จะถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์พร้อมกันทุกช่อง แต่ประธานาธิบดีรุ่นใหม่อย่างบารัค โอบามา ที่ชนะการเลือกตั้งมาด้วยอินเทอร์เน็ต ก็ใช้เครื่องมือออนไลน์หลายชนิดเพื่อชักชวนให้ประชาชนสหรัฐมีส่วนร่วมกับการแถลงนโยบายประจำปีมากขึ้น ดังนี้
Bret Taylor ซึ่งเป็น CTO ของ Facebook (เขาเป็นผู้ก่อตั้ง FriendFeed และเข้ามาทำงานกับ Facebook หลังถูกซื้อกิจการยกบริษัท) ขึ้นเวทีงานสัมมนา Inside Social Apps บอกว่า Facebook จะให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มมือถือมากเป็นอันดับหนึ่งในปีนี้
Taylor บอกว่ามือถือเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับ social เป็นอย่างมาก เพราะเป็นอุปกรณ์เฉพาะบุคคล และมีข้อมูลของเพื่อนๆ อยู่ตั้งแต่แรกใน Contacts ของมือถือ แถมมือถือรุ่นใหม่ๆ ยังใช้ประโยชน์จากพิกัดและข้อมูลสถานที่ได้อีกด้วย
ช่วงหลังปีใหม่มีข่าว Facebook มีมูลค่าหุ้น 5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากการลงทุนรอบล่าสุดโดย Goldman Sachs วันนี้ Facebook ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว
การเพิ่มทุนของ Facebook โดยการขายหุ้นรอบล่าสุดแบ่งเป็น 2 ส่วน
FUSE Labs ได้อัพเดท Docs.com (บริการที่ให้ผู้ใช้สร้าง แก้ไข และแบ่งบันไฟล์ผ่าน Facebook) โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและความเสถียรของระบบหลังบ้าน (backend) นอกจากนั้นยังเพิ่มการสนับสนุนการพิมพ์ข้อความอีก 30 ภาษาเพิ่มฟีเจอร์ตรวจการสะกดคำ (spell checking) ลักษณะเดียวกับชุด Office ให้กับ Word Web App บนบริการ Docs.com อีกด้วย ลองดูตัวอย่างหน้าจอได้ที่ท้ายข่าว
ที่มา: Docs.com Blog ผ่าน LiveSide.net
จากที่ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ Flickr ได้เปิดให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินด้วยบัญชีของ Google และสัญญาว่าจะมีการเพิ่มพันธมิตรอีก ล่าสุดในบล็อกของ Flickr ประกาศว่าได้เพิ่มพันธมิตรรายใหม่นั่นคือ Facebook
ผู้ใช้ Flickr เดิมสามารถปรับค่าการล็อกอินด้วย Google หรือ Facebook ร่วมกับบัญชีของ Yahoo!
และสำหรับผู้ใช้ Facebook หรือ Google ก็สามารถล็อกอิน Flickr เพื่อแบ่งปันรูปภาพไปยัง Facebook โดยเข้าไปปรับค่าได้จากหัวข้อ account setting
ที่มา: Flickr Blog
หมายเหตุ: ข่าวนี้เหมาะสำหรับคนที่สนใจเรื่องวิศวกรรมซอฟต์แวร์ และการจัดการโครงการซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ เพราะมีบทเรียนของ Facebook ให้เรียนรู้ แนะนำอย่างยิ่งให้อ่านต้นฉบับ (ซึ่งยาวมาก) ครับ
ทีมวิศวกรของ Facebook ใหญ่มาก คิดเป็นครึ่งหนึ่งของพนักงานทั้งบริษัท 2,000 คน โดยแบ่งเป็นทีมซอฟต์แวร์ และทีมดูแลระบบอย่างละครึ่ง (ประมาณทีมละ 400-500 คน) เพื่อให้เข้าใจง่าย ผมแบ่งเนื้อหาเป็น 2 ส่วนตาม 2 ทีมนี้นะครับ
ทีมวิศวกรซอฟต์แวร์
หลังจากมีข่าวใหญ่โตว่า Facebook อนุญาตให้แอพขอดูที่อยู่บ้านเราได้ และเกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก ทาง Facebook ก็ออกมาประกาศแล้วว่าจะ "หยุดฟีเจอร์นี้ชั่วคราว"
แต่มันจะกลับมาแน่นอนครับ เพราะ Facebook บอกว่า "ฟังเสียงผู้ใช้" แล้วต้องการปรับปรุงให้กระบวนการที่แอพขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลที่อยู่จากเราชัดเจนมากขึ้น โดยให้ผู้ใช้อนุญาตเท่าที่จำเป็นเท่านั้น การปรับปรุงจะใช้เวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ และฟีเจอร์นี้จะกลับมาอีกครั้ง
ที่มา - Facebook Blog, The Register
ปกติแล้วเวลาติดตั้งแอพบน Facebook เราจะต้องอนุญาตก่อนว่าจะให้แอพเข้าถึงข้อมูลอะไรได้บ้าง ล่าสุดมีรายงานว่า Facebook ได้อนุญาตให้แอพสามารถ "ร้องขอ" ข้อมูลที่อยู่ของเราได้
ในทางทฤษฎี ผู้ใช้จะต้องตรวจสอบและอนุญาตด้วยตัวเองก่อน แต่ในทางปฏิบัติ ผู้ใช้ส่วนมากก็กดปุ่ม Allow โดยไม่ได้ตรวจสอบอะไรมาก นั่นแปลว่าการสร้างแอพหลอกๆ ขึ้นมาขโมยข้อมูลที่อยู่บน Facebook ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย
ใครที่โพสต์ข้อมูลเหล่านี้ลงบน Facebook ควรลบออกโดยด่วนครับ
ที่มา - All Facebook
จากข่าวลือ Facebook Phone ที่ทำร่วมกับ INQ และเปิดตัวช่วงต้นปี 2011 ล่าสุดมีความคืบหน้ามาจากฝั่ง INQ แล้ว
เรื่องก็คือ INQ ยื่นขอใบรับรองจาก Bluetooth SIG ให้กับมือถือเครื่องใหม่ชื่อรุ่นว่า INQ Cloud Touch ซึ่งระบุรายละเอียดว่าเป็นมือถือ Android ที่เน้นการส่งข้อความ โดยเน้นการสื่อสารผ่าน Facebook เป็นแกน และในหน้า homescreen จะมี widget หลายชนิดสำหรับ Facebook เช่น สถานะ, อัลบั้มภาพ และวิดีโอ
ที่มา - Pocket Now
หากใครได้ชมภาพยนตร์เรื่อง The Social Network แล้วก็น่าจะเข้าใจข่าวนี้ได้เร็วขึ้น
คู่แฝด Winklevoss เป็นอดีตนักเรียน Harvard ที่เคยต่อสู้กับ Mark Zuckerberg ในชั้นศาลมาแล้วเมื่อหลายปีก่อนโดยอ้างว่าโดน Mark ขโมยไอเดียในการทำ Facebook ไประหว่างที่ยังศึกษาอยู่ที่ Harvard
ในตอนนั้นคดีจบลงโดย Mark ยอมความด้วยการจ่ายเงินสดมูลค่า 20 ล้านเหรียญ พร้อมกับหุ้นมูลค่าอีก 45 ล้านเหรียญเพื่อจบคดีนี้ ดังนั้นโดยรวมแล้วคู่แฝดพร้อมกับเพื่อนผู้ร่วมต่อสู้ที่ชื่อ Divya Narendra ได้รับทรัพย์สินในการยอมความเป็นมูลค่ารวม 65 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปัจจุบัน Facebook ยังไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์สหรัฐและเปิดขายหุ้นแก่สาธารณชน แต่นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นจากผู้ที่ถือหุ้นอยู่ก่อนแล้ว และล่าสุดมีรายงานว่า Goldman Sachs สถาบันการเงินรายใหญ่ของโลกได้ซื้อหุ้นจำนวนหนึ่งของ Facebook คิดเป็นมูลค่า 450 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้บริษัทลงทุน Digital Sky Technologies (DST) จากประเทศรัสเซีย ยังซื้อหุ้น Facebook เพิ่มอีก 50 ล้านดอลลาร์ (เดิมมีอยู่แล้ว 500 ล้านดอลลาร์)
Facebook จัดการการแข่งขันเขียนโปรแกรมของตัวเองเป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่อว่า Facebook Hacker Cup รูปแบบการแข่งขันก็ใกล้เคียงกับ Google Code Jam
การแข่งขันแบ่งเป็น 4 รอบ รอบคัดเลือก (ออนไลน์) เริ่มตั้งแต่เวลา 00:00 UTC หรือ 7 นาฬิกาตามเวลาในประเทศไทย ของวันที่ 7 มกราคม (ปีนี้, ศุกร์ที่จะถึงนี้) ถึงเวลาเดียวกันของวันที่ 10 มกราคม จากนั้นจะมีรอบออนไลน์อีกสองรอบ รอบสุดท้ายจะจัดในวันที่ 11 มีนาคม (ปีนี้) Facebook จะพาผู้แข่งขันที่ทำคะแนนได้สูงสุด 25 คนบินไปแข่งกันที่สำนักงานใหญ่ของ Facebook ใน Palo Alto, California
Facebook เผยสถิติว่าในปี 2010 ว่าทุก 20 นาทีจะมีคนโพสต์ข้อความ โพสต์สถานะต่างๆ เป็นจำนวนดังต่อไปนี้
ปี 2010 มีคนเปลี่ยนสถานะว่าเป็น "single" จำนวน 43.8 ล้านคน ตามมาด้วย "married" 36.7 ล้านคน และ "in relationship" 28.4 ล้านคน
ที่มา - Facebook
บริษัทสถิติเว็บ Hitwise เผยสถิติประจำปี 2010 ปรากฎว่า Facebook ควบแชมป์สองตำแหน่ง ทั้งเว็บที่มีคนเข้ามากที่สุด และคำค้นยอดฮิต
ส่วนของคำค้นไม่ตื่นเต้นเท่าไร เพราะ "facebook" เป็นแชมป์มาตั้งแต่ปีที่แล้ว อันดับอื่นที่น่าสนใจคือ "MySpace" ตกจากที่สองมาเป็นที่ห้า และ "facebook login" ขึ้นจากอันดับเก้ามาอยู่อันดับสอง ในสิบอันดับแรกมีคำที่เกี่ยวกับ Facebook ถึงสี่คำ
ส่วนเว็บยอดฮิตในปี 2010 นั้น facebook.com แซง google.com ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้สำเร็จ อันดับสามคือ mail.yahoo.com อันดับอื่นที่น่าสนใจคือ ebay.com หลุดสิบอันดับแรกไป และ bing.com โผล่ขึ้นมาแตะอันดับสิบได้
ที่อังกฤษในวันคริสต์มาสที่ผ่านมา Facebook แสดงศักยภาพโค่นกูเกิลในฐานะเว็บอันดับหนึ่งได้เป็นครั้งแรก
สถิติจากบริษัท Hitwise ระบุว่า Facebook มีส่วนแบ่งทราฟฟิกของอังกฤษ 10.50% แซง google.co.uk ที่ครองส่วนแบ่ง 9.77% (ดูกราฟประกอบ) อย่างไรก็ตามทราฟฟิกของ Facebook เป็นการพุ่งขึ้นชั่วขณะ (spike) และกูเกิลจะยังกลับมาทวงแชมป์คืนได้เหมือนเดิม
ที่มา - Hitwise, The Next Web
ปีนี้ถือเป็นปีทองของ Facebook อย่างแท้จริง ทั้งยอดสมาชิกแตะ 500 ล้านราย และผู้ก่อตั้งได้รางวัลบุคคลแห่งปี ล่าสุดทราฟฟิกของ Facebook แซง Yahoo! ขึ้นมาเป็นเว็บอันดับสามของโลกแล้ว
เว็บไซต์ 4 อันดับแรกจากสถิติของ comScore ได้แก่ Google (970 ล้าน UIP ต่อเดือน), Microsoft (869 ล้าน), Facebook (648 ล้าน) และ Yahoo! (630 ล้าน)
กรณีของ Yahoo! มีตัวเลขลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 633 ล้าน อย่างไรก็ตามถ้าคิดเฉพาะในสหรัฐ Yahoo! ยังเป็นเว็บอันดับหนึ่ง ส่วน Facebook อยู่อันดับสี่
ที่มา - TechCrunch
แทบจะเหมือนข่าวเก่าครับ แต่เปลี่ยนฉากจากสหรัฐฯ เป็นอังกฤษ โดยมีเหยื่อโจรงัดแงะให้สัมภาษณ์ว่าเชื่อว่าคนร้ายนั้นซุ่มดูสถานะใน Facebook ของเธอ และคอยดูวันที่เธอกับครอบครัวไม่อยู่บ้าน
ก็มีคำแนะนำจากตำรวจให้ตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้ดี ให้เฉพาะคนที่เราไว้ใจเท่านั้นที่เห็น
ผมว่าเรื่องนี้ก็ใช้ได้กับพวก Twitter, Foursquare และอื่น ๆ นะ เคยเห็นบางคน check-in เข้าบ้านตัวเองเวลาเดิม ๆ ตลอด มีพิกัด GPS บอกไว้พร้อม น่ากลัว
ที่มา - BBC
Facebook เริ่มโครงการให้ทุนการศึกษาระดับ ป. เอก เมื่อปีที่แล้วเป็นปีแรก ซึ่งก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม
ในปีนี้ Facebook ก็ประกาศเปิดรับสมัครแล้ว โดยในปีนี้ทุนดังกล่าวจะจ่ายค่าเล่าเรียนให้และมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวให้อีก 30,000 เหรียญสหรัฐ ที่สำคัญคือในปีนี้เปิดรับนักศึกษาจากชาติต่าง ๆ นอกเหนือจากอเมริกาด้วย โดยจะรับสมัครถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554
อันนี้เป็นเหมือน "ภาคต่อ" ของข่าว เบื้องหลังระบบ Facebook Messages โฉมใหม่ เลือกใช้ Hbase ที่คุณ Ich เขียนเมื่อเดือนที่แล้ว ผมแนะนำว่าคนที่สนใจเรื่อง NoSQL ควรอ่านบทความต้นฉบับครับ
ข่าวก่อนเป็นมุมมองของคนในทีม Facebook เองว่าทำไมถึงเลือก HBase เหนือ MySQL และ Cassandra ส่วนข่าวนี้เป็นมุมมองจากเว็บไซต์ The Register พูดถึงสถาปัตยกรรม MapReduce, BigTable ของกูเกิล และซอฟต์แวร์สาย Apache คือ Hadoop และ HBase ในเชิงลึกกว่าเดิม
นอกจากนี้บทความยังพูดถึงการปรับปรุง HBase โดยทีมงาน Facebook เอง และการทำงานร่วมกับ Haystack ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สำหรับจัดการรูปภาพและไฟล์ขนาดใหญ่ของ Facebook ด้วย
ไมโครซอฟท์จัดงานแถลงข่าว Bing Search ที่ซานฟรานซิสโก ประกาศฟีเจอร์ใหม่มากมายในผลิตภัณฑ์ตระกูล Bing ทั้งหลาย
เนื่องจากมันเยอะจริงๆ ผมคัดมาแบบรวบรัดมากพร้อมลิงก์ประกอบ ใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็รบกวนอ่านกันเองนะครับ
Bing Search + Facebook
ฟีเจอร์ใหญ่ที่สุดในรอบนี้คงเป็นการผสานข้อมูลของ Facebook เข้ามาด้วย (น่าสนใจว่ากูเกิลจะขยับตามอย่างไรบ้าง)