ไมโครซอฟท์ได้ออกมาประกาศผ่านหน้าบล็อกว่าจะปรับลดพื้นที่ผู้ใช้ OneDrive แบบฟรีจาก 15 GB เหลือเพียง 5 GB และยกเลิกพื้นที่แบบไม่จำกัดสำหรับผู้ใช้ Office 365 เนื่องจากพบว่ามีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ใช้พื้นที่มากถึง 75 TB และการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มระบบการทำงานและประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้ (high-value productivity and collaboration experiences) โดยให้รายละเอียดไว้ดังนี้
การส่งข้อมูลขนาดใหญ่มากๆ ขึ้นไปยังบริการคลาวด์เป็นเรื่องยุ่งยากและเสียเวลานาน ตอนนี้อเมซอนเปิดตัว Snowball สตอเรจแบบเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายที่ออกแบบมาในกล่องทนแรงกระแทกสำหรับการขนส่งโดยเฉพาะ
ตัว Snowball มีความจุ 50 เทราไบต์ ข้อมูลภายในจะเข้ารหัสไว้เสมอ ตัวถังทนทานต่อแรงกระแทก 6G เชื่อมต่อผ่านพอร์ตอีเธอร์เน็ต 10Gb โดยเครื่องที่จะเชื่อมต่อจะต้องติดตั้ง AWS Snowball client เสียก่อน ผู้ใช้ที่ต้องการใช้ Snowball สามารถกดสั่งได้จาก AWS Management Console ได้เอง แล้วระบุศูนย์ข้อมูลที่ต้องการนำข้อมูลเข้า
ไมโครซอฟท์อัพเกรดระบบของ OneDrive for Business ครั้งใหญ่ (ถือเป็นผลิตภัณฑ์คนละตัวกับ OneDrive รุ่นปกติ) โดยเปลี่ยนเอนจินสำหรับซิงก์ไฟล์ใหม่ ทำลายข้อจำกัดเดิม (จำนวนไฟล์สูงสุด 20,000 ไฟล์ และขนาดไฟล์สูงสุด 10GB) อีกทั้งปรับเสถียรภาพของการซิงก์ และเลือกซิงก์เป็นบางไฟล์ (selective sync) ได้ด้วย
OneDrive for Business เวอร์ชันเว็บยังได้อินเทอร์เฟซใหม่ แบบเดียวกับ OneDrive รุ่นปกติ, ปรับปรุงระบบการแชร์ ส่วนแอพบน Android ก็สามารถดูไฟล์แบบออฟไลน์ได้แล้ว
Backblaze ผู้ให้บริการสำรองไฟล์ไม่จำกัดปริมาณราคาเดือนละ 5 ดอลลาร์ ประกาศบริการใหม่ ที่เปิด API ให้กับนักพัฒนา ในชื่อ B2 บริการคล้ายกับ Amazon S3 แต่มีจุดเด่นที่ราคาถูกกว่ามาก โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 0.5 ดอลลาร์ต่อ 100GB ต่อเดือน บริการนี้ถูกกว่า Amazon Glacier ที่เพิ่งลดราคาเหลือ 0.7 ดอลลาร์ต่อ 100GB ต่อเดือน
นอกจากราคาถูกกว่าแล้ว Backblaze ยังมีส่วนฟรีให้ใช้งาน 10GB แบนวิดท์ฟรี 1GB ต่อวัน และการเรียก API ฟรี 2500 ครั้งต่อวัน การใช้งานสามรถใช้ได้ทั้ง RESTful API, คำสั่ง CLI, และผ่านเว็บ ทำให้คนทั่วไปก็สามารถแชร์ไฟล์เป็นลิงก์ได้โดยอัพโหลดผ่านเว็บ
เปิดฟีเจอร์ทำงานร่วมกันให้เฉพาะลูกค้าองค์กรมาพักใหญ่ วันนี้ Dropbox ขยายฟีเจอร์ที่ว่ามาให้ลูกค้าทั่วไปทั้งกลุ่มบัญชี Basic และ Pro บ้างแล้ว
ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาถูกเรียกว่า "Team" ออกแบบมาให้ใช้ทำงานร่วมกันในกลุ่มเล็กๆ โดยสามารถสร้างกลุ่มสำหรับใช้แชร์ไฟล์เฉพาะทีมที่ทำงานด้วยเข้ามา และมีโฟลเดอร์กลางที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ รวมถึงสามารถทำบัญชีแยกจากเดิมที่ใช้งานทั่วไปได้พร้อมๆ กัน โดยสามารถใช้งานฟีเจอร์ Team นี้ได้ทั้งบนเดสก์ท็อป อุปกรณ์พกพา และผ่านเว็บไซต์
ตัวฟีเจอร์ใหม่จะเริ่มปล่อยให้ใช้ภายในสัปดาห์หน้าครับ
ที่มา - Dropbox
อเมซอนเพิ่งเปิดตัว S3 Standard IA ที่ราคาถูกกว่า S3 แบบปกติ ตอนนี้ราคาของ Glacier สตอเรจราคาถูกที่สุดก็ปรับลดราคาลง 30% จากเดิม 1 ดอลลาร์ต่อ 100GB ต่อเดือน ตอนนี้เหลือ 0.7 ดอลลาร์
เทียบราคาตอนนี้อเมซอนมีสามระดับให้เลือก คือ S3 (3 ดอลลาร์ต่อ 100GB), S3 IA (1.25 ดอลลาร์ต่อ 100GB), และ Glacier (0.7 ดอลลาร์ต่อ 100GB) ส่วนกูเกิลมีแบบมาตรฐาน (2.6 ดอลลาร์ต่อ 100GB), Durable Reduced Availability (2 ดอลลาร์ต่อ 100GB), และ Nearline (1 ดอลลาร์ต่อ 100GB)
ที่มา - The Register
เมื่อปลายปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์เปิดตัวบริการสำรองข้อมูลบนกลุ่มเมฆ Azure Backup เดิมทีมันถูกออกแบบมาแบ็คอัพเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ต่อมาขยายมายังเครื่องพีซีวินโดวส์ทั่วไป และล่าสุดรองรับ Windows 10 แล้ว
เนื่องจาก Azure Backup เป็นบริการของไมโครซอฟท์เอง ทำให้มันเชื่อมต่อกับ Windows 10 ได้อย่างแนบแน่น วิธีใช้งานก็คือติดตั้งแอพ Azure Backup แล้วเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการเป็นอันจบข่าว ที่เหลือ Azure Backup จะกลายเป็นเซอร์วิสตัวหนึ่งของ Windows 10 ที่จัดการงานแบ็คอัพให้เราอัตโนมัติ
ไมโครซอฟท์เผยว่า ได้เริ่มปล่อย Shared Folder ฟีเจอร์ซิงค์โฟลเดอร์ที่ผู้อื่นแบ่งปันผ่าน OneDrive และผู้ใช้มีสิทธิ์แก้ไขโฟลเดอร์นั้น (edit permission) แล้ว
วิธีการซิงค์โฟลเดอร์ข้างต้นคือ ให้ผู้ใช้คลิก "Add to my OneDrive" กับโฟลเดอร์ที่ผู้อื่นแบ่งปันให้ การดำเนินการดังกล่าวสามารถทำได้จากมือถือหรือหน้าเว็บ
ฟีเจอร์นี้จะรองรับ Windows 10, Windows 8, Windows 7, Windows Vista และ MacOS ส่วนผู้ใช้ Windows 8.1 ต้องอัพเกรดเป็น Windows 10 ก่อน ใครที่ยังไม่เห็นฟีเจอร์ดังกล่าวไม่ต้องตกใจเพราะไมโครซอฟท์กำลังปล่อยให้ทุกคนได้ใช้ครับ
EMC แยกธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักขององค์กร โดยขาย Syncplicity บริการแชร์ไฟล์กลุ่มเมฆสำหรับลูกค้าองค์กร ที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 2012 ให้กับบริษัทลงทุน Skyview Capital
การขายกิจการครั้งนี้ทำให้ Syncplicity จะกลายเป็นบริษัทอิสระอีกครั้ง (โดยมีผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่) ซึ่งก็น่าจะทำให้บริษัทโฟกัสการทำตลาดได้ดีขึ้น จากเดิมที่อยู่ภายใต้สายผลิตภัณฑ์จำนวนมากของ EMC จนทำให้ลูกค้าของ EMC ไม่สนใจ Syncplicity มากนัก
คู่แข่งของ Syncplicity คือบริการคลาวด์สตอเรจฝั่งองค์กร เช่น Box, Dropbox for Business, OneDrive Business และ Citrix
Amazon เปิดตัวแอพสตอเรจ Cloud Drive บนมือถือแล้ว หลังจากปล่อย SDKs ให้กับนักพัฒนาบน Android และ iOS ไปเมื่อเดือนก่อน และก่อนหน้านี้มีเพียงแอพที่ใช้ Cloud Drive เป็นพื้นฐานในการให้บริการอย่างแอพ Amazon Photos และ Amazon Music with Prime Music บนอุปกรณ์พกพา แต่ยังไม่มีแอพ Cloud Drive ตัวจริงเสียที
แอพถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่ายสะดวกต่อการใช้งาน แสดงโฟลเดอร์เช่นเดียวกับที่ผู้ใช้จัดการไว้ใน Cloud Drive พร้อมฟีเจอร์สร้างลิงก์เพื่อแชร์ไฟล์ เล่นไฟล์เพลงและวิดีโอได้ทันที แต่ยังไม่มีฟีเจอร์แก้ไขไฟล์ หรือการซิงค์ข้อมูลอัตโนมัติ (ใช้ได้แค่บนเดสก์ท็อป) เหมือนที่แอพจากคู่แข่งมีมาให้
Box บริษัทคลาวด์สตอเรจที่กำลังมาแรงในสายลูกค้าองค์กร ประกาศความร่วมมือกับยักษ์สีฟ้า IBM ในหลายส่วน
Dropbox เป็นแอพตัวล่าสุดบนแอนดรอยด์ที่เปลี่ยนมาใช้ Material Design กับเขาแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือปุ่ม + สีฟ้าที่มุมขวาล่าง เมื่อกดแล้วจะมีตัวเลือกใหม่สำหรับการถ่ายภาพเพื่ออัพโหลดขึ้น Dropbox เพิ่มเข้ามาด้วย
หน้าตาของแอพ Dropbox เดิมทีก็ค่อนข้างเรียบๆ ไม่มีอะไรหวือหวาอยู่แล้ว แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็ช่วยให้หน้าตาของแอพดูไปในทางเดียวกันกับระบบปฏิบัติการ และแอพรุ่นใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์มากขึ้นครับ
ที่มา - Dropbox
Dropbox ออกฟีเจอร์ใหม่ชื่อ "File Requests" มาเพื่อแก้ปัญหาการขอให้ส่งไฟล์ให้กัน จากเดิมที่เราอาจต้องสื่อสารผ่านช่องทางอื่น (เช่น อีเมลหรือ IM) ให้ "ส่งไฟล์ให้หน่อย" แล้วเจ้าของไฟล์ค่อยกดแชร์ไฟล์จาก Dropbox ให้อีกทีหนึ่ง
File Requests ช่วยให้ผู้ขอไฟล์สามารถส่งข้อความไปยังเจ้าของไฟล์ว่าต้องการไฟล์อะไรบ้าง ฝั่งของเจ้าของไฟล์ก็แค่เลือกไฟล์ใน Dropbox ของตนแล้วกด Send จากนั้นไฟล์จะไหลเข้าไปยัง Dropbox ของผู้ขอไฟล์โดยอัตโนมัติ และซิงก์บนอุปกรณ์ทุกตัวที่ใช้งาน (จำกัดขนาดไฟล์สูงสุด 2GB)
Dropbox ระบุตัวอย่างการใช้ File Requests อย่างเช่น การขอใบเสนอราคาจากผู้ประมูลหลายราย การขอรายงานประจำสัปดาห์จากทีมงานทุกคน หรือ การขอรูปไปเที่ยวจากเพื่อนร่วมทริป
ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับ Box ไปเมื่อต้นปี คราวนี้ตัวผลงานจริงออกมาให้ใช้กันแล้ว โดยผู้ใช้สตอเรจ Box สามารถเปิดเอกสาร Microsoft Office ด้วยเว็บแอพ Microsoft Office Online ได้จากเว็บหรือแอพของ Box ได้เลย
ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยให้การแก้ไขเอกสารภายในองค์กรที่ใช้ Box สามารถทำผ่านเบราว์เซอร์ได้ทั้งหมด ไม่ต้องติดตั้งแอพใดๆ เพิ่มเติม ช่วยให้การย้ายไปนั่งทำงานบนคอมพิวเตอร์ต่างเครื่องง่ายขึ้นมาก
ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์เคยประกาศความร่วมมือคล้ายๆ กันกับ Dropbox แต่เน้นไปที่แอพบน iOS/Android เป็นหลัก
Dropbox เร่งเพิ่มฟีเจอร์ให้กับ Dropbox for Business เพื่อดึงดูดลูกค้าฝั่งองค์กรให้มากขึ้น
ที่มา - Dropbox for Business
ไมโครซอฟท์ได้เลอโนโวเป็นพันธมิตรรายสำคัญร่วมผลักดัน Cortana โดยเลอโนโวจะนำซอฟต์แวร์ช่วยจัดการสตอเรจออนไลน์ REACHit มาเชื่อมต่อกับ Cortana
ผลคือเราสามารถค้นหาไฟล์ใดๆ ที่เก็บอยู่บนอินเทอร์เน็ตได้ผ่านคำสั่งเสียง Cortana เลย ตัวอย่างที่นำมาโชว์คือ "Hey Cortana, find the presentation I showed Jon last week." ระบบจะแยกแยะคำว่า presentation, Jon, last week เพื่อนำมาเป็นบริบทสำหรับค้นหาไฟล์ให้เราได้ (ดูคลิปประกอบ)
ความร่วมมือครั้งนี้ทำให้ Cortana เก่งขึ้น เพราะไม่ถูกจำกัดเฉพาะบริการของไมโครซอฟท์แต่เพียงอย่างเดียว บริการที่ REACHit สามารถค้นหาไฟล์ได้คือ
Box บริษัทเก็บข้อมูลกลุ่มเมฆที่เน้นตลาดลูกค้าองค์กร ได้พันธมิตรรายใหม่คือ Chrome OS ของกูเกิล โดยองค์กรที่ใช้ Chrome OS สามารถติดตั้งส่วนเสริม Box for Chrome OS เพื่อเข้าถึงไฟล์บน Box ได้ทันที
เมื่อติดตั้งส่วนเสริมแล้ว ในหน้าต่างเลือกไฟล์ (file picker) เราจะเห็นโฟลเดอร์หมวดของ Box เพิ่มเข้ามาเคียงคู่กับ Google Drive ที่มีให้ใช้งานเป็นดีฟอลต์อยู่แล้ว
ช่วงหลัง Box ทำผลงานด้านการสร้างพันธมิตรได้ดีทีเดียว นอกจาก Chrome OS ในข่าวนี้แล้ว ก็เพิ่งผสานตัวเองกับ Microsoft Office แล้วเช่นกัน
ค่ายดีแทคเคยประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ของบริษัทเอาไว้ หนึ่งในนั้นคือขยับขยายตัวเองจากการเป็นโอเปอเรเตอร์ให้บริการโครงข่าย มาเป็นการสร้างบริการดิจิทัล (digital services) ที่หลากหลายมากขึ้น
วันนี้ดีแทคเปิดตัวบริการรูปแบบแอพตัวแรกในชื่อ Capture App รูปแบบของมันคือ cloud storage สำหรับซิงก์ภาพถ่ายและวิดีโอจากสมาร์ทโฟน ลักษณะเดียวกับ iCloud, Dropbox, Google+ Photos โดยมีระบบแชร์ภาพออนไลน์เสร็จสรรพตามมาตรฐานแอพยุคนี้
Amazon Web Services (AWS) เปิดบริการสตอเรจแบบใหม่ชื่อ Elastic File System (EFS) ที่เน้นสำหรับการแชร์ไฟล์ระหว่างเครื่อง EC2
EFS เป็นระบบไฟล์แบบปกติที่แชร์ผ่านโพรโทคอล NFSv4 ที่ใช้กันทั่วไปอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเรามีเครื่อง EC2 หลายเครื่องก็สามารถเช่า EFS เพียงชุดเดียว แล้วให้ EC2 แต่ละเครื่องเมาทน์ EFS ตัวเดียวกันได้ ฟีเจอร์อื่นของ EFS คือตัวฮาร์ดแวร์เป็น SSD ช่วยให้ประสิทธิภาพดีขึ้น และสามารถยืด-หดขนาดของพื้นที่ได้ตามต้องการ (ไม่ต้องสั่งเตรียมพื้นที่หรือ provision ไว้ก่อน)
Amazon EFS คิดราคาแบบตรงไปตรงมาที่ 0.3 ดอลลาร์ต่อ GB ต่อเดือน สถานะของบริการยังเป็นรุ่นพรีวิว และจะเปิดบริการรุ่นจริงภายในปีนี้
อเมซอนประกาศแพ็กเกจใหม่สำหรับ Cloud Drive ให้บริการไม่จำกัดพื้นที่โดยแบ่งออกเป็นบริการแบบเก็บภาพอย่างเดียว กับเก็บไฟล์เอกสารทุกอย่าง
ลูกค้า Cloud Drive เดิมสามารถเปลี่ยนไปใช้แพ็กเกจใหม่ได้ทันที
ที่มา - Amazon
Google Cloud Platform เปิดตัวบริการเก็บข้อมูลใหม่ที่เรียกว่า Google Cloud Storage Nearline เป็นทางเลือกสำหรับเก็บข้อมูลที่ใช้ไม่บ่อยนัก ไม่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วทันที แต่ในราคาที่ถูกกว่าข้อมูลแบบปกติมาก
โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแยกประเภทข้อมูลในสตอเรจได้ 2 แบบ คือข้อมูลออนไลน์ที่ต้องใช้งานบ่อยๆ สั่งเรียกข้อมูลแล้วได้ทันที (ตัวเลขของกูเกิลคือภายใน 0.1 วินาที) กับข้อมูลที่นานๆ ใช้ที แต่ต้องเก็บไว้ตลอดไป เช่น ข้อมูลที่ต้องเก็บไว้รอการตรวจสอบประจำปี หรือข้อมูลแบ็คอัพ เป็นต้น ข้อมูลแบบหลังมักเรียกว่า "ข้อมูลออฟไลน์" หรือ "cold storage" โดยมีราคาต่อพื้นที่ถูกกว่าแบบแรก ซึ่งก็ต้องแลกมาด้วยการเข้าถึงข้อมูลที่ช้ากว่าแบบแรกมาก (อาจจะนาน 3 ชั่วโมงขึ้นไป)
ไมโครซอฟท์ได้อัพเดตแอพ OneDrive for Windows Phone โดยเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ดังนี้
ดาวน์โหลดได้แล้วที่ Windows Phone Store ครับ
ข่าวนี้อาจจะเก่าหน่อยนะครับ น่าจะประมาณปลายปีที่แล้ว 百度云 (Baidu Cloud) เว็บไซต์ให้บริการจัดเก็บไฟล์บนกลุ่มเมฆ เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ฝากไฟล์ฟรีที่มีความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งานประเทศจีน แจกฟรีพื้นที่ 2TB ให้ใช้งานกันได้ฟรีๆ
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่มีผู้ใช้งานครบ 100 ล้านคนในกิจกรรมวันขอบคุณพระเจ้า (百度云用户破亿感恩活动) Baidu Cloud จึงได้จัดโปรโมชันแจกฟรีพื้นที่ 2TB เพียงแค่ติดตั้งแอพมือถือ BaiduYun ของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ไอโฟนและไอแพด แล้วลงชื่อเข้าใช้งาน เพียงเท่านี้ก็จะได้พื้นที่จัดเก็บขนาด 2TB ฟรีๆ (ดูวิธีการรับพื้นที่ฟรีและดาวน์โหลดได้จากที่มาข่าว)
เมื่อวานเพิ่งมีข่าว Microsoft แจกพื้นที่ OneDrive ฟรี 100 กิกะไบต์ เป็นเวลา 2 ปีให้ผู้ใช้ทุกคน ล่าสุดบริษัทประกาศแจกพื้นที่ OneDrive ฟรี 100 กิกะไบต์ เป็นเวลา 1 ปีให้ผู้ที่มีบัญชี Dropbox ครับ ใครต้องการรับสิทธิ์ให้คลิกลิงก์ OneDrive ตามที่มาของข่าว
จากข่าวก่อนหน้านี้ที่ไมโครซอฟท์ประกาศแจกพื้นที่เก็บข้อมูลบน OneDrive ขนาด 100GB ให้ผู้ใช้เฉพาะในสหรัฐอเมริกาภายใต้โครงการ Bing Reward (ข่าวเก่า)
แต่ว่าตอนนี้ไมโครซอฟท์ตอบรับเสียงจากผู้ใช้งานทั่วโลกแล้ว โดยที่ผู้สนใจทั่วไป สามารถเพิ่มพื้นที่ได้ฟรีเพียงแค่คลิกที่ลิงก์นี้ รับพื้นที่ฟรี OneDrive 100 GB