ไมโครซอฟท์ชี้แจงประเด็นที่มีคนพบว่า OneDrive บน Windows เวอร์ชันที่อัพเดตล่าสุด แสดงหน้าต่างถามให้บอกเหตุผลหากปิดโปรแกรม ว่าทำไมถึงตัดสินใจปิดโปรแกรม ซึ่งดูเพิ่มความยุ่งยากกับผู้ใช้งาน
โดยตัวแทนของไมโครซอฟท์บอกว่า ตั้งแต่ 1-8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ลูกค้า OneDrive กลุ่มเล็ก ๆ จะพบการแสดงหน้าต่างขึ้นมาเมื่อปิดตัวซิงก์ไฟล์ของ OneDrive ซึ่งเป็นการสอบถามความเห็นถึงเหตุผลที่เลือกปิดโปรแกรม ความเห็นประเภทนี้ช่วยให้ไมโครซอฟท์นำมาปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น
ก็สรุปได้ว่าการทดสอบนี้สิ้นสุดแล้ว ไม่น่าจะมีผู้ใช้งานเห็นข้อความสอบถามอีก
มีรายงานจากผู้ใช้จำนวนหนึ่ง พบว่าในโปรแกรม OneDrive บน Windows 11 เวอร์ชันล่าสุด จะขึ้นหน้าต่างสอบถามข้อมูลเมื่อสั่งปิดโปรแกรม โดยให้เลือกเหตุผลว่าทำไมจึงปิด OneDrive และต้องตอบก่อนจึงจะสามารถปิดโปรแกรมได้
ตัวเลือกที่มีได้แก่: ไม่ต้องการให้ OneDrive รันตลอดเวลา, ไม่รู้ว่า OneDrive คืออะไร, ไม่ได้ใช้ OneDrive, เป็นการแก้ปัญหาที่เกิดกับ OneDrive, ต้องการให้คอมพิวเตอร์เร็วขึ้น, แจ้งเตือนเยอะเกินไป และอื่น ๆ
การทำแบบสอบถามข้อมูลเพื่อนำไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์นั้นอาจเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่อาจจะดูจุกจิกหน่อยหากมาถามตอนต้องการปิดโปรแกรม ทั้งนี้ไม่พบว่าการถามข้อมูลเกิดกับผู้ใช้งานทุกคน
ไมโครซอฟท์ประกาศยกเลิกแผนนับพื้นที่ใช้งาน OneDrive ส่วนของรูปถ่ายแบบใหม่ ที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ ว่าจะมีผลตั้งแต่ 16 ตุลาคม 2023 เป็นต้นไป โดยบอกว่าหลังจากได้รับความเห็นจากผู้ใช้งาน บริษัทเปลี่ยนใจไม่ใช้วิธีการนี้แล้ว
ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ประกาศว่ารูปถ่ายที่อยู่ใน OneDrive Gallery และรูปที่อยู่ใน Photo Albums จะถูกนับพื้นที่ใช้งานแยกกัน ซึ่งผู้ใช้งานหลายคนมองว่าเป็นการนับพื้นที่ใช้งานสองรอบ ส่งผลให้พื้นที่ถูกนับเกินกว่าที่ใช้จริง จึงเกิดการทักท้วงและไมโครซอฟท์ก็ยอมปรับวิธีคำนวณนั่นเอง
ไมโครซอฟท์ประกาศยกเครื่อง OneDrive เป็นเวอร์ชัน 3.0 เปลี่ยนแปลงใหม่หมดตั้งแต่ดีไซน์ UX/UI ไปจนถึงฟีเจอร์ โดยปรับมาใช้ Fluent Design ให้เข้ากับดีไซน์ของ Windows 11 และตระกูล Office พร้อมปรับการแสดงผลหน้าโฮมใหม่ และเพิ่มแถบ For You ที่ใช้ AI เลือกการแสดงผลไฟล์ที่คาดว่าเราจะเปิด คล้ายๆ กับบน File Explorer บน Windows 11
ไมโครซอฟท์ประกาศข้อมูลในเว็บ Microsoft 365 roadmap ว่า OneDrive เวอร์ชันเว็บจะสามารถทำงานแบบออฟไลน์ได้ในเร็วๆ นี้ ผู้ใช้สามารถจัดการไฟล์ ลบไฟล์ เปลี่ยนชื่อ ย้ายไฟล์ได้ผ่านเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องมีอินเทอร์เน็ต และการเปลี่ยนแปลงจะซิงก์กลับเมื่อต่อเน็ตในภายหลัง
หากไฟล์นั้นมีสำเนาในเครื่องอยู่แล้ว (“always available offline”) เราสามารถเปิดไฟล์ดูได้ตามปกติ
ฟีเจอร์นี้จะเริ่มใช้งานแบบพรีวิวในเดือนพฤศจิกายน และปล่อยทั่วไปในเดือนธันวาคม 2023
เราเพิ่งเห็นข่าว Dropbox ยกเลิกแผนใช้งานพื้นที่ไม่จำกัดของลูกค้าธุรกิจ หลังพบนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ ล่าสุดเว็บไซต์ TechRadar ว่าไมโครซอฟท์ถอดแพ็กเกจไม่จำกัดของ OneDrive ออกไปแบบเงียบๆ ไม่ขายให้ลูกค้าใหม่แล้ว
แพ็กเกจนี้เรียกว่า OneDrive for Business (Plan 2) มีเฉพาะ OneDrive อย่างเดียวไม่รวม Office ปกติขายราคา 10 ดอลลาร์ต่อผู้ใช้ต่อเดือน ใช้งานพื้นที่เก็บข้อมูลได้ไม่จำกัด แต่ตัวเลือกนี้ถูกถอดออกไปจากหน้าเว็บ OneDrive เหลือแค่เพียง OneDrive for Business (Plan 1) ราคา 5 ดอลลาร์ต่อเดือน ได้พื้นที่ 1TB ต่อผู้ใช้
ไมโครซอฟท์เผย OneDrive for Web โฉมใหม่ หน้าตาทันสมัยขึ้นกว่าเดิม เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างโฟลเดอร์แยกตามสีได้ (เรียกร้องกันมานานมาก) แยกดูไฟล์ตามเพื่อนร่วมงานแต่ละคน หรือการประชุมแต่ละครั้งได้
หน้าตาโดยรวมของ OneDrive ตัวใหม่ดูสะอาด เรียบง่ายมากขึ้น เพิ่มตัวกรองประเภทของไฟล์ในทุกหน้าจอ, เพิ่มฟีเจอร์ช็อตคัตของไฟล์แบบเดียวกับระบบจัดการไฟล์ของวินโดวส์, สามารถทำงานออฟไลน์ได้แม้อยู่ในเบราว์เซอร์, เพิ่มตัวเลือกว่าจะเปิดไฟล์ในเบราว์เซอร์หรือในแอพเดสก์ท็อป (Open in App) และใช้ AI ช่วยคัดกรองไฟล์ที่ใช้บ่อยมานำเสนอ
ไมโครซอฟท์ออกแพ็กเกจ Microsoft 365 Basic รุ่นราคาถูก 1.99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 19.99 ดอลลาร์ต่อปี โดยได้พื้นที่ OneDrive 100GB, Outlook แบบไม่มีโฆษณา และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม
แพ็กเกจนี้ไม่ใช่ของใหม่ เพราะไมโครซอฟท์มีแพ็กเกจ OneDrive Standalone 100GB ราคา 1.99 ดอลลาร์ต่อเดือนอยู่แล้ว สิ่งที่เปลี่ยนคือชื่อแพ็กเกจมาใช้แบรนด์ Microsoft 365 และเพิ่มของที่ได้อีกหน่อย เริ่มขายวันที่ 30 มกราคม 2023 เป็นต้นไป (ผู้ใช้แพ็กเกจ OneDrive 100GB เดิมจะย้ายมาเป็นแพ็กเกจใหม่ให้อัตโนมัติ)
ไมโครซอฟท์ประกาศว่า OneDrive บริการสตอเรจออนไลน์ มีอายุครบ 15 ปีแล้ว (เปิดตัว 9 สิงหาคม 2007) ซึ่งตัวบริการก็มีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่มาโดยตลอด ส่วนตัวเลขผู้ใช้งานนั้น ไมโครซอฟท์บอกว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 240% และมีลูกค้าองค์กรรายใหญ่หลายแห่งเลือกใช้งาน
เพื่อฉลองครบรอบ 15 ปี ไมโครซอฟท์จึงประกาศปรับปรุงหน้าแรกของ OneDrive รูปแบบใหม่เรียกว่า OneDrive Home เพื่อช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงล่าสุด รวมทั้งมีฟิลเตอร์แยกประเภทต่าง ๆ ของไฟล์ และดูกิจกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
บริษัทคลาวด์สตอเรจแบบโฮสต์เอง Nextcloud จากเยอรมนี ร่วมกับกลุ่มบริษัทซอฟต์แวร์สายโอเพนซอร์สจากยุโรป ยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการยุโรป (European Commission) ให้ตรวจสอบไมโครซอฟท์ในข้อหาผูกขาด OneDrive ผ่านการพ่วงไปกับ Windows
Nextcloud ให้บริการระบบแชร์ไฟล์และการสื่อสารภายองค์กร (แชท อีเมล ปฏิทิน) ซึ่งถือเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Office 365 จุดต่างคือระบบของ Nextcloud เป็นการโฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรเอง (on premise) ด้วยเหตุผลเรื่องต้นทุน การเข้าถึง ความปลอดภัย
Nextcloud ระบุว่าพฤติกรรมการพ่วง OneDrive หรือ Teams ของไมโครซอฟท์ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของไมโครซอฟท์ในยุโรปเพิ่มสูงถึง 66% ในขณะที่ผู้ให้บริการรายย่อยๆ เหลือส่วนแบ่งเพียง 16% ถือว่าคล้ายกับกรณีผูกขาดเว็บเบราว์เซอร์ในอดีตมาก
ไมโครซอฟท์ประกาศเตรียมหยุดซัพพอร์ต OneDrive ที่เป็นโปรแกรมเวอร์ชันเดสก์ท็อป สำหรับผู้ใช้งาน Windows 7, Windows 8 และ Windows 8.1 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2022 เป็นต้นไป โดยตั้งแต่วันดังกล่าว OneDrive จะหยุดซิงก์ไฟล์ แต่ยังสามารถเข้าถึงไฟล์ได้ผ่านเว็บ
เหตุผลนั้นก็ตรงไปตรงมา คือ Windows ดังกล่าวเป็นเวอร์ชันเก่า และไมโครซอฟท์ต้องการนำทรัพยากรทีมงานไปพัฒนาฟีเจอร์และความปลอดภัย สำหรับ Windows เวอร์ชันใหม่กว่าคือ Windows 10 และ Windows 11
ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มเครื่องมือสำหรับแก้ไขและดูรูปภาพบน OneDrive โดยบอกว่าจะมีการเพิ่มคุณสมบัติการใช้งานใหม่ ๆ ด้านการจัดการรูปภาพ อย่างต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ซึ่งทำให้ OneDrive มีความสามารถในการปรับแต่งรูปใกล้เคียง Google Photos มากขึ้น
ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาในช่วงแรกเป็นคุณสมบัติพื้นฐาน ได้แก่ การครอปภาพ, หมุนภาพ, กลับภาพ, การปรับแสงและสีพื้นฐาน รวมทั้งรองรับการแสดงภาพบน Chromecast สำหรับแอปบนมือถือ
คุณสมบัติการแก้ไขรูปภาพบน OneDrive นี้ เริ่มใช้งานได้แล้วผ่านเว็บ และแอปบน Android ส่วนแอป iOS จะเพิ่มมาในภายหลัง
ไมโครซอฟท์ประกาศขยายขนาดไฟล์ที่รองรับสูงสุดบน Microsoft 365 จากเดิม 100GB เป็น 250GB ซึ่งมีผลกับการอัพโหลดไฟล์ผ่านแอปในเครือทั้ง OneDrive, SharePoint และ Teams
ไมโครซอฟท์บอกว่าสถานการณ์ปัจจุบันทำให้ผู้ใช้งานต้องแชร์ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ผ่านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์วิดีโอระดับ 4K หรือ 8K ไปจนถึงไฟล์ 3D, ไฟล์ CAD หรือชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งมีกระบวนการปรับปรุงให้การอัพโหลดมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งไฟล์ออกเป็นส่วนย่อย และเข้ารหัสด้วยคีย์เฉพาะ
การรองรับไฟล์ขนาด 250GB จะทยอยเปิดให้ใช้งานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคม และมีผลกับผู้ใช้งานทุกคนภายในไตรมาสที่ 1
ข่าวใหญ่วันนี้คือ กูเกิลจำกัดปริมาณการอัพโหลด Google Photos และคิดพื้นที่ไฟล์ Google Docs ทำให้เกิดคำถามตามมาทันทีว่า Google Drive/Google One ยังเป็นบริการสตอเรจบนคลาวด์ที่คุ้มค่าอยู่หรือไม่
บทความจึงมาสำรวจราคาของบริการคลาวด์สตอเรจยอดนิยม 4 รายในตลาดคือ Google Drive/One, Microsoft OneDrive, Apple iCloud และ Dropbox ฉบับรอบปลายปี 2020 เพื่อดูว่าแต่ละรายมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไรบ้าง
OneDrive ประกาศของใหม่ชุดใหญ่ในงาน Microsoft Ignite 2020 โดยหลายอย่างเป็นฟีเจอร์ที่ประกาศไปแล้วรอบเดือนกรกฎาคม
สิ่งที่เป็นของใหม่และน่าสนใจในรอบนี้ได้แก่
Google มีบริการ Google Takeout สำหรับดาวน์โหลดข้อมูลของเราที่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิลมาได้พักใหญ่แล้ว ประโยชน์อย่างหนึ่งคือเป็นที่สำรองข้อมูลทั้งหมดเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ่านอุปกรณ์ใช้งาน และสามารถถ่ายโอนข้อมูลไปยังบริการภายนอกได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลดลงเครื่องก่อน
ล่าสุด Google Takeout เพิ่มความสามารถใหม่ ให้ผู้ใช้งานเลือกเฉพาะอัลบั้มบน Google Photos เพื่อถ่ายโอนออกไปยัง Flickr หรือ Microsoft OneDrive ได้ โดยระบบจะแสดงบุลเลตอัลบั้มมาให้คลิกเลือกเพื่อถ่ายโอนได้ง่าย หรือสามารถเลือกและถ่ายโอนรูปภาพทั้งหมดเลยก็ได้
ซัมซุงเริ่มลดความสำคัญของบริการ Samsung Cloud บางส่วนมาตั้งแต่ปลายปี 2019 โดยให้ย้ายไปใช้ OneDrive แทน (จากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับไมโครซอฟท์ในหลายๆ เรื่อง)
ล่าสุดซัมซุงประกาศแผนการปิดฟีเจอร์แบ็คอัพรูปจาก Samsung Gallery ขึ้น Samsung Cloud (ที่เรียกว่า Gallery Sync) ดังนี้
ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ให้ OneDrive อีกชุดใหญ่ ฟีเจอร์สำคัญได้แก่ การเพิ่มขนาดสูงสุดของไฟล์ที่รองรับจากเดิม 15GB เป็น 100GB ต่อไฟล์ ช่วยให้การแชร์ไฟล์ขนาดใหญ่มากๆ (เช่น ไฟล์วิดีโอ, 3D, CAD) ระหว่างเพื่อนร่วมงานทำได้ง่ายขึ้นมาก
ฟีเจอร์สำคัญอีกอย่างคือ Add to OneDrive หรือการเพิ่มไฟล์ที่ถูกแชร์มาเข้ามาในไดรฟ์ของเราเอง ลักษณะการใช้งานจะเป็นการเพิ่มช็อตคัตของไฟล์นั้นๆ มาอยู่ในบัญชีไดรฟ์ของเรา เพื่อให้สะดวกต่อการแก้ไขและใช้งานกว่าเดิม
OneDrive แอพบริการสตอเรจออนไลน์ของไมโครซอฟท์ ประกาศปรับฟีเจอร์สแกนเอกสารทีละหลายหน้า ให้ผู้ใช้ทั่วไปซึ่งมีแอคเคาท์ OneDrive แบบฟรีสามารถใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวได้แล้ว
จากเดิมที่เคยเป็นฟีเจอร์พรีเมี่ยมซึ่งใช้งานได้เฉพาะสมาชิกบริการ Microsoft 365 เท่านั้น
ไมโครซอฟท์บอกว่าการตัดสินใจปรับบริการครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่ทำให้หลายคนจำเป็นต้องทำงานจากที่บ้านและไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ได้เหมือนอยู่ที่ทำงาน จึงตั้งใจปล่อยฟีเจอร์สแกนเอกสารทีละหลายหน้าให้ใช้งานได้ฟรี เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีเครื่องสแกนไว้ใช้งาน
ในงานแถลงข่าว Galaxy Note 10 ซัมซุงเชิญ Satya Nadella ขึ้นมาร่วมแถลงข่าวบนเวที และประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์อย่างแนบแน่น โดยเฉพาะฟีเจอร์ Link to Windows ที่ใส่มาเป็นมาตรฐานของ Note 10 เลย
ล่าสุดความร่วมมือขยับไปอีกขั้น โดยซัมซุงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้รอม One UI 2.0 เวอร์ชัน Beta (ที่เป็น Android 10) บน Note 10 ให้ผู้ใช้สามารถซิงก์ภาพจาก Gallery ไปไว้บน OneDrive ได้โดยตรง
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ OneDrive Personal Vault ให้เก็บข้อมูลลับลงในโฟลเดอร์ของ OneDrive โดยต้องใส่รหัสผ่าน, PIN, สแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้า จึงจะปลดล็อคได้ ล่าสุดทางบริษัทเริ่มเปิดให้ใช้งานฟีเจอร์นี้แล้ว และจะขยายไปยังผู้ใช้งาน OneDrive ทั้งหมดภายในปี 2019 นี้
แขกรับเชิญสำคัญในงานแถลงข่าว Galaxy Note 10 เมื่อคืนนี้คือ Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ ที่ขึ้นมาประกาศความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์และซัมซุง
ทั้งสองบริษัทมีความร่วมมือกันอยู่แล้ว (ซัมซุงพรีโหลดแอพไมโครซอฟท์, ไมโครซอฟท์ขายมือถือซัมซุง) ประกาศความร่วมมือนี้ขยายผลของความสัมพันธ์เดิม
ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มพื้นที่สตอเรจของ OneDrive รุ่นมาตรฐาน (ที่ไม่รวม Office 365) ปกติจ่ายเดือนละ 1.99 ดอลลาร์ (ราคาไทยคือ 73.99 บาท) ได้พื้นที่ 50GB ก็จะเพิ่มพื้นที่ให้เท่าตัวเป็น 100GB มีผลทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ โดยจะเริ่มใช้ในเร็วๆ นี้ (ลูกค้าเก่าไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม ได้พื้นที่เพิ่มเลย)
ส่วนลูกค้า OneDrive ที่เป็นแพ็กเกจ Office 365 จะได้พื้นที่ขนาด 1TB ต่อคนอยู่แล้ว ไมโครซอฟท์ก็เพิ่มตัวเลือกให้ซื้อพื้นที่สตอเรจเพิ่มได้ถ้าต้องการ โดยคิดราคาทุก 200GB ต่อ 1.99 ดอลลาร์ เพิ่มได้สูงสุดอีก 1TB (รวมเป็นทั้งหมด 2TB) ในราคา 9.99 ดอลลาร์ สามารถปรับลดพื้นที่สตอเรจได้ตามต้องการตลอดเวลา
Slack อาจมอง Microsoft Teams เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว ถึงขั้นซื้อโฆษณาหนังสือพิมพ์ ในวันที่ Microsoft Teams เปิดตัว แต่เมื่อโลกธุรกิจหมุนรอบบริการต่างๆ ของไมโครซอฟท์ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่ Slack จะต้องเชื่อมต่อกับบริการของไมโครซอฟท์ให้แนบแน่นขึ้น
วันนี้ Slack จึงประกาศทำ integration กับบริการแอพในชุด Office 365 ของไมโครซอฟท์หลายตัว ดังนี้
Groove Music บริการฟังเพลงออนไลน์ของไมโครซอฟท์ที่หยุดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2017 โดยยังคงเหลือแอพ Groove ไว้ให้ใช้งาน ในฐานะแอพฟังเพลงพื้นฐานของ Windows 10 กำลังจะถูกลดทอนความสามารถอีกครั้งหลังสื้นเดือนมีนาคมนี้
จากข้อมูล FAQ บนเว็บสนับสนุนของไมโครซอฟท์ ได้มีการประกาศยุติให้บริการสตรีมเพลงจาก OneDrive ภายหลังจากวันที่ 31 มีนาคม 2019 ซึ่งจะส่งผลให้แอพ Groove และเกม Forza Horizon 3 ที่ใช้บริการดังกล่าว ไม่สามารถสตรีมเพลงออนไลน์จาก OneDrive ได้อีกต่อไป