ข้อมูลเรื่อง Pixel 4 มีออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ข้อมูลที่ Google ออกมาเปิดเผยเองว่าใช้เซ็นเซอร์ Soli ไปจนถึงข่าวลือว่าใช้หน้าจอ 90Hz และแรม 6GB
ล่าสุด XDA ค้นพบคอมเมนท์ที่อยู่ในส่วน commit ในซอสโค้ด Android 10 โดยในส่วนที่เป็น flag สำหรับเซอร์วิส SurfaceFlinger เพื่อเปิดปิดการแสดงผล 90Hz ขณะที่คอมเมนท์ระบุว่า "flag นี้จะหายไปเมื่อหน้าจอใหม่ถูกใช้งานและจะถูกควบคุมผ่านสวิตช์ใน setting แทน ซึ่งสวิตช์นี้จะอยู่ในเครื่อง P19 เท่านั้น" และทาง XDA คาดว่า P19 หมายถึง Pixel 2019 และแน่นอนว่าน่าจะเป็น Pixel 4 เพราะ Pixel 3a ที่ออกมาก่อนหน้านี้รีเฟรชเรทของหน้าจออยู่แค่ 60Hz เท่านั้น
สมาร์ทโฟนตระกูล Pixel 3 และ 3a เป็นรุ่นแรกที่รองรับ 2 ซิมโดยเป็นซิมจริงและ eSIM ทว่าเดิมผู้ใข้จำเป็นต้องคอยสลับใช้งาน 2 ซิม ไม่สามารถให้แอคทีฟพร้อมกันได้ ล่าสุดการอัพ Android 10 ทำให้ Pixel 3a (อย่างน้อย ณ ตอนนี้) สามารถเปิดใช้งานได้ 2 ซิมพร้อมกัน
การเปิดแอคทีฟ 2 ซิมช่วยให้ผู้ใข้สามารถโทรออกรับสายได้ 2 ซิมพร้อมกัน แต่ก็ยังจำเป็นต้องเลือกซิมหลัก (default) ให้อยู่ดี
ที่มา - Google Support via The Verge
จากข่าว แอปธนาคาร K PLUS, TMB Touch และ CITI ยังใช้งานบน Android 10 ไม่ได้
ธนาคารกสิกรไทย แจ้งข้อมูลมาทาง Blognone ดังนี้
ลูกค้าสามารถอัพเดท K PLUS version 5.3.2 เพื่อรองรับการใช้งาน Android version 10 ได้ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2562 เป็นต้นไป
ปีที่แล้วคนที่ใช้งาน Pixel น่าจะเจอปัญหาแอป K PLUS ใช้งานไม่ได้หลังอัพ Android Pie ต้องรออัพเดตสักระยะถึงกลับมาใช้งานได้ วันนี้ Android 10 ถูกปล่อยตัวเต็มให้กับผู้ใช้งาน Pixel แล้ว ซึ่งผมพบปัญหาเดิมคือแอป K PLUS ยังคงใช้งานไม่ได้เช่นเดิม
นอกจาก K PLUS แล้วแอปธนาคารอื่นที่ผมทดสอบก็มี TMB Touch และ CITI ที่ยังไม่สามารถใช้งานบน Android 10 ได้เช่นกัน ใครพบแอปธนาคารอื่นที่เจอแบบเดียวกันสามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ในคอมเมนท์กรณีผมตกหล่นครับ ส่วนใครที่ใช้ 3 ธนาคารนี้เป็นธนาคารหลักและคิดจะอัพ Android 10 อาจต้องชะลอไปก่อนครับ
อัพเดต ธนาคารกสิกรไทย แจ้งว่า K PLUS จะได้อัพเดตกับ Android 10 ในวันที่ 6 กันยายน 2019
วันนี้ กูเกิลออก Android 10 ตัวจริง สิ่งที่ตามมาโดยธรรมเนียมคือตุ๊กตาหุ่น Android ที่หน้าสำนักงานใหญ่ของกูเกิลในแคลิฟอร์เนีย
หลายคนอาจสงสัยว่า Android 10 ไม่ใช้ชื่อขนมแล้ว จะใช้ตุ๊กตาเป็นรูปอะไร คำตอบคือกูเกิลตั้งรูปเลข 10 ที่มีหัวของหุ่นเขียว Android อยู่ในเลข 0 นั่นเอง
กูเกิลเปิดตัว Android 10 หรือชื่อเดิมคือ Android Q เป็นทางการ โดยโทรศัพท์ชุดแรกที่จะได้รับอัพเดต คือ Pixel, Pixel 2, และ Pixel 3 แม้จะเริ่มปล่อยอัพเดตวันนี้แต่แต่ละเครื่องก็จะค่อยๆ ได้รับจนครบในช่วงเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์
ฟีเจอร์ใหม่ของ Android 10 มี ฟีเจอร์สำคัญคือ Live Caption ที่สามารถแสดงข้อความจากเสียงในแอปได้ (แอปสามารถสั่งห้ามได้) สำหรับฟีเจอร์อื่นๆ ที่สำคัญ ได้แก่
กูเกิลเพิ่งประกาศเลิกใช้นโยบาย Android ชื่อขนมกับ Android 10 เป็นต้นไป แต่ก็ยังมีหลายคนสงสัยว่า ถ้าหาก Android Q ยังใช้ชื่อขนมอยู่แบบเดิม จะใช้ชื่อว่าอะไร
Dave Burke หัวหน้าทีมวิศวกรรม Android ไปออกรายการพ็อดแคสต์ All About Android และเผยโค้ดเนมของ Android Q ว่ามี 2 ชื่อดังนี้
2-3 ปีที่ผ่านมา Google จะปล่อย Android เวอร์ชันใหม่ตัวจริงให้กับ Pixel ราวเดือนสิงหาคม ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้คือการประกาศเปลี่ยนชื่อรุ่นจากขนมเป็น Android 10 และสิ่งที่ทุกคนยังคงรอคอยคือวันปล่อยอัพเดตเวอร์ชันจริง
ล่าสุด PhoneArena รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากผู้ใช้งานที่สอบถามไปยัง Google Support และได้รับคำตอบว่า Google จะปล่อยอัพเดตเวอร์ชันจริงในวันที่ 3 กันยายนนี้ ซึ่งตระกูล Pixel ก็ไม่พ้นจะได้เป็นรุ่นแรกๆ
ที่มา - PhoneArena
HMD Global เป็นผู้ผลิตมือถือรายแรกที่ออกมาประกาศแผนการอัพเดต Android 10 (ชื่อใหม่ของ Android Q) โดยแบ่งเป็น 5 ระยะ ดังนี้
ในที่สุด Android Q ก็ได้ชื่อใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว แต่ตัว Q จะไม่ใช่ชื่ออาหารและของกินเหมือนอย่างเคย แต่เป็นชื่อพื้นฐาน เรียกง่ายๆ คือ "Android 10"
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา Reddit ได้จัดฟอรัม AMA กับทีมวิศวกรแอนดรอยด์ได้เข้ามาตอบคำถามเกี่ยวกับแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ โดยเฉพาะในหลายๆ ประเด็นที่ยังไม่เคลียร์ ดังนี้
ที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนหลายรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ Clear App, Battery Optimization หรือจัดการแรมของเครื่อง ซึ่งจะปิดแอปทั้งหมดที่ทำงานเบื้องหลัง ทว่าในการใช้งานจริงผู้ใชักลับพบปัญหาว่าแอปบางตัวช้าหรือที่เปิดค้างไว้ถูกปิดไป และโทษกลายเป็นความผิดของตัวแอปไป และก็ออกชุดทดสอบ CTS ที่แก้ปัญหาไม่ปิดแอปหากถูกปาดทิ้งในหน้า Recents แล้ว
กูเกิลฉลองวันอีโมจิโลก (World Emoji Day) ซึ่งเป็นวันที่ 17 กรกฎาคมของทุกปี โดยเปิดเผยภาพอีโมจิใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดใช้งานใน Android Q
ความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือความเป็นกลางทางเพศมากขึ้น ภาพคนคู่ (couple) นั้นมีให้เลือกถึง 71 แบบ ผสมระหว่างเพศสภาพและสีผิวแบบต่างๆ รวมถึงภาพคนที่ไม่ระบุเพศสภาพ เช่นเดียวกับอาชีพหรือภาพที่คำบรรยายไม่ได้ระบุเพศ กูเกิลจะเลือกใช้ภาพที่ไม่แสดงถึงเพศของคนในภาพเช่นเดียวกัน โดยกูเกิลระบุว่าจะมีตัวเลือกให้ระบุเพศในคีย์บอร์ดอีกครั้ง
ภาพที่เพิ่มเข้ามาใหม่ เช่น ตัวสลอต, นาก, กระเทียม, วาฟเฟิล, คนคุกเข่า, สุนัขนำทาง, มีดโกน ฯลฯ
ที่วันอีโมจิโลกเป็นวันนี้เนื่องจากอีโมจิปฎิทินที่สร้างโดยแอปเปิลเมื่อปี 2002 ใช้วันนี้บนภาพ
กูเกิลเขียนบล็อกเล่าฟีเจอร์ใหม่ของ Android Q คือ API ตัวใหม่ชื่อ AudioPlaybackCapture API ทำให้แอพสามารถ "อัดเสียง" (audio capture) จากแอพตัวอื่นๆ หรือระบบปฏิบัติการได้
ตัวอย่างการใช้งาน API นี้คือ การอัดคลิปเล่นเกมหรือสตรีมเกม หรือดึงข้อมูลเสียงพูดระหว่างการทำไลฟ์ไปยังโปรแกรมแปลงเสียงเป็นข้อความ (หรือแปลภาษาแบบเรียลไทม์) ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องใช้วิธีการเฉพาะในการดึงเสียงมาจากระบบปฏิบัติการ แต่ตอนนี้คือ Android Q มี API ให้เรียกใช้โดยตรง (แอพที่ตั้ง target API เป็นเวอร์ชัน 29 ขึ้นไปจะถูกแอพอื่นขอบันทึกเสียงได้)
แม้ Google จะออกมาประกาศตัดสัมพันธ์กับ Huawei ตามคำสั่งประธานาธิบดีจนทำให้ความเชื่อมั่นในแบรนด์หายไป ถึงกระนั้นสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นก็ยังดูมีอนาคตอย่างน้อยก็ใน Android Q รุ่นหน้า เมื่อ Huawei ออกมาประกาศรายชื่อที่ได้รับอัพเดตทั้งหมด 17 รุ่น
รายชื่อทั้งหมดมีตั้งแต่รุ่นล่าสุดไปจนถึงรุ่นที่ออกมา 2 ปีแล้วได้แก่
Xiaomi ประกาศมือถือชุดแรกที่จะได้อัพเกรดเป็น MIUI 11 ที่พัฒนาจาก Android Q โดยมีกำหนดออกรอมในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2019
ประกาศนี้สำหรับสมาร์ทโฟนที่วางขายในตลาดจีนเป็นหลัก สำหรับตลาดนอกประเทศจีนคงต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
ที่มา - 9to5google
ใน Android Q Beta 4 ที่เพิ่งออกมาเมื่อเช้า มีหนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่ค่อนข้างน่าสนใจและมีประโยชน์โดยเฉพาะกับนักพัฒนาแอป ได้แก่ฟีเจอร์ที่เรียกว่า Dynamic System Update (DSU)
DSU ช่วยให้นักพัฒนาแอปหรือคนที่ต้องการทดสอบรอมใหม่ สามารถดาวน์โหลด, ติดตั้งและบูทรอม (เช่นรอม GSI) จากพาร์ทิชันใหม่ (Dynamic Partition) ในเครื่องได้ โดยไม่ทับหรือยุ่งเกี่ยวใดๆ กับรอมในพาร์ทิชันหลักที่มีอยู่ในเครื่อง แถมยังสามารถบูทรอมไหนสลับไปมาก็ได้อย่างอิสระ ช่วยให้การทดสอบแอปหรือทดสอบรอมใหม่ สะดวกมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำรอง
กูเกิลปล่อย Android Q Beta 3 ที่งาน Google I/O 2019 ต้นเดือนที่แล้ว เวลาผ่านมาประมาณหนึ่งเดือนก็ได้เวลาของ Android Q Beta 4
ของใหม่ในแง่ฟีเจอร์ต้องถือว่าไม่มีแล้ว เพราะปล่อยของใน Beta 3 ไปหมดแล้ว ทำให้ Beta 4 เป็นช่วงของการแก้บั๊กและปรับระบบให้เสถียร ตอนนี้สถานะของ API ถือว่านิ่งแล้วไม่ถูกแก้ไขอีก (นับเป็น API level 29) นักพัฒนาสามารถทดสอบแอพของตัวเองว่าทำงานบน Android Q ได้หรือไม่ นับจาก Beta 4 เป็นต้นไป
อุปกรณ์กลุ่ม Pixel สามารถอัพเดตเป็น Android Q Beta 4 ได้แล้ววันนี้ และกูเกิลก็แนะนำให้นักพัฒนาอัพเดต Android SDK เป็น Q เพื่อทดสอบแอพ รวมถึงเปิดให้แอพที่รันได้บน Android Q ส่งขึ้น Google Play Store ได้แล้ว
หลัง Google ตัดสัมพันธ์กับ Huawei ทำให้รายชื่อสมาร์ทโฟน Huawei ถูกถอดออกจากทั้งรายชื่อบน Android, Android Enterprise และ รายชื่อสมาร์ทโฟนที่ทดสอบ Android Q เบต้า
ล่าสุด Android Police ค้นพบว่ารายชื่อสมาร์ทโฟนที่ทดสอบ Android Q เบต้ากลับมามีชื่อของ Huawei Mate 20 Pro แล้ว ทว่าในหน้ารายชื่อ Android และ Android Enterprise ยังคงไม่มีรายชื่อของ Huawei เช่นเดิม
ที่มา - Android Q Beta Devices via Android Police
ต่อเนื่องจากกรณีกูเกิลตัดสัมพันธ์กับ Huawei โดยก่อนหน้านี้ Huawei ให้ข้อมูลว่าสมาร์ทโฟนในปัจจุบันจะได้อัพเดตแพตช์ความปลอดภัยต่อไป แต่ไม่เอ่ยถึงการอัพเกรดเวอร์ชันของ Android เป็นเวอร์ชันใหญ่ ก่อให้เกิดคำถามตามมาว่าตกลงแล้ว สมาร์ทโฟนของ Huawei จะได้อัพเวอร์ชันหรือไม่ (สถานะปัจจุบันคือ Huawei ยังไม่ตอบเรื่องนี้ตรงๆ)
ล่าสุดกูเกิลถอดชื่อของ Huawei Mate 20 Pro ออกจากหน้าเว็บ Android Q Beta Devices เรียบร้อยแล้ว กูเกิลเพิ่งประกาศในงาน Google I/O 2019 เมื่อต้นเดือนนี้เองว่ามีแบรนด์ใดบ้างเข้าร่วมทดสอบ Android Q ซึ่ง Huawei ก็เป็นหนึ่งในนั้น
อีกหนึ่งฟีเจอร์น่าตื่นเต้นของ Android Q คือ Live Caption ที่สามารถแปลงเสียงเป็นข้อความได้ทั้งเสียงจากในโทรศัพท์และเสียงจากภายนอก ช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินใช้งานโทรศัพท์ได้ง่ายขึ้น
การทำงานของ Live Caption กดปุ่มเดียวให้ระบบตรวจจับเสียงจากที่ต่างๆ ทั้งเสียงที่อัดจากเครื่อง เสียงจากแอพพอดคาสต์ ข้อความเสียง วิดีโอ หรือเสียงอะไรก็ตามที่มาจากแอพอื่นๆ ระบบจะถอดเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต
ฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจของ Android Q คือ Project Mainline หรือการแบ่งบางส่วนของตัวระบบปฏิบัติการออกมาให้อัพเดตผ่าน Play Store ได้เหมือนอัพเดตแอพปกติ ไม่ต้องรอรอบการอัพเดต OS เวอร์ชันใหญ่จากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อีกต่อไป
Project Mainline เป็นขั้นกว่าของ Project Treble หรือการแยกชั้นฮาร์ดแวร์ออกจากตัว OS ในปี 2017 โดยส่วน OS ที่เหลืออยู่ (Android OS Framework) จะถูกจับแยกเป็นโมดูลต่างๆ เพื่อให้แยกอัพเดตเฉพาะโมดูลที่มีการเปลี่ยนแปลงได้
ในงาน Google I/O ปีนี้กูเกิลเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมของ Android Q หลายอย่าง แม้จะมีฟีเจอร์ที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ใช้ เช่น Live Caption ที่สามารถแปลงเสียงเป็นข้อความได้ทั้งเสียงจากในโทรศัพท์และเสียงจากภายนอก, หรือ Assistant ตัวใหม่ที่ทำงานเร็วขึ้นและมีฟีเจอร์มากขึ้น แต่หัวใจของฟีเจอร์ทั้งหมดคือกูเกิลแก้ข้อครหาด้านความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว
ความเป็นส่วนตัวใน Android Q สำคัญถึงขั้นที่กูเกิลพูดในช่วง keynote ของวันแรก และเป็น session แรกของงานวันที่สอง ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สำคัญๆ เช่น
ฟีเจอร์ใหม่ของ Android Q Beta 3 ที่เพิ่งปล่อยให้ทดสอบกันเมื่อคืนนี้คือ Dark Theme ที่ทุกคนอยากได้กันมานาน
ผมมีโอกาสอัพเดต Google Pixel 3 เป็น Android Q Beta 3 เลยนำภาพมาฝากกันให้ดูว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
วิธีการใช้งาน Dark Theme ต้องเข้าไปที่หน้า Settings > Display แล้วมีตัวเลือกเปลี่ยน Theme เป็น Light/Dark กดเปลี่ยนเท่านี้ก็เรียบร้อย (มี toggle Dark Theme ในหน้า Quick Settings ด้วยเพื่อความสะดวกในการเปลี่ยน)
ปัจจุบันถ้าเราไม่อยากให้โทรศัพท์ส่งเสียงแจ้งเตือนเมื่อต้องการสมาธิ ก็แค่ปิดเครื่อง เปิดโหมดเครื่องบิน ปิดการแจ้งเตือน แต่บางครั้งก็ยังต้องการการแจ้งเตือนจากอีเมล โทรศัพท์สายสำคัญ
ล่าสุด Google เพิ่มอีกทางเลือกคือ Focus Mode ให้ผู้ใช้เลือกบางแอพที่จะต้องไม่ส่งเสียงแจ้งเตือนเวลาที่ผู้ใช้กำลังใช้งาน Focus Mode แต่ในขณะเดียวกัน แอพอื่นที่ไม่ได้ถูกเลือกจะยังคงส่งการแจ้งเตือนมาตามปกติ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้มากกว่าเดิม
กูเกิลเปิดฟีเจอร์ใหม่ของ Android Q โดยเน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยมากขึ้น โดยมีฟีเจอร์สำคัญได้แก่