โซนี่ประกาศรายชื่อมือถือและแท็บเล็ตแบรนด์ Xperia ที่จะได้อัพเกรดเป็น Android 6.0 Marshmallow ดังนี้

• Xperia Z5, Xperia Z5 Compact, Xperia Z5 Premium
• Xperia Z4 Tablet
• Xperia Z3+, Xperia Z3, Xperia Z3 Compact, Xperia Z3 Tablet Compact
• Xperia Z2, Xperia Z2 Tablet
• Xperia M5, Xperia C5 Ultra
• Xperia M4 Aqua and Xperia C4

โซนี่ยังไม่ระบุกรอบเวลาว่าจะปล่อยอัพเดต Android 6.0 เมื่อไร อันนี้ต้องรอกันต่อไปครับ

ที่มา - Sony Mobile Blog

หลังจากที่กูเกิลได้ประกาศว่าจะออกอัปเดต Android 6.0 Marshmallow เวอร์ชันสมบูรณ์ ให้กับอุปกรณ์ Nexus ในสัปดาห์นี้ กูเกิลก็ใช้เวลาไม่นานในการทำตามสัญญา โดยนำไฟล์ factory image ขึ้นเว็บไซต์แล้ว (build MRA58K) และประกาศว่าเริ่มทยอยอัปเดตทาง OTA แล้วเช่นกัน

อุปกรณ์ Nexus รุ่นที่ได้อัปเดต Marshmallow ได้แก่รุ่น 5, 6, 7 (2013), 9 และ Player

Motorola ออกมาประกาศรายชื่อโทรศัพท์ชุดแรกที่จะได้อัพเกรดเป็น Android 6.0 Marshmallow ดังนี้

• 2015 Moto X Pure Edition, Moto X Style, 2015 Moto X Play
• 2015 Moto G (3rd gen)
• 2014 Moto X Pure Edition in the US (2nd gen), Moto X in Latin America, Europe and Asia2 (2nd gen)
• 2014 Moto G and Moto G with 4G LTE2 (2nd gen)
• DROID Turbo
• 2014 Moto MAXX, Moto Turbo
• Nexus 6

ข่าวที่น่าตกใจคือ Moto E รุ่นปี 2015 ที่เปิดตัวช่วงต้นปี กลับไม่อยู่ในรายชื่อที่จะได้อัพเกรดเป็น Android 6.0 ด้วย ทั้งที่ยังออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งปีเต็มด้วยซ้ำ

ตามธรรมเนียมของ HTC หลังการเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ จะต้องรีบมาประกาศรุ่นที่ได้อัพเดต พร้อมกำหนดการอัพเดตคร่าวๆ ซึ่งรอบของ Android 6.0 Mashmallow ได้มาถึงแล้ว

สำหรับรุ่นที่ได้ไปต่อกับ MarshMallow ส่วนมากเป็นรุ่นระดับกลางๆ ที่ขายตั้งแต่ปีที่แล้วเกือบทั้งหมด โดยรุ่นเรือธงทั้งของปีนี้ และปีก่อนอย่าง One M9 และ One M8 จะได้อัพเดตก่อนใครช่วงปลายปีนี้ ส่วน One M7 ถูกลอยแพหลังหมดระยะเวลาสนับสนุนเป็นที่เรียบร้อย รายชื่อรุ่นอื่นๆ ที่ได้อัพเดตด้วยมีดังนี้

• One M9+
• One E9/E9+
• One ME
• One E8
• One M8 EYE
• Butterfly 3
• Desire 826/820/816

ใครถือรุ่นในกลุ่มนี้อยู่ก็สบายใจไปอีกเปลาะครับ

เมื่อคืนนี้กูเกิลเปิดตัว Android 6.0 Marshmallow อย่างเป็นทางการ ระหว่างที่เราต้องรอกูเกิลปล่อยอัพเดตในสัปดาห์หน้า ก็มาดูรายการฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ Marshmallow กันก่อนครับ

ในภาพรวมแล้ว Android 6.0 ไม่เน้นฟีเจอร์ใหม่เยอะ แต่เน้นพัฒนาคุณภาพของระบบโดยรวมให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูจากในวิดีโอการถ่ายทอด และรายการฟีเจอร์บนเว็บกูเกิลเอง ก็มีการเปลี่ยนแปลงย่อยๆ อยู่เยอะเหมือนกัน

กูเกิลประกาศแผนการปล่อยอัพเดต Android 6.0 Marshmallow รุ่นสมบูรณ์ใน "สัปดาห์หน้า" (ยังไม่ระบุวันชัดเจน) อุปกรณ์ที่ได้รับอัพเดตแน่นอนคือ

• Nexus 5
• Nexus 6
• Nexus 7 (ไม่มีรายละเอียดว่า 2012/2013)
• Nexus 9
• Nexus Player

อุปกรณ์ที่กูเกิลไม่ได้พูดถึง และคงไม่ได้ไปต่อแล้วคือ Nexus 4 และ Nexus 10

กูเกิลเริ่มปล่อยอัพเดต Google Play services 8.1 อย่างเป็นทางการ (ข่าวการอัพเดตก่อนหน้านี้) โดยประกาศชัดเจนว่าเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับ Android 6.0 Marshmallow

ของใหม่ได้แก่

มาถึงตอนนี้เรารู้กันแล้วว่า กูเกิลจะจัดงานแถลงข่าว 29 กันยายนนี้ เพื่อเปิดตัว Nexus รุ่นใหม่ พร้อม Android 6.0 Marshmallow

คำถามต่อมาคือ Android 6.0 จะปล่อยไฟล์ให้อัพเดตกันเมื่อไร? ข้อมูลที่หลุดออกมาตอนนี้ มาจากโอเปอเรเตอร์แคนาดา Telus ที่ระบุว่ากูเกิลจะเริ่มปล่อยไฟล์อัพเดต Android 6.0 ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะคล้อยหลังการวางขาย Nexus 5X และ Nexus 6P เล็กน้อย

จริงแท้แค่ไหน ต้องรอดูกันบนเวทีงานวันที่ 29 นี้

ที่มา - Android Community

รอคอยกันมานาน ในที่สุดกูเกิลก็ส่งบัตรเชิญสื่อต่างประเทศร่วมงานแถลงข่าววันที่ 29 กันยายน โดยมีคำเชิญว่า "ไปกินขนมรสใหม่และของใหม่อื่นๆ" (tasty new treats and much s'more)

คาดว่างานนี้กูเกิลจะเปิดตัว Android 6.0 Marshmallow, Nexus รุ่นใหม่ที่ผลิตโดย LG และ Huawei, Chromecast รุ่นที่สอง

แฟนๆ ในบ้านเราก็สามารถติดตามได้จาก livestream บน YouTube ได้เช่นเคยครับ

หลังจากปล่อยให้รอกันมานาน วันนี้กูเกิลปล่อยอัพเดตแอพ Google Search เวอร์ชันใหม่ 5.3 ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้ที่ทดสอบ Android M รุ่นพรีวิว 3 สามารถใช้งานฟีเจอร์ Now On Tap ได้แล้ว

ฟีเจอร์ Now On Tap เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับ Android 6.0 Marshmallow เรียกใช้งานด้วยการกดปุ่มโฮมค้าง ตัวระบบจะสแกนหน้าจอในขณะนั้น และแนะนำแอพ หรือบริการที่คิดว่าผู้ใช้ต้องการในรูปแบบของการ์ดเหมือน Google Now โดยฟีเจอร์นี้ถูกพูดถึงมาตั้งแต่ Android M รุ่นพรีวิวตัวแรก แต่เพิ่งมาเปิดให้ใช้งานได้ครั้งแรกในอัพเดตนี้

กูเกิลเริ่มเตรียมความพร้อมก่อนการมาของ Android 6.0 Marshmellow แบบเงียบๆ ในอัพเดตล่าสุดเวอร์ชัน 5.9 ของ Play Store เริ่มมีการพูดถึงฟีเจอร์ใหม่ที่จะมาพร้อมกับอัพเดตระบบปฏิบัติการครั้งใหญ่มาแล้ว

สำหรับคนที่ใช้ Android M Preview 3 อยู่แล้ว เมื่ออัพเดต Play Store เวอร์ชันใหม่ และไปเข้าหน้าแอพที่ทำมารองรับ Android 6.0 จะมีหน้าต่างขึ้นมาเพื่อแจ้งเตือนการจัดการสิทธิ์ใหม่ ซึ่งจะปรากฏขึ้นมาเฉพาะครั้งแรกเท่านั้น ตัวอย่างแอพที่รองรับแล้วตอนนี้จะมีแอพในเครือกูเกิล และแอพภายนอกเพียงไม่กี่ตัว เช่น LassPass

ใครที่ใช้งาน Android ด้วยความยืดหยุ่นในการใช้งานที่เหนือกว่า น่าจะคุ้นเคยกับบรรดาแอพแบบหน้าต่าง ที่ลอยขึ้นเหนือแอพปกติ อย่างที่ผู้ผลิตหลายรายใช้เป็นจุดขายในชื่อต่างๆ กันไป (เช่น Multi Windows ของซัมซุง) ซึ่งกูเกิลปล่อยให้เปิดใช้งานกันอย่างอิสระมานาน ในอัพเดตใหญ่ Android 6.0 Marshmallow จึงมีกฎใหม่มาเพื่อจัดการกับแอพกลุ่มนี้โดยเฉพาะ

ความเปลี่ยนแปลงสำหรับแอพแบบหน้าต่าง บน Android 6.0 Marshmallow เริ่มต้นตั้งแต่ Preview 3 เมื่อมีแอพที่ต้องการใช้งานฟังก์ชันตามที่ว่ามา ผู้ใช้จะต้องให้สิทธิ์ในการใช้งานฟังก์ชันนี้ โดยจะมีตัวเลือกให้สับสวิตช์เปิด-ปิด เหมือนกับการลงคีย์บอร์ด โดยจะมีการแจ้งเตือนเมื่อติดตั้งแอพดังกล่าว ให้ไปอนุญาตใช้ฟีเจอร์ "Permit drawing over other apps" อยู่ด้วย

โดยทั่วไปแล้ว เวลานักพัฒนาแอพมือถืออยากแสดงเนื้อหาจากเว็บ มีวิธีให้เลือก 2 ทางคือเปิด URL ในเบราว์เซอร์ดีฟอลต์ของระบบ หรือแสดง URL นั้นผ่าน WebView แทน

การเปิดเว็บด้วยเบราว์เซอร์มีปัญหาว่าผู้ใช้ต้องรอโหลดเบราว์เซอร์นานพอสมควร ส่วนวิธีเปิดผ่าน WebView ต้องลงทุนพัฒนาโค้ดเพิ่มเติมเอง และประสบการณ์การใช้งานอาจไม่ดีเท่าเบราว์เซอร์

Android 6.0 พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยฟีเจอร์ที่เรียกว่า Chrome Custom Tabs (ข่าวเก่าของ Android 6.0) ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่สาม นอกเหนือจากเบราว์เซอร์และ WebView

แอพ Google Translate เวอร์ชันใหม่ 4.3 มีฟีเจอร์ใหม่ที่อำนวยความสะดวกในการแปลมากขึ้น โดยใช้ความสามารถลักษณะเดียวกับ Google Now on Tap ของ Android 6.0

เดิมทีถ้าเราเจอข้อความที่ต้องการแปล ต้องคัดลอกข้อความนั้นไปแปะใน Google Translate แต่ของใหม่ เราแค่ไฮไลท์ข้อความที่ต้องการ แตะหน้าจอค้าง จะมีเมนู Translate โผล่มาทันที กดแล้วจะมีหน้าต่างแปลลอยขึ้นมาทับหน้าจอปกติอีกชั้นหนึ่ง แถมสามารถใช้กับแอพใดๆ ก็ได้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในแอพ Google Translate เพียงอย่างเดียว

สำหรับคนที่อยากลองคงต้องหา Android 6.0 Beta มาทดสอบกันครับ

ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญของ Android 6.0 Marshmallow คือระบบสิทธิการเข้าถึงแบบใหม่ runtime permissions ที่ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนสิทธิการเข้าถึงของแอพได้ตลอดเวลา ต่างไปจากระบบเดิมที่เป็น install time permissions อนุญาตตอนติดตั้งแล้วจบกันไป

เมื่อใกล้ถึงเวลา Android 6.0 ออกรุ่นจริง กูเกิลจึงออกมาเตือนนักพัฒนาแอพให้อัพเดตระบบ permissions ของตัวเอง ผ่านเอกสาร Permissions Design Guideline ที่แนะนำข้อมูลกับสิ่งที่นักพัฒนาควรทำ

ระบบสิทธิแบบใหม่แบ่งสิทธิการเข้าถึงเป็น 9 ประเภท ได้แก่

บั๊กที่น่ากวนใจอย่างหนึ่งของ Android 5.x Lollipop คือแบตเตอรี่หมดเร็วผิดปกติ อันเนื่องมาจากปัญหา "Mobile radio active" หรือตัวรับส่งสัญญาณมือถือทำงานค้างนานเกินไป บั๊กนี้ถูกผู้ใช้แจ้งมานานตั้งแต่ Android 5.0 รุ่นแรกสุด และได้รับการโหวตอย่างล้นหลามใน AOSP Issue Tracker แต่ผ่านมาเกือบปี กูเกิลก็ยังไม่แก้ไขบั๊กนี้สักที

ล่าสุดทีมงานของกูเกิลระบุว่าสามารถค้นหาสาเหตุและแก้ไขบั๊กนี้เรียบร้อยแล้ว รอใช้กันได้ใน Android 6.0 Marshmallow ที่จะออกช่วงปลายปีนี้ครับ

Android 6.0 Marshmallow ยังไม่ทันออกตัวจริง ก็เริ่มมีข่าวมาจากฝั่งซัมซุงแล้วว่า น่าจะได้อัพเกรดเป็น Android 6.0 ในช่วงต้นปีหน้า 2016

เว็บไซต์ YouMobile อ้างแหล่งข่าววงใน ระบุชื่อรุ่นของมือถือซัมซุง "ชุดแรก" ที่จะได้อัพเดต Marshmallow ซึ่งทุกตัวก็เป็นรุ่น "เรือธง" ตามคาด ดังนี้

กูเกิลเพิ่งเปิดตัว Android 6.0 Marshmallow มาเมื่อวันก่อน วันนี้ผมมีโอกาสได้สัมผัสตัวจริงเลยเอามาเล่าประสบการณ์กันครับ

เมื่อเจอกันครั้งแรก Android Marshmallow จะยืนต้อนรับเราเหมือนกำลังยื่นขนมก้อนยักษ์ให้

ขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ สูงน่าจะ 170-180 เซนติเมตรได้

กูเกิลเผย M ใน Android M มาจาก Marshmallow ซึ่งจะใช้เป็นโค้ดเนมและแบรนด์เพื่อเรียก Android เวอร์ชัน 6.0 ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดกันภายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ (เสียใจด้วยนะ แฟนคลับ M&M’s)

นอกจากเปิดเผยชื่อ Android M แล้ว กูเกิลยังได้ปล่อย Android 6.0 SDK และซอฟต์แวร์พรีวิวที่ผู้ใช้อุปกรณ์ Nexus สามารถดาวน์โหลดได้แล้ว โดยกูเกิลยังได้ย้ำเตือนอีกว่าตัวซอฟต์แวร์พรีวิวนี้ ไม่เหมาะกับการใช้งานโดยผู้ใช้ทั่วไป และเมื่อ Android 6.0 ตัวเต็มมา ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ตัวนี้จะต้องแฟลชอุปกรณ์ของตัวเองใหม่อีกรอบด้วยตัวเอง

ในงาน Google I/O 2015 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กูเกิลได้เปิดเผยข้อมูลของ Android M ซึ่งไม่เน้นฟีเจอร์ แต่เน้นคุณภาพเป็นหลัก โดยมีโค้ดเนมเรียกภายในว่าคุกกี้แมคคาเดเมีย (Macadamia Nut Cookie หรือ MNC)

ตอนนี้ก็ใกล้วันเปิดตัวเข้ามาทุกที พนักงานของกูเกิล 2 คนคือ Nat และ Lo ซึ่งดูเหมือนจะชอบทำวิดีโอเกี่ยวกับเรื่องราวภายในของผลิตภัณฑ์ของกูเกิล ก็ได้ออกวิดีโอตัวล่าสุด เชิญชวนให้ผู้ใช้ทายชื่อเต็มของ Android M โดยวิดีโอเล่าเรื่องราวถึงชื่อของแอนดรอยด์รุ่นเก่า ตั้งแต่ Cupcake จนถึง Lollipop ที่ออกมาในปีที่แล้ว ตามมาด้วยชื่อขนมต่างๆ ที่ขึ้นต้นด้วย M มากมาย

กูเกิลเคยสัญญาว่าจะออก Android M Developer Preview ทั้งหมด 3 รอบ โดยรุ่นล่าสุดในปัจจุบันคือ M Preview 2 เมื่อต้นเดือนที่แล้ว และตามแผนเดิมจะต้องออก Preview 3 ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม

แต่สถานการณ์ล่าสุด Wojtek Kaliciński หนึ่งในทีมพัฒนา Android ออกมาประกาศว่า Preview 3 ต้องเลื่อนออกไปอีกระยะหนึ่ง เพราะทีมงานต้องการเวลาพัฒนาเพิ่มเติมให้ได้คุณภาพใกล้เคียงกับรุ่น Final ให้มากที่สุด ส่วน Preview 3 จะออกเมื่อไรนั้นยังไม่มีกำหนด และต้องรอกูเกิลประกาศกันต่อไป

กูเกิลเคยกำหนดกรอบเวลากว้างๆ ของ Android M Final ว่าเป็น "ไตรมาสที่สาม" ครับ

ตามที่กูเกิลประกาศเอาไว้ก่อนหน้าว่าจะอัพเดต Android M รุ่นพรีวิวทั้งหมดสามรุ่นก่อนออกตัวจริงช่วงปลายปี ตอนนี้อัพเดตที่ 2 ได้ถูกปล่อยออกมาเป็นที่เรียบร้อย นับเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมีดังนี้ครับ

Sony ปล่อย Android M Developer Preview สำหรับ Xperia ที่อยู่ในโครงการ Sony’s Open Device เพื่อให้พัฒนาทดสอบและปรับปรุงแอพให้รองรับกับ Android M เวอร์ชันจริง

ใน Android M Developer Preview ของกูเกิล พบว่ามีความเปลี่ยนแปลงในด้านระบบและ API อยู่หลายจุด จึงมีความจำเป็นที่ผู้พัฒนาแอพบน Android ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับ Android M ที่จะออกเวอร์ชันจริงในเร็วๆ นี้

หนึ่งในฟีเจอร์เด่นๆ ของ Android M ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนที่แล้วคือ Doze ซึ่งเป็นฟีเจอร์ประหยัดพลังงาน ที่จะทำให้สมาร์ทโฟนเข้าสู่โหมด deep sleep เมื่อไม่ได้ใช้งาน และตัดการเชื่อมต่อหรือ sync activity ลงไป

ตอนนี้มีผลของแบตเตอรี่จากการรัน Android M เวอร์ชัน Developer Preview 1 บน Nexus 5 ออกมาแล้ว ผลที่ได้คือตัวเครื่องกินไฟน้อยลงกว่าเดิมถึงเกือบ 3 เท่า โดยการเปรียบเทียบกับอีกเครื่องที่รัน Lollipop

หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ของ Android M ที่กูเกิลไม่ได้พูดถึงในคีย์โน้ตเมื่อวานคือ Smart Lock for Passwords หรือก็คือระบบจัดการรหัสผ่านนั่นเอง การใช้งานก็ตรงไปตรงมา คือเมื่อผู้ใช้ล็อกอินในแอพที่รองรับฟีเจอร์นี้ เครื่องจะถามว่าต้องการเก็บรหัสผ่านไว้ในระบบ Smart Lock หรือไม่ ถ้าตอบต้องการ รหัสผ่านเราก็จะถูกส่งไปเก็บไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ แล้วเมื่อผู้ใช้เข้าแอพนั้นครั้งต่อไป เครื่องก็จะล็อกอินให้ทันที ระบบจัดการรหัสผ่านนี้จะใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ที่ผูกกับบัญชีกูเกิลไว้ รวมไปถึงเบราว์เซอร์บนคอมพิวเตอร์ด้วย เช่น ผู้ใช้ล็อกอิน Netflix ไว้บนหน้าเว็บ แล้วเพิ่งมาติดตั้งแอพ Netflix ในโทรศัพท์มือถือ ก็จะสามารถเข้าและใช้งานแอพได้ทันที (ในทางกลับกันก็ยังได้)