Business Insider อ้างข้อมูลจากอีเมลภายใน Meta ที่ส่งถึงพนักงานทุกคนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอัพเดตข้อกำหนดการกลับเข้ามาทำงานที่สำนักงาน (Return to Office) ระบุว่าการเข้ามาทำงานในสำนักงาน เป็นข้อบังคับสำหรับพนักงานทุกคนที่ไม่ได้เป็นพนักงานรีโมทแบบเต็มเวลา โดยพนักงานต้องเข้ามาในพื้นที่สำนักงานเป็นเวลาส่วนใหญ่ของแต่ละสัปดาห์ ซึ่งนับรวมถึงการออกไปพบปะลูกค้าด้วย
ก่อนหน้านี้ Meta ออกกฎการทำงานในสำนักงานแบบไฮบริด ระบุว่าต้องเข้าสำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์
ข่าวบริษัทสายเทคโนโลยีกำหนดให้พนักงานกลับเข้าทำงานในสำนักงานสลับกับทำงานจากที่บ้าน ตามแนวทางการทำงานแบบไฮบริด อาจเป็นเรื่องปกติแล้วตอนนี้ แต่กรณีนี้ก็เป็นประเด็นได้เพราะบริษัทที่ว่าคือ Zoom
ข้อมูลจาก Business Insider ระบุว่า Zoom ได้แจ้งพนักงานที่พักอาศัยในระยะ 50 ไมล์ จากสำนักงานใหญ่ ให้กลับเข้ามาทำงานที่สำนักงาน 2 วันต่อสัปดาห์ โดย Zoom ให้เหตุผลว่าแนวทางทำงานแบบไฮบริดเป็นวิธีที่ได้ประสิทธิภาพ เพราะพนักงานจะได้พบปะเจอหน้ากัน
กูเกิลออกอีเมลแจ้งยังพนักงานทุกคน เกี่ยวกับข้อกำหนดใหม่ของการเข้ามาทำงานในสำนักงาน ซึ่งปัจจุบันกูเกิลอนุญาตให้ทำงานแบบไฮบริด ต้องเข้าสำนักงานประมาณ 3 วันต่อสัปดาห์ โดยบอกว่าหากพนักงานต้องการทำงานแบบรีโมทเต็มเวลา จะต้องขอและได้รับอนุญาตยกเว้นเป็นพิเศษเฉพาะกรณีเท่านั้น
Fiona Cicconi หัวหน้าฝ่าย People ของกูเกิลชี้แจงว่าจากการสำรวจ พนักงานที่เข้าทำงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ในสำนักงาน พวกเขารู้สึกใกล้ชิดกับเพื่อนพนักงานด้วยกันมากกว่า ทำให้เกิดทีมเวิร์กที่ดีขึ้น ถึงแม้บางคนไม่เชื่อเรื่องการสร้างบทสนทนาระหว่างเดินในสำนักงาน แต่คงไม่มีคำถามว่าการทำงานด้วยกันในสถานที่เดียวกัน ย่อมสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า
Meta เริ่มแจ้งพนักงานทั้งหมดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการทำงานแบบรีโมท โดยกำหนดให้พนักงานต้องเข้าทำงานในสำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ มีผลในเดือนกันยายนเป็นต้นไป โดยข้อกำหนดนี้ไม่มีผลกับพนักงานที่ถูกกำหนดให้ทำงานแบบรีโมทตั้งแต่แรก
Meta บอกว่าการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดนี้เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกันได้ดี รักษาความสัมพันธ์ และส่งเสริมวัฒนกรรมองค์กร
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI กล่าวในงานสัมมนาที่จัดโดย Stripe พูดถึงการทำงานแบบรีโมท โดยเขาคิดว่าถ้าองค์กรยังเป็นสตาร์ทอัพ ก็ควรให้พนักงานทำงานด้วยกันในสำนักงานมากกว่าทำงานแบบรีโมท
Altman บอกในประเด็นนี้ว่า ที่ผ่านมาอุตสาหกรรม Tech ผิดพลาดที่อนุญาตให้พนักงานทำงานรีโมทแบบเต็มเวลาได้ บริษัทแบบสตาร์ทอัพจึงบอกว่าพนักงานไม่ต้องมาทำงานที่สำนักงานเลยก็ได้ ส่งผลให้สตาร์ทอัพนั้นสูญเสียความคิดสร้างสรรค์ เขามองว่าตอนนี้เทคโนโลยียังไม่ดีมากพอที่จะให้พนักงานทำงานรีโมทเต็มเวลาตลอดไปได้ และย้ำว่าโดยเฉพาะบริษัทที่เป็นสตาร์ทอัพ
Zoom ประกาศซื้อกิจการ Workvivo สตาร์ทอัพจากไอร์แลนด์ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับการสื่อสาร พัฒนาประสบการณ์ และสร้างความสัมพันธ์ของพนักงานภายในองค์กร โดยดีลดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยมูลค่าที่เข้าซื้อ
Kelly Steckelberg ซีเอฟโอของ Zoom พูดถึงดีลดังกล่าวว่า Zoom เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการทำงานร่วมกันของพนักงาน ในยุคของการทำงานแบบไฮบริด ซึ่งการได้ Workvivo มาร่วมทีม ทำให้ร่วมพัฒนาประสบการณ์ ความผูกพันของพนักงานในองค์กรได้เพิ่มมากขึ้น โดยหลังดีลเสร็จสิ้น เครื่องมือของ Workvivo จะรวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Zoom
Workvivo มีการเติบโตในระดับเปอร์เซ็นต์สามหลักตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีองค์กรที่เป็นลูกค้าหลายร้อยแห่งทั่วโลก
CNBC อ้างบันทึกจากการประชุมพนักงานของกูเกิลนำโดยซีอีโอ Sundar Pichai เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นสำคัญเรื่องนโยบายให้พนักงานสลับและแชร์โต๊ะทำงานกัน ซึ่งเริ่มที่ฝ่าย Google Cloud โดยมีพนักงานจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วย
Pichai ยืนยันแนวทางนี้ และบอกว่าพนักงานจำนวนหนึ่งให้ความเห็นว่าเวลามาสำนักงาน พวกเขาเห็นโต๊ะทำงานว่างจำนวนมาก เหมือนเป็นสำนักงานร้าง ซึ่งไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีนัก ตัวเลขที่เขาพบคือพนักงานส่วนใหญ่จะเข้าสำนักงานสัปดาห์ละ 2 วันเท่านั้น ค่าเช่าอาคารสำนักงานนั้นแพงมาก อัตราการใช้โต๊ะจึงต่ำเกินไปหากทุกคนมีโต๊ะทำงานประจำ เลยมาสู่แนวทางแชร์โต๊ะทำงานดังกล่าว
กูเกิลประกาศแนวทางลดค่าใช้จ่ายใหม่ โดยเริ่มต้นมีผลกับแผนก Google Cloud ที่อยู่ใน 5 สถานที่เช่น Kirkland, Sunnyvale, San Francisco ซึ่งพนักงานจะต้องแชร์โต๊ะทำงานร่วมกับพนักงานอีกหนึ่งคน ผ่านระบบจัดสรรตารางเข้าสำนักงาน เพื่อไม่ให้พนักงานสองคนนั้นมาทำงานที่สำนักงานในวันเดียวกัน
กูเกิลบอกว่ารูปแบบดังกล่าวจะรองรับทั้งการทำงานแบบไฮบริด ซึ่งตอนนี้กำหนดให้พนักงาน Google Cloud ต้องเข้าสำนักงานอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ ส่วนวันอื่นสามารถทำงานจากที่บ้านได้ ขณะเดียวกันกูเกิลก็สามารถลดค่าใช้จ่ายจากพื้นที่สำนักงานลงได้ด้วย เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนในธุรกิจคลาวด์ที่มีการเติบโตสูงได้มากขึ้น
ไมโครซอฟท์เปิดตัวแอป Places ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft 365 ซึ่งอธิบายว่าเพื่อรองรับการทำงานยุคใหม่แบบไฮบริด ที่มีทั้งคนทำงานออนไลน์ และคนที่ทำงานในสำนักงาน
Microsoft Places ให้ทีมงานอัพเดตข้อมูลแต่ละคน ว่าวางแผนทำงานจากที่บ้าน ในที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นในวัน-เวลาใดบ้าง เพื่อให้พนักงานแต่ละคนสามารถบริหารจัดการเวลาที่เหมาะสม เช่น เวลานี้ควรเดินทางไปพบทีมงานที่ใด หรือควรออกจากบ้านเวลาใดเพื่อเลี่ยงการจราจร เป็นต้น
บริการนี้ยังสามารถรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โต๊ะทำงานที่ว่าง ห้องประชุมที่ว่าง ห้องประชุมที่ใกล้ที่สุดสำหรับการนัดหมาย ในภาพรวมองค์กรยังสามารถบริหารจัดการการใช้พื้นที่ได้ดีขึ้นอีกด้วย
หลัง Apple แจ้งพนักงานอย่างเป็นทางการให้เริ่มกลับมาทำงานในสำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนเป็นต้นไป ตอนนี้ฝั่งพนักงานเองก็มีความเคลื่อนไหวเพื่อแสดงการคัดค้านนโยบายดังกล่าว
กลุ่มพนักงานที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า "Apple Together" เตรียมทำหนังสือคำร้องถึง Tim Cook นายใหญ่ของ Apple เพื่อคัดค้านนโยบายข้างต้นโดยให้เหตุผลว่าการทำงานที่ยืดหยุ่นจะทำให้พวกเขารู้สึกสบายและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าตรงตามความต้องการของบริษัท โดยคำร้องนี้ถูกเตรียมขึ้นในนามของกลุ่มโดยไม่มีการระบุชื่อตัวตนของพนักงานเพื่อป้องกันการโดนเล่นงานจากบริษัท
Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ระบุว่าแอปเปิลได้แจ้งพนักงานถึงแผนการให้กลับมาทำงานที่สำนักงานอีกครั้ง ให้เข้าสำนักงาน 3 วันต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กันยายนนี้
แอปเปิลกำหนดว่าพนักงานต้องเข้าทำงานที่สำนักงาน ทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ส่วนอีกหนึ่งวันให้แต่ละทีมกำหนดเองว่าจะเป็นวันใด โดยบอกว่ายังคงรูปแบบการทำงานแบบไฮบริด
ถึงแม้หลายบริษัทเทคโนโลยีจะปรับรูปแบบการทำงานไปพอสมควรนับตั้่งแต่เกิดการระบาดของโควิด 19 แต่แอปเปิลส่งสัญญาณมาระยะหนึ่งแล้ว ว่าต้องการให้พนักงานทั้งหมดกลับเข้ามาทำงานที่สำนักงาน จนเกิดเหตุการณ์หัวหน้าทีม Machine Learning ประกาศลาออกก่อนหน้านี้
WebEx ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Move to Mobile สำหรับการย้ายอุปกรณ์ที่ใช้ในการประชุมจากเดสก์ท็อปไปยัง iPhone รวมทั้งรองรับใน CarPlay ด้วย
สถานการณ์ที่ยกตัวอย่างขึ้นมาเป็นแบบการทำงานไฮบริด เช่น เราเริ่มต้นการทำงานด้วยการประชุม WebEx จากที่บ้าน แต่ถึงเวลาต้องขับรถไปสำนักงาน เครื่องมือนี้จะช่วยย้ายการประชุมไปที่ iPhone และตัดการเชื่อมต่อจาก Mac ด้วยการสแกน QR Code จึงไม่มีสะดุด และเมื่อกำลังขับรถไปที่ทำงาน ก็สามารถใช้ CarPlay เปิดแอป WebEx เพื่อประชุมต่อได้เลยในโหมดเสียง และเมื่อถึงที่ทำงานก็สามารถสลับกลับมา WebEx ในอุปกรณ์อื่นได้อีกเช่นกัน
ชมตัวอย่างการใช้งานได้จากคลิปท้ายข่าว
ที่มา: WebEx
ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงการทำงานครั้งยิ่งใหญ่ แนวโน้มหลายองค์กรมีการเปลี่ยนแปลงการทำงาน มีแนวโน้มให้พนักงานทำงานแบบไฮบริด (Hybrid working) มากขึ้นเรื่อยๆ สู่การทำงานได้จากทุกที่หรือ Work from Anywhere ซึ่งเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ ทั้งระบบไอทีควรมีความพร้อมสนับสนุนองค์กรใน
การขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างราบรื่น เพื่อให้องค์กรสามารถใช้งาน Cloud และขับเคลื่อนธุรกิจองค์กรในการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันได้อย่างสมบูรณ์ ระบบเครือข่ายและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยจึงสำคัญ