มีรายงานว่า Facebook ทดสอบ Offers เวอร์ชั่นใหม่ โดยมีตัวเลือกให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะเลือกซื้อสินค้าจาก Offers นั้นๆ เลย หรือเลือกให้แจ้งเตือนในภายหลัง (Remind Me) ซึ่งฟีเจอร์นี้น่าจะทำให้ร้านค้าได้ประโยชน์ในกรณีที่ลูกค้าอยากซื้อก็สามารถซื้อได้เลย และผู้ใช้ก็จะได้ประโยชน์ในแง่ของการสนใจสินค้านั้นแต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อในทันที ก็จะมีตัวแจ้งเตือนในภายหลังได้

ดูความแตกต่างของ Offers แบบเก่าและใหม่ได้ที่ท้ายข่าว

ที่มา - Inside Facebook

หลังจาก Facebook เปิดตัวระบบค้นหา Open Graph ก็เกิดปัญหาที่หลายๆ คนคาดเดากันได้ คือมีคนนำระบบค้นหานี้ไปใช้หาบุคคลเพศตรงข้ามที่น่าสนใจ (เช่น ค้นหาผู้หญิงอายุ x ปี เรียนอยู่ที่โรงเรียน y) ซึ่งอาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้

Facebook จึงปรับเงื่อนไขของการใช้งานให้คุ้มครองผู้เยาว์อายุระหว่าง 13-17 ปีมากขึ้น โดยข้อมูลของผู้ใช้ที่อายุระหว่าง 13-17 ปีจะสามารถแชร์ให้เฉพาะ Friends หรือ Friends of Friends มองเห็นเท่านั้น (ไม่สามารถแชร์แบบ Public ได้) และการค้นหาด้วย Graph Search ในกรณีที่เจาะจงอายุหรือที่อยู่ ก็จะโชว์เฉพาะระหว่าง Friends หรือ Friends of Friends เช่นกัน

David Fischer รองประธานฝ่ายธุรกิจของ Facebook ไปพูดที่งาน Future Of Media Conference ยอมรับว่าเราอาจได้เห็นโฆษณาบน newsfeed ของผู้ใช้ ที่มีลักษณะเป็นวิดีโอแบบเล่นอัตโนมัติ (auto-play)

Fischer ระบุว่าปัจจุบันเจ้าของเพจสามารถโพสต์วิดีโอบน newsfeed ได้อยู่แล้ว แต่ธุรกิจจำนวนมากก็เรียกร้องมายัง Facebook ให้มีวิธีการโชว์วิดีโอที่เรียกความสนใจจากผู้ใช้มากกว่าปกติ ซึ่งก็คือการให้วิดีโอเล่นอัตโนมัตินั่นเอง

Facebook ประกาศว่าตัวเองโดนแฮ็กเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเกิดจากพนักงานของ Facebook จำนวนหนึ่งเข้าชมเว็บไซต์สำหรับนักพัฒนาแห่งหนึ่งที่ถูกแฮ็กมาก่อน เว็บไซต์แห่งนี้ฝังมัลแวร์ลงบนคอมพิวเตอร์ของพนักงาน ซึ่งส่งข้อมูลกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้ประสงค์ร้าย

อย่างไรก็ตามความเสียหายยังจำกัดแค่เครื่องคอมพิวเตอร์ของพนักงานเท่านั้น ไม่กระทบกับข้อมูลของผู้ใช้แต่อย่างใด

ทีมความปลอดภัยของ Facebook ค้นพบปัญหานี้จาก DNS log ภายในบริษัทที่ส่งข้อมูลไปยังโดเมนที่น่าสงสัย หลังจากการสอบสวนแล้วพบว่าเว็บไซต์ที่ฝังมัลแวร์ลงเครื่องของพนักงาน ใช้ช่องโหว่ที่ยังไม่ค้นพบของ Java ทำให้ลัดขั้นตอนความปลอดภัยของ Java ลงได้

ฟีเจอร์ Promoted Post ที่อนุญาตให้ Facebook Page และผู้ใช้สามารถเลือกจ่ายเงินโปรโมตโพสต์ที่ตัวเองต้องการนั้น ก็มีคนพบว่าฟีเจอร์นี้สามารถเอาไปใช้กับโพสต์ของเพื่อนได้ด้วย ก็คือหากอยากจะจ่ายเงินเพื่อโปรโมตโพสต์ของเพื่อน ก็สามารถเลือกตัวเลือก Promote and Share ได้ตามภาพประกอบท้ายข่าว

Facebook กล่าวว่า ฟีเจอร์นี้สร้างมาเพื่ออำนวยความสะดวกในกรณีต้องการให้โพสต์นั้นๆ ถูกเห็นมากขึ้น ซึ่งคงจะเป็นคอนเทนต์จำพวกขอรับบริจาคการกุศล, การประกาศข่าวสารต่างๆ ให้เพื่อนรู้ หรือการประกาศขายของเป็นต้น และถึงแม้ว่าจะมีการจ่ายเงินเพื่อโปรโมตโพสต์ก็จะยังอิงกับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของเจ้าของโพสต์เป็นหลัก ก็คือไม่ใช่เพื่อนทุกคนที่จะเห็นโพสต์นั้นได้นั่นเอง (ถึงจะจ่ายเงินก็ตามที)

ประกาศจาก Facebook กล่าวว่าผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Mark Zuckerberg ในตอนนี้ถือหุ้น Facebook 29.3% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ถืออยู่ 28.2% ด้วยมูลค่าการซื้อขายของหุ้น Facebook อยู่ที่ 28.50 เหรียญ จาก 637.2 ล้านหุ้นในตลาดหุ้นปัจจุบัน ก็เท่ากับว่าตอนนี้ Zuckerberg ถือหุ้นมูลค่าราวๆ 18 พันล้านเหรียญ

การเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดของ Zuckerberg นั้น นอกจากจะเป็นความสำเร็จส่วนตัวแล้ว ยังมีเป้าหมายเพื่อถืออำนาจในการลงคะแนนเสียงใน Facebook เช่นกัน

Facebook เริ่มทดสอบให้ผู้ใช้ภายนอกบางส่วนสามารถขายตั๋วผ่านหน้าอีเวนท์โดยตรงแล้ว หลังจากมีผู้ใช้บางรายไปเห็นปุ่ม "Buy Tickets" เข้า

จากข้อมูลของเว็บไซต์ All Facebook ระบุว่าผู้ใช้บางส่วนเมื่อกดตั้งอีเวนท์ จะพบกับช่อง "Tickets" ให้ใส่ลิงก์ให้ผู้ใช้อื่นสามารถคลิกเพื่อไปซื้อตั๋วร่วมงานได้ ซึ่งปุ่มดังกล่าวจะไปปรากฏในหน้าลิสต์รายชื่ออีเวนท์ และสามารถโพสต์ลงบนวอลล์ได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ปุ่มที่เพิ่มขึ้นมาไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรพิเศษไปกว่าการทำให้ลิงก์ที่มีอยู่แล้ว (มักอยู่ในช่อง description) ไปอยู่ในจุดที่เด่นกว่าเท่านั้นเอง

เราใช้อีโมติคอนใน Facebook เพื่อแชต, พิมพ์แสดงอารมณ์ในคอมเมนต์ แต่อีโมติคอนใน Facebook นั้นมีอยู่น้อย และแสดงอารมณ์ได้ไม่ซับซ้อนและตอบโจทย์ของหลายๆ คน ซึ่ง Facebook ก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ จึงดึงตัว Matt Jones นักวาดจาก Pixar มาช่วยออกแบบอีโมติคอนของ Facebook เสียใหม่ โดยอีโมติคอนส่วนใหญ่ใน Facebook นั้นจะมีสีเหลือง แต่ Jones กล่าวว่าเขาพยายามที่จะเปลี่ยนอีโมติคอนให้เป็นสีน้ำเงินอันเป็นสัญลักษณ์ของ Facebook แต่ก็ยังได้ผลออกมาไม่น่าพึงพอใจ และจะทดลองสร้างอีโมติคอนที่มีอารมณ์สลับซับซ้อนมากขึ้นต่อไปเรื่อยๆ

บั๊กใน Facebook Connect เมื่อวานนี้ทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่วาง widget ไว้ในเว็บทั้งหมดถูก redirect ไปยังหน้าเฟซบุ๊กเอง (ที่เป็นหน้า error) เป็นเวลาสิบห้านาที ส่งผลให้ผู้ใช้เว็บดังๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น CNN, Washington Post, หรือ NBC News ไม่สามารถเข้าเว็บได้

เฟซบุ๊กไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าปัญหาเกิดจากอะไร บอกแต่เพียงเวลามีปัญหาเป็นเวลาสั้นๆ และทางเฟซบุ๊กได้แก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว

ถ้าความผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ เว็บไซต์ต่างๆ อาจจะต้องเตรียมความพร้อมด้วยการสร้างออปชั่นปิด widget ทั้งหมดจากเฟซบุ๊กเอาไว้ เผื่อจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต

หลังจากที่มีข่าวลือ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ซ้ำไป ซ้ำมา จนหลายคนเริ่มไม่เชื่อว่ามันจะมีตัวตนอยู่บนโลก แต่ล่าสุดก็มีมือดีไปแกะเจอรหัสของสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งซึ่งคาดว่ามันน่าจะเป็น Facebook Phone ต่อไป คือ HTC Myst ครับ

ตามสเปคที่หลุดออกมา HTC Myst หรือ Facebook Phone ถือได้ว่าเป็นโทรศัพท์ที่จัดอยู่ในกลุ่มตลาดกลางกึ่งบน หรือจับกลุ่มลูกค้าแนวเดียวกันกับ HTC Salsa เมื่อครั้งก่อน โดยสเปคแบบละเอียดมีดังนี้

มีข่าววงในว่า Facebook กำลังพัฒนาฟีเจอร์ Find Nearby Friends (แจ้งเตือนว่ามีเพื่อนของเราอยู่ในบริเวณใกล้เคียง) ออกมาเป็นแอพแยกอีกตัวหนึ่ง โดยทีมงานที่พัฒนาเป็นทีมจากบริษัท Gowalla และ Glancee ซึ่งเป็นบริษัทด้าน location-based ที่ถูกซื้อกิจการมาทั้งคู่

ตามข่าวบอกว่าแอพตัวนี้จะเปิดตัวช่วงกลางเดือนมีนาคม และสามารถทำงานอยู่เบื้องหลังได้ แม้ผู้ใช้ไม่ได้รันแอพไว้ตลอดเวลา

ถ้าข่าวนี้เป็นจริง แอพตัวนี้คงตอบโจทย์เรื่องยุทธศาสตร์ของบริษัท ทั้งเรื่อง mobile first และการขายโฆษณาโดยอิงกับพิกัดของผู้ใช้

ที่มา - Bloomberg

Facebook เตรียมผลักดันเกมคุณภาพสูงลงในแพลตฟอร์มของตนเองมากขึ้น หวังดึงดูดกลุ่มผู้เล่นเกมที่เน้นการเล่นอย่างจริงจังเข้าสู่ Facebook มากยิ่งขึ้น

สาเหตุหลักที่ Facebook ต้องการดึงดูดกลุ่มผู้เล่นที่เน้นการเล่นอย่างจริงจัง เพราะมองว่าผู้เล่นเหล่านี้มีกำลังและพร้อมจะจับจ่ายเงินเพื่อซื้อของและบริการจากสังคมเกมได้อย่างเต็มที่ มากกว่ากลุ่มผู้เล่นเกมส่วนใหญ่ที่ในปัจจุบันแค่เพียงเล่นเกมฆ่าเวลาเท่านั้น

ดูเหมือนว่า Facebook จะเริ่มมีปัญหาที่น่ากังวลกว่าการหารายได้ผ่านมือถือแล้ว เมื่อเด็กรุ่นใหม่เริ่มที่จะไม่เห็น Facebook "เจ๋ง" อีกต่อไป และเริ่มที่จะใช้บริการต่าง ๆ ของ Facebook น้อยลง แล้วก็หันไปใช้บริการที่ใกล้เคียง หรือบริการอื่น ๆ แทน เช่น Instagram หรือ Snapchat ที่กำลังเป็นที่นิยมในสหรัฐฯ อย่างมาก

Facebook ได้รายงานเกี่ยวกับความเสี่ยงในการลงทุนในบริษัทของตัวเองนี้ในแบบรายงาน 10K ประจำปี ที่บริษัทจะต้องส่งให้กับ กลต. ของสหรัฐฯ ทุก ๆ ปี โดย Facebook ได้เรียกกลุ่มเด็กรุ่นใหม่นี้ว่า "younger users" ซึ่ง Facebook เองก็ไม่ได้ระบุว่าเด็กกลุ่มนี้คือกลุ่มลูกค้าที่มีช่วงอายุเท่าไหร่

Facebook เปิดตัวบัตรของขวัญแบบใหม่ที่เรียกว่า "Facebook Card" ซึ่งจะต่างไปจากระบบบัตรของขวัญทั่วไปเล็กน้อย

หลักการทำงานคือเราต้องเข้าไปซื้อ "เครดิตของขวัญ" บน Facebook ให้กับเพื่อนตามต้องการ โดยเราเป็นฝ่ายจ่ายเงินด้วยวิธีปกติ (เช่น บัตรเครดิต) ฝั่งของเพื่อนเราจะได้รับ Facebook Card ทางไปรษณีย์ จากนั้นค่อยนำบัตร Facebook Card ไปแลกเป็นของขวัญในมูลค่าที่กำหนดกับร้านค้าที่ร่วมรายการ

ในกรณีที่เพื่อนเราได้รับบัตร Facebook Card มาแล้ว ถ้าหากเขาได้รับ "เครดิตของขวัญ" เพิ่มเติม (ไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม) ก็สามารถใช้บัตรใบเดิมได้เลย โดยบัตรหนึ่งใบสามารถสะสมเครดิตจากร้านค้าหลายๆ แห่งได้พร้อมกัน

ในเบื้องต้น Facebook Card ยังให้บริการเฉพาะในสหรัฐเท่านั้น

Facebook รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีรายได้ถึง 1.585 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยคิดเป็นรายได้จากค่าโฆษณา 84% ที่เหลือมาจากการชำระเงิน และมีกำไรสุทธิ 64 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Mark Zuckerberg กล่าวว่าในปี 2012 เราได้เชื่อมโยงผู้คนนับพันล้านคนเข้าด้วยกัน และเรากลายเป็นบริษัทบนแพลตฟอร์มมือถือไปแล้ว ซึ่งในปี 2013 นี้บริษัทจะยังรักษาโมเมนตัมที่ดีนี้ไว้ และลงทุนเพิ่มเติมเพื่อให้บริษัทแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

Facebook ออกอัพเดตแอพบน iOS เวอร์ชัน 5.4 โดยมีของใหม่คือสามารถส่งข้อความเสียงหากันได้ (ของ Android ออกมาสัปดาห์ที่แล้ว), สามารถบันทึกและแชร์วิดีโอได้จากแอพโดยตรง และคุณสมบัติค้นหาสถานที่ยอดนิยมโดยใช้ Nearby

ผู้ใช้ iOS สามารถอัพเดตได้ที่ App Store

บริษัทวิจัยตลาด Trendstream ออกรายงาน GlobalWebIndex เผยสถิติการใช้งานจริง (active user) ของบริการเครือข่ายสังคมต่างๆ ทั่วโลกในเดือนธันวาคม 2012

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ Google+ มียอดผู้ใช้งานจริงเพิ่มเป็น 343 ล้านคน ขึ้นมาเป็นเครือข่ายสังคมอันดับสองของโลกได้แล้ว

อันดับหนึ่งยังเป็น Facebook ที่นำแบบทิ้งห่างด้วยยอดผู้ใช้ 903 ล้านคน แต่อัตราการเติบโตในปี 2012 ช้าลงมากเมื่อเทียบกับปี 2011 ที่ Facebook โตแบบก้าวกระโดด

ที่น่าสนใจคืออันดับสามเป็นของ YouTube ที่นับแยกจากบริการอื่นๆ ของกูเกิล มียอดผู้ใช้มากกว่าอันดับสี่ Twitter ที่มีผู้ใช้ 288 ล้านคนเล็กน้อย

เมื่อไม่กี่วันก่อน Twitter เปิดตัวแอพแชร์วิดีโอขนาดสั้น Vine ซึ่งมีฟีเจอร์ค้นหาเพื่อนๆ ที่ใช้ Vine จากอีเมลและเพื่อนใน Twitter/Facebook ได้ด้วย

แต่ตอนนี้ Facebook สั่งบล็อค Vine ไม่ให้เข้าถึงรายชื่อเพื่อนบน Facebook ได้แล้ว โดยผู้ใช้ Vine จะเห็นข้อความแจ้งเตือนว่า "Vine is not authorized to make this Facebook request"

คู่แข่งในวงการไอทีที่ทำธุรกิจคล้ายๆ กันมักไม่ถูกกัน และเราเห็นข่าวลักษณะนี้อยู่บ่อยครัง กรณีปัญหาล่าสุดคือ Yandex บริษัทออนไลน์ยักษ์ใหญ่จากรัสเซียที่เริ่มบุกสู่ตลาดโลก เริ่มมีปัญหากับ Facebook เสียแล้ว

แกนกลางของปัญหาอยู่ที่แอพ Wonder ของ Yandex ซึ่งเป็นแอพบน iOS ใช้ค้นหาข้อมูลในเครือข่ายสังคมต่างๆ โดย Wonder จะดึงข้อมูลของผู้ใช้จาก Facebook/Twitter/Foursquare/Instagram มารวมไว้ที่ตัวเอง และผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายเหล่านี้ด้วยเสียงได้แบบ Siri ของแอปเปิล

ผลการศึกษาจากนักวิจัยประจำมหาวิทยาลัยสองแห่งจากเยอรมนี พบว่าสิ่งที่เราได้อัพโหลดขึ้นไปบนเครือข่ายสังคมออนไลน์สามารถทำให้คนอื่นอิจฉาได้จริง จากการศึกษานี้พบว่า 1 ใน 3 ของคนที่เข้าไปเล่น Facebook รู้สึกพอใจในชีวิตตัวเองน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่โพสต์อะไรมากมายแต่อ่านอย่างเดียว

การกระทำที่กระตุ้นต่อมอิจฉาคนอื่นได้ดีที่สุดอันดับ 1 บน Facebook ได้แก่การแชร์รูปภาพตอนไปเที่ยว รองลงมาคือปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้รายอื่นบน Facebook เช่นจำนวน Likes ที่มาก การตอบสนองเช่นจำนวนคอมเมนท์บนโพสต์หรือรูปภาพ หรือแม้กระทั่งคำอวยพรในวันเกิด

หลังจากที่ Facebook ปล่อยแอพแบบ native บน Android ไปสักระยะ หนึ่งในปัญหาของแอพก็คือประสิทธิภาพในการโหลดภาพที่ยังถือว่าช้า ล่าสุด Facebook ได้ออกอัพเดตแอพของตัวเองเพื่อแก้ปัญหาโหลดภาพช้า พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถแชร์ข้อมูลไปยัง timeline, บนกลุ่ม และเพจของคุณได้ พร้อมทั้งสามารถส่งข้อความเสียงในส่วนของ messenger ได้แล้ว

ผู้ใช้ Android สามารถอัพเดตแอพนี้ได้แล้วบน Play Store

ที่มา : Engadget

Facebook เริ่มควบคุมการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานจากนักพัฒนาภายนอกมากขึ้น คล้ายกับกรณี Twitter โดยแอพสนทนาข้อความเสียง Voxer ได้รับแจ้งจาก Facebook ว่า แอพของเขาถูกตัดความสามารถในการค้นหาเพื่อนใน Facebook แล้วด้วยเหตุผลว่าขัดกับข้อตกลงการใช้งาน เนื่องจากเป็นบริการที่มีลักษณะเป็นคู่แข่งโดยตรง

ตัวแทนของ Facebook ยืนยันว่าได้แจ้ง Voxer จริง โดย Facebook จะควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของแอพภายนอก ที่เน้นการมาเอารายชื่อเพื่อนเพื่อไปขยายฐานผู้ใช้งานของตัวเอง แต่ไม่มีการแชร์ข้อมูลจากแอพนั้นกลับเข้ามาใน Facebook เหมือนกับกรณีของ Voxer ที่เป็นแอพสนทนาส่วนตัว ซึ่งกรณีแบบนั้นควรใช้การเข้าถึงแค่ Facebook Login ก็พอ

Larry Page ซีอีโอของกูเกิลให้สัมภาษณ์กับ Wired ในหลายประเด็น (แนะนำให้อ่านฉบับเต็ม) ประเด็นที่น่าสนใจมีดังนี้

นิตยสารฟอร์จูนเผยรายชื่อ 100 บริษัทที่น่าไปทำงานมากที่สุดโดยพิจารณาจากผลประโยชน์ที่บริษัทให้กับพนักงานเป็นหลัก ปรากฎว่า Google ได้อันดับหนึ่ง โดยฟอร์จูนระบุเหตุผลว่านอกจาก Google จะให้สวัสดิการพนักงานเป็นส่วนลดบริการนวดตัวถึงหนึ่งแสนชั่วโมงแบบเดียวกับปีที่แล้ว ปีนี้บริษัทยังเปิดศูนย์ดูแลสุขภาพสามแห่งและศูนย์กีฬาขนาด 7 เอเคอร์อีกหนึ่งแห่งให้พนักงานได้ใช้อีกด้วย

งานที่ให้โปรแกรมเมอร์มาประชันความสามารถในฉบับของ Facebook อย่าง Facebook Hacker Cup ในปีนี้ก็ประกาศแล้ว โดยการแข่งจะแบ่งออกเป็น 5 รอบ คือมีแข่งออนไลน์ 4 รอบ และรอบสุดท้ายแข่งที่สำนักงาน Facebook

สำหรับเงินรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้อยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านๆ มา แต่ไม่ได้มีบอกไว้ว่าผู้ชนะจะมีโอกาสได้เข้าทำงานกับ Facebook หรือไม่

ใครที่สนใจจะลงสมัคร สามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ที่นี่ และรอบออนไลน์รอบแรกจะเริ่มขึ้นในวันที่ 25 มกราคมนี้

ที่มา - Facebook Hackercup FAQ