AIS ประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ China Unicom โอเปอเรเตอร์อันดับสองของประเทศจีน

ความร่วมมือครั้งนี้ครอบคลุมการขยายขอบเขตการให้บริการด้านโครงข่ายและ ICT ระหว่างประเทศไทยและจีน, การให้บริการด้าน ICT สำหรับลูกค้าทั้งสองประเทศ และบริการหลังขาย

AIS อธิบายคำว่า "บริการด้าน ICT" ว่าหมายถึง International Connectivity, Data Center, Cloud, IoT, Big Data for Tourist, Mobile Gaming Service และ Payment Gateway เป็นต้น

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ชายชาวจีนผู้หนึ่งชื่อ Wang Long ทำการฟ้องร้อง China Unicom บริษัทสื่อสารโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่อันดับสองของประเทศต่อศาลท้องถิ่นเมืองเซินเจิ้นมณฑลกว่างตง

Wang Long ให้เหตุผลในการฟ้องครั้งนี้ว่า "China Unicom ไม่สามารถให้บริการในการเข้าถึงบริการต่างๆ ของ Google เป็นระยะเวลากว่าหนึ่งเดือน ซึ่งควรเป็นหน้าที่รับผิดชอบของ ISP ที่จะต้องให้บริการการเข้าถึงเว็บไซต์และข้อมูลต่างๆ บริษัทควรจะรับผิดชอบในความผิดพลาดครั้งนี้"

China Unicom โอเปอเรเตอร์อันดับสองของประเทศจีน ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ตั้ง "พันธมิตร" ร่วมผลักดัน Windows Phone ในประเทศจีน

นอกจากสองบริษัทใหญ่นี้แล้ว ยังมีผู้ผลิตฮาร์ดแวร์มือถืออีก 7 ราย (ที่ระบุชื่อคือ Nokia, HTC, Samsung) และผู้ผลิตชิปอีกสองรายคือ Qualcomm กับ Intel ร่วมเป็นพันธมิตรก่อตั้งด้วย

ภายใต้ความร่วมมือนี้ ไมโครซอฟท์จะให้ความสนับสนุนทั้งด้านเทคนิคและการตลาด โดยอาศัยช่องทางการขายของ China Unicom ที่มีฐานลูกค้า 3G กว่า 70 ล้านราย ผลักดัน Windows Phone ให้มีที่ยืนในตลาดจีนมากขึ้น

ปัจจุบัน Windows Phone มีส่วนแบ่งตลาดในจีนประมาณ 3% ในขณะที่ Android ครองตลาดจีนด้วยส่วนแบ่ง 72%

China Unicom ผู้ให้บริการมือถือหมายเลขสองของประเทศจีน (อันดับหนึ่งคือ China Mobile) กำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโฟนของตัวเองชื่อ "WoPhone" เพื่อแข่งกับ iOS และ Android

"WoPhone" จะใช้ลินุกซ์เป็นแกนหลัก รองรับทั้งมือถือและแท็บเล็ต และในเบื้องต้นมีพันธมิตรฮาร์ดแวร์เข้าร่วมหลายราย ฝั่งของจีนเองมี ZTE, Huawei, TCL ส่วนต่างชาติก็มี Samsung, Motorola, HTC ตัวแทนของ China Unicom บอกว่า WoPhone ไม่ได้พัฒนามาจาก Android เพราะต้องการเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งระหว่างกูเกิลกับรัฐบาลจีน

แอปเปิลเปิดตัว iPhone 4 ในประเทศจีนแล้ว ด้วยยอดจองกว่า 200,000 เครื่องโดย China Unicom เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ในวันเปิดตัวมีผู้คนไปต่อคิวที่ Apple Store ยาวกว่า 1,000 คน (คิวแรกที่ได้ต้องต่อคิวนานกว่า 2 วัน)

เมื่อปีที่ผ่านมาแอปเปิลเปิดตัว iPhone 3GS ในจีนอย่างน่าผิดหวัง เพราะขายได้แค่ 5,000 เครื่องเท่านั้นในวันแรก เนื่องจากการที่รัฐบาลจีนสั่งปลด Wifi ออกจากเครื่อง มาในปีนี้นอกจาก iPhone 4 จะมี Wifi มาให้แล้ว ราคายังถูกกว่าเดิมด้วย โดย iPhone 4 รุ่น 16GB ราคา 4,999 หยวน หรือประมาณ 22,879 บาท

แต่เชื่อว่าคงไม่มีที่ไหนเปิดตัว iPhone 4 ได้อลังการเท่าที่เมืองไทยอีกแล้ว (ที่จีนเปิดตัวด้วยการให้พนักงานมาปรบมือหน้าร้าน) เชิญชมวิดีโอด้านใน

เป็น "ความจริงอีกด้าน" ของปัญหากูเกิล vs จีนนะครับ (ด้านแรกคือข่าว GoDaddy จะหยุดให้บริการจดโดเมนเนมในจีน)

ในข่าว แทบไม่ต้องเดา จีนบล็อค Google.com.hk บางส่วนแล้ว ผมเขียนไว้ว่า "China Unicom เครือข่ายอันดับสองอาจเลื่อนหรือเลิกขายมือถือ Android" ตอนนี้มีความคืบหน้าแล้ว

รายงานจากหนังสือพิมพ์ Financial Times ของอังกฤษ บอกว่า China Unicom เตรียมเอาบริการ Google Search และบริการอื่นๆ ของกูเกิล ออกจากมือถือ Android ที่ China Unicom ขาย ประธานของ China Unicom บอกว่ายินดีทำงานร่วมกับทุกบริษัทที่ปฏิบัติตามกฎหมายจีน และตอนนี้ทาง China Unicom "ไม่มีความร่วมมือใดๆ กับกูเกิล"

เมื่อปลายเดือนตุลาคม China Unicom ได้วางขาย iPhone ในประเทศจีนอย่างเป็นทางการ โดยขายผ่านร้านของ China Unicom เอง และเว็บไซต์ Taobao.com ซึ่งเป็นเว็บอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมในจีน

ปรากฎว่ายอดขายย่ำแย่ครับ ในช่วงวันแรกๆ หลังวางขาย China Unicom รายงานว่าขายได้ประมาณ 5,000 เครื่องเท่านั้น (เทียบกับกรณีของเกาหลีใต้ ยอดจอง 65,000 เครื่อง) ที่แย่กว่าคือยอดขายบน Taobao.com คือ 5 เครื่อง โดยแยกเป็นรุ่น 8GB สองเครื่องและ 16GB สามเครื่อง

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แอปเปิลนั้นได้ทำสัญญากับบริษัท China Unicom ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับที่สองของจีน ที่จะนำเข้าและเป็นผู้ขาย iPhone แต่เพียงผู้เดียวในประเทศจีนเป็นเวลาสามปี โดยจะเริ่มเปิดขายจริงในช่วงปลายปีนี้

ปัจจุบัน China Unicom นั้นมีผู้ใช้บริการในปัจจุบันประมาณ 140 ล้านราย (อันดับหนึ่ง China Mobile ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลจึนมี 460 ล้านราย) โดยส่วนใหญ่กว่า 70 ล้านรายเป็นลูกค้า post-paid (ใช้ก่อนจ่ายทีหลัง) และนอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะสร้างเครือข่าย 3G ให้ได้ภายในปลายปีอีกด้วย

บริษัท ไชนา ยูนิคอม เปิดเผยว่าบริษัทจะจ่ายเงินสดมูลค่า 6.43 พันล้านหยวน (RMB) หรือประมาณ 32.8 พันล้านบาทเพื่อซื้อสินทรัพย์ด้านโครงข่ายโทรศัพท์ประจำที่จากบริษัทแม่ (China Unicom Group) และบริษัท ไชนา เน็ตคอม ใน 21 จังหวัดและเมืองใหญ่ในจีนตอนใต้ รวมทั้งทรัพย์สินในส่วนที่เป็นเคเบิลในจีนตอนเหนืออีกด้วย

นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมซื้อกิจการของ 3 บริษัทในเครือจากบริษัทแม่ อีกด้วย โดยใช้เงินทุนของบริษัทเองทั้งหมดอีกด้วย

การเข้าครอบครองกิจการของไชนา เน็ตคอม โดยไชนา ยูนิคอม ครั้งนี้ กล่าวกันว่า เป็นส่วนหนึ่งของการปรับขยายโครงสร้างของบริษัทโทรคมนาคมของจีนให้ใหญ่ขึ้น

เป็นที่แน่นอนแล้วว่าบริษัท ไชนา ทเลคอม (China Telecom) ได้เข้าซื้อกิจการในส่วนของโครงข่ายสื่อสารไร้สาย CDMA จากบริษัท ไชนา ยูนิคอม (China Unicom) ด้วยมูลค่า 110 พันล้านหยวน (ราว605 พันล้านบาท) ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า และได้เปลี่ยนชื่อใหม่จาก ไชนา ยูนิคอม มาเก๊า เป็นไชนา เทเลคอม มาเก๊า

โครงข่าย CDMA ดังกล่าวเป็นโครงข่าย 3G ซึ่งปัจจุบันเป็นโครงข่ายเดียวที่ดำเนินการโดยบริษัทโทรคมนาคมของจีน

ทั้งนี้แหล่งข่าวจากไชนา เทเลคอม กล่าวว่าจะมีการโอนลูกค้าทั้งหมดที่มีอยู่ราว 40,000 คน พร้อมบริการต่างๆทั้งหมดที่ดำเนินการบนโครงข่าย CDMA โดยผู้ใช้บริการทุกประเภทไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

ประธานบริษัท ไชนา ยูนิคอม คาดหวังว่า รัฐบาลจีนจะเร่งกระบวนการออกใบอนุญาตบริการไร้สายความเร็วสูงโดยเร็ว เนื่องจากบริการดังกล่าวจะมีบทบาทที่สำคัญในการช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

อย่างไรก็ตามมีข้อมูลเปิดเผยว่า รัฐบาลอาจพิจารณาเลื่อนการออกใบอนุญาต 3G ใหม่ออกไปจนถึงกลางปีหน้าทั้งนี้เพื่อให้มีเวลาสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายภายในประเทศให้มั่นคงก่อน อย่างไรก็ตามความล่าช้าดังกล่าวส่งผลกระทบต่อแผนของบริษัทที่เตรียมเปิดให้บริการสื่อสารไร้สายที่มีความเร็วสูงขึ้นไปอีก ซึ่งจะเป็นการท้าทายต่อบริษัท ไชนา โมบายล์ ที่เป็นผู้นำตลาดอยู่ในขณะนี้