ASUS เคยโชว์ตัว ASUS Transformer Book Chi รุ่นแรกในรหัส T300 มาตั้งแต่กลางปีก่อนในงาน Computex แต่ก็ยังไม่ได้เริ่มขายจนถึงตอนนี้ ล่าสุดในงาน CES 2015 ทาง ASUS เปิดตัวเพิ่มอีกสองรุ่นเล็กพร้อมเปิดสเปคทั้งหมดออกมาแล้ว

เริ่มต้นกันที่ T300 รุ่นท็อปของซีรีส์เป็นโน้ตบุ๊กถอดจอได้ที่เน้นความบางเบาเป็นพิเศษเพียง 7.6 มม. ใช้หน้าจอขนาด 12.5" ความละเอียดเลือกได้ตั้งแต่ 1080p ไปจนถึง 2K ซีพียูใช้เป็น Core-M 5Y10 ใช้ SSD 128GB แรม 4GB-8GB น้ำหนักแท็บเล็ตอยู่ที่ 720 กรัม (นน. รวมคีย์บอร์ด 1.44 กก.)

ASUS ยังคงจริงจังกับการทำอุปกรณ์ที่ใช้งานได้อย่างหลากหลาย หลังจากเมื่อปีก่อนเปิดตัว Transformer Book Trio ที่ใช้งานได้สามรูปแบบ วันนี้ในงาน Computex ก็เปิดตัว Transformer Book V ที่ใช้งานได้ถึง 5 รูปแบบด้วยกัน

รูปแบบการใช้งาน Transformer Book V มีตั้งแต่การเป็นมือถือแอนดรอยด์ แท็บเล็ตแอนดรอยด์ แท็บเล็ตวินโดวส์ โน้ตบุ๊กวินโดวส์ และโน้ตบุ๊กแอนดรอยด์ รวมทั้งหมดเป็น 5 รูปแบบ

ปิดท้ายการลองจับของวันนี้ด้วยไฮไลท์ของงานอย่าง ASUS Transformer Book Trio (ชื่อยาวมาก) อุปกรณ์ที่ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นอะไรดี เพราะสามารถใช้งานได้ถึงสามโหมดหลักอย่างโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต และเดสก์ท็อป แถมยังรันระบบปฏิบัติการได้ถึงสองตัวทั้ง Windows 8.1 และ Android 4.2

สเปคหลักของ Transformer Book Trio แบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ แยกเป็นฝั่ง Android ฮาร์ดแวร์จะอยู่ตรงส่วนหน้าจอขนาด 11.6" ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล เป็นซีพียูดูอัลคอร์ Atom Z2560 ที่ยังเป็นรหัส Clover Trail+ อยู่ มีพื้นที่ความจุในตัว 16GB และแรม 2GB แบตเตอรี่หนึ่งเซลล์ ใช้งานได้ราว 6 ชั่วโมง นน. อยู่ที่ 800 กรัม

ลองจับต่อเนื่องจาก ZENBOOK UX301LA ก็เป็น ASUS Transformer Book T100 แท็บเล็ตพร้อมคีย์บอร์ดด็อกกิงรัน Windows 8.1 ตัวเต็มที่มาพร้อมกับราคาเบาๆ เพียง 12,990 บาท

สเปคหลักๆ ของ Transformer Book T100 ใช้ซีพียู Atom Z3740 ควอดคอร์ รหัส Bay Trail-T หน้าจอ 10.1" ความละเอียดสูงขึ้นเป็น 1366x768 พิกเซล หน่วยความจำในตัวอยู่ที่ 64GB (ใช้ได้จริงประมาณ 48-50GB) แรม 2GB ครับ

วันนี้ ASUS ประเทศไทยจัดงานเปิดตัวอัลตร้าบุ๊ก-แท็บเล็ตรุ่นใหม่ส่งท้ายปลายปีสามรุ่นรวด โดยเป็นรุ่นที่เปิดตัวในงาน Computex เมื่อช่วงกลางปีนั่นเอง ทั้งสามรุ่นที่ว่านี้คือ ASUS ZENBOOK อัลตร้าบุ๊กรุ่นใหม่ ASUS Transformer T100 แท็บเล็ต Windows 8 ตัวเต็มที่มาพร้อมกับคีย์บอร์ดด็อกกิง และ ASUS Transformer Book Trio โน้ตบุ๊กไฮบริดที่ใช้งานได้หลากหลาย

เมื่อครั้งงาน Computex เมื่อกลางปีก่อน ASUS เคยเปิดตัว Transformer AiO แท็บเล็ต Android ลูกผสมที่สามารถต่อด็อกกลายเป็น Windows 8 ได้ หลังจากเงียบหายไปนาน ตอนนี้ ASUS ได้เปิดตัวเจ้ารุ่นนี้อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมราคาเปิดตัวที่ 1,299 เหรียญ เริ่มขายไตรมาสสองนี้

สเปคพื้นฐานของเจ้า Transformer AiO เน้นใช้งานเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเสียมากกว่า เพราะระบบปฏิบัติการหลักเป็น Windows 8 โดยสเปคเวลาต่อด็อกมีดังนี้

หลังจากกูเกิลปล่อย Android 4.2.2 ให้กับอุปกรณ์ในซีรีส์ Nexus ได้ครบทั้งตระกูลแล้ว (ไม่รวม Nexus S และ Nexus One ที่เลิกสนับสนุนไปก่อน) ก็ถึงคิวของรุ่นที่ไม่ใช่ Nexus จะได้ลอง Jelly Bean รสชาติใหม่กันบ้างแล้ว และอุปกรณ์ตัวที่ว่าก็คือ ASUS Transformer Pad นั่นเอง

Transformer Pad ตัวที่ได้อัพเดตครั้งนี้ เป็นรุ่นแรกที่ออกมาเมื่อต้นปีก่อน (รหัส TF300) ซึ่งทาง ASUS ประกาศว่าเครื่องในประเทศสหรัฐฯ จะได้อัพเดตกันภายในวันนี้เลยผ่าน OTA และยังรวมถึงอัพเดตแอพที่บันเดิลมาให้ในเครื่องด้วย

ASUS Transformer Pad 300 Series แท็บเล็ตรุ่นน้องที่ลดสเปค และวัสดุจากรุ่นพี่อย่าง Transformer Prime ลงมา หลังจากเปิดตัวไปในงาน MWC เมื่อเดือนกุมภาพันธ์แล้ว ก็เงียบหายไป มาวันนี้ ASUS ได้ประกาศราคา และวันวางขายออกมาแล้ว

ราคาของเจ้า ASUS Transformer Pad 300 Series ในสหรัฐ เปิดที่ 379 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 11,700 บาท) สำหรับรุ่น 16GB และ 399 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 12,300 บาท) สำหรับรุ่น 32GB ส่วนคีย์บอร์ดด็อกกิงขายแยกที่ 149 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4,600 บาท) ซึ่งถือว่าราคาดีพอตัวสำหรับแท็บเล็ตหน้าจอขนาด 10.1 นิ้วที่ใช้ซีพียู Tegra 3 ควอดคอร์

ปัญหาของแท็บเล็ต ASUS Transformer Prime รุ่น Wi-Fi ที่ดันโฆษณาว่าใช้งาน GPS ได้ แต่เอาเข้าจริงกลับทำงานได้แย่มาก (จนถึงไม่ได้เลย) สุดท้ายต้องออกมาแก้ไขด้วยการแจก GPS dongle ให้กับลูกค้าที่ซื้อไป

หลังจากเริ่มให้ลงทะเบียนเพื่อรับ GPS dongle มาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่มีใครเห็นหน้าตาของเจ้า dongle ที่ว่านี้ซักที วันนี้ทาง Engadget ได้ตัวจริงของอุปกรณ์เสริมนี้มาทดลองใช้แล้ว ซึ่งเป็นไปตามคาดว่าเชื่อมต่อตรงจุดที่ไว้เสียบกับด็อกกิง เมื่อลองทดสอบจับสัญญาณดาวเทียมพบว่ารับสัญญาณได้ดีขึ้นมาก (เห็นดาวเทียม 16 ดวงโดยใช้เวลาเพียงครู่เดียว)