นอกจาก iOS ที่ออกอัพเดต 10.3 วันนี้ แอปเปิลยังออกอัพเดตซอฟต์แวร์อีก 2 รายการด้วย นั่นคือ macOS และ watchOS มีรายละเอียดดังนี้

• macOS 10.12.4: เพิ่มโหมด Night Shift แบบ iOS, Dictation ภาษาจีนสำเนียงเซี่ยงไฮ้, Siri รองรับการถามคะแนนคริกเกต และปรับปรุงการแสดง PDF
• watchOS 3.2: เพิ่มโหมด Theater ซึ่งจะปิดเสียงและปิดการทำงานของ Raise to Wake ทำให้ไม่มีแสงออกมาเวลาขยับแขน มีประโยชน์เวลาชมภาพยนตร์

ที่มา: MacRumors [1] และ [2]

วันนี้แอปเปิลได้ออกอัพเดตซอฟต์แวร์ชุดใหญ่ โดยมีรายละเอียดดังนี้

• iOS 10.2.1 - ระบุว่าเป็นการแก้ไขปัญหาทั่วไปเล็กน้อยและปรับปรุงความปลอดภัย
• macOS 10.12.3 - แก้ไขปัญหากราฟิกบน MacBook Pro รุ่นล่าสุด และปัญหาอื่นๆ
• watchOS 3.1.3 - ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานทั่วไป
• tvOS 10.1.1 - ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานทั่วไป
• iTunes 12.5.5 - ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

ที่มา: MacRumors [1], [2], [3], [4], [5]

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าผู้ใช้ Apple Watch Series 2 บางรายพบอาการเครื่อง brick หลังอัพเดตซอฟต์แวร์ watchOS 3.1.1 โดยหน้าจอแสดงเครื่องหมายตกใจ พร้อมลิงก์ไปหน้าซัพพอร์ทของ Apple

ล่าสุด Apple ระบุยอมรับปัญหาและถอนการอัพเดตซอฟต์แวร์ไปแล้ว โดยหน้าเว็บระบุว่าซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุดคือ watchOS 3.1 พร้อมระบุว่ามีเพียงผู้ใช้บางคนเท่านั้นที่ประสบปัญหา และหากพบปัญหาดังกล่าวสามารถติดต่อได้ที่ AppleCare

ที่มา - CNET

ช่วงนี้เริ่มมีรายละเอียดของแถบ Touch Bar บน MacBook Pro ตัวใหม่ ออกมามากขึ้น ดังนี้

• แอปเปิลใส่ซีพียูแยกเฉพาะมาสำหรับ Touch Bar และ Touch ID โดยเป็นซีพียู Apple T1 ตัวเดียวกับชิป S2 ใน Apple Watch รุ่นที่สอง
• การเรนเดอร์ภาพบน Touch Bar และการจับอีเวนต์การสัมผัสจอ ทำโดยซีพียูหลักของ MacBook Pro แต่การเรนเดอร์หน้าจอ Apple Pay ทำโดยซีพียู T1
• ตัว Touch Bar รันอยู่บนระบบปฏิบัติการเวอร์ชันพิเศษที่ดัดแปลงจาก watchOS อีกที
• แนวทางการใช้ซีพียูออกแบบเฉพาะ เป็นแนวทางที่แอปเปิลเริ่มใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เราก็เห็นแอปเปิลใส่ตัว motion coprocessor เข้ามาใน iPhone บ้างแล้ว

ที่มา - TechCrunch

ต่อเนื่องจากอัพเดต iOS 10.1 แอปเปิลก็ออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการตัวอื่นด้วยเช่นกัน มีรายละเอียดดังนี้

• macOS Sierra 10.12.1: รองรับการแยกอัลบั้มภาพ Depth Effect ที่ถ่ายด้วย iPhone 7 Plus, ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Microsoft Office เมื่อใช้ iCloud, แก้ปัญหาอีเมลเมื่อใช้บัญชี Microsoft Exchange, แก้ปัญหา Universal Clipboard, การปลดล็อกด้วย Apple Watch และปรับปรุงความปลอดภัยใน Safari
• tvOS 10.0.1: แก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัย
• watchOS 3.1: เล่นซ้ำข้อความ bubble ใน Message, เพิ่ม Reduce Motion สำหรับเอฟเฟกต์ในข้อความ, แก้ปัญหาแจ้งเตือนใน Timer ซ้ำสองครั้ง, แก้บั๊กที่ทำให้ Apple Watch Series 2 ชาร์จเต็มไม่ได้, แก้ปัญหาวงแหวน Activity หายไปจากหน้าจอ และแก้บั๊กที่ทำให้แอพภายนอกใช้งาน Force Touch ไม่ได้

ที่มา: MacRumos [1], [2] และ [3]

Apple ได้ออกอัพเดต iOS 10 และ watchOS 3 สำหรับผู้ใช้ทั่วไปแล้ว หลังจากที่ได้ทดสอบเบต้ามาในระยะหนึ่ง

สำหรับ iOS 10 ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าไปอัพเดตโดยต่อ Wi-Fi แล้วไปที่ Settings > General > Software Updates จากนั้นก็ตัวเครื่องก็จะตรวจสอบการอัพเดต และดาวน์โหลดการอัพเดตผ่าน OTA ได้ทันที หรือว่าจะอัพเดตผ่าน iTunes ก็ได้

ส่วน watchOS 3 ก็เช่นกัน ผู้ใช้ Apple Watch สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้โดยใช้แอพ Watch บน iOS ในการติดตั้งอัพเดตได้ทันที

แอปเปิลอัพเดตระบบปฏิบัติการของตัวเองทั้ง 3 ระบบ โดยมีการปรับปรุงและเพิ่มเติมการทำงานของแต่ละระบบหลายอย่าง

ของใหม่ใน OS X 10.11.1 เช่น ปรับปรุงชุดติดตั้งระบบปฏิบัติการ OS X El Capitan, แก้บั๊กที่เกิดกับชุด Microsoft Office 2016, ปรับปรุงแอพ Mail, แก้ปัญหาเมื่อเปิดดูรูปในแอพ Preview แล้วเห็นเพียงพื้นสีเทาหรือสีเขียว, แก้ปัญหาการใช้ AirDrop ระหว่างเครื่อง Mac กับ iDevice อื่นๆ (พบด้วยตัวเองครับ) และเพิ่ม emoji ใหม่อีกกว่า 150 แบบ ซึ่งมีกระทั่ง middle finger และ spock ด้วยครับ

สำหรับ iOS 9.1 มีการเพิ่ม emoji มาเช่นกัน และปรับปรุงการถ่ายภาพแบบ Live Photo โดยจะไม่บันทึกภาพขณะยกและวางโทรศัพท์ก่อนและหลังการถ่ายรูป นอกจากนี้ยังเปิดให้ใช้งานแอพ Apple News ใน UK อีกด้วย

หลักจากมีข่าวลือมากมายที่หลุดออกมาเป็นระยะๆ ถึงการมาของ iPhone รุ่นใหม่ หรือ iPad ที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ล่าสุดแอปเปิลได้ส่งบัตรเชิญร่วมงานแก่สื่อมวลชนแล้ว

โดยงานจะจัดในวันที่ 9 กันยายน เวลา 10 โมงตามเวลาแปซิฟิก (หรือ เที่ยงคืนของวันที่ 10 กันยายนตามเวลาประเทศไทย) สถานที่จัดงานอยู่ที่ Bill Graham Civic Auditorium เมืองซานฟรานซิสโก

ตัวบัตรเชิญนั้น มีข้อความอยู่ว่า "Hey Siri, give us a hint." หากเราลองถาม Siri ด้วยข้อความดังกล่าว จะได้รับคำตอบว่าจะมีการประกาศสิ่งใหม่ๆ ในวันที่ 9 กันยายน

สิ่งที่หลายคนคาดหวังว่าจะมาพร้อมในงานนี้ด้วยคือ OS X EL Capitan, iOS 9, watchOS 2

ข่าวดีสำหรับนักพัฒนาสายแอปเปิล หลังงาน WWDC 2015 มีประกาศรวมโครงการสำหรับนักพัฒนาที่ให้เข้าถึงเครื่องมือ และสามารถส่งแอพขึ้นสโตร์ เป็นหนึ่งเดียวกันแล้วทั้ง OS X, iOS และ watchOS

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ปรับจากเดิมที่เคยให้แยกระหว่าง OS X และ iOS ที่ให้สมัครแยกกัน รวมถึงคิดค่าธรรมเนียมรายปีแยกกัน ไปเป็นโครงการเดียวชื่อว่า Apple Developer Program ที่นักพัฒนาจะสามารถเข้าถึง SDK ของทุกระบบปฏิบัติการ ในราคาเดิม 99 เหรียญต่อปี

สำหรับนักพัฒนาที่เป็นสมาชิกอยู่แล้ว สามารถอ่านรายละเอียดการอัพเดตสิทธิ์สมาชิกแบบใหม่ได้จากเอกสารของแอปเปิล ซึ่งครอบคลุมทั้งแบบส่วนตัว และองค์กรครับ

ในอัพเดต iOS 9 พูดถึงการลดขนาดพื้นที่สำหรับใช้ในการอัพเดตระบบปฏิบัติการไปแล้ว ฝั่งแอพเองก็จะใช้พื้นที่น้อยลงในการอัพเดต และติดตั้งเช่นกัน โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะเรียกว่า App Thinning

App Thinning เป็นกระบวนการลดขนาดของแอพ โดยที่ยังให้ประสบการณ์ และฟีเจอร์การใช้งานแอพอย่างครบถ้วน รองรับการใช้งานทั้งบน iOS และ watchOS ซึ่งแบ่งเป็นสามขั้นตอนหลักๆ ดังนี้

เก็บตกงานเมื่อคืนนี้ส่วนของนักพัฒนา นอกจากแอปเปิลจะปล่อย Swift ให้เป็นโอเพนซอร์สแล้ว ฝั่งนักพัฒนายังได้ API เพิ่มเติม ทั้งบน CarPlay และ Apple Watch

ในส่วนของ CarPlay เวอร์ชันใหม่จะเปิดให้ผู้ผลิตรถสามารถพัฒนาแอพเพื่อเชื่อมต่อกับ CarPlay ได้โดยตรง เพื่อควบคุมบางฟังก์ชันของรถ ซึ่งไม่ระบุมาว่าจะมีอะไรบ้าง (อาจจะเป็นพวกเปิด-ปิดกระจก) พร้อมกับฟีเจอร์สำคัญคือการใช้งานแบบไร้สาย จากเดิมที่ต้องต่อสาย Lightning เข้ากับตัวรถเพื่อใช้งาน CarPlay โดยฟีเจอร์ไร้สายตอนนี้ยังไม่รองรับในตัวรถรุ่นปัจจุบัน

แอปเปิลเพิ่มหน้าปัดนาฬิกาใหม่ การแสดงข้อมูลจากแอพ 3rd party ในหน้าปัดนาฬิกา เพิ่มฟีเจอร์ Mail, Friend และ Digital Touch ในส่วนของผู้ใช้งาน

ด้านนักพัฒนาจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงฮาร์ดแวร์ต่างๆ บน Apple Watch เช่น Digital Crown, Taptic Engine และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึง API ใหม่ๆ

watchOS 2 จะเปิดให้ผู้ใช้ Apple Watch อัพเดตในฤดูใบไม้ผลินี้ (ช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม) เช่นเดียวกับ iOS 9