สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าตัวแทนของศิลปินสาว Taylor Swift ได้แจ้งกับผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายต่างๆ ในเบื้องต้นว่าจะไม่นำอัลบั้มใหม่ Reputation ให้ฟังผ่านบริการสตรีมมิ่งทั้งหลาย อย่างน้อยในช่วงสัปดาห์แรกที่อัลบั้มวางจำหน่าย ซึ่งกำหนดอยู่วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ (รวมทั้งช่องทางดาวน์โหลดอย่าง iTunes)

Billboard ประกาศปรับวิธีการจัดอันดับเพลงฮิตในอเมริกา มีผลตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป โดยที่ผ่านมา Billboard นำข้อมูลการฟังเพลงสตรีมมิ่งมาใช้อยู่แล้ว แต่ด้วยความหลากหลายของบริการสตรีมมิ่ง จึงมีการปรับการให้น้ำหนักของการฟังสตรีมมิ่งแต่ละแบบ

โดย Billboard แบ่งบริการสตรีมมิ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ เสียเงิน (Apple Music, Spotify, Tidal), มีโฆษณา (Spotify, YouTube) และรายการวิทยุ (Pandora) ซึ่งอันดับเพลง Billboard Hot 100 จะให้น้ำหนักข้อมูลจากกลุ่มเสียเงินสูงกว่ากลุ่มอื่น (ปัจจุบันเท่ากัน) และอันดับอัลบั้ม Billboard 200 ก็ปรับไปในแนวทางเดียวกัน

Spotify เปิดตัวแอพใหม่ในชื่อว่า Spotify for Artist ซึ่งเป็นแอพสำหรับการดูข้อมูลต่าง ๆ ของศิลปิน เป็นเครื่องมือเพิ่มเติมนอกเหนือจากแดชบอร์ดบนเว็บ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ศิลปินเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น

Miles Lennon ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Spotify กล่าวว่า จุดสำคัญของแอพนี้คือความสะดวกในการเข้าถึงบนอุปกรณ์พกพา ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการมาก เพราะว่าศิลปินไม่ต้องการทำงานบนโต๊ะ ดังนั้นแม้ว่า Spotify จะมีผลิตภัณฑ์นี้บนเดสก์ท็อป ก็ไม่สามารถเข้าถึงพวกเขาได้

แอพ Spotify สำหรับศิลปิน สามารถทำได้ตั้งแต่การเปลี่ยนโปรไฟล์, ปรับ artist’s pick และเพลย์ลิสต์ใหม่ แต่ยังไม่สามารถอัพโหลดภาพโปรไฟล์ใหม่ได้ (น่าจะมาในอัพเดตหน้า)

บริการสตรีมมิ่งเพลงที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน นอกจากจะทำให้พฤติกรรมของคนฟังเพลงเปลี่ยนไปแล้ว ยังอาจมีผลกระทบต่อนักแต่งเพลงและศิลปินเช่นเดียวกัน งานวิจัยจาก Ohio State University เผยว่า ระยะเวลาเฉลี่ยช่วงอินโทรของเพลงนั้นสั้นลง จาก 20 วินาทีในช่วงยุค 80 เหลือเพียงแค่ 5 วินาทีในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการต้องดึงความสนใจของผู้ฟังให้อยู่กับเพลงก่อนที่พวกเขาจะกดข้ามเพลงไป

ความสามารถเปิดเพลงจาก Spotify ก่อนหน้านี้ยังจำกัดเฉพาะ Google Home ล่าสุด Spotify ประกาศว่าสามารถใช้ Google Assistant เปิดเพลงจากแพลตฟอร์มได้บนอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่รองรับ Google Assistant แล้ว

ตัวอย่างเสียงคำสั่งคือ "Ok Google, play Spotify", "Ok Google, play Discover Weekly", "Ok Google, play Today’s Top Hits on my Chromecast"

สามารถใช้งานคำสั่งนี้ได้ทั้งผู้ใช้ Spotify ทั้งแบบฟรีและพรีเมี่ยม

ไมโครซอฟท์ยุติบริการออนไลน์อีกรายคือ Groove Music Pass บริการฟังเพลงแบบเหมาจ่ายรายเดือน โดยจะให้ผู้ใช้ย้ายไปใช้บริการพันธมิตรคือ Spotify แทน

Groove Music Pass จะยุติบริการในวันที่ 31 ธันวาคม 2017 โดยหลังจากนั้น แอพ Groove Music (ซึ่งตัวแอพยังใช้งานต่อไปสำหรับการฟังเพลงออฟไลน์) จะนำตัวเลือกที่เกี่ยวข้องกับ Groove Music Pass ออกทั้งหมด ส่วนลูกค้าที่สมัครไปแล้วและบริการยังไม่หมดอายุ สามารถกดย้ายไปใช้ Spotify ได้ทันที

เมื่อเวลาผ่านไป หลายๆ คนมักจะแอบคิดถึงเพลงดังในอดีตที่เราเคยชอบฟัง ซึ่ง Spotify ได้เล็งเห็นถึงความต้องการนี้จึงได้เปิดตัว Your Time Capsule เพลย์ลิสต์ส่วนบุคคลที่จะรวมเพลงฮิตที่ผู้ใช้งานชื่นชอบในสมัยวัยรุ่นโดยคำนวณจากวันเกิดของผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนเอาไว้กับ Spotify

TechCrunch รายงานว่า Tencent บริษัทยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตของจีน เคยยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ Spotify เพื่อขยายบริการสตรีมมิ่งเพลง ออกสู่ตลาดอื่นนอกจากจีนและในเอเชียเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามดีลนี้ไม่เกิดขึ้น และ Spotify ก็ยังคงอยู่ในแผนเตรียมเข้าตลาดหุ้น

เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่ Tencent นั้นมีบริษัทในเครือคือ Tencent Music ซึ่งเป็นเจ้าของบริการเกี่ยวกับเพลงอยู่ในจีนถึง 3 ตัว ได้แก่ QQ Music, Kugou และ Kuwo มีผู้ใช้งานรวมกว่า 600 ล้านคน และมีแผนจะเข้าตลาดหุ้นด้วย นอกจากนี้บริษัทแม่ Tencent เองก็มีบริการสตรีมมิ่งเพลง Joox ที่ให้บริการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งในประเทศไทย

เราอาจได้เห็น Spotify เข้าตลาดหลักทรัพย์ New York เร็วๆ นี้ โดยล่าสุดทาง Spotify เริ่มพูดคุยกับ TPG ซึ่งเป็น Private Equity ชื่อดัง และเป็นผู้ลงทุนในเงินกู้แปลงสภาพ หลังจากยืดเยื้อมาหลายเดือน

ในชุมชนผู้ใช้ Spotify นั้นเริ่มมีการพูดถึงปัญหาดังกล่าวว่า Web Player บริการเล่นเพลงบนเบราว์เซอร์ของ Spotify ไม่สามารถใช้งานกับเบราว์เซอร์ Safari ได้ ซึ่ง riegelstamm ผู้ใช้ Spotify รายหนึ่งก็ไปพบว่าหน้าความต้องการระบบของ Web Player นั้น แต่เดิมมี Safari เวอร์ชัน 6 ขึ้นไปด้วย แต่ตอนนี้ถูกตัดออกไปแล้ว

เพลงใหม่ของ Taylor Swift ในซิงเกิลที่มีชื่อว่า Look What You Made Me Do เปิดให้ฟังพร้อมกันทั่วโลกเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ปล่อยเพลงในทุกแพลตฟอร์ม และยังทำลายสถิติยอดฟังเพลงสูงสุดบน Spotify ด้วย โดยเฉพาะวันแรกที่ปล่อยซิงเกิล มียอดฟังแล้วกว่า 8 ล้านครั้ง

Spotify เซ็นสัญญาระยะยาวร่วมกับค่ายเพลงใหญ่ Warner Music หลังจากเจรจาต่อรองกันมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปี โดย Warner Music ประกาศความเคลื่อนไหวนี้ผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง และมีความเป็นไปได้ว่าการเซ็นสัญญาครั้งนี้จะนำพา Spotify สู่การเข้าตลาดหุ้น IPO ง่ายขึ้น

เหตุที่ทำให้การเจรจากินระยะเวลานาน เพราะ Spotify จ่ายส่วนแบ่งให้ค่ายเพลงในตัวเลขที่ค่ายยังไม่พอใจ ตัวอย่างเช่นสัญญากับค่ายเพลงอื่นอย่าง Universal Music และ Sony Music ลดค่าตอบแทนค่ายจาก 55% มาเป็น 52% และจำกัดเพลงใหม่ของค่ายมาลงแพลตฟอร์มก่อน 2 สัปดาห์

ในส่วนของ Warner Music มีศิลปินดังในค่ายคือ Ed Sheeran ส่วนข้อตกลงระหว่าง Spotify และ Warner Music จะเป็นเหมือนข้อตกลงที่เซ็นกับค่ายอื่นหรือไม่นั้นยังไม่เปิดเผย

วันนี้ (22 สิงหาคม) คือวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของสตรีมมิ่งเพลง Spotify อย่างที่หลายคนพอจะได้เห็นราคากันไปบ้างแล้วเมื่อคืนนี้ โดย Spotify เปิดบริการในประเทศไทยเป็นประเทศที่ 61 ของโลก

ในการเปิดตัวในประเทศไทย Spotify มีความมั่นใจมากว่าจะช่วยเพิ่มเม็ดเงินจากสตรีมมิ่งเพลงให้แก่อุตสาหกรรมดนตรีในประเทศ สุนิตา คาร์ (Sunita Kaur) ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียของ Spotify ระบุว่าบนแพลตฟอร์มมีเพลงมากกว่า 30 ล้านเพลง และยังมีฟีเจอร์โดดเด่น สามารถเรียนรู้ลักษณะการฟังเพลงของผู้ใช้

Spotify จะเปิดให้บริการในไทยอย่างเป็นทางการพรุ่งนี้ วันนี้ Spotify หน้าเว็บประเทศไทยขึ้นราคาพรีเมียมแล้วเป็นเดือนละ 129 บาท และแบบครอบครัวตก 199 บาทต่อเดือน (6 คน ตกคนละ 33 บาท) ส่วนรายปีอยู่ที่ 1,548 บาท

นอกจากนี้ผู้ใช้ในไทยยังสามารถใช้งาน Spotify ได้แล้ว ทั้งบนวินโดวส์, แมคและสมาร์ทโฟน พร้อมทดลองใช้พรีเมียมฟรี 30 วัน (ต้องกรอกบัตรเครดิต) นอกจากนี้ยังมีบริการพรีเมียมตัดเงินผ่านเครือข่าย dtac ด้วยตัวเลือกแบบรายวัน (8 บาท), รายสัปดาห์ (39 บาท), รายเดือน (139 บาท) และราย 3 เดือน (417 บาท)

หลังจาก Spotify ลบวงดนตรีที่มีเนื้อหาเพลงขวาจัดแสดงความเกลียดชังออกจากแพลตฟอร์ม หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วแพลตฟอร์มอื่นจะทำอย่างไร ล่าสุด Google และ Deezer ก็ออกมาแสดงท่าทีเดียวกับ Spotify แล้ว

Deezer ระบุว่ากำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบคอนเทนต์เนื้อหาเพลงบนแพลตฟอร์ม ส่วน Google ระบุชัดเจนว่าจะนำคอนเทนต์เพลงที่มีเนื้อหาเหยียดเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ออกจาก YouTube และสตรีมเพลงหรือ Google Play Music แต่ก็ต้องอาศัยการรายงานของผู้ใช้ด้วยว่าเพลงไหนที่เข้าข่ายเนื้อหารุนแรง

โซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ใหญ่เริ่มมาตรการแบนคอนเทนต์ขวาจัด ซึ่งเป็นผลจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างฝ่ายนิยมผิวขาวแบบสุดโต่งกับฝ่ายต้านการเหยียดผิวที่เมืองชาร์ล็อตต์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย เว็บไซต์สตรีมมิ่งเพลง Spotify ก็ใช้นโยบายแบนด้วย โดยแบนวงดนตรีที่มีเนื้อหาแสดงความเกลียดชังออกจากแพลตฟอร์ม

M คือปัญญาประดิษฐ์ใน Facebook Messenger สามารถช่วยการทำงานให้ผู้ใช้หลากหลายเช่นเรียกอูเบอร์ เตือนความจำ ทำโพล และกำลังจะเพิ่มความสามารถแนะนำเพลงจาก Spotify ได้ โดยสามารถพิมพ์ "play music" หรือ "listen to music" หลังจากนั้น M จะแสดงข้อความ Find Music พร้อมโลโก้ Spotify

ผู้ใช้ยังสามารถให้ M แสดงข้อมูลเพลงอื่นๆ เป็นอัลบั้ม เป็นศิลปิน และแนวเพลงผ่านแชทได้ และสามารถกด play เพื่อเล่นเพลงได้จากในแชทเลย

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงไม่ต้องพึ่งบริการ VPN ไปต่างประเทศแล้ว เมื่อ Spotify ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลง เริ่มส่งจดหมายเชิญสื่อมวลชนร่วมเปิดตัวการให้บริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 22 สิงหาคม 2560 ในจดหมายเชิญดังกล่าวยังไม่มีรายละเอียดในส่วนราคาแบบพรีเมี่ยมและแบบครอบครัวแต่อย่างใด

Spotify ประกาศตัวเลขผู้ใช้งานแบบเสียเงินล่าสุด ว่ามีจำนวนถึง 60 ล้านคนแล้ว เพิ่มขึ้นจากเมื่อเดือนมีนาคมที่ประกาศว่ามี 50 ล้านคน ทำให้รักษาระยะห่างจาก Apple Music ที่ประกาศตัวเลขล่าสุดว่ามีผู้ใช้งานแบบเสียเงิน 27 ล้านคนได้ต่อไป

นอกจากนี้ Spotify ยังเตรียมดำเนินการเพื่อเข้าตลาดหุ้นภายในปลายปีนี้ ซึ่งยังมีอีกสองประเด็นใหญ่ที่ Spotify ต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนนั่นคือความสามารถในการทำกำไร และการเจรจากับ Warner Music ให้ได้ข้อยุติ

ที่มา: 9to5Mac

Spotify ประกาศตัวเลขผู้ใช้งานทั่วโลกล่าสุดว่ามี 140 ล้านคนแล้ว โดยตัวเลขเป็นการรวมทั้งผู้ใช้แบบฟรีและเสียเงินรวมกัน

เมื่อเดือนมีนาคม Spotify บอกว่ามีผู้ใช้งานแบบเสียเงิน 50 ล้านคน แต่ไม่ได้บอกผู้ใช้งานทั้งหมด ถ้าจะหาว่าตอนนี้มีผู้ใช้เสียเงินเท่าใดคงต้องคำนวณกันเอาเอง

จำนวนผู้ใช้ Spotify ยังคงรักษาระดับที่สูงและทิ้งห่าง Apple Music ไว้ได้ ซึ่งแอปเปิลเปิดเผยตัวเลขล่าสุดในงาน WWDC ว่ามีผู้ใช้งานแบบเสียเงิน (เพราะไม่มีแบบฟรี) 27 ล้านคน

Taylor Swift ศิลปินสาวชื่อดังประกาศนำเพลงลง Spotify รวมถึงบริการสตรีมมิ่งอื่น ๆ อย่าง Amazon Music, Tidal อีกครั้ง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองยอดขายอัลบั้ม 1989 ครบ 10 ล้านชุดทั่วโลก

Swift เคยมีปัญหากับ Spotify เนื่องจากเป็นบริการที่ไม่ยอมแยกไลบรารีเพลงสำหรับผู้ใช้ฟรีและผู้ใช้เสียเงิน จึงทำให้เธอนำเพลงทั้งหมดออกจากบริการ (แม้ภายหลัง Spotify จะยอมแล้วก็ตาม) โดยเธอเคยให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่าเพลงไม่ควรจะเป็นของฟรี การละเมิดลิขสิทธิ์, การแชร์ไฟล์ และการสตรีมมิ่งทำให้ยอดขายอัลบั้มลดลงอย่างรุนแรง

พอกันทีกับการมุด VPN ไปฟังเพลงเมื่อ Spotify เตรียมจะเปิดให้บริการในประเทศไทย จากการเปิดรับสมัครงานในตำแหน่ง Music Editor เพื่อดูแลทั้งการจัดเพลย์ลิสต์, คอนเทนท์และโปรแกรมมิ่งสำหรับบริการในไทย โดยตำแหน่งนี้จะทำงานกับสำนักงานประจำภูมิภาคในสิงคโปร์

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าไปอ่านรายละเอียดและสมัครได้จากลิงก์ที่มา

ที่มา - Spotify

Spotify ได้เข้าซื้อบริษัทสตาร์ทอัพฝรั่งเศส Niland ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานด้าน AI สำหรับการค้นหาเพลงและแนะนำเพลงให้กับผู้ใช้ โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทจะเน้นการทำ API เพื่อสนับสนุนบริการต่าง ๆ

Niland นั้นใช้เทคโนโลยี AI ในการปรับปรุงการค้นหาเพลงและการแนะนำเพลง โดยทีมงานของบริษัท Niland จะไปทำงานร่วมกับทีมวิจัยและพัฒนาของ ​Spotify ในนิวยอร์ก เพื่อช่วยพัฒนาฟีเจอร์ด้านการแนะนำเพลงและเลือกเพลงให้เหมาะสมผู้ใช้

ระบบการแนะนำและเลือกเพลงให้เหมาะกับผู้ใช้นั้น ถือเป็นจุดขายของบริการ Spotify อย่างเช่นฟีเจอร์ Release Radar และ Discovery Weekly โดยฟีเจอร์ Discovery Weekly นี้มีผู้ใช้กว่า 40 ล้านคนภายในปีแรก ซึ่งนับว่าเป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานง่ายและสามารถเลือกเพลงได้อย่างชาญฉลาด

Spotify เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Spotify Code ซึ่งเป็นโค้ดในลักษณะเดียวกับ Snapchat, Facebook Messenger เพื่อความสะดวกในการแชร์เพลงให้เพื่อน รวมถึงการโปรโมตผลงานของศิลปินอีกด้วย

สำหรับฟีเจอร์ Spotify Code นี้จะเป็นการสร้างโค้ดและภาพสำหรับเพลย์ลิสต์, เพลง และศิลปิน วิธีสร้างเพียงแค่กดปุ่มสามจุดด้านขวาของจอขณะกำลังเล่นเพลง หรือดูที่ศิลปินหรือเพลย์ลิสต์ จะเจอเมนูให้สร้างโค้ด ซึ่งโค้ดดังกล่าวสามารถอัพโหลดขึ้น social media, ส่งให้ผู้ใช้ผ่านแชท หรือว่าจะแปะไว้ในไวนิลสำหรับการโปรโมตก็ได้

ส่วนวิธีสแกน Spotify Code ก็เพียงแค่ไปที่แถบค้นหา กดปุ่มกล้อง และนำไปส่องโค้ดที่เห็น Spotify ก็จะแสดงเพลงนั้นให้ทันที

ดูเหมือน Spotify ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลง จะมีแผนการในการพัฒนาฮาร์ดแวร์ของตัวเอง หลังประกาศรับสมัครงานด้านฮาร์ดแวร์อย่างฝ่ายพัฒนาและดีไซน์ฮาร์ดแวร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนา Natural Language Understanding ด้วย รวมไปถึงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์

ในหน้าหางานตำแหน่ง Senior Product Manager-Hardware (ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนถูกลบไปแล้ว) Spotify อธิบายผลิตภัณฑ์ว่า คำอธิบายประเภทของผลิตภัณฑ์คือมีความคล้ายคลึงกับ Pebble Watch, Amazon Echo และ Snap Spectacles และเป็นฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (fully-connected)