Counterpoint Research บริษัทวิจัยตลาดเปิดเผยรายงานตัวเลขเกี่ยวกับยอดขายของ Google Pixel 3 และ OnePlus 6T เมื่อไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ที่น่าสนใจคือผู้ที่ซื้อสมาร์ทโฟนทั้งสองแบรนด์รวมกันราว 1/3 เปลี่ยนมาจากซัมซุง

หากแยกตามรุ่น มีผู้ใช้ Pixel 3 หน้าใหม่กว่า 51% ที่เปลี่ยนมาจากซัมซุง ส่วน OnePlus 6T มีเพียง 37% โดย Jeff Fieldhack ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Counterpoint ระบุว่ามือถือตระกูล Pixel ถูกวางตัวเอาไว้ดิสรัปสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมียมและเป็นผู้ชี้นำนวัตกรรมแอนดรอยด์ โดยเป้าหมายหลักคือการเปลี่ยนผู้ใช้ iOS ให้มาใช้แอนดรอยด์ ทว่าเอาเข้าจริงแล้ว ผู้ใช้ iOS ที่เปลี่ยนมาเป็น Pixel 3 มีเพียง 18% เท่านั้น ที่เหลือกลับเป็นผู้ใช้แอนดรอยด์เสียเอง

กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัยรอบเดือนเมษายน 2019 ให้กับสมาร์ทโฟนตระกูล Pixel 1/2/3

นอกจากการอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยตามรอบเดือนปกติ แพตช์ตัวนี้ยังแก้บั๊กหลายอย่างของ Pixel 3/3 XL เช่น แก้บั๊กหน้าจอสว่างเกินไปตอน ambient display ตื่น, ปรับปรุงประสิทธิภาพของ Voice Unlock และ Wi-Fi ในกรณีที่ใช้ eSIM กับบางเครือข่าย

ส่วน Pixel รุ่นแรกก็ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพเรื่องการเชื่อมต่อ Bluetooth ด้วย

ข่าวลือของ Google Pixel 3 Lite และ Pixel 3 Lite XL นั้นมีมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีการเปิดตัวออกมาสักที ล่าสุดมีข้อมูลว่ากูเกิลจะเรียกสมาร์ทโฟนสองรุ่นนี้ว่า Google Pixel 3a และ Google Pixel 3a XL

จากข้อมูลภาพหลุดและเรนเดอร์ก่อนหน้านี้ พบว่า Google Pixel 3a และ Google Pixel 3a XL จะมีสองสีคือ สีดำ และสีขาว แต่แหล่งข่าวที่ 9to5Google ได้มาระบุว่าจะมีสีที่สามด้วย ขนาดหน้าจออยู่ที่ 5.6 นิ้วสำหรับ 3a และ 6 นิ้วสำหรับ 3a XL

สำหรับข้อมูลสเป็กอื่น เฉพาะ Pixel 3a ระบุว่าหน้าจอที่ใช้เป็น OLED ซีพียู Snapdragon 670 แรม 4GB และกล้องหน้า 8MP กล้องหลัง 12MP

Google ปล่อยแพตช์ให้สมาร์ทโฟนกลุ่ม Pixel ประจำเดือนมีนาคมแล้ว ซึ่งแพตช์วันนี้จะรวมแพตช์วันที่ 1 มีนาคมเข้ามาด้วย โดยหลักๆ คือปรับปรุงประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ Pixel 3 และ 3 XL อย่างกล้องที่มีผู้ใช้บางรายเจอปัญหา เปิดแอปแล้วกล้องทำงานช้า, เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสตอเรจและบลูทูธ

ส่วนช่องโหว่ แพตช์รอบนี้แก้ช่องโหว่ความปลอดภัยทั้งหมด 45 จุด เป็นระดับร้ายแรง (critical) 11 จุดที่เป็นช่องโหว่จากไดร์เวอร์ Qualcomm เสียเยอะถึง 8 จุด ส่วนที่เหลือเป็นช่องโหว่ที่เปิดให้แฮกเกอร์รันโค้ดผ่านทางไกลด้วยโปรเซสที่มีสิทธิระดับสูง

ปีที่ผ่านมามีข่าวลือของ Google Pixel 3 Lite และ Pixel 3 Lite XL ออกมาอยู่หลายครั้ง ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเปิดตัวแต่อย่างใด

ล่าสุดมีข้อมูลหลุดออกมาจาก Geekbench เว็บไซต์ด้านการทดสอบ benchmark เป็นผลทดสอบสมาร์ทโฟนที่คาดว่าจะเป็น Pixel 3 Lite XL พร้อมระบุด้วยว่ามีแรมถึง 6GB มากกว่า Pixel 3 และ Pixel 3 XL ที่มีแรม 4GB เท่านั้น

ผลทดสอบ Pixel 3 Lite XL จาก Geekbench รายงานคะแนนแบบคอร์เดียวที่ 1805 คะแนน, และแบบหลายคอร์ที่ 5790 คะแนน ส่วนสเปกอื่นๆ ที่ได้ทราบจาก Geekbench คือ ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 710 ตรงกับข่าวลือก่อนหน้านี้

หลังจากรอคอยกันมานาน DxOMark ก็ออกผลรีวิว Google Pixel 3 ที่ถูกจับตามองอย่างมากในเรื่องกล้อง (เพราะ Pixel 2 ทำคะแนนไว้ดี) ผลที่ออกมาคือ Pixel 3 ได้คะแนนที่ 101 คะแนน เท่ากับ iPhone XR และอยู่ในอันดับ 7 ร่วม ยังตามหลังแชมป์ในตอนนี้คือ Huawei P20 Pro ที่ทำไว้ 109 คะแนน (รีวิว Mate 20 Pro ยังไม่ออก)

ถ้าดูในรายละเอียด Pixel 3 ได้คะแนนภาพนิ่ง 103 คะแนน (P20 Pro ได้ 114 คะแนน) ส่วนวิดีโอได้ 98 คะแนน (เท่ากับ P20 Pro) โดยหมวดที่ Pixel 3 ทำคะแนนได้น้อยคือหมวดซูมและโบเก้ ซึ่ง DxOMark วิจารณ์ว่าเป็นข้อจำกัดของการใช้กล้องเลนส์เดียวนั่นเอง เรียกว่าซอฟต์แวร์ปรับแต่งมาดีแค่ไหนก็ติดข้อจำกัดที่ฮาร์ดแวร์แล้ว

หลุดมาต่อเนื่องสำหรับ Pixel 3 Lite ล่าสุด @OnLeaks นักปล่อยภาพหลุดมือถือใหม่ และ 91Mobiles เว็บไซต์ด้านมือถือของอินเดีย ร่วมกันเผยภาพเรนเดอร์ของสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวของ Google พร้อม Pixel 3 Lite XL เพิ่มมาอีกหนึ่งรุ่นด้วย

หน้าตาโดยรวมของ Pixel 3 Lite ใกล้เคียงกับภาพหลุดจากข่าวก่อนหน้านี้ แต่ข้อมูลล่าสุดระบุว่าหน้าจอจะมีขนาด 6 นิ้ว แตกต่างจากข้อมูลเดิมที่ระบุว่าจะมีขนาด 5 นิ้ว

ปีนี้ Google อาจไม่ได้มีสมาร์ทโฟนแค่ Pixel 3 กับ Pixel 3 XL เพราะล่าสุดเว็บไซต์ wylsa.com ของรัสเซียเปิดเผยภาพที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็น Pixel 3 Lite หรือในชื่อเรียกว่า Sargo

Pixel 3 Lite มีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว เล็กกว่า Pixel 3 และ Pixel 3 XL, ขนาดโดยรวมของตัวเครื่องใกล้เคียงกับ iPhone XR, ฝาหลังเป็นพลาสติก และจอไร้รอยแหว่ง

ไม่มีปัญหาไม่ใช่มือถือ Pixel ที่เรียกได้ว่ามีสารพัดปัญหาหลังวางจำหน่ายแทบทุกรุ่น โดยล่าสุดเป็นเรื่องของการใช้งานแอปกล้อง ที่มีผู้ใช้ Pixel 3 หลายคนโพสต์ทั้งบน Reddit และ Google Product Forum ว่าไม่สามารถเข้าใช้งาน Google Camera ได้ โดยขึ้นป๊อปอัพว่า The camera driver encountered a fatal error

Owen William ผู้ใช้ที่ประสบปัญหาดังกล่าวได้เข้าไปดู log ที่รายงานปัญหา ไปจนถึง API ของกล้องก่อนจะพบว่า ระบบเข้าใจว่ากล้องกำลังถูกแอปอื่นใช้งานอยู่และแครช ขณะที่การรีบูท, เคลียแคช ไปจนถึงรีเซ็ตค่าโรงงานก็ดูไม่ช่วยแก้ปัญหา ทำให้ผู้ใช้หลายรายที่เจอปัญหาเรียกร้องขอเปลี่ยนเครื่อง ทว่าทีมซัพพอร์ท Google ปฏิเสธ ระบุเพียงว่าทีมพัฒนากำลังแก้ปัญหานี้อยู่ และ "น่าจะ" มีอัพเดตแก้ปัญหานี้ตามมา

หลังจากปีที่แล้วเคยเปรียบเทียบภาพถ่าย iPhone X vs Pixel 2 ไปแล้ว มาปีนี้ก็ขอสานต่อกับรุ่นใหม่อย่าง iPhone XS Max และ Pixel 3 ที่แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องกล้องในเชิงฮาร์ดแวร์จากรุ่นเก่า แต่เน้นไปที่ซอฟต์แวร์มากกว่าเหมือนกันทั้งคู่

เช่นเดิมโหมดที่ถ่ายจะเป็นโหมดออโต้ (กรณีที่ไม่ชี้แจงเป็นอย่างอื่น) ในกรณีของ Pixel ที่มีให้เลือก White Balance ผมก็ตั้งออโต้ ส่วน HDR เป็นโหมด HDR+ Enhanced ครับ รวมถึงไม่มีการตกแต่งภาพแต่อย่างใด

คำเตือน รูปค่อนข้างเยอะ

กูเกิลปล่อยฟีเจอร์ถ่ายภาพกลางคืน Night Sight ให้กับโทรศัพท์ตระกูล Pixel อย่างเป็นทางการ หลังเปิดตัวในงานแถลงข่าว Pixel 3 และเปิดให้ทดสอบในกลุ่มจำกัดมาได้สักระยะหนึ่ง

Night Sight เป็นฟีเจอร์ที่แก้ปัญหาการถ่ายรูปตอนกลางคืนที่มีแสงน้อย และหลายสถานการณ์เราไม่สามารถใช้แฟลชหรือขาตั้งกล้องได้ แนวทางแก้ปัญหาของกูเกิลคือใช้ AI เข้าช่วย โดยจะวัดค่าการสั่นของกล้องก่อนกดชัตเตอร์ หากกล้องเสถียรและภาพที่ถ่ายเป็นภาพนิ่ง ก็จะเปิดรับแสงนานขึ้นเพื่อให้ได้ภาพที่ดีขึ้น แต่ถ้ากล้องสั่นหรือซีนมีความเคลื่อนไหว ระยะเวลารับแสงจะสั้นลงเพื่อลดการเบลอของภาพ

เว็บไซต์ Android Police รายงานฟีเจอร์ของ Google Pixel 3 และ Pixel 3 XL ที่เพิ่งถูกค้นพบ นั่นคือสามารถแชร์ Wi-Fi hotspot ให้เครื่องอื่นได้ แม้ว่าเครื่องของเรากำลังต่อ Wi-Fi วงอื่นอยู่

วิธีการใช้งานตรงไปตรงมา เมื่อเราเชื่อมต่อ Wi-Fi อยู่ในขณะนั้น ก็สามารถกดปุ่ม Hotspot เพื่อกระจายสัญญาณต่อได้เลย

ฟีเจอร์นี้อาจเหมาะกับบางกรณี เช่น ซื้อเน็ตโรงแรมที่อนุญาตให้ต่อ Wi-Fi ได้ตามจำนวนเครื่อง หรือใช้เป็นตัวขยายสัญญาณ Wi-Fi ให้กับเครื่องที่รับสัญญาณได้ไม่ดีนัก

ที่มา - Android Police

Google Pixel 3 XL มาพร้อมกับ Notch ขนาดใหญ่ที่เรียกเสียงวิจารณ์ไม่น้อย ทว่าผู้ใช้ Pixel 3 XL บางรายกลับไม่ได้เจอแค่ Notch เดียวเมื่อมีรายงานว่า Pixel 3 XL โชว​์ Notch เพิ่มมาอีกอันบนหน้าจอบริเวณปุ่มล็อคหน้าจอด้านขวาของเครื่อง

ยังไม่มีรายงานถึงที่มาที่ไปของปัญหานี้ ทว่ามีการคาดกันว่าอาจเกิดจากปัญหา orientation ของซอฟต์แวร์เวลาหมุนหน้าจอ ด้าน Google ระบุว่าทราบปัญหานี้แล้วและจะแก้ปัญหาผ่านซอฟต์แวร์อัพเดตให้เร็วๆ นี้

ที่มา - Android Police

หลังจาก Google เปิดตัวมือถือ Google Pixel 3 ไปเมื่อต้นเดือนและเปิดให้พรีออเดอร์ผ่านทางออนไลน์ในวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ผมเองก็มีโอกาสกดพรีออเดอร์และมารับของเองที่อเมริกา เลยมีโอกาสได้แกะกล่องและลองเล่นดูว่าการใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง

คำเตือน : รูปประกอบบทความเยอะ

Pixel 3 มาพร้อมกับฟีเจอร์ชาร์จไร้สายคู่กับ Pixel Stand ที่รองรับกำลังไฟ 10W ล่าสุดหลัง Pixel 3 วางจำหน่าย มีการค้นพบว่าเรือธงของ Google รองรับการชาร์จไร้สายกับแท่นชาร์จของเจ้าอื่นๆ ด้วย

ทว่ามีคนเจอปัญหาว่าเมื่อชาร์จกับแท่นชาร์จ 10W ของ Anker แต่ได้ไฟแค่ 500mA ก่อนจะสอบถามกับทาง Anker และได้รับการตอบกลับว่า วิศวกรของ Anker พบว่า Google กำหนดกำลังไฟให้แท่นชาร์จไร้สายของแบรนด์อื่นแค่ 5W เท่านั้น

ปัญหาของ Pixel 3 เริ่มทยอยๆ ถูกเปิดเผยออกมาหลังเริ่มส่งถึงมือผู้ใช้ในสหรัฐ โดยปัญหาล่าสุดที่เกิดและค่อนข้างใหญ่คือปัญหาด้านการจัดการแรม (memory management)

ปัญหานี้เจอกันอย่างแพร่หลาย สื่อในสหรัฐหลายเจ้ารายงานไปในทิศทางเดียวกัน Pixel 3 ไม่สามารถรันแอปเบื้องหลังได้มากกว่า 3-4 แอป หรือบ้างก็เจอกรณีที่แอปเบื้องหลังถูกปิดทันทีที่ออก และแอปต้องโหลดใหม่เมื่อเปิด

ด้าน Google ยังไม่มีแถลงหรือปล่อยอัพเดตแก้ปัญหานี้

ที่มา - Android Police

Android Pie มาพร้อมกับ Android Protected Confirmation ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ซึ่ง Google เพิ่งเผยรายละเอียดเรื่องนี้ โดยมี Pixel 3 เป็นมือถือรุ่นแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้

Google อธิบายว่า Android Protected Confirmation เป็น API ที่เรียกใช้ฮาร์ดแวร์ช่วยคุ้มครองการทำธุรกรรมหรือสั่งงานอุปกรณ์การแพทย์สำคัญๆ (Trusted UI) แยกจาก OS บนสมาร์ทโฟนอย่างสมบูรณ์ ป้องกันกรณีที่ OS ถูกฝังด้วยมัลแวร์และดักข้อมูลธุรกรรมของเราไป

เมื่อแอปสั่งเรียกใช้งาน Protected Confirmation ตัว Trusted UI จะทำงาน ข้อมูลธุรกรรมจะถูกแสดงผลบนหน้าจอ และให้ผู้ใช้กดยืนยันด้วยปุ่มล็อคหน้าจอ

ชิป Titan M ที่ถอดแบบมาจากชิป Titan บนดาต้าเซ็นเตอร์เป็นหนึ่งในฟีเจอร์หลักด้านความปลอดภัยบน Pixel 3 ที่ดูแล bootloader และการเข้ารหัสทั้งหมดแยกส่วนออกมาจากชิปเซ็ตหลักของสมาร์ทโฟน

Xiaowen Xin ผู้จัดการโปรเจ็คด้านความปลอดภัยของ Google เปิดเผยกับ Wired ว่า Google เตรียมจะเปิดโอเพนซอร์สเฟิร์มแวร์ของ Titan M ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักวิจัยด้านความปลอดภัยว่าเรื่องนี้ Google ทำได้จริงอย่างที่พูด

สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของกูเกิล "Pixel 3" ถูกเปิดตัวเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และเริ่มวางขายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีจุดเด่นคือกล้องที่ยังคงใช้กล้องเดี่ยวแต่ให้ภาพที่ดีกว่ากล้องมือถือเรือธงตัวอื่นๆ ซึ่งล่าสุดกูเกิลก็ได้ตอกย้ำกระแสและโชว์ประสิทธิภาพของกล้องอย่างต่อเนื่องด้วยการสปอนเซอร์มือถือ Pixel 3 ให้ทีมงานของศิลปินแร๊ปชื่อดังอย่าง Eminem ไปใช้ถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลง Venom

การถ่ายทำเพลงดังกล่าวเล่นใหญ่ถึงขนาดที่ไปถ่ายทำบนยอดตึก Empire State ที่นครนิวยอร์กในเวลากลางคืน และได้เปลี่ยนสีไฟบนยอดตึกให้เป็นสีแดง, น้ำเงิน ฯลฯ โดยสำนักข่าว ABC ระบุว่าส่วนใหญ่ของการแสดงนี้ได้ถูกถ่ายทำด้วย Google Pixel 3 ซึ่งหลายจังหวะในมิวสิควิดีโอก็เผยให้เห็นทีมงานกำลังถ่ายทำด้วย Pixel 3 ที่ถูกติดตั้งเข้ากับกิมบอล

Google ทยอยเขียนบล็อกอธิบายความสามารถใหม่ๆ บน Pixel 3 ก่อนหน้านี้เป็นเรื่องของกล้องและ AI ล่าสุด Google เขียนอธิบายเรื่องชิปความปลอดภัย Titan M ที่มีฟีเจอร์ลักษณะเดียวกับชิป Titan บนดาต้าเซ็นเตอร์

Titan M ดูแลความปลอดภัยตั้งแต่ระดับ bootloader ตรวจสอบว่าแอนดรอยด์ถูกบูตขึ้นมาแบบปลอดภัย (secure boot), รันแอนดรอยด์เวอร์ชันที่ถูกต้องและป้องกันมัลแวร์มาปลดล็อค bootloader

กูเกิลเขียนบล็อกอธิบายความสามารถด้าน AI ของสมาร์ทโฟน Pixel 3 ว่าจุดเด่นคือสามารถประมวลผล AI บนมือถือได้เลย (on-device AI) ทำงานได้แม้ออฟไลน์ไม่เชื่อมต่อเน็ต แถมยังช่วยลดความกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล

แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะกูเกิลเองก็พูดในงาน Google I/O มาหลายครั้ง ว่าใช้เทคนิคการลดขนาดโมเดล AI ลงให้พอประมวลผลบนมือถือได้ บวกกับสมรรถนะของมือถือที่สูงขึ้นในแต่ละปี ทำให้เรื่องนี้เกิดได้จริง

กูเกิลเริ่มทดสอบ on-device AI มาตั้งแต่ Pixel 2 แต่ยังจำกัดเฉพาะฟีเจอร์ Now Playing สำหรับแยกแยะเพลงเท่านั้น แต่พอมาถึงยุค Pixel 3 ก็มีฟีเจอร์หลายอย่างที่ประมวลผลแบบออฟไลน์ได้เลย

หลังจากปีที่แล้วหน้าจอของ Pixel 2 XL ที่ถูกผลิตโดย LG เจอสารพัดปัญหา กว่าจะแก้ได้คือต้องรอล็อต 2 หรือ 3 เป็นต้นไป ทำให้ปีนี้คำถามที่หลายๆ คนน่าจะสงสัยคือแล้วใครเป็นผู้ผลิตจอให้ Pixel 3 และ 3 XL

iFixit นักงัดแงะมืออาชีพได้จับเรือธงตัวใหม่ของ Google มาถอดร่างแล้วก่อนจะพบว่าแพแนลหน้าจอ OLED ที่ใช้บน 3 XL ถูกผลิตโดยซัมซุง ส่วน Pixel 3 ผลิตโดย LG ซึ่งคะแนนรีวิวหน้าจอก็ออกมาถึงระดับ A+

กล้องใน Pixel 3 ได้รับเสียงชมเป็นอย่างมาก แม้จะ "ยืนงงในดงกล้องคู่"อยู่ก็ตามที วันนี้กูเกิลก็ออกมาอธิบายว่าเทคนิคการปรับภาพทำให้ภาพที่ได้มีความละเอียดสูงมากแม้จะใช้กล้องเดี่ยวนั้น อาศัย "ภาพสั่น" กลายเป็นตัวทำให้ได้ภาพความละเอียดสูงขึ้นได้อย่างน่าแปลกใจ

เว็บไซต์ต่างประเทศหลายแห่งเริ่มปล่อยรีวิว Google Pixel 3 ที่จะวางขายในสหรัฐช่วงสัปดาห์นี้ ภาพรวมของรีวิวคือได้คะแนนค่อนข้างดี โดยเฉพาะเรื่องกล้องที่หลายเจ้าพูดตรงกันว่า พัฒนาขึ้นจาก Pixel 2 และเป็นมือถือที่กล้องดีที่สุดของปี 2018

The Verge ชมว่ากล้องของ Pixel 3 ให้ภาพถ่ายทั่วไปที่มีคุณภาพดีขึ้นมาก และโหมดการถ่ายรูปแบบต่างๆ ก็ใช้งานได้จริง เช่น Top Shot เลือกภาพที่ดีที่สุด, Super Res Zoom ซูมดิจิทัลจากการใช้หลายภาพรวมกัน แต่ฟีเจอร์ Night Sight เน้นถ่ายภาพกลางคืนยังไม่เปิดให้ใช้งาน ส่วนกล้องหน้าที่เพิ่มเลนส์มุมกว้างเข้ามา ก็ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่กลุ่มใหญ่ทำได้ง่ายขึ้น

DisplayMate บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบจอภาพ ออกรายงานรีวิวจอภาพ OLED ของ Google Pixel 3 XL ซึ่งได้คะแนน A+ และได้รางวัล Best Smartphone Display Award ควบคู่ไปด้วย

ก่อนหน้านี้ DisplayMate ให้คะแนน A+ และรางวัล Best Smartphone Display Award กับสมาร์ทโฟนอื่นมาแล้ว 4 รุ่นคือ Galaxy S9, Galaxy Note 9, iPhone XS และ iPhone XS Max