แอปเปิลประกาศโครงการรับเปลี่ยนสินค้า โดยคราวนี้เป็น Smart Battery Case หรือเคสแบตเตอรี่หลังปูด รุ่นของ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR ที่เริ่มวางขายตั้งแต่ต้นปี 2019 ซึ่งแอปเปิลระบุว่าพบปัญหาในการชาร์จไฟ

โดยรูปแบบปัญหาที่แอปเปิลอธิบายนั้นมีสองกรณีคือ ตัวเคสมีปัญหาเมื่อชาร์จกับแหล่งพลังงานภายนอก รวมทั้ง iPhone ก็มีปัญหาเมื่อชาร์จผ่านตัวเคส ซึ่งมีทั้งชาร์จไม่เข้า หรือชาร์จเข้าแต่ไม่ต่อเนื่อง เคสกลุ่มที่พบปัญหานั้นผลิตตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนตุลาคม 2019

กรณีดังกล่าวแอปเปิลระบุว่าไม่ใช่ปัญหาด้านความปลอดภัย โดยลูกค้าที่ซื้อเคสไปสามารถขอเปลี่ยนเป็นเคสใหม่ได้ที่ Apple Store และศูนย์บริการ AASP

FiLMiC Pro ผู้พัฒนาแอปถ่ายวิดีโอ ซึ่งได้เปิดตัวฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอหน้า-หลังพร้อมกันในแอป iOS เวอร์ชันใหม่ ในงานอีเวนต์เปิดตัว iPhone 11 Pro เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เปิดเผยว่าฟีเจอร์การถ่ายภาพหน้า-หลังนี้ จะไม่จำกัดแค่บน iPhone 11, 11 Pro และ 11 Pro Max แต่จะรองรับไปถึง iPhone XS, iPhone XR และ iPad Pro รุ่นใหม่ล่าสุดด้วย

การทำงานของกล้องหน้า-หลัง ให้บันทึกภาพพร้อมกันนั้นเป็นคุณสมบัติใหม่ที่แอปเปิลประกาศ API เพิ่มเติมสำหรับ iOS 13 ทำให้แอป FiLMiC Pro สามารถเปิดฟีเจอร์นี้ได้ในอุปกรณ์รุ่นปีก่อนด้วย โดยต้องอัพเดตเป็น iOS 13 หรือ iPadOS ก่อน

หลังกูเกิลเปิดตัว Pixel 3a ที่กล้องคุณภาพเทียบเท่ากับ Pixel 3

กูเกิลก็ปูพรมโฆษณา Pixel 3a ทันที ด้วยแคมเปญว่าคุณภาพกล้องเหนือว่า "Phone X" ในราคาถูกกว่าเกินครึ่ง แคมเปญนี้ถูกเผยแพร่ผ่านป้ายบิลบอร์ดในสหรัฐอเมริกา (ที่มีคนเห็นคือ 2 จุดในกรุงวอชิงตันดีซี) ภาพที่นำมาแสดงเป็นการถ่ายภาพกลางคืนเปรียบเทียบระหว่าง Phone X ราคา 999 ดอลลาร์ และโหมด Night Sight ของ Pixel 3a ที่ราคา 399 ดอลลาร์

Phone X จะเป็นมือถือตัวไหนนั้นไม่ต้องเดากันมาก เพราะในเว็บไซต์ของกูเกิลก็เขียนไว้ชัดเจนเป็นตัวอักษรที่ขอบภาพว่า iPhone XS

นอกจากอัพเดต AirPods รุ่นใหม่แล้ว เมื่อวานนี้แอปเปิลก็มีอัพเดตอุปกรณ์เสริมนั่นคือ เคส iPhone และสาย Apple Watch โดยเพิ่มตัวเลือกสีใหม่เข้ามาต้อนรับฤดูใบไม้ผลิในต่างประเทศ

โดยสาย Apple Watch มีการเพิ่มสีใหม่ ได้แก่สีสเปียร์มิ้นต์ สีเดฟต์บลู และสีส้มมะละกอ สำหรับสาย Sport ส่วนสาย Sport Loop มี 4 สีคือ สีสเปียร์มิ้นต์, สีส้มมะละกอ, สีฟ้าเซอรูเลียน และสีไลแลค ส่วนสาย Nike Sport ก็มีอย่างละ 3 สีใหม่ทั้งแบบ Sport และ Sport Loop เช่นกัน

มีรายงานข่าวมาต่อเนื่องหลายเดือนแล้วว่า iPhone รุ่นใหม่นั้นยอดขายไม่เป็นไปตามคาด แอปเปิลเองก็ออกมายอมรับ แต่ก็ยังมีข้อมูลใหม่ออกมาอีก โดย Nikkei อ้างแหล่งข่าวว่า แอปเปิลได้แจ้งซัพพลายเออร์เมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า iPhone XR และ XS จะผลิตน้อยลงจากแผนเดิม 10% สำหรับช่วงไตรมาส 1/2019

ก่อนหน้านี้ Nikkei เคยรายงานตัวเลขการลดกำลังผลิต iPhone รุ่นใหม่ของปีนี้ และนี่เป็นการรายงานคำสั่งลดกำลังผลิตครั้งที่สอง โดยตัวเลขเดิมอยู่ราว 47-48 ล้านเครื่องในไตรมาสปัจจุบัน มาเป็น 40-43 ล้านเครื่อง

เรื่องมีอยู่ว่าสุภาพสตรีชื่อ Courtney Davis ได้ให้ทนายยื่นฟ้องแอปเปิลต่อศาลแคลิฟอร์เนียเหนือ โดยกล่าวหาว่าแอปเปิลใช้ภาพโฆษณา iPhone XS Max ที่ทำให้เธอเชื่อว่า iPhone XS นั้น ไม่มีติ่งสองข้าง ซึ่งเธอมาทราบในภายหลังจากที่พรีออเดอร์ไปแล้ว

เอกสารยื่นฟ้องระบุว่าภาพโฆษณา iPhone XS ซึ่งปรากฏอยู่ทั้งในเว็บไซต์, ร้านค้าต่าง ๆ นั้น พยายามหลบเลี่ยงโดยใช้รูปบนหน้าจอที่ซ่อนพื้นที่สีดำไว้ จนทำให้แยกไม่ได้ว่า iPhone XS และ iPhone XS Max มีติ่งสองข้างในด้านบนของโทรศัพท์

ข้อกล่าวหายังไม่หมดแค่นี้ Davis ยังบอกว่าจำนวนพิกเซลบนหน้าจอ iPhone XS ที่ระบุก็ควรปรับให้ถูกต้อง เพราะพิกเซลบริเวณมุมเครื่องนั้นไม่เต็มพื้นที่ จึงควรปัดเลขลงไม่ใช่ปัดขึ้น

ถือเป็นรูปแบบการใช้งาน eSIM ที่น่าสนใจ หลัง AIS ประกาศว่าซิมโรมมิ่ง SIM2Fly จากเดิมที่ต้องสลับซิมใหม่เสมอ จะเพิ่มการรองรับ eSIM ด้วย ทำให้สามารถใช้ SIM2Fly เป็นแพ็กเกจเน็ตโรมมิ่ง ควบคู่ไปพร้อมกับซิมการ์ดหลักที่เป็นเบอร์เดิมได้ทันที

เบื้องต้นการเปลี่ยนเป็น eSIM ยังรองรับเฉพาะ iPhone XS, XS Max, XR เท่านั้น โดยผู้ใช้ต้องไปเปลี่ยนเป็น eSIM ที่ร้าน AIS Shop ทุกสาขา ยกเว้นสาขาสุวรรณภูมิและดอนเมือง โดยช่วงแรก AIS จะงดเว้นค่าธรรมเนียมการเปิด eSIM จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2562

ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์ AIS

แอปเปิลออกอุปกรณ์เสริม เคสซิลิโคนสำหรับ iPhone XS และ XS Max รวมทั้งสาย Apple Watch Sport Band สามสีใหม่ ได้แก่สี ชมพูฮิบิสคัส, เหลืองเมลโลว์ และเขียวแปซิฟิก นอกจากนี้ยังเริ่มขายสายแบบ Nike Sport Loop และเพิ่มเติมสีใหม่ ๆ สำหรับสาย Nike Sport Band ด้วย

ราคาขายสำหรับเคสซิลิโคน อยู่ที่ 1,590 บาท สำหรับ iPhone XS และ 2,290 บาท สำหรับ iPhone XS Max ส่วนสาย Apple Watch ราคา 1,900 บาท ทุกแบบที่ออกมาใหม่

DigiTimes อ้างข้อมูลจากบรรดาซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนของ iPhone ในไต้หวัน ว่าบริษัทได้รับแจ้งคำสั่งลดกำลังการผลิตเป็นระลอกที่สองในเดือนนี้ จากที่มีข่าวไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งอาจสะท้อนว่า iPhone รุ่นใหม่ของปีนี้ อาจขายไม่ดีอย่างที่แอปเปิลประเมินไว้ในตอนแรกมากกว่าที่คิด

รายงานระบุว่าซัพพลายเออร์หลายแห่งที่ได้ผลกระทบ อาทิ ผู้ผลิตเลนส์ Largan Precision, ผู้ผลิต PCB Career Technology

อย่างไรก็ตามซัพพลายเออร์รายหนึ่งที่กลับไม่ได้รับผลกระทบมากนั่นคือ TSMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตซีพียู เนื่องจากสินค้าซีพียูเทคโนโลยี 7 นาโนเมตรนั้น เป็นที่ต้องการของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสูงจนผลิตไม่ทันอยู่แล้ว ทำให้บริษัทสามารถผลิตซีพียูให้กับรายอื่นได้ทันที

Blognone เคยรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่า iPhone XR ที่ถูกวางตำแหน่งเป็น iPhone รุ่นลดสเป็ก ราคาไม่สูง ถูกแอปเปิลสั่งลดจำนวนผลิต แต่รายงานล่าสุดเผยว่า ไม่ใช่ iPhone XR เท่านั้น แต่ iPhone XS ก็โดนด้วยเช่นกัน

WSJ รายงานว่า แอปเปิลได้แจ้งไปยังซัพพลายเออร์ที่ผลิต iPhone ว่าสถานการณ์ตอนนี้ แอปเปิลคาดเดาความต้องการสินค้าของ iPhone ทั้งสามรุ่น (XR, XS, XS Max) ได้ยากมาก จึงได้สั่งลดกำลังการผลิตลงไปก่อน แต่สิ่งที่ซัพพลายเออร์เห็นได้ชัดเจน คืออัตราส่วนการผลิต iPhone รุ่นเก่าที่แอปเปิลยังวางจำหน่ายอยู่มีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเออร์บางรายที่ขยายไลน์การผลิตสำหรับ iPhone รุ่นใหม่ล่วงหน้าไปแล้ว

หลังจากปีที่แล้วเคยเปรียบเทียบภาพถ่าย iPhone X vs Pixel 2 ไปแล้ว มาปีนี้ก็ขอสานต่อกับรุ่นใหม่อย่าง iPhone XS Max และ Pixel 3 ที่แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องกล้องในเชิงฮาร์ดแวร์จากรุ่นเก่า แต่เน้นไปที่ซอฟต์แวร์มากกว่าเหมือนกันทั้งคู่

เช่นเดิมโหมดที่ถ่ายจะเป็นโหมดออโต้ (กรณีที่ไม่ชี้แจงเป็นอย่างอื่น) ในกรณีของ Pixel ที่มีให้เลือก White Balance ผมก็ตั้งออโต้ ส่วน HDR เป็นโหมด HDR+ Enhanced ครับ รวมถึงไม่มีการตกแต่งภาพแต่อย่างใด

คำเตือน รูปค่อนข้างเยอะ

จากปัญหา #BeautyGate ใน iPhone XS ที่หลายคนพบว่าภาพที่ได้จากการถ่ายเซลฟี่กล้องหน้า มีผิวที่เนียนเรียบสวย ไม่ได้เก็บรายละเอียด แต่ไม่มีตัวเลือกให้ปิด-เปิดคุณสมบัตินี้ ล่าสุดแอปเปิลได้ออกมาบอกว่าเป็นบั๊กและกำลังแก้ไขอยู่

Apple Online Store ประกาศราคา iPhone XS, XS Max และ XR ที่เตรียมวางขายในไทยอย่างเป็นทางการ โดยจะเปิดพรีออเดอร์ในวันศุกร์ที่ 19 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 14.01 น. ซึ่งราคาของแต่ละรุ่นมีดังต่อไปนี้

แอปเปิลออกอัพเดต iOS 12.0.1 ซึ่งถือเป็นอัพเดตย่อยตัวแรกนับตั้งแต่ iOS 12 ออกมาเมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้ว

ผู้ใช้งาน iOS สามารถอัพเดตได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update

ในอัพเดต iOS 12.0.1 นี้เป็นการแก้ไขบั๊กและปัญหาทั่วไป ซึ่งหลายปัญหาก็มีรายงานออกมาก่อนหน้า มีรายละเอียดทั้งหมดดังนี้

ก่อนอื่นต้องบอกว่าข่าวนี้ออกมาหลายวันแล้ว โดยหลัง iPhone XS และ XS Max ได้เริ่มส่งมอบให้ลูกค้าไป ก็มีการทดสอบหลายอย่าง แต่ล่าสุดมีการพบปัญหาที่บางอย่างที่หลายคนอาจไม่คิดว่าเป็นปัญหา (เมื่อเทียบกับชาร์จไม่เข้า) นั่นคือ กล้องหน้ามีการปรับสภาพผิวให้เนียนอัตโนมัติ

โดยเริ่มจากมีผู้ใช้ Reddit ตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อเขาถ่ายภาพเซลฟี่ผ่านกล้องหน้า iPhone XS พบว่าใบหน้ามีความเนียนกว่าเมื่อเทียบกับภาพที่่ถ่ายด้วย iPhone X ปัญหาคือหากคิดว่านี่เป็นการฟิลเตอร์ภาพให้อัตโนมัติ อย่างน้อยก็ควรมีตัวเลือกให้ปิดฟีเจอร์นี้ได้ ซึ่งไม่มี

DxOMark ผู้ผลิตซอฟต์แวร์เบนช์มาร์คกล้องได้ปล่อยผลคะแนนกล้องของ iPhone XS Max (ที่ใช้กล้องตัวเดียวกับ iPhone XS) แล้ว โดยได้คะแนนรวมไป 105 คะแนน เป็นที่สองรองจาก Huawei P20 Pro ที่ออกมาก่อนและได้คะแนนไป 109 คะแนน

แยกเฉพาะการถ่ายภาพนิ่ง iPhone XS Max ได้ไป 110 คะแนน โดยความโดดเด่นคือออโต้โฟกัส การถ่ายภาพในที่แสงเพียงพอ exposure ดี รายละเอียดครบ สีที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ส่วนการถ่ายภาพ portrait ทำได้ค่อนข้างดีในการแยกบุคคลกับฉากหลัง

เว็บไซต์ PCMag เผยการทดสอบความเร็วการดาวน์โหลดด้วย LTE กับสมาร์ทโฟนหลายรุ่น ประกอบไปด้วย iPhone XS, Galaxy Note 9, Galaxy Note 8, iPhone X, Pixel 2, iPhone 8 และ iPhone 7 ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมา iPhone XS แม้ประสิทธิภาพความเร็วการดาวน์โหลดด้วย LTE จะดีกว่า iPhone X แต่ยังเป็นรอง Galaxy Note 9

มีรายงานว่าผู้ใช้ iPhone XS และ XS Max จำนวนหนึ่ง ได้เข้าไปรายงานในหน้า Apple Support ระบุว่า iPhone รุ่นดังกล่าว ไม่สามารถชาร์จไฟเข้าได้ ในขณะที่หน้าจอกำลังปิดอยู่ ผู้ใช้ต้องแตะเรียกเครื่องให้ทำงาน หรือยกเครื่องให้หน้าจอเปิด จึงจะเริ่มชาร์จไฟเข้าได้

ยังมีผู้ใช้บางรายบอกว่าพบปัญหาที่หนักกว่านั้น คือ iPhone ก็กลับมาหยุดชาร์จอีกครั้งเมื่อหน้าจอดับลง

ยูทูบเบอร์ชื่อดัง Unbox Therapy ได้ลองทดสอบปัญหาดังกล่าว โดยใช้ iPhone X 1 เครื่อง, XS 4 เครื่อง และ XS Max 4 เครื่อง ซึ่งก็พบว่า iPhone XS 2 เครื่อง และ XS Max 3 เครื่อง เจอปัญหาชาร์จไฟดังกล่าว แสดงว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกเครื่อง แต่จะเกิดเป็นบางเครื่องเท่านั้น (เขาเรียกปัญหานี้ว่า #ChargeGate)

ที่ผ่านมาการตั้งชื่อรุ่นของ iPhone ก็มักเรียบง่ายหรือชัดเจนว่าเป็นอย่างไร แต่เมื่อมาถึงรุ่นล่าสุดอย่างชื่อ iPhone XS Max ก็ดูเหมือนการตั้งชื่อรุ่น iPhone จะดูแปลกไป ซึ่ง Ken Segall อดีตผู้บริหารด้านงานโฆษณาที่ทำงานร่วมกับแอปเปิลมาตั้งแต่สมัยสตีฟ จ็อบส์ ผู้เสนอให้เพิ่ม i ใน iMac และทำแคมเปญ Think Different ได้เขียนบล็อกแสดงความกังวลต่อวิธีตั้งชื่อรุ่น iPhone

เป็นประจำทุกครั้งที่ DisplayMate บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบหน้าจอแสดงผลจะจับเอา iPhone รุ่นใหม่มาทดสอบประสิทธิภาพของหน้าจอหลังเปิดตัว และ iPhone XS และ XS Max ตัวล่าสุดของแอปเปิลก็ไม่พ้นได้รับตำแหน่งหน้าจอที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ไปอีกครั้ง

DisplayMate ระบุว่าหน้าจอของ iPhone XS Max ได้คะแนนเป็นสถิติในหลายๆ เกณฑ์ อย่างความสว่างหน้าจอสูงที่สุดที่ 600 nits ในการแสดงผลสี DCI-P3 และ sRGB หรือการสะท้อนแสงของหน้าจอก็ต่ำถึง 4.7% เกือบจะต่ำที่สุดที่เคยวัดมา รวมถึงความถูกต้องของสีที่แสดงออกมาก็ค่อนข้างมาก หรือแม้แต่การมองหน้าจอจากมุมด้านข้าง แสงหรือสีก็ไม่มีเพี้ยนด้วย

รายงานเต็มสามารถอ่านได้จากที่มาครับ

ถือเป็นการตลาดแบบที่เฉียบทีเดียว เนื่องจาก iPhone XS และ XS Max เริ่มจำหน่ายวันนี้วันแรก และก็มีกลุ่มคนไปรอต่อคิวซื้อที่หน้า Apple Store ตามปกติของการเริ่มจำหน่ายสินค้าแอปเปิล โดยที่หน้า Apple Store ประเทศสิงคโปร์ มีผู้พบเจ้าหน้าที่สวมเสื้อ Huawei เดินไปแจกของให้กับคนที่นอนรอคิวช่วงประมาณ 5 ทุ่ม

โดยของที่แจกนั้นคือพาวเวอร์แบงค์ยี่ห้อ Huawei ความจุ 10,000 mAh แบบ SuperCharge ราคาขาย 98 ดอลลาร์สิงคโปร์ พร้อมข้อความโปรยบนกล่องว่า "เพราะคุณจำเป็นต้องมีสิ่งนี้" ซึ่งตัวแทนของ Huawei ยืนยันการแจกของครั้งนี้ ระบุว่ามีจำนวน 2,000 อัน แม้ไม่ได้บอกเหตุผลตรง ๆ แต่ก็เดาได้ว่าเป็นการตอกย้ำเรื่องแบตเตอรี่ iPhone ที่ไม่จุมากพอจนต้องใช้พาวเวอร์แบงค์นั่นเอง

Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ให้สัมภาษณ์พิเศษกับรายการ Good Morning America โดยเนื้อหาหลักพูดถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิลที่เพิ่งเปิดตัวทั้ง iPhone XS, iPhone XS Max, Apple Watch Series 4 ตลอดจนประเด็นสงครามการค้า มีประเด็นน่าสนใจหลายอย่าง

สื่อต่างประเทศหลายแห่งเริ่มปล่อยรีวิว iPhone XS และ iPhone XS Max มือถือเรือธงรุ่นล่าสุดประจำปี 2018 ของแอปเปิล

ประเด็นที่ได้รับคำชมอย่างมากคือหน้าจอที่สวยงาม (เป็นจอ OLED ตัวเดียวกับ iPhone X) และแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานกว่าเดิม รีวิวของ The Verge ระบุว่า iPhone XS Max สามารถใช้ได้นานแทบตลอดเวลาถึง 12 ชั่วโมง (แต่ตัวเลขของ Tom's Guide ยังให้ Pixel 2 XL แบตอึดกว่า)

เรื่องขนาดของ iPhone XS Max ไม่ใช่ประเด็นมากนัก เพราะจริงๆ แล้วตัวเครื่องมีขนาดไล่ๆ กับ iPhone 8 Plus แต่หน้าจอมีขนาดใหญ่มากทำให้รู้สึกใหญ่, Face ID ทำงานเร็วขึ้นเล็กน้อย แต่ยังติดปัญหาไม่สามารถทำงานในโหมดแนวนอนหรือกลับหัวได้, เครื่องรุ่นสีทองมีความทองอร่ามกว่าเดิมมาก

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์และคาดการณ์สินค้าแอปเปิลขาประจำที่มีประวัติแม่นยำมากที่สุด (ผลงาน-ปีนี้) ออกรายงานฉบับล่าสุดพูดถึงยอดสั่งจองสินค้าล่วงหน้า หลังแอปเปิลเปิดให้จอง iPhone XS, iPhone XS Max และ Apple Watch Series 4 ในกลุ่มประเทศเทียร์ 1 มีรายละเอียดดังนี้

เขาบอกว่าเมื่อดูจากระยะเวลาจัดส่งสินค้า พบว่า iPhone XS Max ที่ราคาแพงที่สุดนั้น ขายดีมาก โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งแอปเปิลปรับเข้าหาตลาดจีน ทั้งการออกเครื่องสีทอง และปรับให้เครื่องรองรับการใส่ 2 ซิม เพียงประเทศเดียว คาดว่า iPhone XS Max จะทำยอดขายได้ 25-30% ของยอดขาย iPhone ทั้งหมด

แอปเปิลเพิ่มเอกสารในหน้าสนับสนุนเกี่ยวกับการใช้งาน 2 ซิม บน iPhone Xs และ iPhone Xs Max ซึ่งสำหรับทุกประเทศนอกจากจีน ซิมหนึ่งจะเป็นซิมการ์ดปกติ ส่วนอีกซิมจะเป็น eSIM มีรายละเอียดสำคัญดังนี้