BlackBerry เปิดตัว BlackBerry Z3 มือถือ BB10 รุ่นราคาถูกตัวแรกของบริษัท เน้นจับตลาดอินโดนีเซียโดยเฉพาะ

BlackBerry Z3 เคยมีภาพหลุดมาก่อนหน้านี้ มันคือมือถือตัวที่ BlackBerry ใช้วิธีจ้าง Foxconn ผลิตให้ เพื่อลดต้นทุนของบริษัทเอง

สเปกมีข้อมูลแค่คร่าวๆ คือหน้าจอสัมผัส 5" ไม่มีคีย์บอร์ด, แบตเตอรี่อยู่ได้นาน, ระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10.2.1 รุ่นใหม่ล่าสุด จะเริ่มวางขายในอินโดนีเซียเดือนเมษายนนี้ (ราคายังไม่เปิดเผย) ส่วนแผนการวางขายในประเทศอื่นยังไม่มีข้อมูล

เมื่อวานนี้ โนเกียออกข่าวว่า BBM จะลง Windows Phone แต่ไม่ให้รายละเอียดมากนัก

ล่าสุดต้นสังกัด BlackBerry ออกมาประกาศข่าวนี้เองแล้ว มีข้อมูลเพิ่มอีกนิดหน่อยครับ

• BBM for Windows Phone จะออกช่วง "ซัมเมอร์" (ประมาณเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป)
• จะมี BBM for Nokia X ด้วย แต่ยังไม่บอกว่าจะออกเมื่อไร
• ทีม BBM กำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่อีกหลายอย่างที่ยังไม่ประกาศในตอนนี้

ที่มา - Inside BlackBerry

BlackBerry ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาใน BBM เพื่อให้การสนทนามีความสนุกสนานมากขึ้น นั่นคือฟีเจอร์การส่งสติกเกอร์ โดยจะมีร้านขายสติกเกอร์อยู่ใน BBM Shop ซึ่งอยู่ในแอพ BBM ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน

สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่าสติกเกอร์ต่างกับ Emoticon เดิมอย่างไร ทาง BBM อธิบายว่ามันคือรูปภาพที่มีมิติ สวยงามและสามารถบอกอารมณ์ได้ในการส่งครั้งเดียว โดยคาแรกเตอร์ที่ BBM นำมาใส่เป็นสติกเกอร์ก็มีชื่อเรียกแล้วทั้งคุณ CosCat คุณ Gilbert's Tales หรือคุณ Bubble Bot โดยในอนาคตจะมีคาแรกเตอร์อื่นเพิ่มเข้ามาอีก

ฟีเจอร์สติกเกอร์ตอนนี้เปิดให้ใช้แบบจำกัดกับผู้ใช้ beta เท่านั้น

ที่มา: Insider BlackBerry

เว็บไซต์ N4BB เผยภาพหลุดของ BlackBerry Z3 มือถือรุ่นล่างตัวใหม่ของ BlackBerry ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10 แล้ว

คาดว่า Z3 คือมือถือตัวเดียวกับที่ BlackBerry จ้าง Foxconn ผลิต เพื่อลดต้นทุนค่าเครื่องให้ถูกลง (ข่าวลือว่าอาจขายเพียง 150 ดอลลาร์) เพื่อจับตลาดประเทศกำลังพัฒนา

ก่อนหน้านี้ BlackBerry เคยมีมือถือ BB10 ที่จับตลาดล่างเพียงรุ่นเดียวคือ BlackBerry Q5 ซึ่งเป็นรุ่นมีคีย์บอร์ด QWERTY ครับ

ที่มา - N4BB (1), N4BB (2)

ในที่สุด BlackBerry ก็ออกอัพเดตใหญ่ของ BBM โดยนับเวอร์ชันเป็น BBM 2.0 บน iOS/Android และ BBM 10.3 บน BlackBerry 10 ครับ

ฟีเจอร์ใหม่ส่วนใหญ่เคยเป็นข่าวไปก่อนแล้ว

บริษัทวิจัยตลาด Consumer Intelligence เผยสถิติยอดขายสมาร์ทโฟนไตรมาส 4/2013 ในสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่า BlackBerry ที่เคยเป็นแชมป์สมาร์ทโฟนอเมริกาติดต่อกันหลายสมัย มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 0% พอดี (Consumer Intelligence ไม่ได้ระบุข้อมูลส่วนนี้ละเอียด แต่ในกราฟเขียนว่า 0% ไม่มีจุดใดๆ)

สถิติของ BlackBerry เองระบุว่าขายสมาร์ทโฟนในตลาดโลกได้เพียง 1.9 ล้านเครื่องในไตรมาสล่าสุด (เวลาจะเหลื่อมกันเล็กน้อยเพราะ BlackBerry นับสิ้นไตรมาสถึงแค่เดือน พ.ย. นะครับ) และส่วนใหญ่เป็น BlackBerry 7 มากกว่า BlackBerry 10 ด้วยซ้ำ ดังนั้นก็มีโอกาสสูงที่ยอดขาย BB10 ในสหรัฐอเมริกาจะ "เข้าใกล้ศูนย์" ตามตัวเลขของ Consumer Intelligence

BlackBerry ประกาศออกอัพเดตสำหรับระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10 ในวันนี้ เป็นเวอร์ชัน 10.2.1 และจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ได้อัพเดตในวันเดียวกัน โดยมีฟีเจอร์ใหม่ดังนี้

• หน้าจอเรียกเข้าแบบใหม่
• ปรับปรุงระบบแจ้งเตือน และการแชทแบบกลุ่มใน BlackBerry Hub
• ระบบปลดล็อกหน้าจอแบบใหม่
• ปรับปรุงการรายงานเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่
• ปรับปรุงโหมดการอ่านแบบออฟไลน์ในเว็บเบราว์เซอร์
• และสำหรับโทรศัพท์ BlackBerry รุ่น Q5, Q10, และ Z30 จะสามารถเปิดใช้งานวิทยุระบบ FM ได้

BlackBerry บอกว่าอัพเดตเวอร์ชันดังกล่าว จะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วโลกได้อัพเดตในวันนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องผ่านการรับรองจากผู้ให้บริการเครือข่ายเสียก่อน

เมื่อวานนี้เพิ่งมีข่าวออกมาว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สั่งซื้อ BlackBerry มาใช้งานในระบบเป็นจำนวน 80,000 เครื่อง แม้ไม่มาก แต่ก็สร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นมาก พอข่าวออกมาหุ้นของ BlackBerry ก็ถีบตัวขึ้นทันที

หลังข่าวออกไปครึกโครมได้เพียงเดี๋ยวเดียว ต้นทางอย่างกระทรวงกลาโหมก็ออกมาแก้ข่าวทันควันว่าแท้จริงแล้วไม่ได้มีการสั่งซื้ออุปกรณ์สื่อสารมาใช้เพิ่มเติมแต่อย่างใด ตัวเลขที่ออกมานั้นคืออุปกรณ์เดิมในระบบอยู่แล้ว โดยนอกจาก BlackBerry 80,000 เครื่อง อีก 1,800 เครื่องที่ถูกกล่าวถึงต่างก็เป็นอุปกรณ์รุ่นเก่าอย่าง iPad 3/4, iPhone 4S/5, Galaxy Tab 10.1, Galaxy S3 และ Motorola RAZR

ยุทธศาสตร์ใหม่ของ BlackBerry ที่หันไปเน้นตลาดองค์กรและภาครัฐบาลเริ่มเห็นผล

กระทรวงกลาโหมของสหรัฐ (หรือที่เราเรียกกันชื่อเล่นว่า เพนตากอน) เพิ่งสั่งซื้อสมาร์ทโฟน BlackBerry ล็อตใหญ่ 80,000 เครื่องไปใช้งานในระบบเครือข่ายภายในระบบใหม่ ถึงแม้ว่าตัวเลขอาจดูไม่เยอะเมื่อเทียบกับยอดขายสมาร์ทโฟนรวมเป็นหลักร้อยล้านเครื่องต่อไตรมาส แต่มันเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าหน่วยงานภาครัฐบาลยังมั่นใจในความปลอดภัยของ BlackBerry

John Chen ซีอีโอของ BlackBerry ให้สัมภาษณ์กับ CrackBerry ย้ำทิศทางใหม่ของบริษัทที่กระจายตัวออกมาทำ 4 ธุรกิจ ต่างไปจากเดิมที่เกาะกับธุรกิจการขายเครื่องโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว รายละเอียดของแต่ละธุรกิจมีดังนี้

Enterprise

เขาบอกว่าธุรกิจองค์กรเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการพลิกฟื้นกิจการของ BlackBerry ในปีนี้ โดยเป้าหมายเร่งด่วนของบริษัทคือทำให้ลูกค้าองค์กรกลับมาสนใจโซลูชันของ BlackBerry อีกครั้ง และเท่าที่เขาคุยกับลูกค้ารายใหญ่มา สัญญาณยังเป็นไปในทางบวกว่าระบบความปลอดภัยของ BlackBerry เหนือกว่าคู่แข่ง

John Chen ซีอีโอของ BlackBerry ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าบริษัทเตรียมกลับไปเน้นขายมือถือมีคีย์บอร์ดมากกว่าเดิม

เขาบอกว่าโดยส่วนตัวแล้วเขาชอบคีย์บอร์ด และในอนาคตมือถือ "ส่วนใหญ่" ของบริษัทก็จะมีคีย์บอร์ด แทนที่จะเน้นจอสัมผัสเหมือนมือถือ BB10 ในปัจจุบัน (แนวทางการใช้มือถือมีคีย์บอร์ดอาจเหมาะสมสำหรับเป้าหมายของ BlackBerry ที่จะกลับไปเน้นลูกค้าภาคองค์กรและภาครัฐบาล)

เขายังพูดถึงข้อตกลงกับ Foxconn ว่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องสต๊อกสินค้าและการกระจายสินค้าในหลายๆ ประเทศให้ BlackBerry

ที่มา - Bloomberg

ถ้าใครได้ติดตามงานเปิดตัวอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10 ก็คงทราบว่า นอกจาก BlackBerry ได้เปิดตัว BlackBerry Z10 และ Q10 ไปแล้ว BlackBerry ยังได้จ้าง Alicia Keys นักร้องชื่อดังมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการนวัตกรรม (global creative director) ของ BlackBerry ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่ will.i.am ทำงานให้กับอินเทล และ Lady Gaga ทำงานให้ Polaroid (Engadget)

John Chen ซีอีโอของ BlackBerry เขียนบทความลงเว็บไซต์การเงิน CNBC อธิบายแผนการของเขาในการพลิกฟื้นกิจการ

เขาบอกว่าสถานะทางการเงินของบริษัทยังดี มีเงินสดในมือมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ และเขาก็เตรียมผู้บริหารชุดใหม่ที่จะสร้างเสถียรภาพของบริษัทให้กลับมาอีกครั้ง แผนการเบื้องต้นคือจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพของบริษัท โดยแบ่งเป็น 4 ฝ่ายคือ

เว็บ BGR รายงานข้อมูลโดยอ้างแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เผยว่าสมาร์ทโฟน BlackBerry รุ่นใหม่ที่ร่วมมือกับ Foxconn ในการผลิตและเน้นตลาดประเทศอินโดนีเซียนั้น มีรหัสเรียกชื่อรุ่นกันภายในว่า Jakarta แต่ที่น่าสนใจคือ BlackBerry รุ่นนี้เลือกตัดคีย์บอร์ด QWERTY ออกไป ซึ่งถือเป็นจุดขายสำคัญในกลุ่มลูกค้าตลาดล่าง

นอกจากนี้ BlackBerry รุ่นดังกล่าวก็เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10 ซึ่งสวนทางกับตลาดอินโดนีเซียที่ยังคงนิยมใช้ระบบปฏิบัติการตัวเก่า BlackBerry 7 ด้วย

ดูเหมือนว่าโอกาสกลับมาของ BlackBerry เริ่มหมดหนทางไปทีละน้อยเสียแล้ว เพราะล่าสุดมีรายงานว่า Michael Lazaridis ผู้ก่อตั้งร่วมของ BlackBerry ประกาศขายหุ้นที่มีอยู่ในมือเดิมทิ้งแล้ว 3.5 ล้านหุ้นทำให้สัดส่วนในการถือครองหุ้นในบริษัทลดลงจากเดิมที่ 5.7%

โดยสาเหตุของการเทขายหุ้นทิ้งก็เป็นเพราะว่า Lazaridis ไม่พอใจกับผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทขาดทุนไปกว่า 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และยังคงขาดทุนต่อเนื่องอย่างไม่หยุด ทำให้ความคิดเดิมที่จะซื้อหุ้น BlackBerry กลับมานั้นต้องกลับตารปัตรทันที เพราะเขาให้ความเห็นแค่ว่าบริษัทคงไม่มีโอกาสในการเติบโตอีกแล้วครับ

ยังคงมีความเคลื่อนไหวจาก BlackBerry อยู่เรื่อยๆ หลังจากประกาศผลประกอบการอันน่าผิดหวังในไตรมาสสาม ก็มีรายงานจาก The Wall Street Journal ว่าในความร่วมมือกับ Foxconn นั้นทำให้ BlackBerry ต้องยกเลิกการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่สองรุ่นในรหัส Café และ Kopi ที่ปั้นมาเพื่อจับตลาดเกิดใหม่ ซึ่งทับกันกับแผนร่วมกันกับ Foxconn

แม้ว่าจะยกเลิกสมาร์ทโฟนราคาถูกไป (เพราะให้ Foxconn ดูแล) แต่ก็มีรายงานว่า BlackBerry ยังคงพัฒนามือถือรุ่นสูงกว่า ซึ่งคาดว่าจะมาแทน Z10 และ Q10 ในรหัส Ontario และ Windermere ต่อไป

ข่าวนี้ต่อเนื่องจาก มวลมหาการขาดทุน - BlackBerry รายงานผลประกอบการล่าสุดขาดทุน 4.4 พันล้านดอลลาร์

John Chen ซีอีโอของ BlackBerry (ที่มาทำงานถาวรแล้ว ไม่ได้เป็นแค่ซีอีโอชั่วคราว) ให้สัมภาษณ์ต่อเนื่องหลังการแถลงผลประกอบการว่าปี 2014 จะเป็นปีที่สำคัญมากของบริษัท และจะเป็นปีที่บริษัทเน้นการลงทุนเพิ่มเติมในด้านต่างๆ เพื่อให้กลับมาได้ในอนาคต

เขาคาดหวังว่าผลประกอบการของ BlackBerry จะเปลี่ยนจากขาดทุนเป็นเท่าทุนในปี 2015 และกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในปี 2016 โดยยุทธศาสตร์จะเน้นการเติบโตของยอดขายจริง ไม่ใช่การลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้บริษัทกลับมามีกำไร

BlackBerry ออกมาประกาศข่าวแผนการอัพเดตฟีเจอร์ของ BBM รุ่นบน Android/iOS เพิ่มขึ้นอีกหลายอย่างในปีหน้า (ฟีเจอร์บางอย่างมีบน BBM บน BlackBerry 10 อยู่แล้วแต่ก็ขยายมายังรุ่น Android/iOS ที่ยังมีฟีเจอร์ตามหลังอยู่มาก)

BlackBerry รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัทสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน มีรายได้รวม 1,193 ล้านดอลลาร์ ลดลง 56% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และลดลง 24% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้

สมาร์ทโฟนในไตรมาสนี้ขายได้ 1.9 ล้านเครื่องซึ่งส่วนใหญ่เป็นระบบปฏิบัติการเก่า BlackBerry 7 และสุทธิแล้วไตรมาสนี้ขาดทุนสูงถึง 4,401 ล้านดอลลาร์

ความคืบหน้าต่อจากข่าว BlackBerry จับมือผู้ผลิต Android บางยี่ห้อ พรีโหลด BBM มากับตัวเครื่อง ล่าสุด BlackBerry ได้พันธมิตรเป็นผู้ผลิตมือถือรายใหญ่อีกหนึ่งรายคือ LG

LG จะพรีโหลดแอพ BBM กับมือถือของตัวเองที่ขายในประเทศที่ BBM ยังได้รับความนิยม (ไม่ระบุชื่อประเทศชัดเจน แต่ระบุภูมิภาคว่าเป็นตะวันออกกลาง แอฟริกา และอินโดนีเซีย) โดยจะเริ่มจาก LG G Pro Lite เป็นรุ่นแรก

น่าสนใจว่าถ้าความนิยมของ BBM ยังไปได้ในบางภูมิภาค ยุทธศาสตร์การจับมือกับผู้ขายมือถือในภูมิภาคนั้นๆ ก็อาจเป็นยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมแล้วสำหรับ BlackBerry?

สถานการณ์ในรอบปีที่ผ่านมาของ BlackBerry นั้นหนักเอาการ ไหนจะเรื่องผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่ออกวางขายที่ยังไม่อาจพลิกฟื้นบริษัทได้ตามที่หวัง ถึงขนาดปักป้ายขายกิจการและติดต่อบริษัทใหญ่ๆ หลายแห่ง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จนลงท้ายได้เงินอัดฉีดจากสถาบันลงทุนหลายแห่ง พ่วงมาพร้อมกับ John S. Chen ซีอีโอคนใหม่ผู้เข้ามารื้อโครงสร้างองค์กรโดยเฉพาะระดับผู้บริหารเสียใหม่ และล่าสุดมีรายงานจาก Wall Street Journal ว่ามีผู้บริหารระดับสูงอีก 2 คน เตรียมอำลาจาก BlackBerry

นิตยสาร Bloomberg Businessweek มีบทความหนึ่งที่พูดถึงประวัติความรุ่งเรือง และความล่มจมของ BlackBerry ในหัวข้อ "The Rise and Fall of BlackBerry: An Oral History" ซึ่งหนึ่งในเนื้อหาสำคัญของบทความนี้อยู่ตรงที่บทสัมภาษณ์ระหว่าง Bloomberg Businessweek กับพนักงานปัจจุบันของ BlackBerry อย่าง Vincent Washington ประธานอาวุโสแผนกการเติบโตของธุรกิจของ BlackBerry

โดย Washington ระบุว่า Justin Bieber นักร้องวัยรุ่นชื่อดังเจ้าของเพลง Baby, One Less Lonely Girl, Boyfriend ฯลฯ เคยเสนอตัวให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของ BlackBerry โดยข้อแลกเปลี่ยนของเขาคือ ค่าตัว 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6 ล้านบาท) และสมาร์ทโฟน BlackBerry อีก 20 เครื่อง

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตอบคำถามระหว่างการพบปะกับกลุ่มเยาวชน ในประเด็นเรื่องอุปกรณ์ไอทีที่เขาใช้งาน

เขาบอกว่าไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ iPhone ได้เพราะเหตุผลด้าน "ความปลอดภัย" (security reasons) แต่เขาก็ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นของแอปเปิลคือ iPad ไว้ใช้งาน

เป็นที่รู้กันดีว่าโอบามาใช้มือถือ BlackBerry มานาน และเมื่อเขาชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดี ทางทีมของทำเนียบขาวก็อนุญาตให้เขายังใช้ BlackBerry ต่อไปได้ (แต่ไม่มีข้อมูลว่าปัจจุบันเขาใช้ BlackBerry รุ่นไหนกันแน่)

ที่มา - Reuters

BlackBerry ออกซอฟต์แวร์บริหารจัดการอุปกรณ์พกพาในองค์กร BlackBerry Enterprise Service (BES) เวอร์ชันใหม่ 10.2 โดยมีฟีเจอร์เพิ่มเติมดังนี้

• ขยายการรองรับอุปกรณ์แพลตฟอร์มอื่นๆ มากขึ้น โดยรองรับฟีเจอร์ background email sync ของ iOS 7, เพิ่ม API การจัดการ iOS/Android
• ปรับปรุงฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย Secure Work Space ให้สามารถบริหารจัดการได้บนอุปกรณ์ iOS/Android
• รองรับการบริหารจัดการอุปกรณ์สูงสุด 100,000 ตัวต่อหนึ่งโดเมน โดยจะเป็นอุปกรณ์ BlackBerry, iOS, Android ได้ทั้งหมด

ในโอกาสเดียวกัน บริษัทยังเพิ่มโครงการ BlackBerry Software Assurance ที่ช่วยให้ลูกค้า BES เวอร์ชันเก่าๆ สามารถอัพเกรดเป็น BES10 ได้ง่ายขึ้น

BlackBerry เคยส่งจดหมายถึงลูกค้ามาแล้วหนึ่งรอบ เพื่อยืนยันว่าอนาคตของบริษัทยังสดใส แต่เมื่อเปลี่ยนตัวซีอีโอคนใหม่ ก็ได้เวลาส่งจดหมายอีกรอบครับ