เรื่องหนึ่งที่อาจขัดใจผู้ใช้ Apple Watch มานาน ก็คือรูปแบบหน้าปัดนาฬิกา (Watch Face) จะมีให้เลือกเฉพาะรูปแบบที่กำหนดมาให้แล้วเท่านั้น นักพัฒนาภายนอกไม่สามารถร่วมออกแบบเองได้ แต่ในโค้ดล่าสุดของ watchOS 4.3.1 ที่อยู่ในสถานะเบต้า พบว่าแอปเปิลอาจเปิดให้นักพัฒนาออกแบบหน้าปัดได้แล้ว
โดยมีผู้พบว่าในโค้ดมีการระบุถึง NanoTimeKit ซึ่งตอนนี้นักพัฒนายังไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่รายละเอียดบอกว่านักพัฒนาสามารถปรับแต่งการแสดงผลบนหน้าปัดนาฬิกาได้ จึงต้องรอแอปเปิลประกาศเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอาจไม่มีใน watchOS เวอร์ชัน 4 นี้เลยก็ได้
แอปเปิลได้ส่งอีเมลแจ้งไปยัง Apple Store และตัวแทนที่ได้รับอนุญาต (AASP) ว่าได้พบปัญหาใน Apple Watch Series 2 บางส่วน ซึ่งไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ หรืออาจเจอว่าแบตเตอรี่ขยายตัวขึ้นมา โดยเครื่องที่พบปัญหาดังกล่าวให้ซ่อมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้แอปเปิลยังกำหนดให้ขยายเวลารับประกันของ Apple Watch กลุ่มดังกล่าวเพิ่มเป็น 3 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่ซื้อ
รายงานพบว่าไม่ใช่ Apple Watch Series 2 ทุกรุ่นที่เจอปัญหานี้ โดยจะพบเฉพาะในรุ่นหน้าปัด 42 มิลลิเมตร ทั้ง Sport, Edition, Hermès และ Nike+ ฉะนั้นเครื่องใดไม่เข้ากลุ่มข้างต้นก็จะไม่รวมอยู่ในเงื่อนไขนี้
ที่มา: MacRumors
Instagram กลายเป็นแอพล่าสุดที่หยุดสนับสนุน watchOS หรือแอพบน Apple Watch แล้ว จากอัพเดตล่าสุดของแอพบน iOS วันนี้
เหตุผลจาก Instagram นั้นระบุว่า เพราะแอพ Instagram สร้างด้วย watchOS 1 SDK ซึ่งแอปเปิลหยุดสนับสนุนตั้งแต่ 1 เมษายนที่ผ่านมา แทนที่ Instagram จะเลือกสร้างแอพบน SDK ตัวใหม่ ก็ตัดสินใจยุติแอพบน watchOS ไปเลยดีกว่า แต่ทั้งนี้ผู้ใช้ Apple Watch ยังคงได้รับฟีเจอร์การแจ้งเตือนต่อไปตามปกติ
Instagram เป็นหนึ่งในแอพรุ่นเปิดตัวในช่วงการเปิดตัว Apple Watch แต่ตอนนี้กลายเป็นแอพล่าสุดที่ประกาศเลิกสนับสนุน ต่อเนื่องจาก Google Maps, Amazon และ Twitter
สำหรับใครที่ยังรอ Apple Watch Series 3 รุ่น Cellular ซึ่งมีวางจำหน่ายแบบจำกัดประเทศ เนื่องจากมีรูปแบบการตั้งค่าเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเฉพาะตัว ตอนนี้สินค้าเตรียมเริ่มจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว
โดยตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2561 เป็นต้นไป แอปเปิลจะเริ่มจำหน่าย Apple Watch Series 3 แบบ LTE ซึ่งตอนนี้รองรับเฉพาะเครือข่ายทรูมูฟ เอช เท่านั้น
ราคาขายเริ่มต้นที่ 14,900 บาท มีจำหน่าย 2 รุ่นคือ รุ่นปกติ และรุ่นไนกี้
ผู้พัฒนาแอพ Cardiogram ที่ทำงานได้บน Apple Watch และ Android Wear นั้น เผยว่าฟีเจอร์ DeepHeart บนแอพดังกล่าวซึ่งอยู่ในขั้นพัฒนาสามารถตรวจจับโรคเบาหวาน รวมถึงการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ (Atrial fibrillation หรือ AF) ได้
ในตอนแรกนั้น Johnson Hsieh หนึ่งในผู้ก่อตั้งแอพ Cardiogram บอกว่าสัญญาณของโรคเบาหวานนั้น สามารถวิเคราะห์ได้จากลักษณะของการเต้นของหัวใจที่ถูกตรวจจับโดยนาฬิกาอัจฉริยะผ่านแอพ Cardiogram ซึ่งสามารถบ่งชี้ได้ว่าผู้ที่สวมใส่อุปกรณ์อยู่นั้นเป็น หรือมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ โดยมีความแม่นยำมากถึง 85% จากการศึกษาข้อมูลของผู้ใช้งานแอพนี้จำนวน 14,011 คน
IDC รายงานตลาดอุปกรณ์สวมใส่ในไตรมาสสี่ของปี 2017 และทั้งปี โดยจากรายงานที่ IDC เก็บข้อมูลได้เผยว่า ในตลาดอุปกรณ์สวมใส่ประจำปีที่แล้วนั้น ยอดส่งสินค้าในไตรมาส 4 อยู่ที่ 37.9 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 7.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และหากคำนวณทั้งปีจะพบว่ายอดส่งสินค้าจะอยู่ที่ 115.4 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 10.3% จากปีก่อนหน้า
สำหรับบริษัทที่มียอดจำหน่ายอุปกรณ์สวมใส่มากที่สุดประจำปี 2017 ทั้งหมด 5 อันดับแรก มีดังนี้
เรื่องมีอยู่ว่าสำนักงานสายด่วนฉุกเฉิน 911 ในเมือง Elk Grove ที่อเมริกา (ของไทยก็เหมือน 191) เปิดเผยว่า พวกเขาได้รับสายที่โทรเข้ามาแบบผิดพลาดจากศูนย์ซ่อมสินค้าแอปเปิล ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนี้นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2017 รวมแล้วกว่า 1,600 ครั้ง หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 20 ครั้ง
เจ้าหน้าที่ของศูนย์ไม่มีข้อมูลว่าสายดังกล่าวโทรออกมาจาก iPhone หรือ Apple Watch แต่มองว่าการโทรเข้ามาแม้ผิดพลาดซ้ำหลายครั้ง และไม่มีเหตุด่วนจริง ก็ถือเป็นการรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ แทนที่จะได้ไปรับสายที่มีปัญหา
บริษัทวิจัยตลาด Canalys ออกรายงานตัวเลขประเมินยอดขาย Apple Watch ของปี 2017 ขายได้ 18 ล้านเรือน เพิ่มขึ้นถึง 54% จากปี 2016 ซึ่งมาจากยอดขายของ Series 3 เกือบครึ่งหนึ่ง
Canalys ประเมินว่ายอดขาย Apple Watch เฉพาะในไตรมาส 4/2017 ที่ผ่านมาอยู่ราว 8 ล้านเรือน ขณะที่บริษัทวิจัยอีกค่ายอย่าง IDC ก็ประเมินว่าถ้าเทียบกับยอดขายนาฬิกาจากสวิสแล้ว Apple Watch ขายได้มากกว่าจำนวนที่นาฬิกาสวิสทุกแบรนด์ขายได้รวมกันเสียอีก
ตัวเลขที่น่าสนใจอีกอย่างคือยอดขาย Apple Watch Series 3 แบบ Cellular ซึ่งขายไปได้แล้ว 1.6 ล้านเรือน แม้ตอนนี้จะยังจำกัดตลาดอยู่ แต่น่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นหลังเริ่มจำหน่ายในสิงคโปร์และฮ่องกง รวมทั้งเข้าสู่เทศกาลตรุษจีนพอดี
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) อนุมัติ KardiaBand (สายนาฬิกา) เป็นอุปกรณ์แรกที่สามารถตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ภายใต้การออกแบบให้ใช้ร่วมกับ Apple Watch โดยบริษัท AliveCor
ฟีเจอร์ใหม่ของสายนาฬิกา KardiaBand ที่ใช้ในการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจมีชื่อที่ประกาศออกมาคือ SmartRhythm ซึ่งสามารถวิเคราะห์โรคภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial Fibrillation) โดย CEO ของ AliveCor ได้กล่าวว่า "การจับคู่ระหว่าง KardiaBand และ SmartRhythm จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับโรคทางหัวใจ"
watchOS สำหรับ Apple Watch ออกอัพเดตเวอร์ชัน 4.2 โดยมีของเพิ่มเติมคือเพิ่มทำการทำงานร่วมกับ Apple Pay Cash ที่มีอยู่ใน iOS 11.2 โดยตอนนี้เปิดให้ใช้เฉพาะในอเมริกาเท่านั้น
คุณสมบัติอื่นเพิ่มเติมได้แก่ รองรับการทำงาน HomeKit กับสปริงเกอร์กับก๊อกน้ำ และเปิดให้แอพภายนอกเข้าใช้ระบบการออกกำลังกายแบบใหม่ใน Apple Watch Series 3 ตลอดจนแก้บั๊กต่างๆ ที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้
ผู้ใช้ Apple Watch สามารถอัพเดตได้ผ่านแอพ Apple Watch ใน iPhone
ที่มา: Apple Insider
เรื่องมีอยู่ว่าในวันนี้ (5 พฤศจิกายน 2017) มีคนโพสต์ใน reddit ว่า Apple Watch ของตนเกิดอาการเครื่องรีสตาร์ทเองหลังจากใช้ Siri เพื่อสอบถามสภาพอากาศหรืออุณหภูมิปัจจุบัน ซึ่งก็มีผู้ทดลองทำตามและยืนยันว่าเจอปัญหาเดียวกัน
ปัญหานี้พบบน Apple Watch Series 3 รุ่นล่าสุดทั้งแบบ LTE และ GPS ตลอดจนรุ่นเก่ากว่านี้ที่อัพเดตเป็น watchOS 4.1 ล่าสุด ก็เจอปัญหาเช่นเดียวกัน
John Hancock บริษัทประกันภัยในสหรัฐฯ ทำโปรโมชั่นแก่ลูกค้าประกันซื้อ Apple Watch Series 3 และออกกำลังกายนำแต้มออกกำกายมาใช้เป็นส่วนลดค่าประกันรายเดือนได้
วิธีการคือสั่งซื้อ Apple Watch Series 3 ด้วยราคาเริ่มต้น 25 ดอลลาร์ (ไม่รวมภาษี) จากนั้นก็ออกกำลังกายจนได้แต้มมากพอเพื่อนำมาแลกกับส่วนลดค่าประกันรายเดือน หากลูกค้าใช้โทรศัพท์แอนดรอยด์จะต้องออกกำลังกายผ่านอุปกรณ์ Fitbit แทน
แอปเปิลออกอัพเดต watchOS 4.0.1 สำหรับ Apple Watch Series 3 เท่านั้น ซึ่งแอปเปิลระบุว่าเพื่อแก้ปัญหาที่ Apple Watch ไปเชื่อมต่อกับสัญญาณ Wi-Fi ที่ไม่ได้รับอนุญาต
อัพเดตเป็นการแก้ไขต่อจาก watchOS เวอร์ชัน 4.0 อัพเดตใหญ่ ที่ออกมาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว
ปัญหานี้ถูกรายงานออกมาจากสื่อหลายสำนักที่ได้ Apple Watch Series 3 รุ่น LTE ไปรีวิว และแอปเปิลก็ยอมรับว่ามีปัญหานี้อยู่จริง
ที่มา: MacRumors
Twitter ออกอัพเดตแอพบน iOS เวอร์ชัน 7.8 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญนั่นคือการหยุดสนับสนุนแอพบน Apple Watch ทำให้ผู้ใช้งานที่เดิมอ่าน Timeline ผ่านหน้าปัดพบว่าแอพได้หายไปแล้ว
Twitter กลายเป็นแอพรายใหญ่ล่าสุดที่ตัดสินใจหยุดสนับสนุนแอพบน watchOS โดยก่อนหน้านี้มีทั้ง Google Maps, Amazon และ eBay ที่ถอดแอพออกไป
ตัวแทนของ Twitter ชี้แจงแบบไม่ระบุสาเหตุตรงๆ ว่าผู้ใช้ Twitter ผ่าน Apple Watch นั้น มักใช้งานส่วนของการแจ้งเตือนเป็นหลัก ทำให้จากนี้ Twitter เลือกที่จะพัฒนาส่วนการแจ้งเตือนให้มีข้อมูลครบถ้วนแทน
ที่มา: TechCrunch
สื่อต่างประเทศที่ได้ Apple Watch Series 3 รุ่นพร้อม LTE ไปรีวิวกันก่อนออกวางจำหน่ายจริง เริ่มออกรีวิวกันแล้ว ซึ่งผลออกมามีความเห็นค่อนข้างหลากหลาย ขณะเดียวกันปัญหาบางอย่างที่มีการรายงานออกมา แอปเปิลก็ออกมารับทราบและบอกจะแก้ไข รวบรวมมาให้พิจารณากันเองนะครับ
David Pierce จาก Wired
Apple ปล่อย iOS 11 และ watchOS 4 ให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้ โดยมีฟีเจอร์ใหม่หลักๆ เช่น
iOS 11
Apple Watch นั้นมีประเด็นเรื่องแบตเตอรี่ที่ไม่สามารถใช้งานได้นานเกินกว่า 1 วันอยู่แล้ว พอมีการเปิดตัว Apple Watch Series 3 ที่สามารถต่อเน็ตได้ในตัวผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ก็ยิ่งน่าสงสัยว่าแบตเตอรี่จะอยู่ได้นานแค่ไหน แอปเปิลไม่ปล่อยให้สงสัยและอธิบายแบบละเอียดเลย
โดยแอปเปิลเปิดหน้าเว็บไซต์เรื่อง ข้อมูลแบตเตอรี่ของ Apple Watch Series 3 ระบุว่าหากชาร์จแบตเตอรี่เต็ม Apple Watch จะสามารถใช้งานได้นาน 18 ชั่วโมง สำหรับสถานการณ์ทั่วไป แต่กรณีการใช้งานแบบเฉพาะ แบตเตอรี่ก็จะหมดเร็วขึ้น
หลังแอปเปิลเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ทั้ง iPhone 8 / 8 Plus และ iPhone X ที่รองรับความสามารถในการชาร์จไร้สายไปแล้ว ก็ไม่พ้นที่แอปเปิลจะทำแท่นชาร์จไร้สายที่รองรับการชาร์จอุปกรณ์หลายๆ เครื่องพร้อมกันก่อนจะเผยโฉม (Sneak Peek) ให้ดูคร่าวๆ
แท่นชาร์จไร้สายนี้แอปเปิลเรียกว่า Air Power ใช้มาตรฐานการชาร์จไร้สายของ WPC หรือชื่อการค้า Qi Wireless Charging รองรับการชาร์จทั้ง iPhone รุ่นใหม่, Apple Watch Series 3 และ AirPods ที่อยู่ในเคสแบบใหม่ ซึ่งยังไม่มีการเปิดตัวหรือพูดถึง ซึ่งจะชาร์จทั้งเคสและ AirPods ไปพร้อมๆ กัน ขณะที่แท่นชาร์จนี้ยังไม่มีการเผยราคาหรือวันวางจำหน่ายครับ
แอปเปิลเปิดตัวนาฬิกา Apple Watch รุ่นที่สาม (Series 3) ที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือต่อเน็ตผ่าน cellular ได้ในตัวมันเอง ไม่ต้องพึ่งการต่อเน็ตจากสมาร์ทโฟนอีกต่อไป ช่วยให้การใช้งาน Apple Watch มีอิสระขึ้นมาก สามารถโทรศัพท์ได้โดยตรง และสตรีมเพลงจาก Apple Music ได้ด้วย
ในแง่ของฮาร์ดแวร์ แอปเปิลใช้ e-SIM ขนาดเล็กและการออกแบบเสาอากาศขนาดเล็ก เพื่อให้ขนาดของ Apple Watch รุ่นนี้เท่ากับของเดิม มันใช้ซีพียูดูอัลคอร์ตัวใหม่ ทำงานได้เร็วขึ้น 70%, ชิป Apple W2 ช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น, เพิ่มเซ็นเซอร์วัดความสูง (altimeter) เข้ามา
ฟีเจอร์อื่นที่เพิ่มเข้ามาคือ Siri สามารถพูดคุยโต้ตอบกับเราได้ด้วยเสียงพูด
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานว่าโดยอ้างแหล่งข่าวว่า Apple Watch รุ่นถัดไป (Series 3) ที่เตรียมวางขายปลายปีนี้ จะมีคุณสมบัติใหม่สำคัญคือความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายมือถือได้โดยตรง ไม่ต้องพึ่งพาการเชื่อมต่อผ่าน iPhone แบบสองรุ่นที่ผ่านมา
รายงานยังบอกว่า Intel จะเป็นผู้ผลิตชิป LTE ที่ใช้ใน Apple Watch รุ่นใหม่นี้ อีกทั้งแอปเปิลก็เริ่มพูดคุยกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายใหญ่ในอเมริกาแล้ว เพื่อให้ร่วมจำหน่าย Apple Watch รุ่นดังกล่าวด้วย
ที่มา: Bloomberg
แอปเปิลเปิดตัว watchOS เวอร์ชันใหม่ที่เข้าเลข 4 แล้ว มาพร้อมกับหน้าปัดใหม่ ได้แก่ Siri Face ที่นำฟังก์ชันการแจ้งเตือนและข้อมูลจาก Siri มาแสดงผลเป็นการ์ด, Kaleidoscope หรือลายจากกล้องสลับลาย ที่เป็นรูปร่งเหมือนกระจกเงาซ้อนกัน ไปจนถึงหน้าปัดแบบ interactive คล้าย Live Photo ที่นำวูดดี้ เจซซี่และบัซ ไลท์เยียร์ ตัวละครจาก Toy Story สามตัวมาอยู่บนหน้าปัด
ตลาดอุปกรณ์นาฬิกาอัจฉริยะโตขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขล่าสุดจาก Strategy Analytics เผยว่าไตรมาสแรกของปีนี้ มียอดส่งมอบนาฬิกาทั้งหมดแล้ว 22 ล้านชิ้น โดย Apple ครองส่วนแบ่งสูงสุดคือ 16% ส่งผลให้ Apple เป็นอันดับหนึ่งในตลาดนาฬิกาขณะนี้
ตัวเลขไตรมาสแรกปีนี้สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 21% ตลาดขายดีคืออเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียก็ค่อยๆ มีความต้องการนาฬิกาสูงขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์สามอันดับแรกคือ Apple ยอดยอดส่งมอบ 3.5 ล้านชิ้น XIAOMI ตามมาติดๆ 3.4 ล้านชิ้น ด้าน Fitbit ที่เคยได้อันดับหนึ่งในไตรมาสสุดท้ายของปี 2016 มียอดส่งมอบ 2.9 ล้านชิ้น
เว็บ AppleInsider รายงานว่า แอพบน iOS จากผู้พัฒนารายใหญ่หลายราย ซึ่งมีการออกอัพเดตอยู่สม่ำเสมอ แต่ในอัพเดตล่าสุด หลายแอพเริ่มถอนการสนับสนุนบน watchOS แล้ว
โดยตัวอย่างแอพที่พบ อาทิ Google Maps, Amazon และ eBay ซึ่งผลจากอัพเดตดังกล่าวทำให้แอพเหล่านี้บน Apple Watch จะไม่สามารถลงได้
eMarketer บริษัทวิจัยตลาดเปิดเผยรายงานที่ชี้ว่า ยอดขายอุปกรณ์สวมใส่ในสหรัฐ ไม่เติบโตแบบปีต่อปี (YoY Growth) ตามที่เคยคาดไว้เมื่อปีที่แล้วว่าจะสูงถึง 60% ก่อนที่จะปรับตัวเลขลดลงเหลือเพียง 24.7% ขณะที่ปีหน้ายอดเติบโตจะเหลือเพียง 12.6% ตามด้วย 9.9%, 7% และ 5.1% ในปี 2018, 2019 และ 2020 ตามลำดับ
Nicole Perrin นักวิเคราะห์ของ eMarketer ระบุว่า ก่อนหน้า Apple Watch จะเปิดตัว ผลสำรวจผู้บริโภคชี้ว่าอุปกรณ์สวมใส่ด้านสุขภาพครองตลาดนี้ โดยสาเหตุสำคัญก็คือฟีเจอร์ด้านการตรวจจับสุขภาพและการออกกำลังกาย ขณะที่สมาร์ทวอทช์อย่าง Apple Watch นั้นทั้งราคาสูง แถมยังไม่มีจุดเด่นในการใช้งานเป็นของตัวเอง ถึงแม้จะมีฟีเจอร์ที่เหมือนกับอุปกรณ์ด้านสุขภาพ แต่ก็ทับซ้อนกับฟีเจอร์บนสมาร์ทโฟน
แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวลือว่า Apple ยกเลิกการลงเกมโปเกมอนลง Apple Watch แต่ข่าวลือก็คือข่าวลือ เพราะวันนี้ ผู้ใช้ Apple Watch สามารถเล่นเกมโปเกมอนได้แล้ว
ฟีเจอร์ของนาฬิกาตอบโจทย์เกมโปเกมอนที่เล่นกับเทคโนโลยีเสมือนจริง AR และเล่นกับ GPS ผู้เล่นจึงสามารถฟักไข่โปเกมอนบนนาฬิกาได้เลย แจ้งเตือนให้นาฬิกาสั่นเวลาเจอโปเกมอนที่อยู่ใกล้เคียง แจ้งเตือนเมื่อมีอีเวนท์ แต่จับโปเกมอนไม่ได้ การจับยังต้องใช้สมาร์ทโฟนอยู่