ภาคการศึกษากำลังเผชิญความท้าทายจากระบบการศึกษาที่พัฒนาและปรับเปลี่ยนหลักสูตรการสอนไม่ทันต่อเทรนด์โลก ผลิตคนไม่ตอบโจทย์อุตสาหกรรม และยังมีความท้าทายเรื่อง reskill ในสาขาอาชีพเสี่ยงตกงานตามความต้องการในตลาดแรงงาน เราจึงเห็นองค์กรใหญ่เข้าไปทำงานกับสถาบันการศึกษา เพื่อระบุทักษะสำคัญในโลกจริงแล้วนำไปปรับใช้ในการพัฒนาหลักสูตร เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
KBTG ถือเป็นองค์กรที่ตื่นตัวในเรื่องนี้มาตลอด เห็นได้จากการทำโครงการ Tech Kampus เข้าไปร่วมพัฒนาหลักสูตรในและร่วมทำงานวิจัยกับมหาวิทยาลัย เตรียมความพร้อมนักศึกษาสู่ตลาดอุตสาหกรรมจริง รวมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานรีสกิลตัวเองอยู่เสมอ
KBTG บริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทยออกแถลงชี้แจงถึงข่าวที่ระบุว่าบริษัท Kubix กำลังจะออกสกุลเงินดิจิทัลและเปิดตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปโตว่าไม่เป็นความจริง
แถลงยังระบุว่า Kubix นั้นตั้งขึ้นมาเพื่อให้บริการระบบเสนอขายโทเค็นที่มีสินทรัพย์รองรับ (asset backed) ต่อนักลงทุน โดยทำหน้าที่คัดกรองธุรกิจที่จะเสนอขายโทเค็น ประเมินแผนธุรกิจและประเมินผลตอบแทนที่คาดว่านักลงทุนจะได้รับ
ที่มา - Facebook: KBTG
KBTG บริษัทเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย นำโดย นายเรืองโรจน์ พูนผล หรือกระทิง ประธาน KBTG จัดแถลงวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจและพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต ระบุว่า ตอนนี้ KBTG กำลังเข้าสู่การปรับตัว หรือ Digital Transformation เฟสสองแล้ว หลักๆคือ การนำระบบ Automation มาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์, สร้าง AI Factory และการเข้าสู่วงการ DeFi หรือ Decentralized Finance
หนึ่งในปัญหาใหญ่ของวงการไอทีคือ ขาดแคลนบุคลากร นักพัฒนาซอฟต์แวร์, วิศวกร, คนทำ AI, คนทำงานด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ล้วนแล้วแต่เป็นตำแหน่งที่ตลาดงานต้องการสูง แต่การเตรียมความพร้อมบุคลากรยังไม่สามารถป้อนตลาดงานได้ทัน
KBTG บริษัทเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทยเห็นปัญหานี้ ได้เปิดตัวโครงการ Tech Kampus เพื่อส่งเสริมคุณภาพการศึกษาทางด้านเทคโนโลยีในประเทศไทย สร้างบุคลากรรุ่นใหม่ที่เปี่ยมศักยภาพ โดย KBTG จะเข้าไปร่วมมือกับมหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาหลักสูตร ยกระดับคุณภาพการศึกษาในสาขา Data Science และ Artificial Intelligence (AI) รวมทั้งต่อยอดและผลิตงานวิจัยใหม่ๆ ทางด้านเทคโนโลยี
KBTG บริษัทเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวโครงการ Tech Campus ร่วมกับมหาวิทยาลัยช่วยพัฒนาหลักสูตรเกี่ยวกับ Data Science, AI ผลิตบุคลากรให้ตอบโจทย์เชิงธุรกิจด้านเทคโนโลยี พร้อมทั้งส่งนิสิตนักศึกษาเข้าฝึกงานจริงใน KBTG
โดยมีมหาวิทยาลัย 7 แห่งที่เข้าร่วมโครงการคือ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล และวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล
KBTG บริษัทเทคภายใต้ธนาคารกสิกรไทย ประกาศตั้งบริษัท คิวบิกซ์ (Kubix) ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลผ่านบล็อกเชน ตั้งเป้าเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาการลงทุนและให้ความรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ด้วยทุนจดทะเบียน 70 ล้านบาท โดยธนาคารกสิกรไทยถึอหุ้นในสัดส่วน 100% ผ่านบริษัท กสิกร เอกซ์ จำกัดที่เป็นบริษัทในเครือ KBTG
ธนาคารกสิกรไทย ไม่ได้เติบโตอยู่ที่ประเทศไทยอีกต่อไปแล้ว แต่ตั้งเป้าใหญ่ขยายไปยังประเทศอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาทางธนาคารเริ่มขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศจีน สปป.ลาว เมียนมา อินโดนีเซีย กัมพูชา และเวียดนาม ในรูปแบบธนาคารท้องถิ่น ธนาคารร่วมลงทุน และสาขาของธนาคาร
KBTG บริษัทเทคโนโลยีภายใต้ธนาคารกสิกรไทยจึงต้องคิดสูตรใหม่ เฟ้นหาระบบที่ช่วยให้นักพัฒนาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ จึงเป็นที่มาของการเปิดตัวแผนก Software Development Excellence มาพัฒนา Automate Tools เพื่อให้การพัฒนาซอฟต์แวร์มีประสิทธิภาพสูงสุด
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ SET ประกาศพัฒนาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร โดยร่วมมือกับ KBTG บริษัทเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทยเป็นพาร์ทเนอร์รายแรก ในการเข้ามาร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มและหาโซลูชั่น นวัตกรรมใหม่ๆ ในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล
ตัวแพลตฟอร์มใช้เทคโนโลยีประมวลผลและจัดเก็บแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology) เพื่อเพิ่มโอกาสความหลากหลายของการระดมทุนและการลงทุน ตอบสนองพฤติกรรมของการลงทุนในยุคดิจิทัล สร้างโอกาสการลงทุนสินทรัพย์ทางเลือกที่เชื่อมโยงกับภาคเศรษฐกิจจริง ไม่ใช่การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์
ช่วงโรคระบาด KBTG ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีเครือธนาคารกสิกรไทย ปล่อยของออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ขุนทอง แชทบ็อททวงเงินผ่าน LINE, Eatable แพลตฟอร์มช่วยร้านอาหารในยุคโควิด, Contactless Technology โซลูชั่นทำธุรกรรมโดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสอุปกรณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้สร้างขึ้นภายในเวลาเพียงแต่ไม่เกินสามเดือน
“เพราะโควิด เร่งการ transformation จากสองปี เหลือเพียงสองเดือน” เรืองโรจน์ พูนผล หรือ กระทิง ประธาน KBTG เคยกล่าวไว้เมื่อครั้งเปิดตัวบริการใหม่ๆ ในช่วงโรคระบาด
ล่าสุด Blognone ได้เข้าร่วมงานประชุมใหญ่ KBTG คือ ONE KBTG: The New Chapter of ONE ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญ มีการเผยยุทธศาสตร์ของบริษัทในอนาคต และเป้าหมายที่ต้องการไปให้ถึง คือไม่สามารถอยู่รอดคนเดียวได้ แต่ต้องพาคนไทยและธุรกิจรายย่อยรอดไปด้วยกัน รวมถึงเป้าหมายระยะยาวคือการเป็นที่หนึ่งในอาเซียน
ก่อนหน้านี้ KBTG กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย มีสำนักงานอยู่ที่เมืองทองธานี ล่าสุด KBTG เปิดตัวอาคารสำนักงานแห่งใหม่ใจกลางเมือง ที่สามย่าน (ติดกับอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ในชื่อตึกว่า "K+"
การเปิดสำนักงานเพิ่มเติมที่สามย่าน มีจุดหมายเป็นพื้นที่พัฒนานวัตกรรมแห่งใหม่ และสอดคล้องกับแผนขยายทีมอีกเป็นจำนวนมากถึง 700 คนในอีก 5 ปีข้างหน้า
กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธาน KBTG เปิดเผยยอดผู้ใช้งาน K PLUS ล่าสุดที่ 14 ล้านคน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 13 ล้านคนที่แถลงเมื่อเดือน มิ.ย. และคาดว่าปีนี้จะทำได้ตามเป้า 15 ล้านคนได้ไม่ยาก
สถิติอื่นที่เปิดเผยคือ ขุนทอง แชทบ็อตทวงเงิน มีคนใช้งานแล้ว 5 แสนราย, ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่าง Make (เมฆ) ตั้งเป้าผู้ใช้ 30,000 บัญชี และ Eatable โซลูชันสำหรับร้านอาหาร ตั้งเป้าผู้ใช้ 10,000 ร้าน
ในวันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน เวลา 15.00 น. HUAWEI CLOUD ประเทศไทย จะจัด Cloud Diary Special Session ซึ่งเป็นการสัมมนาออนไลน์ฟรีผ่านการสตรีมสดบนหน้า Facebook (@HuaweiCloudTH) หัวข้อนี้มีชื่อว่า “KBTG x HUAWEI CLOUD: Eatable by KBank Food Ordering Platform in the New Normal” โดยมีวิทยากรพิเศษคือ คุณเจนวิทย์ จันทรโชติ (โอ๊ต) หัวหน้าฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีของกลุ่มเทคโนโลยีธุรกิจ ธนาคารกสิกรไทย (KASIKORN Business-Technology Group) จะมาบรรยายเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการสั่งอาหารแบบใหม่ “Eatable” ซึ่งรองรับทางเลือกในการสั่งอาหารทุกประเภท ตั้งแต่การสั่งเพื่อจัดส่งไปรับประทานที่บ้านหรือในร้านอาหาร
ในช่วงระยะเวลาเพียง 1-2 เดือนที่ผ่านมา KBTG บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่มากมายไม่ว่าจะเป็น Contactless Technology เปิดทางสู่การทำธุรกรรมการเงินโดยไม่ต้องจับอุปกรณ์ใดๆ และ Eatable แพลตฟอร์มสำหรับร้านอาหารยุค New Normal, ขุนทอง แชทบ็อทเก็บเงินผ่านไลน์ ฯลฯ
ล่าสุด KBTG เปิดตัวแอปพลิเคชั่นใหม่อีกครั้งคือ MAKE by KBank เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้งาน Mobile Banking กันจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมาพร้อม 3 ฟีเจอร์หลักคือ Pop Pay บริการโอนเงินผ่านบลูทูธ, Chat Banking บันทึกประวัติการทำธุรกรรมในรูปแบบโซเชียลแชท และ Cloud Pocket ช่องทางจัดเก็บเงินตามความต้องการ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างทดสอบการใช้งานกันภายในองค์กรร่วมหมื่นคน และจะเปิดตัวเต็มรูปแบบ ในไตรมาส 4 ปี 2020 นี้
มาดูแต่ละฟีเจอร์ว่าช่วยให้ทำธุรกรรมบนมือถือได้สะดวกกว่าเดิมได้อย่างไรบ้าง
นายเรืองโรจน์ พูนผล หรือกระทิง ประธาน KBTG บริษัทเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย เผยยุทธศาสตร์รวมถึงสิ่งที่จะทำในอนาคตช่วงไตรมาสสี่ปีนี้ ไปจนถึงปีถัดๆ ไป หนึ่งในนั้นคือ Regional Expansion หรือการขยายไปยังกลุ่มผู้ใช้งานในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มี development center หรือศูนย์พัฒนาที่เวียดนามแล้ว ตั้งเป้ามีพนักงาน 100 ราย
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา KBTG/KBank ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการตู้ “บุญเติม” เพื่อต่อยอดเทคโนโลยีวิเคราะห์ใบหน้า (Face Recognition) ของ KBTG บนตู้บุญเติม 1,500 ตู้ตามร้านสะดวกซื้อ ก่อนทยอยขยายไปสู่จุดอื่นในอนาคต
KBTG จะใช้ระบบวิเคราะห์ใบหน้าเพื่อการยืนยันตัวตนแบบ e-KYC จะใช้ยืนยันตัวตน e-wallet, การทำธุรกรรมสำหรับประกันภัย และการยืนยันตัวตนรูปแบบอื่นอีกมากในอนาคต โดยลูกค้าไม่ต้องเดินทางไปยังสาขาธนาคาร และใช้เพียงบัตรประชาชนกับใบหน้าในการยืนยันตัวตนที่ตู้บุญเติมใกล้บ้านได้เลย
KBTG สร้างปรากฏการณ์ใหม่อีกครั้งด้วยการเปิดตัว Eatable บริการสั่งอาหารรูปแบบใหม่ ตอบโจทย์ทั้งกินที่ร้านและเดลิเวอรี่ ช่วยให้ร้านอาหารปรับตัวได้ในยุคหลังโควิด และให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยถ้าจะกลับมากินที่ร้านอีกครั้ง
หลังจากเปิดตัว Eatable ก็สร้างความฮือฮาในวงกว้าง เพราะ Eatable มีจุดเด่นหลายอย่างที่อาจเป็นทางออกของร้านอาหารในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบสั่งอาหารผ่านการสแกน QR Code ลดต้นทุนจ้างพนักงานร้าน ลดความผิดพลาดในการสั่งอาหาร ลดโอกาสสัมผัสเชื้อโรค, และยังรองรับการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ที่กลายเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค
ในขณะเดียวกันก็เกิดความสงสัยด้วยว่า เพราะอะไร KBTG บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทย ถึงหันมาพัฒนาแพลตฟอร์มร้านอาหารที่ดูไม่เกี่ยวข้องกับบริการธนาคารโดยตรง
KBTG เปิดตัว Eatable แพลตฟอร์มสำหรับการจัดการร้านอาหารที่รองรับทั้งการทานในร้าน, การสั่งนำกลับบ้าน, หรือการสั่งแบบเดลิเวอรี่ ทำให้กระบวนการสั่งทั้งหมดเป็นระบบออนไลน์
Eatable เป็นบริการบนเว็บที่เปิดให้ร้านอาหารลงทะเบียนสร้างเมนูสำหรับร้านอาหารได้หลายภาษา ผู้มาทานอาหารสามารถสแกน QR ที่ร้านดูเมนูแล้วสั่งอาหาร และหากมาพร้อมกันหลายคนก็ยังสามารถแชร์รายการสั่งอาหารให้สั่งร่วมกันได้ รวมถึงการกดเรียกพนักงานจากในแอป
ในกรณีที่ลูกค้าต้องการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ Eatable จะเปิดให้ร้านค้าสามารถรับออเดอร์จากลูกค้าโดยตรงและเลือกใช้บริการส่งอาหารอื่นๆ เรียกว่า Express Link
เวลานัดทานข้าวกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ ๆ แล้วต้องหาคนจัดการหลังทานเสร็จ เพื่อหารเงินค่าข้าว คิดเงินรายหัว พิจารณาว่าใครจ่ายเท่าไหร่ ใครกินมากกินน้อย จนบางครั้งเครื่องคิดเลขอาจไม่พอใช้ หลายคนต้องหันไปพึ่ง Excel เพื่อแก้ปัญหานี้ไปเลย
ปัญหานี้กำลังจะหมดไปด้วยขุนทอง (KhunThong) แชทบอทจาก KBTG ใน LINE ที่ช่วยเป็นเหรัญญิกให้คนทั้งกลุ่ม ทำได้ทั้งหารค่าข้าวแบบหารเท่าและหารไม่เท่า เช็คให้ว่าใครยังไม่จ่าย แล้วคอยตามทวงให้เสร็จสรรพ
ใครที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ตัวแชทบอทการันตีว่าไม่อ่านแชท ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ส่วนบุคคล (PDPA) และเป็นบริการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย
KBTG บริษัทเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย จัดงานเปิดตัว 6 เทคโนโลยีที่ช่วยให้คนสามารถปรับสู่วิถีชีวิตใหม่หรือ New Normal เน้นลดการสัมผัสระหว่างมือและอุปกรณ์ หรือ Contactless Technology
ความน่าสนใจคือ ทั้ง 6 เทคโนโลยี ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทำธุรกรรมการเงินเท่านั้น แต่รวมไปถึงการดำรงชีวิตทั่วไปอย่างการซื้อเครื่องดื่ม, การเข้าออกสำนักงาน, การใช้งานล็อกเกอร์เก็บของที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้มือกดหรือสัมผัสอุปกรณ์ใดๆ
KBTG ผู้พัฒนาเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่เน้นลดการสัมผัสระหว่างมือและอุปกรณ์ หรือ Contactless Technology ที่น่าสนใจคือระบบ Face Check-in เทคโนโลยีการสแกนตรวจสอบใบหน้าที่สามารถระบุตัวตน แม้สวมหน้ากากอนามัยอยู่ เน้นไปที่การใช้งานในการเข้าออกคอนโดที่พักอาศัย, เข้าตึกสำนักงาน ลดการใช้นิ้วสแกนเข้าหรือใช้คีย์การ์ด
ช่วงนี้แวดวงธนาคารบ้านเรามีความเคลื่อนไหวน่าสนใจ โดยเฉพาะฝั่งงานด้านดิจิทัล-นวัตกรรม ล่าสุดธนาคารกสิกรไทยเพิ่งประกาศตั้งบริษัทลูกอีก 2 แห่งคือ KAITAI Technology ที่ประเทศจีน และ KASIKORN X ที่เน้นสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นอกเหนือจากที่กลุ่มบริษัท KBTG ทำอยู่
Blognone มีโอกาสพูดคุยกับ “คุณกระทิง” เรืองโรจน์ พูนผล ประธานของ KASIKORN Business- Technology Group หรือ KBTG ที่ประกาศตัวว่าจะไปนั่งเป็นประธานของ KAITAI Technology ในประเทศจีนด้วยอีกตำแหน่งหนึ่ง ถึงความจำเป็นของธนาคารกสิกรไทยในการตั้งบริษัทใหม่เพิ่มอีก
KBTG จัดงาน Internal Hackathon แข่งขันเฟ้นหามือดีเฉพาะคนในองค์กรครั้งใหญ่ครั้งแรก เพื่อส่งเสริม “Open Innovation Culture” ให้พนักงานจากทุกแผนกทั้งองค์กรได้มีร่วมในการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้แก่ธนาคาร ทาง Blognone มีโอกาสได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ และพบว่าแม้จะเป็นการแข่งขันภายใน ความตื่นเต้นของการแข่งขันไม่แพ้ hackathon ภายนอก ที่สำคัญยังได้ไอเดียสดใหม่ จากคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ในระยะหลังมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ใน KBTG
งานในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ Eat your own dog food, Eat your own APIs เปิดโอกาสให้พนักงานมีอิสระในการสร้าง Innovation โดยอาศัยเทคโนโลยีที่ทางธนาคารได้มีการพัฒนาภายใน (Deep Tech อาทิ Facial Recognition และ OCR) ผ่านรูปแบบ API Platform และในขณะเดียวกันก็เป็นการทดสอบเทคโนโลยีกันในองค์กร เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนนำออกไปใช้จริง
รัฐบาลไทยร่วมมือกับภาคเอกชนกว่า 40 หน่วยงาน เปิดตัวแอปพลิเคชั่น TAGTHAi (ทักทาย) แพลตฟอร์มรวมข้อมูลและบริการท่องเที่ยวในไทยไว้ในแอปเดียว ดูข้อมูลท่องเที่ยว จองเที่ยวบิน และวางแผนการท่องเที่ยวได้ การันตีคุณภาพของแอปโดยทีม KBTG ผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นขึ้นมา