ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราผ่านยุคของเทคโนโลยีที่มีความมุ่งเน้นที่แตกต่างกันไป เช่น Mobile FIrst ทุกอย่างต้องอยู่บนมือถือ, Data First ทุกอย่างคือเรื่องของข้อมูล แต่ปัจจุบันชัดเจนแล้วว่า เราได้ก้าวเข้าสู่ AI-First หรือเป็นยุคของปัญญาประดิษฐ์ที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้แตกต่างไปจากเดิมแบบก้าวกระโดดในอีก 10 ปีจากนี้ไป บอกได้คำเดียวว่าจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกเลย
เมื่อวันที่ 1-2 กันยายนที่ผ่านมา KASIKORN Business-Technology Group หรือ KBTG ได้จัดงานมหกรรมเทคโนโลยี KBTG Techtopia ที่รวมทั้งการนำเสนอเทคโนโลนีผ่านนิทรรศการ, การบรรยายหลายสิบรายการจากผู้บรรยายกว่า 35 คน, และการทำเวิร์คชอปแบบลงมือทำจริงภายในงาน นับเป็นการเปิดตัวงานมหกรรมเทคโนโลยีของ KBTG ที่เตรียมพาวงการเทคโนโลยีของไทยรับมือความเปลี่ยนแปลงในอนาคตต่อไป
AI จะครองโลก คำกล่าวนี้ไม่เกินจริง แต่ไม่ได้หมายถึงการยึดครองโลกแบบในภาพยนตร์ แต่เป็นการเข้ามาครองพื้นที่ในชีวิตประจำวันของมนุษย์และสร้างประโยชน์ สร้างความสะดวกสบายให้เกิดขึ้น ดังนั้นเราต้องไม่พลาดที่จะเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และนำ AI มาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อจักรวาลของ AI ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว KBTG ในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยี จึงไม่พลาดที่จะจัดงาน KBTG Techtopia เพื่อพาทุกคนเข้าไปสำรวจให้ลึกว่าทุกวันนี้เทคโนโลยี AI ทั่วโลกไปไกลขนาดไหน โดยงานครั้งนี้มาในธีม Across the AI-Verse เพื่อให้ชาวเทคได้เตรียมความพร้อม และสัมผัสประสบการณ์จริงกับโลกของ AI
KBTG ประกาศจัดงาน KBTG Techtopia ในธีม “Across the AI-Verse” วันที่ 1-2 กันยายนนี้ ที่อาคาร KBTG เมืองทองธานี จัดเต็มสาระแง่มุมต่างๆ ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเตรียมความพร้อมให้ชาวเทคฯ รับความรู้และประสบการณ์จากกูรูระดับแนวหน้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ KBTG ในการเป็นผู้นำด้าน AI ของไทย รวมถึงสอดรับนโยบาย ESG ขององค์กรด้วยการมอบรายได้ทั้งหมดให้กับสถาบันสิ่งแวดล้อม คาดจะมีชาวเทคฯ ให้ความสนใจเข้าร่วมงานคับคั่ง เปิดจำหน่ายบัตรแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
KBTG ประกาศเปิดสำนักงานที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม นับเป็นสำนักงานแห่งที่ 3 ในเอเชียต่อจากสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ และ K-Tech ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยตั้งเป้าให้ IT Hub สำหรับการขยายธุรกิจของธนาคารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท KBTG บรรยายในงาน The Age of AI: Augmented Intelligence นำเสนอแนวทางการยกระดับวงการปัญญาประดิษฐ์ในประเทศไทย และสิ่งที่ต้องระมัดระวังต่อการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ต่อไปในอนาคต โดยในปี 2023 นี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งยุคปัญญาประดิษฐ์อย่างแท้จริง และโลกกำลังเปลี่ยนจากยุค Mobile First ไปยังยุค AI First
ช่วงระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของวงการการเงินไทย หลังจากเรามีระบบพร้อมเพย์ที่ให้บริการโอนเงินได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีค่าธรรมเนียมทำให้คนจำนวนมากนิยมใช้งานบริการโอนเงินออนไลน์กันมากขึ้นเรื่อยๆ เหตุการณ์โรค COVID-19 ระบาดก็กลายเป็นตัวเร่งให้ผู้คนหันมาทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทางบริการธนาคารออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ที่งาน KBTG Vision 2025 คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล บรรยายถึงแนวโน้มการลงทุนในโลกการเงินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าอุตสาหกรรมการเงินของภูมิภาคนี้กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยจะเห็นได้ถึงเงินลงทุนในอุตสาหกรรมการเงินที่ลงทุนในภูมินี้สูงกว่าแสนล้านบาท โดยภูมิภาคนี้มีความเหมาะสมที่จะเติบโตทั้งจำนวนประชากร, การเชื่อมโยงถึงกันในภูมิภาค, และการเติบโตที่ต่อเนื่อง
KBTG เปิดเผยความสำเร็จในรอบปีที่ผ่านมาของ K Plus ที่มีผู้ใช้งานเกิน 18.6 ล้านรายแล้ว (สิ้นปีคาดว่าจะแตะ 20 ล้านราย) มีจำนวนธุรกรรมทั้งหมด 2.9 หมื่นล้านครั้ง เป็นเงินรวมกัน 23 ล้านล้านบาท สัดส่วนเป็น 1/3 ของจำนวนธุรกรรมผ่าน Mobile Banking ทั้งหมดในประเทศ
นอกจากนี้ในแง่ระบบหลังบ้านของ K Plus ก็สามารลดเหตุการณ์ที่มีความร้ายแรงระดับ 1 และ 2 ได้ลดลงถึง 60% ระยะเวลาในการล่ม (down time) ก็ลดลง 66% เช่นเดียวกับระยะเวลาที่ใช้แกัปญหาเวลาระบบล่มก็ลดลงถึง 33% โดยปัจจุบันเวลาที่ใช้แก้โดยเฉลี่ยน้อยกว่า 1 นาที
วันนี้ KBTG บริษัทย่อยของธนาคารกสิกรไทยได้เปิดเผยวิสัยทัศน์บริษัทในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยตั้งเป้าจะเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับท็อปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในเชิงเทคโนโลยี นวัตกรรม บุคลากรและบริษัทที่น่าทำงาน
คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูลผล ประธาน KBTG อธิบายว่าปัจจุบันแม้ทั่วโลกจะเผชิญกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ แต่ในแวดวงเทคโนโลยีและฟินเทค ยังคงแข็งแกร่ง จากเม็ดเงินลงทุนในภูมิภาคนี้
KBTG กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทย วางเป็าหมายสู่ The Best Tech Organization แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในปี 2025 ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ หนึ่งในตัวแปรสำคัญคือทีมงานที่มีคุณภาพ
จุดนี้เองในเดือน มี.ค. 2022 KBTG จึงเข้าร่วม MIT Media Lab Research Consortium เพื่อสนับสนุนการทำวิจัยด้านบริการทางการเงินยุคอนาคต และเตรียมให้พนักงาน KBTG เข้าไปมีส่วนร่วมกับงานวิจัยดังกล่าว
มากกว่านั้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการสร้างทีมงาน และองค์กรอันดับ 1 ของอาเซียน KBTG มีการให้ทุนแบบ Fellowship กับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของ MIT Media Lab ถือเป็นการสนับสนุนการศึกษาอีกระดับ
DESTINY TOKEN เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Kubix บริษัท ICO Portal ที่ทำ End-to-End Tokenization Solution ในเครือ KBTG กับ GDH และ Broadcast Thai Television ถือเป็นมิติใหม่ในการระดมทุนเพื่อสร้างภาพยนตร์ และนอกจากผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนเป็นตัวเงิน ยังได้ประสบการณ์รับชมภาพยนตร์ใหม่ ๆ ด้วย
ว่าแต่จุดเริ่มต้นของ DESTINY TOKEN คืออะไร และโทเคนดิจิทัลนี้แตกต่างกับเหรียญสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ หรือไม่ รายละเอียดเรื่องผลตอบแทน จากการลงทุนมีอะไรบ้าง Blognone ขออาสาหาคำตอบมาให้ผู้อ่านได้รับรู้ไปด้วยกัน
KBTG เข้าร่วมเป็นสมาชิก MIT Media Lab ห้องปฏิบัติการวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาซูเซตส์ สหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ เป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่จะส่งนักวิจัยไปที่ห้องปฏิบัติการงานวิจัยของ MIT เพื่อทำงานร่วมกันในด้านการวิจัยเทคโนโลยีระดับแนวหน้าสำหรับบริการทางการเงินยุคใหม่
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมา วงการ NFT ค่อนข้างเป็นที่คึกคัก ได้รับความสนใจทั้งในระดับประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะการถูกนำมาเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายผลงานศิลปะ ให้ศิลปินมีช่องทางการขายและสร้างชื่อเสียงได้ง่ายขึ้น ขณะที่นักสะสมก็สามารถแสดงเป็นเจ้าของผลงานศิลปะนั้นได้จริงๆ
แต่หากกลับมามองในประเทศไทย ก่อนหน้านี้ทั้งศิลปินและนักสะสม ยังต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มต่างประเทศแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งก็อาจมีอุปสรรคและปัญหาในหลายๆ ส่วน ไม่รวมวงการศิลปะเองที่กำลังเผชิญปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ ผลงานถูกขโมยและนำไปวางขายในแพลตฟอร์มต่างประเทศ ยากแก่การดำเนินเรื่อง ขณะที่แพลตฟอร์มเองก็ยากที่จะพิสูจน์ว่าผลงานดังกล่าวเป็นของผู้ที่วางขายจริงหรือไม่
ในงาน “THE METAMORPHOSIS" Regional Business Townhall & Press Conference 2021 งานทาวน์ฮอลล์ระดับภูมิภาคของธนาคารกสิกรไทยปีนี้ คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท KBTG (Group Chairman – KASIKORN BUSINESS-TECHNOLOGY GROUP) บรรยายถึงความสำคัญและความก้าวหน้าของการตั้งบริษัท KTECH ที่ก่อตั้งบริษัทและมีความก้าวหน้าต่อเนื่องแม้จะเป็นช่วงวิกฤติ COVID-19 ก็ตามที และเตรียมเปิด KBTG ในเวียดนามต่อไป
นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย แถลงความคืบหน้าของการขยายธุรกิจในประเทศเวียดนาม โดยใช้แนวทางการมีสาขาจำนวนไม่มาก แต่ช่องทางดิจิทัลให้บริการลูกค้าแทน ด้วยแอพ K PLUS ที่พัฒนาโดย KBTG และคนไทยคุ้นเคยอยู่แล้ว
นายภัทรพงศ์ ยังให้ข้อมูลว่าปัจจุบัน KBank ในประเทศลาว มีผู้ใช้งานแอพของธนาคารแล้ว 2 แสนราย
ด้านนายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท KASIKORN Business-Technology Group (KBTG) ระบุว่าตอนนี้เปิด KBTG Vietnam แล้วเพื่อดึงดูดนักพัฒนาซอฟต์แวร์จากประเทศเวียดนามมาทำงานด้วย สำนักงานตั้งอยู่ที่เขต 12 ในเมืองโฮจิมิห์นซิตี้ ตั้งเป้ามีพนักงาน 80 คนในปี 2022 และขยายเป็น 350 คนในปี 2026
ในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้เห็นผลงานสำคัญของ KBTG ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย สร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินหลากหลายรูปแบบที่ใกล้ชิดกับการใช้ชีวิตของคนทั่วไป ทั้งขุนทอง แชทบอทช่วยเก็บเงินจากกลุ่มเพื่อนผ่านไลน์, Eatable แพลตฟอร์มอำนวยความสะดวกให้คนทำธุรกิจร้านอาหาร
จากประเด็น KASIKORN X บริษัทลงทุนในเครือ KBTG เปิดตัว Coral แพลตฟอร์ม NFT Marketplace ทำให้มีการตั้งคำถามว่า เพราะเหตุใด KBTG ถึงเปิดแพลตฟอร์ม NFT ได้ ท้งที่มีบางบริษัทจะเปิด NFT มาก่อนหน้านี้กันแต่ ก.ล.ต. หรือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ยังไม่อนุญาต
ล่าสุด ทางสำนักข่าว อีไฟแนนซ์ไทย สอบถามไปยัง ก.ล.ต. ได้คำตอบกลับมาทางอีเมลว่าที่สามารถเปิดได้เพราะไม่เข้าข่ายเป็นโทเค็น หรือ Crypto Currency
KBTG จัดงาน The Next Chapter of KBTG แถลงกลยุทธ์สำคัญของบริษัท พร้อมทั้งเปิดตัวอภิมหาโปรเจกต์มากมายที่จะสร้าง Impact ต่อโลกธุรกิจ การเงิน และเทคโนโลยีในประเทศไทย
ภายในงานมีการเปิดตัวกลยุทธ์อย่างเป็นทางการของ KASIKORN X หรือ KX บริษัทลงทุนในเทคโนโลยีเกิดใหม่ ที่มีภารกิจสร้าง Fintech Unicorn รายแรกของประเทศไทยให้ได้ และเปิดตัว Coral แพลตฟอร์มซื้อขายงานศิลปะในรูปแบบ NFT ซึ่งถือเป็นอีกครั้งที่ KBTG ก้าวเข้าสู่โลกใหม่ทางการเงินอย่างสินทรัพย์ดิจิทัลและ Decentralized Finance (DeFi) หลังจากก่อนหน้านี้เปิดตัวบริษัทลูก Kubix ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลผ่านบล็อกเชนไปแล้ว
KX หรือ KASIKORN X บริษัทลงทุนที่มุ่งผลิตสตาร์ทอัพด้าน Decentralized Finance and Beyond ออกสู่ตลาด อยู่ในเครือ KBTG เปิดตัว Coral แพลตฟอร์ม NFT Marketplace หนุนศิลปินไทยและเอเชียขายผลงานศิลปะ NFT สามารถใช้เงินธรรมดาอย่างเงินบาท หรือเงินดอลลาร์สหรัฐฯหรือ Fiat money ซื้อได้ และสามารถซื้อได้ผ่านบัตรเดบิต เครดิตและแอปธนาคาร แต่ยังซื้อผ่าน Cryptocurrency ไม่ได้
ก่อนโควิด-19 เรามักจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอยู่เสมอ คนในวงการเทคโนโลยี นักธุรกิจและผู้ประกอบการ ต่างอยากรู้อยากเห็นและคาดการณ์เทรนด์เทคโนโลยีไว้ล่วงหน้า 10 ปี 20 ปี เพื่อที่จะได้ตั้งรับและปรับตัวได้ทัน ในแง่การลงทุนก็เช่นกัน นักลงทุนมองหาเทรนด์ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อบริหารความมั่งคั่ง และมีแนวโน้มที่จะลงทุนในเมกะเทรนด์ หรือเทรนด์ที่จะมามีส่วนสำคัญในธุรกิจกระแสหลักในอนาคตอันใกล้
ในช่วงที่ประชาชนประสบปัญหาจากวิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก จนคนจำนวนไม่น้อยต้องหันไปพึ่งพาสินเชื่อจากแหล่งต่างๆ ที่ไม่ใช่บริการทางการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้มีปัญหาด้านดอกเบี้ยสูงเกินกำหนด และการจ่ายหนี้นอกระบบตามมา
KBTG, LINE BK และ dtac จึงร่วมมือกันผลักดันโครงการ “ใจดี มีวงเงินให้ยืม” เพื่อเปิดช่องทางให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนขนาดเล็ก (nano loan) ที่สามารถยื่นขอสินเชื่อผ่านสมาร์ทโฟนได้ทันที
ในช่วงที่ประชาชนประสบปัญหาจากวิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก จนคนจำนวนไม่น้อยต้องหันไปพึ่งพาสินเชื่อจากแหล่งต่างๆ ที่ไม่ใช่บริการทางการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้มีปัญหาด้านดอกเบี้ยสูงเกินกำหนด และการจ่ายหนี้นอกระบบตามมา
KBTG, LINE BK และ dtac จึงร่วมมือกันผลักดันโครงการ “ใจดี มีวงเงินให้ยืม” เพื่อเปิดช่องทางให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนขนาดเล็ก (nano loan) ที่สามารถยื่นขอสินเชื่อผ่านสมาร์ทโฟนได้ทันที
ภาคการศึกษากำลังเผชิญความท้าทายจากระบบการศึกษาที่พัฒนาและปรับเปลี่ยนหลักสูตรการสอนไม่ทันต่อเทรนด์โลก ผลิตคนไม่ตอบโจทย์อุตสาหกรรม และยังมีความท้าทายเรื่อง reskill ในสาขาอาชีพเสี่ยงตกงานตามความต้องการในตลาดแรงงาน เราจึงเห็นองค์กรใหญ่เข้าไปทำงานกับสถาบันการศึกษา เพื่อระบุทักษะสำคัญในโลกจริงแล้วนำไปปรับใช้ในการพัฒนาหลักสูตร เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
KBTG ถือเป็นองค์กรที่ตื่นตัวในเรื่องนี้มาตลอด เห็นได้จากการทำโครงการ Tech Kampus เข้าไปร่วมพัฒนาหลักสูตรในและร่วมทำงานวิจัยกับมหาวิทยาลัย เตรียมความพร้อมนักศึกษาสู่ตลาดอุตสาหกรรมจริง รวมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานรีสกิลตัวเองอยู่เสมอ
KBTG บริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทยออกแถลงชี้แจงถึงข่าวที่ระบุว่าบริษัท Kubix กำลังจะออกสกุลเงินดิจิทัลและเปิดตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปโตว่าไม่เป็นความจริง
แถลงยังระบุว่า Kubix นั้นตั้งขึ้นมาเพื่อให้บริการระบบเสนอขายโทเค็นที่มีสินทรัพย์รองรับ (asset backed) ต่อนักลงทุน โดยทำหน้าที่คัดกรองธุรกิจที่จะเสนอขายโทเค็น ประเมินแผนธุรกิจและประเมินผลตอบแทนที่คาดว่านักลงทุนจะได้รับ
ที่มา - Facebook: KBTG