หลังจากโนเกียเข้าซื้อบริษัท Trolltech (ข่าวเก่า 1, ข่าวเก่า 2) เป้าหมายของโนเกียก็เริ่มเด่นชัด คือผลักให้ทูลคิท Qt ของ Trolltech นั้นใช้ได้บนแพลตฟอร์มมือถือ Maemo ซึ่งโนเกียใช้ในผลิตภัณฑ์ Internet Tablet รุ่นต่างๆ เช่น N810

หมายเลขหนึ่งแห่งวงการโทรศัพท์มือถือประกาศทำ tender offer (ตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น) ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท Trolltech ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สเช่น QT และ ระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์เช่น QTopia แล้ว โดยเป็นการเข้าซื้อที่ทาง Trolltech เองยินยอมพร้อมใจจากการลงคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นร้อยละ 66

ยังไม่แน่ชัดว่าโนเกียต้องการเทคโนโลยีอะไรจากทาง Trolltech บ้าง แต่ในข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่าการรวมกันครั้งนี้จะทำให้นักพัฒนาอิสระสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทำงานได้ทั้งโทรศัพท์มือถือและพีซี ตลอดจนจะช่วยเพิ่มความสามารถของระบบปฏิบัติการอย่าง S60 (Symbian) และ S40

ช่วงนี้เริ่มมีข้อมูลของโทรศัพท์มือถือโค้ดเนม "Tube" ซึ่งเป็นมือถือทัชสกรีนตัวแรกของโนเกียออกมาบ้างแล้ว

• S60 โดยเป็นมือถือระดับกลาง (รุ่นท็อปจะตามมาทีหลัง)
• จอสัมผัสขนาด 3-3.5 นิ้ว อัตราส่วน 16:9 ไม่มีมัลติทัชแต่มี Haptic feedback มาพร้อมกับปากกาสไตลัส
• กล้องถ่ายภาพที่ดีกว่ากล้องของ iPhone (แต่ยังไม่ถึงระดับกล้องของ N-Series)
• GSM/EDGE, UMTS/HSDPA, Bluetooth, Wi-Fi
• GPS
• ขนาดเล็กกว่า N73 เล็กน้อย
• คาดว่าเป็นมือถือแบรนด์ XpressMedia/XpressMusic

หน้าตาเครื่องดูได้ตามลิงก์ครับ ข้อมูลมากกว่านี้คงทยอยออกมาในอีกไม่ช้า

หลายๆ คนในบ้านเราคงใช้งานอินเทอร์เน็ตนอกบ้านผ่านทาง EDGE ผ่านทางผู้ให้บริการ GSM ที่มีให้เลือกในบ้านเรากันเป็นประจำ ปัญหาหลักของ EDGE ในตอนนี้คือความเร็วที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตในบ้าน แต่ตอนนี้เองทาง Nokia Siemens Network ก็ได้เสนอการอัพเกรดซอฟต์แวร์ให้กับเครือข่าย EDGE เพื่อให้สามารถให้บริการได้ที่ความเร็ว 592 kbps หรือเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัวจากในปัจจุบัน

พร้อมกันนี้ยังเตรียมการอัพเกรดเป็นเครือข่าย EDGE 2 ที่รองรับความเร็ว 1.2 Mbps สำหรับการดาวน์โหลดและ 473 kbps

เริ่มขายซอฟต์แวร์ในไตรมาสสามของปีนี้ ส่วน EGPRS 2 นั้นยังไม่ระบุเวลาเปิดตลาดแต่อย่างใด

ต้อนรับงาน MIX08 ไมโครซอฟท์และโนเกียออกมาแถลงข่าวแผนการสำหรับ Silverlight บนมือถือตระกูล Symbian Series 60 ของโนเกีย โดยชุด SDK จะส่งถึงมือนักพัฒนาภายในปีนี้

นอกจาก Series 60 แล้ว โนเกียยังประกาศอีกว่า Series 40 และอุปกรณ์ internet tablet อย่างพวก N770 หรือ N810 จะมี Silverlight เช่นกัน แต่จะออกมาหลังจาก S60

ปัจจุบันนักพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับ S60 มีทางเลือกได้แก่ C++ (native Symbian), Java, Python, Flash Lite จาก Adobe และเว็บแอพพลิเคชันผ่านเบราว์เซอร์ การเพิ่ม Silverlight เข้ามาก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการพัฒนาแอพพลิเคชันได้หลากหลายขึ้น

เทศบาลรัฐ North Rhine-Westphalia ออกมาเรียกร้องเงินสนับสนุนที่ให้กับบริษัทโนเกียไปในช่วงปี 1998 ถึง 1999 ในการปรับปรุงโรงงานผลิตโทรทัศน์ให้เป็นโรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือเป็นเงิน 60.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณสองพันล้านบาท

ข้อเรียกร้องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทางโนเกียตัดสินใจปิดโรงงานในเมืองดังกล่าว ทำให้พนักงานนับพันคนต้องตกงาน และก่อกระแสต่อต้านค่อนข้างมาก

โนเกียประกาศเข้าซื้อกิจการของบริษัท Trolltech ผู้พัฒนา Qt Toolkit จากนอร์เวย์โดยวิธีแลกหุ้น มูลค่าของ Trolltech อยู่ที่ประมาณ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประเมินจากราคาหุ้น) เนื่องจาก Trolltech อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของนอร์เวย์ด้วย ทางโนเกียจึงอยู่ระหว่างเสนอซื้อหุ้นจากรายย่อยคืน

ในแถลงการณ์ของโนเกียบอกว่าการเข้าซื้อ Trolltech ทำให้โนเกียสามารถพัฒนาแอพพลิเคชันแบบข้ามแพลตฟอร์มไ้ด้ง่ายขึ้น ซึ่งคำว่า "แพลตฟอร์ม" นั้น โนเกียก็ระบุชัดเจนว่าหมายถึงเว็บ, อุปกรณ์มือถือ และพีซี มาถึงตรงนี้น่าจะพอประเมินได้คร่าวๆ ว่าโนเกียอาจต้องการแพลตฟอร์ม Qtopia (และการเข้ากันได้บน Qt) ไปใช้บนมือถือก็เป็นได้

ว่าแต่ Maemo มันเป็น GTK+ นี่นา

ช่วงนี้ข่าวแนวๆ นี้เยอะ เลยขอรวบยอดเอาไว้เป็นข่าวเดียวกัน

Nokia ประกาศว่าจะวางขาย Internet Tablet (ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือนะครับ) รุ่น N810 ในเดือนพฤศจิกายนด้วยราคา $479 หรือประมาณ 15070บาท (แปลงค่าเงินด้วยอัตราแลกเปลี่ยนของ Google Finance วันนี้) และรายละเอียดอุปกรณ์ที่สามารถยืนยันได้แล้วคือ

โนเกียประกาศจะลงเล่นในสงครามขายเพลงและเกมเพื่อที่จะนำไปใช้บนโทรศัพท์มือถือ หวังให้ "Nokia Music Store" นั้นเป็นตัวทำให้ตัวเองก้าวขึ้นมาสู้กับ iPhone ของแอปเปิลโดยตรง

นอกจากนี้แล้วการเปิดให้ดาวน์โหลดเพลงและเกมนั้นยังจะเป็นแข่งโดยตรงกับผู้ให้บริการมือถือหลาย ๆ รายที่เปิดให้บริการลักษณะเดียวกันอีกด้วย

โดยเพลงที่ขายนั้นจะมีราคา 1 ยูโรต่อเพลงหรือ 10 ยูโรต่ออัลบั้ม สำหรับเกมนั้นจะมีราคาสูงกว่าที่ประมาณ 6 ถึง 10 ยูโร

ที่มา - BBC News

ทางบริษัทโนเกียได้ออกประกาศเรียกคืนแบตเตอรี่ BL-5C ที่ใช้งานในโทรศัพท์มือถือของทางโนเกียหลายต่อหลายรุ่นว่ามีบางส่วนที่ผลิตโดยบริษัท Matsushita ในช่วงปลายปี 2005 ถึงปลายปี 2006 มีปัญหาในสายการผลิต ทำให้อาจเกิดการลัดวงจรขณะชาร์จจนทำให้ชิ้นส่วนหลุดออกจากกัน โดยขณะนี้มีการรายงานเหตุเกิดขึ้นแล้วประมาณ 100 ชิ้น จากทั้งหมด 46 ล้านชิ้นที่อยู่ในขอบข่ายการเรียกคืนนี้ แต่ยังไม่มีรายงานการบาดเจ็บร้ายแรงจากเหตุการณ์เหล่านี้แต่อย่างใด

โนเกียใช้ผู้ผลิตจำนวนมากผลิตแบตเตอรี่ BL-5C นี้ โดยในตลาดมีแบตเตอรี่รุ่นนี้กว่า 300 ล้านชุด โดยทางโนเกียได้แสดงวิธีการตรวจสอบหมายเลขแบตเตอรี่ไว้ที่เว็บของทางโนเกียเองแล้ว

หลังจากพัฒนามาเงียบๆ ตั้งแต่ปี 2001, โนเกียก็สามารถผลักดันมาตรฐาน Wibree เข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐาน Bluetooth ได้เป็นผลสำเร็จ ทำให้อนาคตเราคงได้เห็นอุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกันระหว่างสองมาตรฐานได้มากขึ้นเรื่อยๆ

Wibree คือเทคโนโลยีเพื่อการรับ-ส่งข้อมูลด้วยพลังงานที่ต่ำมากๆ โดยมุ่งเน้นไปที่อุปกรณ์ที่ต้องการประสิทธิภาพพลังงานเป็นหลักเช่นนาฬิกาข้อมือ คีย์บอร์ดไร้สาย เป็นต้น โดยตัวมาตรฐานนั้นใช้คลื่นความถี่ย่านเดียวกับ Bluetooth คือที่ความถี่ 2.4GHz โดยทางโนเกียอ้างว่าเทคโนโลยีนี้มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงกว่า Bluetooth มากอาจจะถึง 10 เท่าตัว

Nokia บริษัทมือถือสัญญาติฟินแลนด์ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ของผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือได้เริ่มนำ GPS (Global Positioning System) มารวมเข้าไปในมือถือรุ่น N95 เป็นรุ่นแรกแล้ว ซึ่งในมือถือรุ่นนี้โนเกียเปรียบเทียบว่าเป็นดั่ง "multimedia computer" ซึ่งในช่วงแรกจะวางขายในทวีบยุโรปและเอเชียก่อน แต่ยังไม่มีกำหนดที่จะวางขายในทวีบอเมริกา ระบบ GPS ที่รวมอยู่ใน N95 นี้บรรจุแผนที่ถึง 150 แผนที่สำหรับเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก และในอนาคต ทาง Nokia ยังมีแผนที่จะนำระบบ GPS รวมเข้าไปอยู่ในโทรศัพท์มือถือรุ่นอื่น ๆ ด้วยเช่น 6110-Navigator, E90-Communicator ทำให้ปัจจุบัน Nokia กลายเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับหนึ่งในตลาดมือถือที่ได้รวม GPS เข้าไว้ใจตัว

โนเกียยังไม่ยอมแพ้ถึงแม้ว่า N-Gage รุ่นแรก (และรุ่นที่สอง N-Gage QD) จะขายได้ไม่ดีนัก แตได้เปิดเผยข้อมูลผ่านบล็อกกึ่งทางการของโนเกียเองว่า N-Gage รุ่นที่สามจะเปิดตัวเดือนกันยายนนี้

ตอนนี้มีผู้พัฒนาเกม 2 รายที่ประกาศจะทำเกมให้คือ EA Mobile และ Gameloft โนเกียหวังว่าปี 2008 จะมีเกมดังๆ พอร์ตมาลง N-Gage ใหม่นี้มากขึ้น

ใครมี (หรือเคยมี) ในครอบครอง แสดงตัวกันหน่อย

ที่มา - Game Daily

หลังจากที่ออก N770 มาได้พักใหญ่แล้ว โนเกียก็เริ่มขยับอีกในตลาด Linux tablet (ไม่รู้จะแปลว่าอะไรดีครับ ขออนุญาตทับศัพท์) โดยออก N800 มาให้น้ำลายไหลอีกแล้ว คงจะ announce ในงาน CES 2007 วันนี้ครับ แต่เห็นมีคนซื้อได้แล้วในต่างประเทศ งงครับ เพราะปกติโนเกียจะ announce ก่อนของออกหลายเดือน ตัวนี้มาแปลก

ดูไปดูมาคล้ายๆกับ OLPC ยังไงไม่รู้ แต่คงไม่ได้ราคาร้อยเหรียญ และคงไม่มีใครบอกว่าเป็นของเล่นอีกนะครับ

มีรูปให้ดูพร้อม link ไปดู spec ละเอียดครับ Link

อนาคตของ WiMAX ดูจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโนเกียประกาศจะออกโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมกับ WiMAX ได้ รวมไปถึง WiMAX Base Station ไว้ขายบรรดาโอเปอเรอเตอร์ทั้งหลายอีกด้วย

โนเกียยังไม่บอกรายละเอียดของตัวเครื่องโทรศัพท์ แต่ในส่วนของเครือข่าย WiMAX นั้นค่อนข้างคืบหน้าโดยเฉพาะในสหรัฐ พันธมิตรทางโทรคมนาคมหลายเจ้าโดยการนำของ Sprint Nextel พยายามจะเปิดใช้เครือข่ายให้ได้ภายในปี 2008

โนเกียเปิดตัว Wibree เทคโนโลยีไร้สายที่จะมาแทน Bluetooth แต่เหนือกว่าเรื่องประหยัดพลังงาน และอัตราส่งข้อมูลที่ 10Mbps (ของ Bluetooth 1.0 ทำได้ประมาณ 700kbps) จะทำให้ Wibree สามารถใช้กับอุปกรณ์หลากหลายชนิดมากขึ้น เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น

จุดแข็งสำคัญของ Wibree เหนือเทคโนโลยี WPAN อื่นๆ คือ Wibree ใช้ความถี่เดียวกับ Bluetooth และสามารถใช้อุปกรณ์เดิมที่มีอยู่แล้วของ Bluetooth ได้

ทางกรีนพีซซึ่งเราคงรู้จักกันในฐานะหน่วยงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเอกชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ตอนนี้ทางกรีนพีซก็ออกมาจัดอันดับผู้ผลิตพีซีและมือถือ ว่ามีนโยบายในการจัดการขยะมลพิษกันอย่างไรบ้าง ที่น่าสนใจคือกรีนพีซได้จัดอันดับให้โนเกียและเดลล์ได้อันดับหนึ่งร่วมกัน ด้วยคะแนน 7 เต็ม 10 โดยระบุว่ายังสามารถปรับปรุงไ้ด้ด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลให้มากขึ้น

บริษัทอันดับรองๆ ลงมาก็อย่างเช่น เอชพี หรือโซนี่อิริคสัน ส่วนอันอับที่แย่มากๆ เช่น เอเซอร์, โมโตโรล่า และที่โหล่คือเลโนโว่ที่ซื้อแผนกพีซีของไอบีเอ็มไป

โนเกียรวมประกาศรวมกิจการเข้ากับกิจการด้านอุปกรณ์็เครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายของซีเมนส์แล้วในวันนี้ การรวมตัวนี้สร้างบริษัทใหม่ที่มีมูลค่ามากถึง 25 พันล้านยูโร พร้อมพนักงานจำนวนกว่าหกหมื่นคน

ทั้งสองบริษัทคาดการณ์ว่าหลังการรวมตัวจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้กว่า 1.5 พันล้านยูโรต่อปี โดยพนักงานกว่าหกหมื่นคนของทั้งสองบริษัท จะมีการประกาศเลย์ออฟประมาณ 10-15 เปอร์เซนต์

ก่อนหน้านี้ซีเมนส์มีการขายกิจการส่วนอุปกรณ์มือถือไปให้กับเบนคิวกันแล้ว ส่วนการรวมตัวครั้งนี้มีเฉพาะกิจการส่วนอุปกรณ์เครือข่ายเท่านั้น

โนเกียเคยมีส่วนแบ่งตลาดมือถือสูงสุดในปี 2002 (35.8%) แต่หลังจากนั้นกลับลดลงมาตลอด โดยเฉพาะหลังปี 2004 ที่ลูกค้าต้องการมือถือแบบฝาพับที่มีฟีเจอร์เยอะๆ ในขณะที่ตอนนั้นมือถือของโนเกียส่วนมากไม่ใช่ฝาพับ

หลังจากไปปรับกลยุทธมือถือฝาพับมาใหม่ และรวมกับตลาดล่าง (มือถือราคาถูกรุ่น 1100) ซึ่งเป็นตลาดใหม่ ทำให้ยอดขายของโนเกียพุ่งสูงขึ้นแตะ 35% อีกครั้งในรอบสองปี

ถ้าใครมีมือถือ Smartphone หรือพีดีเอคงคุ้นเคยกับการใช้เว็บเบราว์เซอร์จากมือถือ (อันนี้หมายถึงเว็บจริงๆ ไม่ใช่ WAP นะครับ) ซึ่งก็มีหลายยี่ห้อเช่น Opera, OpenWave หรือแม้แต่ IE เอง ซึ่งเว็บเบราว์เซอร์พวกนี้ใช้อัลกอริทึมที่เรียกว่า SmartFit ในการจัดหน้า HTML ใหญ่ๆ  ให้พอดีกับหน้าจอมือถือ

ปัญหามีอยู่ว่า SmartFit ไม่ใช่วิธีที่ฉลาดนัก เพราะหลายๆ ครั้งการจัดวางหน้าใหม่ให้พอดี กลับทำให้เว็บเพจกลายเป็นเละไป ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนหนึ่งแอนตี้การดูเว็บบนมือถือไปเลย

สังเกตว่าตัวเลขรุ่นมีแค่ 3 ตัว ไม่ใช่ 4 อย่างมือถือโนเกียที่เราคุ้นเคย เพราะนี่ไม่ใช่มือถือ มันโทรศัพท์ไม่ได้ มันเรียกว่าเป็น Internet Tablet ที่ใช้ลินุกซ์เป็นระบบปฏิบัติการ

ใครที่รอโทรศัพท์รุ่นท็อปๆ ตระกูล N ของค่ายโนเกียอยู่ แวะไปอ่านรีวิวได้ที่ infoSync ซึ่งเจ้า N90 ได้คะแนนสูงพอสมควร (90%) แต่ข้อติใหญ่ๆ ของมันมี 2 เรื่องคือขนาดที่ใหญ่เกินไป และราคาที่แพงมากถึง 752 ยูโร (ยูโรละ 50 บาทคูณกันเองนะครับ) ส่วนตัวท็อปคือ N91 ที่เป็น music phone ยังไม่มีรีวิวครับ

Nokia ยักษ์ใหญ่วงการมือถือร่วมมือกับ Apple Computer ในการพัฒนา open-source web browser เพื่อใช้บน Series 60 Platform ซึ่ง Nokia เป็นผู้นำ smartphone software อยู่ ซึ่งจากการร่วมมือกับ Apple Computer ก็สามารถใช้เทคโนโลยีของ Apple ได้โดยใช้ open-source components ชุดเดียวกันคือ WebCore และ JavaScriptCore ซึ่งใช้อยู่ใน Safari web browser (based on Konqueror->KHTML,KJS)ของ Apple. การที่ Nokia หันมาสนใจเทคโนโลยีในโลก open-source ก็เนื่องด้วยต้องการการพัฒนาที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในทันกับการแข่งขันในวงการมือถือทุกวันนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ใช้กันต้นปีหน้า.

ใครจะคิดว่ายักษ์มือถืออย่างโนเกีย วันดีคืนดีจะมาเล่นตลาดแทปเล็ทที่วันนี้ยังดูเงียบเหงา ที่น่าแปลกที่สุดคือ มันใช้โทรศัพท์ไม่ได้...

เครื่องโนเกีย 770 เป็นแทปเล็ทสำหรับต่ออินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ มันใช้ดีเบียนลินุกซ์ (Debian Linux) บนซีพียูของเท็กซัส อินสตรูเมนต์ ที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมอาร์ม แถมด้วยใช้บราวเซอร์หมายเลขสามของโลกอย่างโอเปร่า พร้อมกับจอสัมผัสขนาด 800 x 480 ใช้การ์ด RS-MMC

ที่สำคัญคือราคาไม่แพง.... หมื่่นต้นๆ เท่านั้น

ถ้าใช้มือถือได้กับเล่น EDGE ได้ผมจะเก็บตังค์ซื้อ.... (ตอนนี้ขอผ่านไปก่อน)