จากข่าวเมื่อเดือนพฤษภาคม ว่าแอปเปิลยอมยุติศึกสิทธิบัตรกับโนเกีย โดยจ่ายเงินค่าสิทธิบัตรให้โนเกีย "จำนวนหนึ่ง" แต่ไม่เปิดเผยตัวเลข

ล่าสุดในการแถลงผลประกอบการของโนเกียประจำไตรมาส 2/2017 ทางผู้บริหารของโนเกียก็เปิดเผยตัวเลขนี้มาแล้ว ว่าอยู่ที่ 1.7 พันล้านยูโร หรือประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์

ในคดีฟ้องร้องสิทธิบัตรระหว่างแอปเปิลกับซัมซุงที่ลากยาวมานานหลายปี (ปัจจุบันก็ยังไม่จบ โดยยังอยู่ที่ชั้นของศาลฏีกา) ศาลชั้นต้นเคยตัดสินให้แอปเปิลได้ค่าเสียหาย 1 พันล้านดอลลาร์ ก่อนที่ภายหลังตัวเลขนี้จะถูกตัดทอนลงเรื่อยๆ จนเหลือ 290 ล้านดอลลาร์

HMD Global ได้ส่งบัตรเชิญร่วมงานอีเวนท์วันที่ 16 สิงหาคมนี้ในกรุงลอนดอน โดยถึงแม้จะไม่ระบุว่าเป็นงานอะไร แต่สื่อส่วนใหญ่คาดกันว่าจะเป็นงานเปิดตัว Nokia 8 ที่มีข่าวกันมานาน

สำหรับตัว Nokia 8 ถูกวางเอาไว้เป็นเรือธงหลังการกลับมาของโนเกียกับค่ายแอนดรอยด์และได้เปิดตัวรุ่นกลางและล่างอย่าง Nokia 3, 5 และ 6 ไปแล้ว โดยข่าวลือของ Nokia 8 ที่หลุดออกมาจะมีหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว ความละเอียด 2560x1440 ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 835 แรมมีให้เลือก 4GB และ 6GB ความจุ 64GB กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลใช้เลนส์ของ Zeiss

ที่มา - The Verge

ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Nokia เครื่องหิ้วโมเดล TA-1000 จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพราะอัพเดทรอบเดือนกรกฎาคม (July Update) จะปลดล็อคฟีเจอร์ (ตัวเลือกเสริมที่ไม่อยู่ใน Change Log) ให้ผู้ใช้สามารถติดตั้ง Google Play Store และ Google Play Services จากเดิมที่บริการเหล่านี้ถูกบล็อคไว้โดยตรงที่ Bootloader

นั่นหมายความว่า Nokia 6 รุ่นที่ทำตลาดในสาธารณรัฐประชาชนจีน จะรองรับการดาวน์โหลดและติดตั้งแอพพลิเคชันต่าง ๆ โดยตรงจาก Google Play Store

เฟิร์มแวร์รหัส 00CN_3_31A มีขนาด 380 MB ซึ่งรวมไปถึงการปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัย การแสดงผลในภาษาอารบิกในแอพกล้องถ่ายภาพ และอื่น ๆ ตามที่มา

HMD Global ผู้ขายสมาร์ทโฟนแบรนด์ Nokia ประกาศเซ็นสัญญากับ ZEISS (Carl Zeiss เดิม) เพื่อนำเลนส์ของ ZEISS กลับคืนสู่สมาร์ทโฟน Nokia อีกครั้ง

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันพัฒนาประสบการณ์ด้านภาพแบบครบวงจร (total imaging experience) ตั้งแต่ซอฟต์แวร์ บริการ การออกแบบเลนส์ ไปจนถึงคุณภาพของหน้าจอแสดงผล

HMD ระบุว่า ZEISS มีสายสัมพันธ์อันดีกับแบรนด์ Nokia มายาวนานตั้งแต่สมัย N Series มาจนถึงยุค PureView และข้อตกลงครั้งนี้จะนำพาทั้งสองแบรนด์กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง

Nokia ประกาศความร่วมมือกับ Xiaomi ด้านสิทธิบัตร โดยจะมีทั้ง Xiaomi ซื้อสิทธิบัตรจาก Nokia และเซ็นสัญญาคุ้มครองการใช้งานสิทธิบัตรด้าน cellular ร่วมกัน

ทั้งสองบริษัทยังจะร่วมพัฒนาเทคโนโลยีการส่งข้อมูลในศูนย์ข้อมูล, ใช้งานชิปประมวลผลเครือข่ายตัวใหม่ Nokia FP4 และในอนาคตอาจจะร่วมกันทำเรื่องใหม่ๆ อย่าง IoT, AR, VR, AI อีกด้วย

ในช่วงเดียวกันยังมีข่าวอย่างไม่เป็นทางการจากฝั่งจีน ว่า Nokia จะนำชิป Surge S1 ของ Xiaomi ที่เคยใช้ใน Mi 5c ไปใช้กับมือถือแบรนด์ Nokia ในอนาคต แต่ข่าวนี้ยังไม่ได้ยืนยันในคำแถลงของ Nokia วันนี้

Nokia ประกาศเปิดตัวสินค้าในงาน MWC ใหม่ โดยเป็นสินค้าในประเภทเพื่อสุขภาพ รวมถึงมีการรีแบรนด์จาก Withings เดิมมาสู่แบรนด์ของ Nokia อย่างเต็มรูปแบบตามที่ประกาศไว้

ผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ Withings เดิมอย่าง Body จะถูกเปลี่ยนเป็นชื่อ Nokia Body+ ส่วน Body Cardio, BPM, Home, Go, Thermo จะยังคงใช้ชื่อเดิมเพียงแต่เปลี่ยนเป็นแบรนด์โนเกีย โดยผลิตภัณฑ์บางชิ้นอาจจะมีการพักการจำหน่ายชั่วคราวหรือเลิกขายอย่างถาวร

สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น มีด้วยกันสองอย่าง คือ Nokia Body เครื่องชั่งน้ำหนักราคา 59.95 ดอลลาร์ และ BPM+ เครื่องวัดความดันโลหิตที่ราคา 129.95 ดอลลาร์ โดย BPM+ จะแตกต่างจาก BPM เดิมตรงที่เป็นเครื่องแบบพกพาที่สามารถใส่ได้ตลอดเวลา

HMD Global ยืนยันกับ TechRedar ว่าโทรศัพท์โนเกียทั้งสามรุ่น คือ Nokia 6, 5, และ 3 จะได้รับ Android O หลักจากกูเกิลเปิดตัวเป็นทางการ แม้ว่าจะไม่สามารถสัญญาได้ว่าจะได้รับอัพเดตเมื่อใด เพราะต้องใช้เวลาแก้ไขอีกนับเดือนหลังได้รับซอฟต์แวร์ตัวเต็ม

โทรศัพท์โนเกียทั้งสามรุ่นโฆษณาเรื่องการได้รับอัพเดตต่อเนื่องอย่างหนัก และจนตอนนี้ทาง HMD Global ก็ยังทำตามที่สัญญาไว้ได้ แม้จะเพิ่งวางขายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อัพเดตล่าสุดเดือนพฤษภาคมก็ยังปล่อยค่อนข้างตรงเวลา

การฟ้องร้องสิทธิบัตรระหว่างโนเกีย-แอปเปิล จนเป็นเหตุให้ แอปเปิลถอดสินค้า Withings ของโนเกียออกจาหน้าร้าน ยุติลงแล้ว หลังแอปเปิลยอมจ่ายเงินให้โนเกีย

รายละเอียดของการจ่ายเงินไม่เปิดเผยตัวเลข บอกเพียงว่าแอปเปิลยอมจ่ายเงินก้อน บวกกับส่วนแบ่งรายได้อีกจำนวนหนึ่ง หลังทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ ร้านของแอปเปิลก็จะกลับมาขาย Withings เหมือนเดิม

ที่มา - Nokia

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Nokia ประเทศฟินแลนด์เตรียมขายแผนกเคเบิลใต้ทะเล Alcatel Submarine Networks หรือ ASN ที่ซื้อจาก Alcatel เมื่อปีที่แล้ว โดยปัจจุบันกิจการนี้มีมูลค่าประมาณ 870 ล้านดอลลาร์

แผนกดังกล่าวของ Nokia ถือเป็นผู้จัดจำหน่ายและบำรุงรักษาเครือข่ายเคเบิลใต้ทะเลอันดับต้น ๆ ของโลก และยังมีบทบาทในด้านความปลอดภัยไซเบอร์อีกด้วย ปัจจุบันแผนกนี้มีพนักงานประมาณ 1,000 คน อยู่ในฝรั่งเศสและอังกฤษ โดยตอนนี้แผนกดังกล่าวดำเนินธุรกิจแยกจากบริษัทแม่ Nokia

แหล่งข่าวของ Reuters กล่าวว่า Nokia ต้องการขาย ASN โดยตอนนี้เริ่มคุยกับหน่วยงานภาครัฐรวมถึงผู้ถือหุ้นใหญ่บางคน และพนักงานของ Nokia บ้างแล้ว และ Nokia กล่าวว่า ASN นั้นไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัท

หลัง HMD Global กลับมาชุบชีวิต Nokia ในร่างแอนดรอยด์ใหม่ ที่มาพร้อมกับ Pure Android ซึ่งประเด็นนี้เองที่ทาง HMD จะใช้เป็นจุดเด่นและยุทธศาสตร์ในการขายแบรนด์ Nokia

HMD Global เปิดเผยว่าได้ร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ Google เพื่อรับประกันประสบการณ์การใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์บน Nokia ที่จะเหมือนกับ Nexus ไม่ว่าจะเป็นความเป็น Pure Android, ราคาที่เอื้อมถึง, และได้รับการอัพเดตอย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้แต่แพทช์ความปลอดภัยที่ผู้บริหาร HMD บอกว่าจะปล่อยอัพเดตให้ทันทีที่ Google ปล่อยแพทช์ออกมา

นอกจากแอนดรอยด์แล้ว HMD ยังจะดึงเอา Google Cloud มาใช้บน Nokia ด้วย แต่รายละเอียดคงต้องรอการประกาศต่อไป

Nokia เข้าสู่ตลาดสุขภาพระบบดิจิทัลอีกราย จากที่ก่อนหน้านี้ โนเกียเข้าซื้อ Withings แบรนด์อุปกรณ์ IoT สำหรับสุขภาพ ล่าสุดโนเกียประกาศว่า Withings จะเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็นโนเกียเต็มตัว

ใน press release ระบุว่า Withings แบรนด์อุปกรณ์ดิจิทัลสำหรับสุขภาพที่เคยได้รับรางวัล จะเปลี่ยนชื่อแบรนด์และดำเนินการทุกอย่างภายใต้แบรนด์โนเกีย เริ่มช่วงฤดูร้อนปีนี้ นอกจากนี้โนเกียยังจะเปิดตัวแอพพลิเคชั่น Health Mate ฉบับปรับปรุงใหม่ด้วย เป็นแพลตฟอร์มบันทึกข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ฉบับปรับปรุงจะช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มอุปกรณ์เข้าระบบได้ และเข้าถึงโปรแกรมฝึกฝนทางสุขภาพได้

มาตามข่าวลือ โนเกียเปิดตัว Nokia 3310 รุ่นมหานิยมที่ถูกนำมาปรับปรุงใหม่ให้เป็นจอสีขนาด 2.4"

Nokia 3310 รุ่นปี 2017 ยังเป็นฟีเจอร์โฟนแบบปุ่มกด หน้าตาคล้ายกับต้นฉบับของเดิม สแตนด์บายได้นาน 1 เดือน มีเกมงูให้เล่น มีริงโทน Nokia แบบดั้งเดิม ระบบปฏิบัติการเป็น Nokia Series 30+

พอร์ตเชื่อมต่อเป็น Micro USB, Bluetooth 3.0, กล้องหลัง 2MP, มีวิทยุ FM และตัวเล่น MP3, การเชื่อมต่อยังรองรับแค่ 2G, ความจุ 16MB พร้อมใส่ micro SD ได้ 32GB, แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้ 1200mAh

ราคา 49 ยูโร มีให้เลือก 4 สี ยังไม่มีข้อมูลวันวางขาย

มือถือ Nokia ภายใต้การบริหารจัดการของ HMD Global แถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน MWC 2017 ถือเป็นการ "กลับมา" ของมือถือแบรนด์ Nokia อีกครั้งหลังห่างหายไปนาน

สมาร์ทโฟน Nokia ยุคใหม่จะใช้ระบบปฏิบัติการ Pure Android เวอร์ชันไม่ปรับแต่งใดๆ การันตีอัพเดตความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือน และอัพเดตเวอร์ชันใหญ่โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงมีฟีเจอร์ Google Assistant จากกูเกิลด้วย

อินเทลเริ่มลุยตลาดระบบเครือข่าย 5G ล่วงหน้า โดยจับมือกับผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่ทั้ง Ericsson และ Nokia

หลังจากที่มีข่าวลือว่า Nokia N Series จะกลับมาอีกครั้งในงาน MWC 2017 ล่าสุดมีอีกข่าวลือจาก Evan Blass หรือ @evleaks ที่ปล่อยภาพหลุดสมาร์ทโฟนได้อย่างน่าเชื่อถืออยู่เป็นประจำว่า HMD Global เตรียมชุบชีวิตฟีเจอร์โฟนในตำนานอย่าง Nokia 3310 ให้กลับมาในร่างใหม่ภายในงาน MWC 2017 นี้ด้วย

Blass ระบุว่า 3310 จะยังคงเป็นฟีเจอร์โฟนเช่นเดิม แต่เป็นเวอร์ชันใหม่ที่โมเดิร์นกว่าเดิม และจะวางจำหน่ายในราคา 59 ยูโรหรือประมาณ 2,200 บาท โดย Nokia 3310 ที่ขึ้นชื่อเรื่องอึดถึกและแบตทน ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 หรือเมื่อ 17 ปีที่แล้วเพื่อแทนที่รุ่นเดิมอย่าง 3210

มีข่าวลือจากเว็บจีน My Drivers ว่าโนเกียยุคใหม่ภายใต้ HMD Global เตรียมนำ Nokia N Series กลับคืนวงการอีกครั้ง โดยจะเปิดตัวในงาน Mobile World Congress (MWC) ปลายเดือนนี้

ตามข่าวบอกว่ามันจะใช้ชื่อ Nokia N95 แต่เป็นมือถือสเปกระดับกลาง ใช้ Snapdragon 600 Series (น่าจะเป็น Snapdragon 652) แต่ยังไม่มีข้อมูลอื่นๆ มากกว่านี้

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า เราจะได้เห็นมือถือรุ่นเรือธง Nokia P1 เปิดตัวในงาน MWC ด้วยเช่นกัน

ที่มา - My Drivers via Android Guys

จากที่ผู้บริหารโนเกียเคยเปรยไว้เมื่อปีที่แล้วว่า สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์โนเกียจะมีอย่างน้อยๆ 3-4 รุ่น ก่อนที่จะเปิดตัว Nokia 6 และมีภาพหลุด Nokia 8 คราวนี้น่าจะเป็นคิวเปิดตัวของ Nokia P1 ที่เคยมีภาพหลุดออกมาเป็นรุ่นแรกๆ เสียที

หลังจากทาง HMD Global บริษัทสัญชาติฟินแลนด์ ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นแรกของโนเกียยุคใหม่นั่นคือ Nokia 6 ด้วยราคา 1,699 หยวน (หรือประมาณ 8,700 บาท) โดยวางขายผ่านเว็บไซต์ JD.com เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้นครับ

ตอนนี้มียอดจองมากกว่า 250,000 คนแล้ว หลังจากเปิดจองเป็นเวลาแค่ 24 ชั่วโมง มีให้เลือกจองทั้งแบบฟรีและแบบมีค่าจอง 66 หยวน (ประมาณ 350 บาท) โดยเริ่มขายแบบ flash sale ในวันที่ 19 มกราคม 2560 ครับ

[Update] หลังจากผ่านไป 2 วัน ตอนนี้ยอดจองเพิ่มเป็น 420,000 คนแล้วครับ และคาดว่าจะเกิน 1,000,000 คนในช่วงเวลาที่เหลือ โดยได้ปิดรับการจองแบบเสียเงินแล้ว ซึ่งมีผู้จองแบบเสียเงินถึง 9,211 คน แต่ยังสามารถจองแบบฟรีได้อยู่ครับ

[Update 2] ล่าสุดเหลือเวลาจองอีกประมาณ 2 วัน มียอดจองใกล้ถึง 1 ล้านคนแล้วครับ

ที่มา - Playfuldroid, GizmoChina, PhoneArena

เราเห็น Nokia 6 มือถือระดับกลางตัวแรกของ Nokia ยุค HMD Global กันไปแล้ว จริงๆ แล้วในงาน CES 2017 ยังมีมือถือต้นแบบอีกตัวหนึ่งมาโชว์แต่ไม่มีใครสนใจ มันคือ Nokia 8 ที่น่าจะเป็นมือถือรุ่นเรือธง และน่าจะเปิดตัวในงาน MWC เดือนหน้า

Nokia 8 รุ่นต้นแบบมีด้วยกัน 2 สเปกคือ Snapdragon 835, แรม 6GB, ความจุ 128GB, กล้อง 24MP พร้อม OIS และ electronic image stabilization (EIS) ที่ว่ากันว่าดีที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนทั้งหมด กับรุ่น Snapdragon 821 ที่สเปกย่อมเยาลงมา

Nokia ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าชื่อ Viki ในยุโรป โดยระบุว่าเป็นชื่อของซอฟต์แวร์ "ผู้ช่วยส่วนตัว" (digital assistant) ที่ทำงานได้ทั้งบนเว็บและบนมือถือ สามารถทำงานได้ทั้งผ่านการแชทด้วยข้อความ และการพูดคุยด้วยเสียง

ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลละเอียดของ Viki ออกมา แต่อ่านจากคำบรรยายในคำขอจดเครื่องหมายการค้า เราก็คาดเดาได้ว่า Viki น่าจะกลายเป็นคู่แข่งของ Cortana, Siri, Alexa, Google Assistant นั่นเอง

เครื่องหมายการค้านี้จดในนาม Nokia Solutions และยังไม่ชัดเจนว่ามันจะถูกใช้กับมือถือ Nokia ที่ทำตลาดโดย HMD Global หรือไม่ รวมถึงการใช้งานในอุปกรณ์แบรนด์อื่นๆ หรือระบบปฏิบัติการอื่นๆ ด้วย

HMD Global เป็นบริษัทสัญชาติฟินแลนด์ที่ก่อตั้งในช่วงกลางปี 2016 โดยเซ็นสัญญากับ Nokia Technologies บริษัทลูกของ Nokia เพื่อใช้แบรนด์ Nokia สำหรับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตเพียงผู้เดียวไปอีก 10 ปี และได้สิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโทรศัพท์มาอีกจำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้ HMD ยังซื้อเครื่องหมายการค้า Nokia สำหรับฟีเจอร์โฟนมาจากไมโครซอฟท์ (ไมโครซอฟท์ได้สิทธิใช้ไปถึงปี 2024) ส่งผลให้แบรนด์ Nokia ในฐานะโทรศัพท์มือถือที่เคยแยกจากกันไปช่วง Nokia ขายธุรกิจโทรศัพท์ให้ไมโครซอฟท์ กลับมารวมกันอีกครั้งใต้ HMD Global และเพิ่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรก Nokia 6

หลายคนอาจสงสัยว่า HMD Global เป็นใครมาจากไหน เป็นร่างทรงของบริษัทในจีนเข้ามาสวมแบรนด์ Nokia หรือเปล่า บทความนี้มีคำตอบครับ

จากข่าวว่า สมาร์ทโฟนแบรนด์ Nokia จะกลับมาในปี 2017 วันนี้บริษัท HMD Global ที่ได้ไลเซนส์ชื่อแบรนด์ Nokia ไปทำตลาดก็เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตัวเองชื่อ Nokia 6 ที่ทำตลาดประเทศจีนเพียงประเทศเดียว

HMD บอกว่าตัดสินใจเจาะตลาดจีนเป็นประเทศแรก เพราะตลาดผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่ใหญ่ถึง 552 ล้านคนในปี 2016 และคาดว่าจะโตเพิ่มเป็น 593 ล้านคนในปีนี้ เป้าหมายของ HMD คือสร้างสมาร์ทโฟนพรีเมียมเพื่อจับตลาดผู้ใช้ชาวจีนที่ชื่นชอบในคุณภาพ

หลังเกิดประเด็นการฟ้องร้องเรื่องสิทธิบัตรระหว่างโนเกีย-แอปเปิลล่าสุด ด้านแอปเปิลได้ถอดสินค้าสุขภาพของ Withings ที่โนเกียเข้าซื้อเมื่อกลางปีที่ผ่านมาบนหน้าเว็บ ซึ่งคาดว่าน่าจะรวมหน้าร้าน Apple Store ทั่วโลกด้วยเพื่อเป็นการตอบโต้การฟ้องร้องครั้งนี้

สินค้าด้านสุขภาพของ Withings ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ IoT ที่รองรับการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตหรือต่อกับสมาร์ทโฟนโดยตรง ซึ่งหากค้นหาสินค้า Withings บน apple.com จะไม่พบสินค้าในกลุ่มนี้แล้ว

ที่มา - MacRumors

โนเกีย ยื่นฟ้องแอปเปิลต่อศาลในเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา ด้วยข้อหาว่าแอปเปิลละเมิดสิทธิบัตรของโนเกีย และเตรียมขยายการฟ้องไปยังประเทศอื่นๆ ต่อไป

โนเกียระบุว่าเคยเซ็นสัญญาสิทธิบัตรกับแอปเปิลมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2011 แต่หลังจากนั้น แอปเปิลปฏิเสธไม่ยอมจ่ายค่าสิทธิบัตรใบอื่นๆ ที่พบในผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลให้กับโนเกีย จนต้องมายื่นฟ้องในครั้งนี้

สิทธิบัตรที่เป็นปัญหามี 32 รายการ มีหัวข้อหลากหลายทั้งการแสดงผล, UI, ซอฟต์แวร์, เสาอากาศ, ชิปเซ็ต, การเข้ารหัสวิดีโอ แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าเรียกค่าเสียหายเท่าไร

HMD Global บริษัทของโนเกียได้เปิดตัว Nokia 150 ฟีเจอรโฟนแบรนด์โนเกียตัวแรก หลังได้ไลเซนท์ใช้งานแบรนด์ ก่อนที่จะสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จะมาในปีหน้า

Nokia 150 มีสองรุ่นคือซิมเดียวและสองซิม หน้าจอสีขนาด 2.4 นิ้ว พร้อมวิทยุ เครื่องเล่น MP3 และเกม ขณะที่แบตเตอรี่สามารถสแตนบายได้นานถึง 31 วันและโทรต่อเนื่องได้ 22 ชั่วโมง ราคา 26 เหรียญหรือราว 910 บาทไม่รวมภาษี วางจำหน่ายไตรมาสแรกปีหน้าทั้งในยุโรป เอเชียแปซิฟิกเหนือ อินเดีย ตะวันออกกลางและแอฟริกา

ที่มา - VentureBeat